ดังนั้น การขจัดสิ่งอุดตันที่อยู่ภายในจุดชีพจรออกจำเป็ต้องใช้พลังปราณรบเข้าไปละลาย กัดกร่อน และสลายอย่างช้าๆ เหมือนกับการกินลูกกวาดที่ต้องอมไว้ในปากค่อยๆ ใช้น้ำลายละลาย ใช้ลิ้นเลียและขยับลูกกวาดไปมาในปากทำให้มันเล็กลงเรื่อยๆ
แต่ว่า!
วันนี้เย่ชิงหานจะใช้วิธีการขจัดสิ่งอุดตันที่ไม่เคยมีใครลองใช้มาก่อน!
เขาจะใช้พลังปราณรบเข้าไป “ทะลวง” สิ่งอุดตันที่อยู่ภายใน เช่นเดียวกับการกินลูกกวาด คนอื่นค่อยๆ ละลายมัน แต่เขาจะเคี้ยวมันให้แหลกละเอียด
เคี้ยวให้แหลกละเอียด!
ระดับความเร็วแน่นอนว่าเร็วกว่าการค่อยๆ ละลายทีละน้อยหลายร้อยเท่า เพียงแต่...ทำเช่นนี้เท่ากับรนหาที่ตาย? ฝึกฝนในลักษณะนี้จุดชีพจรจะต้องะเิแตกออก ตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
“จุดชีพจระเิแตกออกรึ? ก็เคยะเิแตกออกมาแล้วมิใช่รึ? มาเถอะ ถ้าจะแตกก็แตกให้มันรุนแรงกว่าที่เคยหน่อยก็แล้วกัน...แหวนทองเหลืองขึ้นอยู่กับเ้าแล้ว!” เย่ชิงหานหายใจออกมาสามครั้งติด กัดฟันแน่นโคจรพลังปราณรบพุ่งชนไปยังสิ่งอุดตันที่อยู่ภายในจุดชีพจรอย่างดุดัน
“ชน ชน ชน!”
เขากัดฟันแน่น พลังปราณรบภายใต้การควบคุมของเขาแปรเปลี่ยนเป็กระบี่ที่แหลมคมเล่มหนึ่ง ฉับพลันนั้น...มันเพิ่มระดับความเร็วพุ่งตรงไปยังสิ่งอุดตันที่อยู่ภายในจุดชีพจรชงม่ายซึ่งเป็หนึ่งในเก้าจุดชีพจรเล็กภายในร่างกายแล้วชนเข้าอย่างรุนแรง
ปัง!
พลังปราณรบที่รวมตัวกันเป็กระบี่ที่แหลมคมชนปะทะเข้ากับสิ่งอุดตันที่อยู่ภายใจจุดชีพจร เย่ชิงหานรู้สึกราวกับว่าได้ยินเสียงโลหะชนกันเสียงดัง “ปัง” ขึ้น สิ่งอุดตันถูกชนแตกออกเป็เสี่ยงๆ กลายเป็เม็ดเล็กเม็ดน้อยกระจายไปทั่วจุดชีพจรชงม่าย
หืม...สำเร็จ?
เย่ชิงหานยังไม่ทันที่จะดีใจ พลังปราณรบที่คล้ายกับกระบี่ที่แหลมคมนั้นพลันะเิแตกออกเช่นกัน แรงจากการะเิกระจายไปทั่วทุกทิศทาง ทั้งแรงะเิจากการปะทะชนและแรงะเิจากพลังปราณรบพลอยทำให้จุดชีพจรชงม่ายะเิแตกออกในทันที
“อ๊าาาา!”
ความรู้สึกเ็ปราวกับร่างจะะเิออกมาเป็เสี่ยงๆ ประดังเข้ามาภายในหัวของเย่ชิงหาน ร่างกายเริ่มกระตุกเกร็งขึ้น กล้ามเนื้อบนใบหน้าบิดเบี้ยวเปลี่ยนรูปจนกลายเป็ดุร้ายน่ากลัว
“ไม่ไหว ทนไม่ไหวแล้ว สติเริ่มเลอะเลือนแล้ว แหวนทองเหลืองทุกอย่างฝากไว้ที่เ้าแล้วนะ...”
เพียงเวลาไม่กี่วินาที ความเ็ปที่รุนแรงทำให้เย่ชิงหานหมดสติไป แต่ก่อนที่จะหมดสติเขาฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่กระแสพลังสีขาวจากแหวนทองเหลือง
ฉัวะ!
แหวนทองเหลืองไม่ทำให้เขาผิดหวัง ในขณะที่ร่างกายได้รับาเ็สาหัสและกำลังจะตายนั้น แหวนทองเหลืองเริ่มดำเนินการคุณสมบัติในการป้องกันเ้าของของมันขึ้น มันส่งกระแสพลังสีขาวผ่านิัที่นิ้วนางมุดเข้าไปภายในร่างของเขา สุดท้ายไหลไปหยุดอยู่ที่บริเวณตำแหน่งจุดชีพจรที่เสียหาย
จุดชีพจรชงม่ายที่ะเิแตกออกเป็เสี่ยงๆ ไม่หลงเหลือรูปร่างเดิมให้เห็นนั้น ภายใต้การรักษาจากกระแสพลังสีขาวพลันเกิดการซ่อมแซมตนเองขึ้นอย่างรวดเร็ว กระแสพลังสายนี้ช่างเป็สิ่งที่มหัศจรรย์อะไรเช่นนี้
สิบนาที!
ยี่สิบนาที!
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เย่ชิงหานเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ รู้สึกสบายไปทั่วทั้งร่างอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นจึงรีบนั่งสมาธิเพ่งดูภายในร่างของตนเอง
ภายในจุดชงม่าย เส้นเืลมต่างๆ กลับมาหายดีดังเดิมราวกับว่าเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่วนสิ่งอุดตันที่เกาะอยู่ภายในก็ลดน้อยลงไปมากอย่างชัดเจน
นี่มัน...นี่มันบ้าระห่ำมาก! เป็การฝึกที่คนโบราณไม่เคยมีมาก่อนจนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่เคยเกิดขึ้น แต่ตนเองกลับทำได้สำเร็จ!
“ฮ่าๆ...”
ทันใดนั้น ภายในเทือกเขาบังเกิดเสียงหัวเราะดีใจอย่างบ้าคลั่งขึ้น ฝูงนกกาเมื่อได้ยินต่างส่งเสียงร้องขึ้นมาด้วยความตื่นใ
.................................
ชั่วพริบตาเดียว เดือนเดือนหนึ่งก็ผ่านไป
เขตรอบนอกของเทือกเขารกร้าง เด็กหนุ่มเสื้อดำหน้าตาสะอาดหล่อเหลารูปร่างผอมแห้งคนหนึ่งเดินลัดเลาะไปตามเทือกเขา
ท่วงท่าการเดินของเขาว่องไวดุจสายลมแต่หนักแน่นดุจขุนเขา สีหน้าสบายอกสบายใจสายตาเปล่งประกายแหลมคม อากัปกิริยาทั่วทั้งสรรพางค์กายให้ความรู้สึกมั่นอกมั่นใจแก่ผู้พบเห็น
ทันใดนั้นจังหวะการเดินของเด็กหนุ่มหยุดนิ่งลงซึ่งมันไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ควรจะเป็ ร่างกายของเขาไม่มีการขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาได้ยืนอยู่ ณ ที่แห่งนั้นั้แ่ไหนแต่ไรมาแล้ว
เด็กหนุ่มยืนนิ่งเงียบเงี่ยหูสดับฟัง ทันใดนั้นสองขาของเขาออกแรงะโราวกับแมวเสือดาวที่คล่องแคล่วปีนป่ายขึ้นไปยังต้นไม้ใหญ่ดึกดำบรรพ์ต้นหนึ่ง
“มารอสูรระดับหนึ่งฝูงหมาป่าวายุ ทั้งหมดสิบแปดตัว...เสี่ยวเฮยพรุ่งนี้เ้ามีอาหารอีกแล้ว ออกมาทำมาหากินได้แล้ว เรียกสัตว์อสูร!” เด็กหนุ่มพูดเสียงต่ำพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย หน้าอกกระเพื่อมขึ้นครั้งหนึ่งกระแสพลังสีดำพลันพวยพุ่งออกมา มันค่อยๆ รวมตัวกันเป็ร่างสัตว์อสูรสุนัขจมูกราชสีห์สีดำตัวหนึ่ง
เ้าอสูรน้อยเมื่อออกมาก็กระดิกหางแสดงอาการสนิทสนมใช้ลิ้นเลียเด็กหนุ่มอย่างประจบเอาใจ เด็กหนุ่มยื่นมือไปลูบหัวของมันพร้อมกับพูดขึ้น “เริ่มงานได้!” เขาพูดเสียงต่ำออกมาพร้อมกับพุ่งทะยานออกไปยังทิศทางที่ฝูงหมาป่าวายุอยู่อย่างรวดเร็วราวกับลูกเกาทัณฑ์
ฟิ้ว!
เ้าอสูรน้อยหยุดกระดิกหางน้อยๆ ของมันลง ดวงตาเปล่งประกายแสงสีแดงจากนั้นพุ่งทะยานตามเด็กหนุ่มออกไป แถมความเร็วของมันยังเร็วกว่าเด็กหนุ่มเสียด้วยซ้ำ
ห่างออกไปไม่ไกล ฝูงหมาป่าวายุที่เดินหาอาหารอยู่ในป่าอย่างสบายอกสบายใจ ทันใดนั้น หมาป่าสองตัวที่อยู่ด้านหน้าขนตั้งชูชันขึ้นมาทันที สายตาทอประกอบเย็นเฉียบจับจ้องไปยังอากาศเบื้องบนอย่างระแวดระวังภัย
“ท่าตัดแยกปฐี!”
ท้องฟ้าเบื้องบนเงาร่างสีดำสองสาย หนึ่งเล็กหนึ่งใหญ่แยกกันจู่โจมใส่หมาป่าวายุสองตัวที่อยู่ด้านหน้า เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านซ้ายจู่โจมลงมาจากอากาศ้าด้วยมือเท้าเปล่า ขาข้างซ้ายยกขึ้นสูงเกือบจะเลยระดับหัวไหล่ จากนั้นจึงฟาดลงไปยังตำแหน่งส่วนหัวของหมาป่าวายุอย่างรวดเร็ว พร้อมกับบังเกิดเสียงลมแหวกอากาศลากยาว
หมาป่าวายุเป็มารอสูรระดับหนึ่ง เื่ความเร็วของมันนั้นนับว่าอยู่ในระดับต้นๆ แต่เมื่อเจอกับท่าโจมตีที่รวดเร็วเช่นนี้ แม้แต่เวลาในการตอบสนองยังไม่มี ทำได้เพียงแค่ขยับส่วนหัวหลบไปข้างๆ นิดหน่อยเท่านั้น
ปัง!
ท่อนขาสีดำใหญ่ที่ราวกับท่อนเหล็กผ่าลงไปยังหัวของหมาป่าวายุอย่างรุนแรง เสียงแตกหักดังขึ้น หัวที่แข็งราวกับเหล็กของหมาป่าวายุแตกละเอียดไปในพริบตา มันสมองสีขาวและเืสีแดงสดสาดกระเซ็นไปทั่วทุกทิศ
เพียงแค่ปะทะกันซึ่งๆ หน้า หมาป่าวายุตัวหนึ่งถูกผ่าตายในทันที ส่วนอีกด้านหนึ่งเ้าอสูรน้อยที่มีขนาดตัวเท่าหัวเด็กทารกต่อสู้ได้นุ่มนวลกว่าเด็กหนุ่มมาก หลังจากพุ่งลงมาจากอากาศเบื้องบน เ้าอสูรน้อยก็เพิ่มความเร็วขยับเข้าไปใกล้ส่วนหัวของหมาป่าวายุก่อนที่มันจะมีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ได้ เ้าอสูรน้อยอ้าปากน้อยๆ ของมันที่มีฟันเขี้ยวที่แหลมคมสี่เล่มพุ่งผ่านส่วนลำคอของหมาป่าวายุไป
ฉัวะ!
ิัและเืเนื้อส่วนลำคอครึ่งหนึ่งของหมาป่าวายุถูกกัดกระชากฉีกออกมา เส้นเืใหญ่หลายเส้นมีเืสีแดงสดไหลพรั่งพรูออกมาไม่ขาด หมาป่าวายุสะบัดหัวไปมาสายตาปรากฎแววของความหวาดกลัวขึ้นแล้วจึงล้มลงไปกับพื้น
“อืม...ไม่เลว! มาแข่งกันว่าใครจะฆ่าได้เยอะกว่ากัน”
เด็กหนุ่มมองอสูรน้อยอย่างยิ้มๆ แล้วพูดออกมาอย่างพอใจ จากนั้นจึงเพิ่มความเร็วขึ้นใช้ฝ่ามือแทนมีดพุ่งทะยานออกไปยังฝูงหมาป่าวายุที่อยู่ด้านหลังอีกครั้ง
“จี๊ดๆ...”
เ้าอสูรน้อยเชิดหน้าขึ้นอย่างภูมิอกภูมิใจ กระโจนตามเด็กหนุ่มเข้าไปยังฝูงหมาป่าทันที
ผ่านไปไม่นาน ฝูงหมาป่าวายุทั้งสิบแปดตัวล้วนล้มลงกองอยู่กับพื้น
“จี๊ดๆ จี๊ด”
เ้าอสูรตัวเล็กสีดำเดินตามหลังเด็กหนุ่มและร้องออกมาอย่างมีความสุข คล้ายกับว่ามันกำลังรอคำชมจากเ้าของฉันนั้น ส่วนเด็กหนุ่มเสื้อดำเสื้อผ้าเปรอะเปรื้อนไปด้วยคราบเื บริเวณแผ่นหลังและท่อนขาล้วนปรากฏาแจากรอยกรงเล็บดูเหวอะหวะเป็ที่น่ากลัว แต่เด็กหนุ่มกลับไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย เขาทำเพียงเดินถือกริชไปยังส่วนหัวของหมาป่าวายุแต่ละตัวแล้วคว้านเข้าไปข้างในงัดเอาแก่นผลึกมารอสูรออกมา
“จี๊ดๆ จี๊ดๆ” อสูรน้อยเห็นเด็กหนุ่มไม่สนใจตนเองจึงร้องออกมาเสียงดังกว่าเดิม
“จี๊ดๆ อะไรเ้าฮะ...บิดาเ้าเถอะบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าร้องจี๊ดๆ จี๊ดๆ! จะร้องก็ต้องร้อง อ๊าว อ๊าว...แบบนี้ถึงจะน่าเกรงขาม เข้าใจไหม? นี่รับไปอาหารเย็นของเ้า” เด็กหนุ่มงัดแก่นผลึกมารอสูรออกมาจนเสร็จแล้วโยนให้เ้าอสูรน้อยไปห้าเม็ดด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“อ๊าว อ๊าว จี๊ดๆ...”
“ไอ้เดรัจฉานน้อยเอ้ย...เฮ้อ! เอาเถอะ เสี่ยวเฮยข้าว่านี่มันก็สองเดือนกว่าแล้วนะ ทำไมเ้ายังไม่ข้ามพ้น่ระยะอ่อนแอเสียที ข้าจำได้ว่าสัตว์อสูรทั่วๆ ไป่ระยะอ่อนแอก็แค่เดือนกว่าๆ เอง ในบันทึกของตระกูลเย่อย่างสัตว์อสูรของปรมาจารย์บรรพบุรุษเย่รั่วสุ่ยอสูรศักดิ์สิทธิ์พยัคฆ์ขาว ข้ามผ่าน่ระยะอ่อนแอก็เพียงแค่สองเดือน หรือว่าเ้าสุดยอดกว่าพยัคฆ์ขาว? ฐานะที่แท้จริงของเ้าคือสัตว์อสูรระดับเทพ?” เด็กหนุ่มกะพริบตามาจ้องมองดูเ้าอสูรน้อย สายตาเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู
“จี๊ดๆ จี๊ดๆ!” เ้าอสูรน้อยยังคงทำหน้างุนงงคล้ายกับว่าฟังไม่เข้าใจ มันทำเพียงส่ายหางไปมาและใช้อุ้งมือทั้งสองข้างหยิบแก่นผลึกมารอสูรที่อยู่บนพื้นขึ้นมากินอย่างต่อเนื่อง
“เหอะ! หากเ้าเป็เทพอสูรข้าก็คงเป็เทพ์เหมือนกัน ดูท่าทางราวกับสุนัขของเ้าแล้วไม่ได้มีราศีของสัตว์อสูรระดับสูงเลยแม้แต่น้อย เร็วรีบกินตอนเย็นข้าต้องฝึกพลังยุทธ์อีก ยังมีจุดชีพจรเล็กอีกครึ่งเส้นที่ต้องทะลวงให้สำเร็จ จะได้ทำให้จุดชีพจรทั้งเก้าแห่งเชื่อมโยงกันเสียทีเพื่อบรรลุถึงระดับขอบเขตยอดยุทธ์”
เด็กหนุ่มและเ้าอสูรน้อยก็คือเย่ชิงหานและเสี่ยวเฮย หนึ่งเดือนมานี้ทั้งสองตระเวนไปทั่วเขตแดนรอบนอกของเทือกเขารกร้างเพื่อตามล่ามารอสูรระดับหนึ่งโดยเฉพาะ มีเพียงสองครั้งที่กลับไปยังเมืองหมันเพื่อซื้อสิ่งของเพิ่มเติม ซึ่งสิ่งที่ซื้อมามากที่สุดคือเสื้อผ้า