เยียนชิงหลัวนั่งซุกตัวอยู่ในมุมมืดของตรอกเล็กๆ ด้านหลังประตูวังที่สูงตระหง่าน ดวงตาของนางจับจ้องทหารสองคนเฝ้าประตูยืนประจำตำแหน่งด้วยท่าทางเคร่งขรึม การเข้าออกในวังไม่ใช่เื่ง่าย โดยเฉพาะสำหรับคนไร้ที่มาอย่างนาง
สายลมค่ำคืนนี้พัดกรรโชก ทำให้ผ้าคลุมเก่าของเยียนชิงหลัวสะบัดไหว นางกอดตัวเองแน่นขึ้น ฝ่ามือกำกระดาษแผ่นหนึ่งไว้แน่น นั่นคือจดหมายที่นางเพิ่งเขียนขึ้น
‘ท่านน้าเยียนเหม่ย ข้าคือเยียนชิงหลัว หลานของท่าน ข้ารอดมาได้จากาและเดินทางมาที่นี่ ขอท่านช่วยข้าด้วยเถิด ข้าไม่มีที่ไปแล้ว’
นางอ่านทวนตัวอักษรที่เขียนขึ้นด้วยลายมือสั่นไหว ก่อนจะพับกระดาษอย่างระมัดระวังแล้วหันไปมองรอบตัว หัวใจของนางเต้นแรงขึ้นนางจำเป็ต้องหาคนส่งจดหมายนี้เข้าไปข้างในวังให้ได้
เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนในที่สุดเงาของนางกำนัลผู้หนึ่งก็ปรากฏขึ้นจากทางด้านข้างวัง นางกำนัลคนนี้น่าจะเป็ผู้ที่ออกมาซื้อของข้างนอก
เยียนชิงหลัวขยับตัวเข้าใกล้ ท่าทางลังเล ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยเสียงเบา
“คุณหนู ข้ามีเื่ขอร้อง”
นางกำนัลสะดุ้งเล็กน้อยดวงตาเบิกกว้างอย่างหวาดระแวง ก่อนจะหรี่ตามองหญิงสาวในชุดเก่าขาดรุ่งริ่งอย่างระแวง
“เ้าคือใคร? ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้?”
เยียนชิงหลัวรีบยื่นจดหมายที่พับไว้อย่างดี พร้อมกับแอบสอดทองสินบนลงไปในมือของอีกฝ่าย
“ข้าขอร้อง… ช่วยนำจดหมายนี้ไปส่งให้สนมเยียนเฟยในตำหนักของนางด้วยเถิด”
นางกำนัลนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเหลือบตามองรอบตัว เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครเห็น นางจึงรับจดหมายไป น้ำหนักของเงินในมือทำให้นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็พยักหน้าเบาๆ
“ข้าจะลองดูให้ แต่หากนางไม่รับหรือสงสัย ข้าจะไม่นำมันไปให้”
เยียนชิงหลัวรีบพยักหน้าอย่างมีความหวัง “ขอบคุณ… ขอบคุณมาก”
นางกำนัลไม่พูดอะไรอีก เพียงซ่อนจดหมายไว้ในแขนเสื้อก่อนจะรีบหันหลังเดินกลับเข้าไปในวัง
เยียนชิงหลัวมองตามแผ่นหลังของนางกำนัลจนหายลับไปเื้ัประตูวัง นางถอนหายใจเฮือกใหญ่พยายามปลอบใจตัวเองว่าทุกอย่างจะเป็ไปได้ด้วยดี
คืนนี้นางต้องอดทนรอ…
..
ภายในตำหนักอันโอ่อ่าของเยียนเหม่ยสนมตำแหน่งเฟยของฮ่องเต้หลิว กลิ่นหอมของกำยานอ่อนๆ ลอยฟุ้งไปทั่ว แสงโคมไฟวูบไหวสะท้อนภาพสตรีสูงศักดิ์ที่กำลังเอนกายบนแท่นนอน นางอ่านจดหมายในมืออย่างครุ่นคิดก่อนจะปรายตามองนางกำนัลข้างกาย
“ชิงหลัวหรือ…” นางพึมพำเบาๆ ราวกับชื่อนี้ไกลเกินไปสำหรับนาง
สนมเยียนเฟย หรือเยียนเหม่ย เป็สตรีงดงามที่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ นางปีนขึ้นสู่อำนาจภายในรั้ววังมาอย่างสุขุม รอบคอบ และไร้หัวใจ แม้ว่าเยียนชิงหลัวจะเป็เืเนื้อเชื้อไขเดียวกันของตระกูล แต่การรับนางเข้ามามีแต่จะเพิ่มภาระและดึงดูดสายตาของศัตรู
นางพับจดหมายลงช้าๆ “เ้าไปบอกนางว่า ข้าไม่อาจรับนางเข้ามาในฐานะญาติได้”
นางกำนัลโค้งคำนับรับคำสั่ง แต่ยังคงลังเลเล็กน้อย
“แต่…พระสนมเพคะ นางเป็สายเืเดียวกับพระองค์ หากปล่อยไว้ข้างนอกเกรงว่า…”
เยียนเฟยยกมือขึ้นเป็เชิงให้หยุดพูด ั์ตาเยือกเย็นของนางฉายแวววิเคราะห์
“แต่ข้าไม่ได้บอกว่าจะปล่อยนางไป” รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนริมฝีปาก นางยกถ้วยชาในมือขึ้นจิบช้าๆ ก่อนจะกล่าวต่อ
“หากนางอยากเข้ามาในวังจริงๆ ก็ให้เป็ไปตามกฎระเบียบ นางไม่ได้มาสู่ตำหนักของข้าในฐานะญาติ แต่หากเป็เพียงนางรำในวัง งานเลี้ยงครั้งหน้าของฮ่องเต้ให้ส่งนางเข้ามาแสดง ข้าจะพบนางที่นั่น”
นางกำนัลก้มหน้ารับคำ “เพคะ พระสนม”
เยียนเหม่ยเหลือบมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกสำริด สายตาของนางยังคงสงบนิ่ง
‘ชิงหลัว… หากเ้ายังเป็เด็กไร้เดียงสา ข้าย่อมไม่คิดรับ เ้าต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเหมาะสมที่จะอยู่รอดในวังหลวงแห่งนี้’
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้