อาจารย์ใหญ่ซุนเจ็บใจเป็ที่สุด
แม้เขาให้ความสำคัญกับคะแนนของนักเรียนมาก มากพอที่จะเมินเฉยต่อข้อบกพร่องเล็กน้อยบางอย่างได้ แต่สำหรับเซี่ยจื่ออวี้นี้ไม่ใช่ข้อบกพร่องเล็กน้อยแล้ว ไม่ว่าจะเพราะริษยาหรือเพราะอะไร การพยายามขัดขวางอนาคตของลูกพี่ลูกน้องตนเอง ถือว่าจิตใจเลวทรามยิ่งนัก!
ลูกศิษย์ที่จิตใจเลวทรามเช่นนี้ถูกสอนสั่งมาโดยอันชิ่งเซี่ยนอีจงของเขา อาจารย์ใหญ่ซุนถึงกับปวดศีรษะเลยทีเดียว
เซี่ยจื่ออวี้ผู้เป็เพียงนักศึกษาในปัจจุบันยังร้ายกาจปานนี้ เมื่อมีอาชีพการงานในอนาคต หากโชคอำนวยได้มีตำแหน่ง กลายเป็ผู้นำของหน่วยงาน ความชั่วร้ายของเธอย่อมส่งอิทธิพลกับคนจำนวนมากยิ่งขึ้น คนประเภทนี้มีประโยชน์อะไรต่อประเทศชาติ แม้จะมีสถานะเป็นักศึกษามหาวิทยาลัย เกรงว่าความหมายของการดำรงอยู่ยังเทียบเทียมชาวไร่ชาวนาผู้ขยันขันแข็งไม่ได้เลย
หลังจากเซี่ยจื่ออวี้กลับปักกิ่ง เธอเขียนจดหมายให้เขาอีกหลายฉบับ
ยิ่งจ้าวกังซัดทอดถึงเซี่ยจื่ออวี้ อาจารย์ใหญ่ซุนยิ่งรังเกียจอดีตศิษย์แห่งความภาคภูมิใจคนนี้โดยสมบูรณ์ แน่นอนว่าเนื่องจากบิดามารดาของเซี่ยจื่ออวี้ไม่ได้เปิดร้านหน้าเซี่ยนอีจงอีกต่อไป อาจารย์ใหญ่ซุนจะชิงชังเธอหรือไม่ เซี่ยจื่ออวี้ไม่ใส่ใจขนาดนั้นแล้ว อาจารย์ใหญ่ซุนรู้ดีว่าเขาไม่มีวิธีอะไรที่จะยับยั้งเซี่ยจื่ออวี้ได้ ชิงชังส่วนชิงชัง เขาคงไม่อาจเขียนจดหมายไปยังวิทยาลัยฝึกหัดครูปักกิ่งเพื่อเปิดโปงเซี่ยจื่ออวี้หรือวิพากษ์วิจารณ์เซี่ยจื่ออวี้ได้หรอก!
คำให้การของจ้าวกังเกี่ยวโยงถึงเซี่ยจื่ออวี้ แต่ไร้หลักฐานโดยสิ้นเชิง
นี่เป็ความด่างพร้อยทางศีลธรรม เมื่อพิจารณาจากกฎหมายบ้านเมือง ไม่สามารถลงโทษเซี่ยจื่ออวี้ได้อยู่ดี
เซี่ยเสี่ยวหลานคาดการณ์ผลลัพธ์นี้ได้ั้แ่แรก เหมือนที่ติงอ้ายเจินสั่งการคนของแนวร่วมป้องกันให้ทำเื่ไม่ดีในตอนนั้น เป็การใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเช่นเดียวกัน เมื่อถูกตรวจสอบพบ แค่ยืนกรานไม่ยอมรับก็พอ ฝ่ายเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้ประสบความเสียหายอันแสนสาหัสอย่างแท้จริง บทลงโทษของอีกฝ่ายย่อมไม่เจ็บไม่คันเหมือนกัน จ้าวกังยังไม่ทันลงมือกระทำความเลวก็โดนจับเสียก่อน ต่อให้มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าเซี่ยจื่ออวี้เป็ผู้บงการ... เพียงทำให้ฝ่ายนั้นรับโทษทางวินัยของสถาบันได้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีทางปล่อยเซี่ยจื่ออวี้ไปโดยง่ายอย่างแน่นอน
อาจารย์ใหญ่ซุนรู้สึกว่าประเด็นนี้ไม่น่าสนใจสักเท่าไร ทั้งสองจึงพูดคุยถึงจ้าวกังแทน
“ผู้กำกับเหลียงบอกว่าจ้าวกัง้าย่องเบาลักทรัพย์ ที่แท้จ้าวกังชอบเล่นโป๊กเกอร์กับคนในโรงงานเครื่องจักรเกษตร เล่นไพ่แพ้จนเสียเงินไปไม่น้อย เงินเดือนทุกเดือนต้องเอามาชดใช้หนี้พนันหมด ชักหน้าไม่ถึงหลังมาตั้งนานแล้ว”
ประโยคแรกเป็เื่โกหก ทว่าท่อนหลังคือเื่จริง
จ้าวกังโปรดปรานการเล่นไพ่ มีอาจารย์ในโรงเรียนรับรู้ และไม่คิดใส่ใจจริงจัง แต่จ้าวกังติดการเล่นไพ่จนหนี้สินท่วมหัว คนคนนี้เห็นแก่ตัวเหลือทน ฐานะครอบครัวไม่ได้ดีนัก อีกทั้งพื้นเพเป็คนชนบทเหมือนกัน ครอบครัวที่น่าสงสารยังคงขุดหาอาหารจากดิน เขากลับสุรุ่ยสุร่าย ใช้เงินเดือนไปกับการเสวยสุขพร่ำเพรื่อ อีกทั้งมีหนี้สินมหาศาล
เนื่องจากย่องเบาไม่สำเร็จ จะไม่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตเพราะเงินก้อนโตอย่างจางเสเพล คาดว่าคงจำคุกเพียงไม่กี่ปีก็พ้นโทษ แต่สำหรับอาจารย์ใหญ่ซุนแล้ว ในที่สุดก็มีข้ออ้างซึ่งเหมาะสมในการไล่จ้าวกังออก
จำคุกแล้วยังจะเป็อาจารย์ได้อย่างไร?
สิ่งที่มีราคาสูงสุดของจ้าวกังคืออาชีพนี้ เมื่อมีมลทินจากการจำคุก อย่าว่าแต่เขาจะเป็อาจารย์ในอนาคต กระทั่งอยากหางานอื่นก็ยังยาก!
ั้แ่จางเสเพล ติงอ้ายเจิน รวมถึงจ้าวกังในตอนนี้
เซี่ยเสี่ยวหลานพบว่าการบริหารอำนาจตุลาการของประเทศนั้นยุติธรรรมพอสมควร ถ้าคนพวกนี้ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ เซี่ยเสี่ยวหลานจะสามารถหยิบยืมกระบวนการทางกฎหมายจัดการพวกเขาได้หรือ? ความชั่วมากมายที่กระทำลงไปจะส่งผลให้แพ้ภัยตนเอง! อย่าคิดว่าตนยิ่งใหญ่ค้ำฟ้าและสามารถข่มเหงรังแกผู้อื่นได้ตามอำเภอใจเชียว จะถูกความจริงของชีวิตสั่งสอนให้ปฏิบัติตัวสมเป็มนุษย์ในไม่ช้าก็เร็วแน่นอน
อาจารย์ใหญ่ซุนบอกว่าจะใช้โอกาสนี้จัดกิจกรรม ‘ต่อต้านการพนัน’ ภายในโรงเรียน เซี่ยเสี่ยวหลานชูมือแสดงเห็นด้วยทั้งสองข้างเลยทีเดียว
การเล่นไพ่เป็วิธีผ่อนคลายและสร้างความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง ทว่าเมื่อยกขึ้นถึงระดับการพนันก็น่ารังเกียจ อบายมุขทำลายครอบครัวตั้งมากมายเท่าไร ถ้าเกิดขึ้นกับผู้อื่นเซี่ยเสี่ยวหลานย่อมควบคุมไม่ได้ อาจารย์ใหญ่ซุนก็ทำไม่ได้เช่นกัน แต่ภายในรั้วสถานศึกษา การล้างอิทธิพลอันเป็พิษของการพนันนั้นถือว่าถูกต้อง!
“ครูใหญ่คะ หนูพูดแบบนี้อาจไม่ค่อยเหมาะสม แต่ครูใหญ่ควรให้ความห่วงใยกับครูซุนจริงๆ นะคะ หนูกลัวว่าความผิดที่จ้าวกังก่อจะกลายเป็ภาระทางจิตใจอย่างหนึ่งสำหรับครูซุน”
ซุนเถียนเคยพิจารณาจะยอมรับจ้าวกังอย่างแน่นอน
อีกทั้งคนนอกเชื่อว่าพวกเขาเป็คู่รักกันแล้วด้วยซ้ำ
จ้าวกังถูกจับ และต้องถูกตัดสินจำคุก คนนอกไม่ทราบเื่ราวภายในที่แท้จริง ซุนเถียนย่อมได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย
อาจารย์เสี่ยวซุนมีนิสัยเหนียมอายเกินไป เซี่ยเสี่ยวหลานโตกว่าอีกฝ่ายมากในด้านอายุจิตใจ ถ้าเป็เซี่ยเสี่ยวหลานคงยินดีที่ยังไม่ะโเข้ากองไฟ ทว่าอาจารย์เสี่ยวซุนไม่ได้รู้จักปลงขนาดนั้น
อาจารย์ใหญ่ซุนเห็นด้วยเป็อย่างยิ่ง หลานสาวของเขาไม่ได้โชคร้ายครั้งใหญ่หรือไร ดันถูกจ้าวกังหมายปองเสียได้ หากไม่เกิดเหตุการณ์นี้ที่แฉให้เห็นสันดานเลวทรามของจ้าวกัง และจ้าวกังก็ได้ใช้วิธีรุกราวีจนกลายเป็หลานเขยตัวจริงของอาจารย์ใหญ่ซุน อาจารย์ใหญ่ซุนแค่ลองคิดดูยังถึงกับศีรษะเป็ตะคริว
แต่นักเรียนเสี่ยวหลานเด็กกว่าซุนเถียนเสียอีก กลับสุขุมสงบนิ่งกว่าเมื่อประสบพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้
บางครั้งอาจารย์ใหญ่ซุนก็มองเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ออกเลย อัจฉริยะจริงอยู่หรอก ทว่าเหมือนจะแก่แดดแก่ลมไปสักหน่อยนะ
----------------------------------------
เมื่ออาจารย์ใหญ่เฉียนและอาจารย์ใหญ่หลัวโน้มน้าวเซี่ยเสี่ยวหลานไม่สำเร็จทั้งคู่ เพราะเซี่ยเสี่ยวหลานตัดสินใจหนักแน่นว่าจะเรียนต่อที่เซี่ยนอีจง อาจารย์ใหญ่ซุนคิดว่าแขวนป้ายแสดงความยินดีได้แล้ว
‘ขอแสดงความยินดีอย่างอบอุ่นกับนักเรียนเซี่ยเสี่ยวหลานของพวกเราที่ได้คะแนนสูงเป็อันดับหนึ่งสายวิทย์ประจำเมืองในการสอบคัดเลือกรอบแรก!’
แขวนร่วมกับป้ายอัตราผ่านการสอบคัดเลือกรอบแรก 75% ผืนนั้น อาจารย์ใหญ่ซุนยิ่งมองยิ่งพึงพอใจเหลือเกิน
นายประตูเหล่าจ้าวอกตั้งหลังตรงยิ่งกว่าเดิม
ความลำเอียงที่อาจารย์ใหญ่ซุนมอบให้เซี่ยเสี่ยวหลานถูกพิสูจน์ว่าถูกต้องโดยคะแนนสอบคัดเลือกรอบแรก เวลานี้อย่าว่าแต่อาจารย์ใหญ่ซุนจะจัดกิจกรรมต่อต้านการพนันในโรงเรียนเลย ต่อให้เขาผายลมก็หอมอยู่ดี นอกจากไม่มีผู้ใดในโรงเรียนคัดค้านการตัดสินใจไล่จ้าวกังออก ด้านสำนักบริหารงานการศึกษาประจำเขตก็ตอบรับตกลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
เมื่อหลี่ต้งเหลียงมอง ‘คุณผู้หญิงเซี่ย’ ในตอนนี้ เกิดความเคารพเทิดทูนขึ้นมาจริงๆ แล้ว
อันที่จริงพอมาถึงซางตูก็รู้ทันที ว่า ‘คุณผู้หญิงเซี่ย’ ไม่ได้มีเื้ัลึกลับซับซ้อนดั่งที่เขาได้เคยจินตนาการไว้ แต่จากสิ่งที่เขาได้เห็นและได้ยิน ทำให้เขาชื่นชมเซี่ยเสี่ยวหลานยิ่งกว่าเดิม อายุน้อยแล้วเสียหายอะไร สามารถทำธุรกิจด้วยตนเองได้ อีกทั้งเรียนหนังสือไปพร้อมกันด้วย หลี่ต้งเหลียงชื่นชมผู้ที่มีความสามารถแบบนี้ยิ่งนัก
ตอนนี้ ‘คุณผู้หญิงเซี่ย’ ยังอายุน้อย อนาคตของเธอกว้างไกลเชียวล่ะ
เพียงแต่ไม่รู้ว่า ‘คุณผู้หญิงเซี่ย’ จะ้าเขาในระยะยาวหรือไม่ หลี่ต้งเหลียงอยากเปลี่ยนงานคนคุ้มกันระยะสั้นให้กลายเป็ระยะยาวเหลือเกิน เขาไม่ได้้าค่าตอบแทนสูงขนาดนั้น เพราะเขาคิดว่าในวันข้างหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานจะไม่ปฏิบัติอย่างขาดตกบกพร่องต่อเขาแน่นอน
ไม่ว่าหนแห่งใดล้วนคือการทำงาน และการติดตามนายจ้างเฉกเช่น ‘คุณผู้หญิงเซี่ย’ คนนี้ก็ไม่ทำให้เสื่อมเสียเกียรติของสำนักตระกูลไป๋!
----------------------------------------
ใบแจ้งผลคะแนนของเซี่ยเสี่ยวหลานถูกนำกลับมาซางตู ย่าอวี๋มีประสบการณ์ความรู้ช่ำชอง ถึงกับตะลึงเลยทีเดียว เธอไม่ค่อนขอดหรือปากร้ายแล้ว กล่าวด้วยอารมณ์สงบเยือกเย็นอย่างที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก “นึกไม่ถึงว่าในบ้านหลังนี้ของฉันยังมียอดคนเข้ามาอาศัยได้”
สามารถสอบติดอันดับหนึ่งประจำเมือง ถือว่ายอดเยี่ยมมาก
ย่าอวี๋เป็บุคคลที่เคยััความมั่งคั่งและฐานะชั้นสูงมาก่อน แม้เซี่ยเสี่ยวหลานบริหารธุรกิจได้ดี เธอไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำ
ทว่าเมื่อเซี่ยเสี่ยวหลานเรียนหนังสือได้ดี นั่นย่อมเป็ยอดคนโดยแท้จริง ควรค่าให้ย่าอวี๋ยกย่องชมเชย
แสวงหาสิ่งอื่นใดล้วนต่ำต้อย มีเพียงแสวงหาความรู้เท่านั้นที่สูงสง่า!
การเรียนหนังสือเก่งนั้นน่าชื่นชมมากจริงๆ อันดับหนึ่งประจำเมืองจะได้มาง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้เอาชนะเพียงนักเรียนหญิง เธอยังชนะนักเรียนชายวัยไล่เลี่ยกันอีกด้วย ย่าอวี๋คิดว่าเธอมีใจสู้อย่างถึงที่สุด ถ้าเธอมีหลานสาวเรียนเก่งแบบนี้สักคน สิ้นไร้ไม่ตอกอย่างไรก็ไม่เกี่ยง บนโลกนี้กลับมียายแก่โง่เง่าเช่นนั้นเสียได้ ผลักไสไล่ส่งหลานสาวอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานออกห่างตัว? ย่าอวี๋รับรู้เื่ราวคร่าวๆ ของตระกูลเซี่ยเล็กน้อย เธอคิดว่าน้ำในสมองของแม่เฒ่าเซี่ยน่าจะยังถูกคั้นออกมาไม่หมด [1]
เซี่ยเสี่ยวหลานฉลาดและเ้าเล่ห์ก็จริง ทว่ามีจิตสำนึกพื้นฐานอยู่ ตราบใดที่เจตนาดีต่อเธอ เธอไม่มีทางเนรคุณแน่นอน
ในภายภาคหน้า คนตระกูลเซี่ยจะต้องเสียใจอย่างสุดซึ้ง...
หลิวเฟินไม่ได้คิดถึงเลยว่าคนตระกูลเซี่ยจะเป็อย่างไร ใบแจ้งผลคะแนนคือบันทึกข้อความแผ่นบางๆ เท่านั้น เธอดูแล้วดูอีก ไม่กล้าแน่ใจว่านี่คือคะแนนที่บุตรสาวของตนสอบได้
เชิงอรรถ
[1] โดยปกติจะมีคำว่า 脑子进水 น้ำซึมเข้าสมอง ซึ่งมักใช้อธิบายถึงคนที่กระทำเื่โง่เง่า ไร้เหตุผล ไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน การที่ย่าอวี๋คิดว่าน้ำในสมองของแม่เฒ่าเซี่ยยังถูกบีบออกมาไม่หมดจึงมีความหมายว่า แม่เฒ่าเซี่ยทำในสิ่งที่โง่เขลาไม่มีหัวคิดลงไป