“ที่เดิมหรือ? ฮ่าๆๆ ไม่มีปัญหา” เฉิงไฉเซียวหัวเราะ ในระหว่างที่ฝึกวิชาด้วยกันนั้นพวกเขาเริ่มฝึกจากยามบ่าย จนถึงยามเย็น หลังจากนั้นจึงจะไปกินอาหาร และร่ำสุราที่โรงเตี๊ยมเมฆแดงกันทุกวัน
สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนไปโรงเตี๊ยมเมฆแดงนั้นก็เพราะว่า ที่นั่นมีสุราดี ชื่อว่า สุราเมฆแดง ถึงราคาจะแพงสักหน่อยแต่ก็ไม่ติดปัญหาอะไร หลังๆมานี้จื่อต้าหลงจะเป็ฝ่ายเลี้ยงเสียมากกว่า เพราะถือว่าตอบแทนที่เฉิงไฉเซียวคอยฝึกสอนให้เขามาตลอด เฉิงไฉเซียวก็ไม่ได้ค้านอะไร เขาไม่ใช่คนที่ชอบคิดเล็กคิดน้อย
“ปกติแล้วข้าดื่มกินที่โรงเตี๊ยมไหนก็เหมือนกันหมด เน้นราคาถูกไว้ก่อน แต่พอคบหากับนายน้อยอย่างเ้า หลายวันมานี้ ได้แต่เข้าโรงเตี๊ยมมีระดับทั้งนั้น ถือว่าเป็ลาภปากข้าแล้ว” เฉิงไฉเซียวกล่าว
“ฮ่าๆๆ พอดีข้าชอบอะไรใหม่ๆ พวกเราเปลี่ยนไปหลายที่จนได้มาพบโรงเตี๊ยมเมฆแดงนี่แหละที่ดึงข้าไว้ที่นี่ได้ถึงเจ็ดวัน” จื่อต้าหลงกล่าว
“อย่าคิดนะว่าข้าอ่านเ้าไม่ออก สาเหตุที่เ้าชมชอบที่นี่เป็เพราะ สุราเมฆแดงมากกว่า” เฉิงไฉเซียวกล่าวอย่างรู้ทัน
“ท่านนี่รู้ใจข้าไปหมดจริงๆเลยนะพี่ไฉเซียว ฮ่าๆ มาเถอะ! ข้าคอแห้งแล้ว” จื่อต้าหลงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ทั้งคู่มาถึงโรงเตี๊ยมเมฆแดงอย่างรวดเร็ว… หลังจากเข้าไปภายในร้านก็พบว่า ในวันนี้ที่นั่งกลับมากมายไปด้วยผู้คนแทบทุกโต๊ะ จื่อต้าหลงและเฉิงไฉเซียวขึ้นไปยังชั้นสองที่เดิม เป็ที่นั่งริมระเบียง หลังจากสั่งอาหารและสุรามาแล้ว พวกเขาก็เริ่มดื่มกินอย่างมีความสุข
สำนักปลาทองนั้น ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงกว้างขวาง ทางสำนักได้มีการเปิดรับภารกิจมากมายให้เหล่าศิษย์ไปเลือกทำ ส่วนรางวัลก็จะเป็ทางผู้ว่าจ้างภารกิจที่เตรียมไว้ให้ ศิษย์ที่อยากทำภารกิจสามารถไปขอรับภารกิจจากทางสำนักได้
“เสี่ยวต้าหลง ข้าไปเจอภารกิจดีๆมา เ้าสนใจหรือไม่?” เฉิงไฉเซียวกล่าวขึ้นมา
“ภารกิจอะไรงั้นรึพี่ไฉเซียว?” จื่อต้าหลงถามอย่างสงสัย
“มันเป็ภารกิจระดับลมปราณก่อเกิดขั้นสี่ที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างน่าสนใจ ในตอนนี้ ข้าและเ้าก็ล้วนบรรลุ ขั้นสี่แล้ว เ้าล่ะคิดอ่านอย่างไร สนใจหรือไม่?” เฉิงไฉเซียวถามกลับ
“แน่นอน สนใจสิ ข้าเองก็บรรลุปราณก่อเกิดขั้นสี่แล้ว พวกเราถือได้ว่าเป็ศิษย์สายในแล้ว”
ภารกิจที่เฉิงไฉเซียวชวนจื่อต้าหลงทำนั้นเป็ภารกิจสำหรับศิษย์สายใน พวกเขาต้องไปยื่นเื่กับทางสำนักก่อนว่าบัดนี้ระดับพลังมาถึงขั้นสี่ลมปราณก่อเกิดแล้ว ทางสำนักจะให้ป้ายประจำตัวมาใหม่ซึ่งเป็สัญลักษณ์ของศิษย์สายในใช้เพื่อไปรับภารกิจนี้
“เนื้อหาของภารกิจนี้คือ การสังหารสัตว์อสูรลิงหิน สัตว์อสูรลิงหินนั้น อยู่ในขั้นลมปราณก่อเกิดขั้นที่สี่ ซึ่งเป็ภารกิจที่มอบให้ศิษย์สายในไปจัดการ ระยะนี้ลิงหินออกอาละวาดจู่โจมแถวตะวันตกของป่าไม้หอมซึ่งเป็ที่ ที่ชาวบ้านออกล่าสัตว์ป่าหาอาหารและผลไม้มากิน ด้วยการมีอยู่ของลิงหินชาวบ้านจึงไม่กล้าที่จะออกไปหาอาหาร พวกมันได้สร้างความลำบากให้แก่ผู้คนแถวนั้นเป็อย่างยิ่ง ส่วนรางวัลสำหรับภารกิจนี้คือเงินรางวัลหนึ่งร้อยตำลึง และแต้มคุณธรรมของสำนักสิบแต้ม เ้าคิดเห็นอย่างไร?” เฉิงไฉเซียวกล่าวเสียงเรียบ
“ร้อยตำลึงกับแต้มคุณธรรมสิบแต้มงั้นหรือ? แถมยังช่วยจัดการปัญหาให้ชาวบ้านด้วย ไม่เลวแฮะ ข้าคิดว่าเราควรที่จะช่วยเหลือชาวบ้านผดุงคุณธรรมเสียหน่อย ไหนๆก็อยู่ฝึกในสำนักมาเป็เดือนๆแล้ว คงได้เวลาที่เราจะทำอะไรเพื่อ สำนักบ้างได้แล้ว” จื่อต้าหลงกล่าวพลางพยักหน้าเห็นด้วย
คะแนนคุณธรรมของสำนักปลาทอง สามารถนำไปแลก ยา อาวุธ และเคล็ดวิชาได้ จึงมีศิษย์จำนวนมากที่มารับภารกิจยากๆไปทำอยู่เสมอ
หลังจากซดสุราเมฆแดงไปคนละสองป้าน สองหนุ่มก็เริ่มเมาพูดจาเลอะเทอะไปเรื่อยเปื่อย
“ฮ่าๆๆ สุราดี คบมิตรสหายต้องพากันมาดื่มสุรา มา!! พี่ไฉเซียว ข้าขอคารวะท่านหนึ่งจอก!” จื่อต้าหลงกล่าวพลางยกจอกสุราขึ้นมาซด สุราเมฆแดงนี้รสชาติไม่ขมนัก เหมาะแก่สตรี และเหล่าคุณชายที่ไม่ชอบอะไรเผาคอนัก มันจึงเป็ที่นิยมในหมู่ผู้ฝึกยุทธสตรีและเหล่าคุณชายทั้งหลายในเมืองปลาทอง
การที่จะได้ดื่มสุราเมฆแดงนี้ ไม่ง่ายนัก มีเพียงแค่ไม่กี่โรงเตี๊ยมเท่านั้นที่สามารถจัดหามาจำหน่ายได้ ของดีเช่นนี้ ไม่ได้หากันง่ายๆ
“ฮ่าาาา!! รสชาติเยี่ยมอย่างเ้าว่าจริงๆ ยิ่งดื่มยิ่งอยากดื่ม วันนี้ไม่เมาไม่เลิก!!”เฉิงไฉเซียวกล่าวหลังจากเพิ่งดื่มสุราลงคอไปหมาดๆ
หลังจากที่ร่ำสุรากันมาทุกเมื่อเชื่อวัน ทั้งสองต่างมีคอดั่งทองแดง เหล็กไหลขึ้นมาบ้างแล้ว หลังจากตกลงกันว่าจะไปทำภารกิจเสร็จสิ้นทั้งสองก็แยกย้ายกลับที่พักของตัวเอง
จื่อต้าหลงยังใช้วิธีเดิมของเขา นั่นคือการเดินเล่นย่ามค่ำคืน ทอดสายตามองภาพบรรยากาศต่างๆภายในเมือง ทั้งผู้คน ทั้งร้านแผงลอยที่กำลังขายอาหารให้กับนักท่องราตรี ในใจเขาพลางคิด ‘ข้ามิได้ติดใจรสชาติสุรา หากแต่ข้าชอบบรรยากาศของการร่ำสุรา สุราดีหรือไม่หาได้อยู่ที่ตัวมัน กลับอยู่ที่ท่านดื่มมันเวลาใดต่างหาก’
‘แต่ตอนนี้ ค่าขนมข้าใกล้จะหมดแล้ว หลังจากทำเื่ย้ายเป็ศิษย์สายในได้แล้ว ต้องไปขอให้ท่านพ่อเพิ่มค่าขนมหน่อยแล้ว ไม่งั้นข้าจะประท้วงไม่ยอมฝึกวิชา อิอิ ฮ่าๆๆ’ จื่อต้าหลงหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
ผู้คนบริเวณนั้นพบเห็นเข้าจึงนึกว่าเขาเป็บ้า ต่างถอยออกห่างจากตัวเขากันหมด
“มานี่เร็วผู่เอ๋อร์! ออกมาห่างๆจากเด็กผู้นั้นเร็วเข้า!” หญิงสาวนางหนึ่งรีบดึงลูกสาวตนเองให้ออกห่างจากจื่อต้าหลงด้วยท่าทางรีบร้อน ราวกับว่าเขาเป็ตัวเชื้อโรคก็มิปาน
