“พี่ใหญ่เราเป็คนชนเขานะ!” เด็กชายอายุประมาณสิบเอ็ดสิบสองปี ดึงแขนของหญิงสาว
“เ้าไม่ต้องยุ่ง วันนี้ข้าจะแสดงให้เห็นว่าควรจะจัดการกับคนแปลกหน้าอย่างไร วันข้างหน้าหากเ้าต้องออกจากบ้านเพียงลำพัง เ้าจะได้รู้ว่าควรทำอย่างไร?” หญิงสาวลูบศีรษะเด็กชาย จากนั้นเดินไปทางถังเหล่ยด้วยท่าทางดุร้าย
“ถอดผ้าคลุมของเ้าออกซะ ไม่มีใครเขาสวมผ้าปิดหน้ากัน หรือว่าเ้ากำลังหนีความผิด?”
เมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามา ภายในใจของถังเหล่ยรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าจะกล่าวถึงเื่นี้อย่างไร อีกอย่างเขายังคิดว่าสิ่งที่เด็กสองคนทำอาจจะเป็การรีดไถเงินหรือเปล่า?
“เื่นี้เป็ความผิดของเ้าชัดๆ แต่ก็เอาเถอะ รีบไปให้พ้นทาง ข้าี้เีทะเลาะกับเด็กน้อยอย่างเ้า” ถังเหล่ยกล่าวอย่างเ็า
การทะเลาะกันระหว่างชายหญิงเป็เื่ที่ไร้สาระอย่างยิ่ง ดังนั้นถังเหล่ยจึงเลือกที่จะปล่อยผ่านไม่สนใจพวกเขาทั้งสอง
“ฟังจากน้ำเสียงของเ้าแล้วเราสองคนคงอายุต่างกันไม่มากนัก ถอดผ้าปิดหน้าออกแล้วกล่าวขอโทษข้ามาเดี๋ยวนี้ แล้วข้าจะถือว่าเื่ทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้น” เมื่อหญิงสาวได้ยินเสียงเยาว์วัยของถังเหล่ย ก็รู้ว่าอายุของถังเหล่ยคงไม่ต่างจากนางมากนัก ท่าทางของนางจึงยิ่งก้าวร้าวมากกว่าเดิม
“ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับเ้า” ถังเหล่ยี้เีสนใจอีกฝ่าย หันหน้าหนีและคิดจะจากไปทันที
“คิดหนีหรือ!” หญิงสาวเผยความโกรธออกมาทันที นี่คือครั้งแรกที่มีบุรุษกล้าหันหลังให้กับนาง
ทันใดนั้นหญิงสาวก็ก้าวมาด้านหลังถังเหล่ย มือของนางหมายจะจับไปที่ผ้าคลุมศีรษะของถังเหล่ย แต่ร่างของถังเหล่ยกลับเคลื่อนที่ไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว ทำให้มือของอีกฝ่ายพลาดจากผ้าคลุม
“มีความสามารถเหมือนกันนี่!” หญิงสาวกล่าวออกมาทันทีเมื่อเห็นถังเหล่ยหลบหนีจากฝ่ามือของนางได้
หญิงสาวแสดงท่าทางราวกับกำลังดีใจ พลังปราณในร่างของนางถูกปล่อยออกมาจากฝ่ามือ พลังปราณหลายสายพุ่งไปยังถังเหล่ยอย่างรวดเร็ว
ถังเหล่ยหลบการโจมตีของนางได้ทั้งหมด หลังจากนั้นเขาหันกลับมาดวงตาของเขาเผยให้เห็นว่าไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง แม้ว่าตัวเขาจะมีร่างกายเป็ชายหนุ่มอายุสิบหกปี แต่ความจริงแล้วเขาคือชายชราอายุเกือบร้อยปี ไม่ใช่เด็กหนุ่มที่เห็นสาวงามแล้วจะไม่กล้าลงมือ
หากหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้ายังคงโจมตีเข้ามาอย่างต่อเนื่องและไร้ซึ่งเหตุผลเช่นนี้ เขาก็คงไม่มีทางเลือกอื่นเช่นกัน
“หยุด!”
ถังเหล่ยก้าวไปด้านหน้าของหญิงสาวพร้อมกับคว้าข้อมือของนางเอาไว้ ในขณะนี้ระยะห่างระหว่างถังเหล่ยกับหญิงสาวห่างกันไม่ถึงหนึ่งวา เมื่อเขามองใบหน้าของหญิงสาวในระยะใกล้ จึงรู้ว่าหญิงสาวผู้นี้นับว่าเป็หญิงงามคนหนึ่ง แต่นิสัยของนางไม่เข้ากับรูปลักษณ์แม้แต่น้อย
“เ้า…!” หญิงสาวกล่าวตะกุกตะกัก
นางคิดไม่ถึงว่าถังเหล่ยจะกล้าแตะต้องตัวนาง นางโตมาจนอายุสิบห้าสิบหกปี นอกจากคนในตระกูลแล้ว นี่เป็ครั้งแรกที่มีบุรุษแปลกหน้ากล้าแตะต้องตัวนาง
จากความเขินอายแปรเปลี่ยนเป็ความโกรธขึ้นมาทันที มืออีกข้างของหญิงสาวโจมตีไปที่อกของถังเหล่ย บนฝ่ามือมีสายลมสายหนึ่งซึ่งมันเป็กระบวนท่าสังหารที่เห็นได้ชัดว่านางโกรธแค้นมากเพียงใด แต่พลังของนางเมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งของถังเหล่ยแล้วถือได้ว่ายังอ่อนด้อยอยู่บ้าง ลมหายใจต่อมามืออีกข้างของหญิงสาวก็ถูกถังเหล่ยจับเอาไว้อีกครั้ง
นี่มันเกิดเื่อะไรกันแน่? เด็กชายยืนอยู่ด้านหลังมองดูพี่สาวต่อสู้กับคนแปลกหน้า เขาคิดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะบานปลายเช่นนี้ เดิมทีเด็กชายคิดจะขัดขวางพี่สาวของเขา แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่พี่สาวทำลงไปโดยไร้ซึ่งเหตุผลในตอนแรก ในท้ายที่สุดมันเป็ฝ่ายของพวกเขาที่เป็คนผิด ดังนั้นเด็กชายจึงมองอยู่ด้านหลังเงียบๆ
พี่สาวของเขาเมื่ออยู่ที่บ้านมีนิสัยเด็ดขาดมาก แต่หลังจากนางออกมาข้างนอกครั้งแรกก็ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ไม่คาดคิดทันที
เหตุการณ์ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้ากลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ราวกับว่าทั้งสองคนไม่ได้ต่อสู้กัน มือสองข้างของหญิงสาวถูกถังเหล่ยจับเอาไว้ สองคนหันหน้าเข้าหากัน แม้แต่เด็กชายที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ยังรู้สึกขึ้นมาในใจว่าช่างเป็คู่ที่เหมาะสมกันจริงๆ
“ปล่อยมือข้า ไม่เช่นนั้นข้าจะสับเ้าเป็ชิ้นๆ!” หญิงสาวมองถังเหล่ยพร้อมกับกล่าวด้วยความโกรธ
ถังเหล่ยในตอนนี้ยังคงสวมผ้าปิดหน้าอยู่ จึงทำให้หญิงสาวไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายได้ชัดเจนทำได้เพียงสบตาของถังเหล่ยเท่านั้น
“เ้าขอโทษข้า ข้าจะปล่อยมือ!” ถังเหล่ยกล่าวอย่างเ็า
หากคนที่อยู่เบื้องหน้าของถังเหล่ยเป็บุรุษเขาคงสังหารอีกฝ่ายไปนานแล้ว แต่นี่เป็เพียงเด็กหญิงคนหนึ่งและด้านหลังยังมีเด็กชายตัวน้อยยืนอยู่ เขาจึงตัดสินใจว่าจะสั่งสอนพวกเขาเท่านั้น
หญิงสาวพยายามใช้พลังปราณในร่างกายสุดชีวิต แต่ไม่ว่านางจะใช้วิธีแบบไหน หรือพยายามมากเพียงใด มือสองข้างของนางยังคงอยู่ในกำมือของถังเหล่ย ในขณะที่นางดิ้นรนหวังจะหลุดออกจากการจับกุมของอีกฝ่าย ใบหน้าของถังเหล่ยเผยรอยยิ้มออกมา
เขาคาดเดาเอาไว้ว่าท้ายที่สุดแล้วหากหญิงสาวทนไม่ไหว นางคงขอโทษเขาอย่างแน่นอน ความจริงแล้วโอกาสที่จะได้จ้องมองสาวงามในระยะใกล้เช่นนี้คือเื่ที่เป็ไปได้ยากมาก
ทันใดนั้นถังเหล่ยััได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวของิญญายุทธ์สายหนึ่งที่ด้านหลังหญิงสาว ทันใดนั้นก็ปรากฏภาพธรรมของนกสีแดงปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า วิหคเพลิงิญญา
ถังเหล่ยตกตะลึง ในเวลาต่อมานกั์สีแดงก็พยายามพุ่งเข้าหาถังเหล่ย จะงอยปากที่แหลมคมของมันพยายามทิ่มแทงลำคอของเขาอย่างรวดเร็ว ถังเหล่ยปล่อยมือจากหญิงสาวพร้อมกับกระแทกฝ่ามือเข้าหานกั์สีแดงอย่างไร้ความปรานี
หญิงสาวคิดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาของถังเหล่ยจะตอบสนองได้รวดเร็วขนาดนี้ ภายในใจของนางเพียง้าขู่ให้ถังเหล่ยถอยออกไป แต่นางคาดไม่ถึงว่าถังเหล่ยจะปล่อยมือและโจมตีกลับมาอย่างรวดเร็ว
ในขณะนี้หญิงสาวตัวแข็งทื่อไม่รู้ว่าในตอนนี้ควรทำอย่างไร ในสายตาของนางเห็นเพียงฝ่ามือที่กำลังพุ่งเข้าหาตัวเอง ตรงกันข้ามถังเหล่ยก็คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะไม่มีแม้แต่ความสามารถในการปกป้องตัว
แต่ในขณะนี้ฝ่ามือของถังเหล่ยตบออกไปแล้ว ไม่สามารถยับยั้งแรงเฉื่อยได้ ทำได้เพียงลบล้างพลังที่แฝงอยู่ในฝ่ามือเท่านั้น
ทันใดนั้นดวงตาของเด็กชายเบิกกว้าง ภาพที่ยากจะลืมเลือนปรากฏตรงหน้าเขาวิหคเพลิงิญญาด้านหลังหญิงสาวก็จิกไปโดนผ้าคลุมของถังเหล่ย ในเวลาเดียวกันฝ่ามือของถังเหล่ยก็ััไปที่หน้าอกของหญิงสาว
ร่างของหญิงสาวถูกผลักไปด้านหลังเล็กน้อย ผ้าคลุมของเหล่ยถูกดึงออกมาตอนที่เขาชักมือกลับราวกับถูกน้ำร้อนลวก จากนั้นพวกเขาทั้งสองคนสบตากัน
แม้ความจริงถังเหล่ยจะมีชีวิตมาจะร้อยปีแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถอดกลั้นความรู้สึกที่มีต่อเหตุการณ์เมื่อสักครู่ได้ ใบหน้าของเขาจึงแดงก่ำโดยธรรมชาติ
เมื่อครู่ฝ่ามือของถังเหล่ยััไปที่หน้าอกของอีกฝ่าย หากผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาเห็นเหตุการณ์นี้เข้า คงคิดว่าถังเหล่ยจงใจกระทำเื่ที่ชั่วช้าไร้ยางอายแบบนี้
ความจริงแล้วถังเหล่ยเป็ถึงราชันนักปรุงยา ไม่มีทางที่เขาจะทำตัวต่ำทรามอย่างแน่นอน และอีกด้านหนึ่งหญิงสาวยังไม่ได้สติกลับมา นางยังคงจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มด้วยความตะลึง ผ้าคลุมของถังเหล่ยถูกดึงออกมาแล้วและใบหน้าของถังเหล่ยก็ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน
จากนั้นหญิงสาวก้มมองหน้าอกตัวเอง นางคิดว่านางกำลังถูกชายที่อยู่เบื้องหน้าลวนลาม
“ข้าจะฆ่าเ้า!” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน ใบหน้าที่งดงามของนางกลับกลายเป็สีแดงอีกครั้ง
ถังเหล่ยไม่รู้ว่าหญิงสาวผู้นี้อับอายหรือว่าโกรธเคืองกันแน่ หลังจากนั้นด้านหลังของนางก็ปลดปล่อยิญญายุทธ์ออกมาอีกครั้ง ร่างที่ปรากฏอยู่ด้านหลังคำรามขึ้นด้วยความโกรธทันที
ขนสีแดงให้ความรู้สึกราวกับเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชน ดวงตาจดจ้องมายังถังเหล่ยโดยไม่ละสายตา ราวกับว่าอยากจะแผดเผาเขาให้ตายทั้งเป็
“ก็แค่ม้าตัวเดียวพวกเราเลิกรากันเพียงเท่านี้แหละ ลาก่อน!” ถังเหล่ยเผยรอยยิ้มแห้งออกมา จากนั้นร่างกายของเขาก็พุ่งไปยังทิศทางของยอดเขาซวงเฟิงอย่างรวดเร็ว
“ข้าจะต้องฆ่าเ้าให้ได้ อย่าคิดว่าจะรอดไปจากจักรวรรดิซือฉี!” ด้านหลังมีเสียงคำรามด้วยความโกรธของหญิงสาวดังมาตามลม
ถังเหล่ยอดถอนหายใจไม่ได้ แต่เพื่อเป็การป้องกันไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย เขาจึงเลือกเป็ฝ่ายหนี
……