เมื่อชิงซีกลับมาถึงจวนตระกูลมู่ก็พบว่ามู่ชิงซ่งยืนรออยู่ในห้องโถงแล้ว
“ท่านประมุข ข้ามีเื่สำคัญที่ต้องแจ้งท่าน” มู่ชิงซ่งกล่าว
ชิงซียิ้ม นางมองมู่ชิงซ่งั้แ่หัวจรดเท้าและกล่าวว่า “ใจเย็นก่อน ใช่เื่ที่เ้าชอบปี้เหยียนหรือไม่?”
มู่ชิงซ่งก้มหน้าลงอย่างเขินอาย “ไม่ใช่เื่นี้”
ชิงซีนั่งลง นางยิ้มและกล่าวว่า “เกิดอะไรขึ้น? เ้าโชคดีมากที่ได้พบคนที่เ้าพึงพอใจ แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถช่วยเ้าได้” นางกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่ค่อยๆ เลือนหายไป “ชิงซ่ง ข้าหวังว่าเ้าจะไม่เกลียดข้า การแต่งงานของพวกเ้าอาจไม่น่าพึงพอใจนัก โดยเฉพาะการแต่งงานของเ้า”
มู่ชิงซ่งกระซิบ “ชิงซ่งเข้าใจในความหวังดีของท่านประมุข เสี่ยวหรูเป็คนดีมาก มีความรู้และเพียบพร้อมด้วยคุณธรรม ท่านประมุขไม่ต้องกังวลเื่นี้”
ชิงซีขมวดคิ้วเล็กน้อย “ในเมื่อนางเป็คนดีมาก เหตุใดผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้วจึงไม่มีข่าวดีเลย?”
มู่ชิงซ่งก้มหน้าลงอย่างเขินอาย “ท่านประมุขไม่จำเป็ต้องเร่งรัดเื่นี้”
ชิงซียิ้ม “เอาล่ะ ข้าขอถามเ้าหน่อย เ้าคิดว่าปี้เหยียนขาดอะไรมากที่สุด?”
มู่ชิงซ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังและกล่าวว่า “ประสบการณ์ นางเก่งทุกอย่าง แต่จิตใจนางไม่แข็งแกร่งพอที่จะใช้ชีวิตอย่างอิสระด้วยตนเอง”
ชิงซีพยักหน้าเห็นด้วย “ข้าวางแผนที่จะส่งนางไปยังสำนักชิงซานเพื่อฝึกฝนกระบี่ เ้าคิดอย่างไร?”
มู่ชิงซ่งกล่าวว่า “ชิงซ่งเห็นด้วยกับท่านประมุข”
ดวงตาของเขาจริงใจไม่มีสิ่งใดเจือปน ชิงซีรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย ใน่เวลาสี่พันปีที่ผ่านมา นางเฝ้ารอที่จะได้พบกับคนที่ทำให้นางมีความสุข อันที่จริงหมี่เจียก็ไม่เลว แต่นางจะมีโอกาสได้กลับไปยังเก้า์เพื่ออยู่ร่วมกับหมี่เจียหรือไม่นั้นมีเพียง์ที่รู้
‘หากข้าได้พบกับศิษย์พี่ซีฉานอีกครั้ง ข้าควรลองถามนางลองดู’
เมื่อนึกถึงเื่นี้นางก็รู้สึกตื่นเต้น มู่ชิงซ่งกำลังพูดอะไรบางอย่างแต่นางไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นไม่นานชิงซีก็เหมือนจะตระหนักถึงการดำรงอยู่ของมู่ชิงซ่ง นางจึงถามว่าเมื่อสักครู่เขาพูดสิ่งใด
มู่ชิงซ่งลังเลเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “ท่านประมุข เราต้องสนับสนุนองค์หญิงใหญ่จนกว่านางจะหวนกลับไปยังตำหนักเหวินฮวาจริงหรือ?”
ชิงซีกล่าวอย่างมั่นใจ “แน่นอน! แม้ว่าเราจะมีเส้นแบ่งที่ชัดเจนกับราชสำนัก แต่นี่คือเื่จำเป็ ชิงซ่งเ้าลังเลอะไรอยู่?”
มู่ชิงซ่งส่ายหน้า “ท่านประมุขข้าไม่ได้ลังเล ข้าแค่คิดว่าถ้าวันหนึ่งตระกูลมู่ไม่ได้เป็อย่างที่เคยเป็อีกต่อไป เราควรทำอย่างไร?”
ตลอดสี่พันปีที่ผ่านมา นางขบคิดเกี่ยวกับคำถามนี้นับพันครั้ง ดังนั้นนางจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า
“ทุกอย่างย่อมมีหนทางเสมอ”
น้ำเสียงของนางเบามาก
มู่ชิงซ่งคุ้นเคยกับคำพูดดังกล่าวของชิงซี เขาจึงเลิกถามเื่นี้ แต่กลับเปลี่ยนท่าทีเป็การแสดงความมุ่งมั่นที่จะมีทายาทอย่างแรงกล้าแทน “ท่านประมุขไม่ต้องกังวล เสี่ยวหรูจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้”
หลังจากพูดจบ เขาก็รู้สึกว่าความมุ่งมั่นของตนเองจางหายไปอย่างรวดเร็ว
เขาไม่เคยรักหญิงสาวที่อ่อนโยน เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม และมาจากตระกูลร่ำรวยผู้นี้ เพราะก่อนที่จะได้พบกับเสี่ยวหรูหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยใครอีกคนแล้ว หญิงสาวคนนั้นงดงามและอ่อนโยนเหมือนดอกไม้ ด้วยใบหน้าที่บอบบางและริมฝีปากที่เข้ารูป นางมักเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและเรียกเขาว่า “คุณชายมู่” ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ถึงแม้สถานะที่แท้จริงของนางจะอยู่เหนือเขามากก็ตาม
ท้ายที่สุดแล้วหญิงสาวที่มีเสน่ห์จากตระกูลที่สูงส่งผู้นี้อาจไม่ได้สนใจคนตระกูลมู่ด้วยซ้ำ คนที่นางสนใจมีเพียงผู้ที่เท่าเทียมกันอย่างรัชทายาทจากแคว้นซินหลัวผู้หล่อเหลาคนนั้น
ในความเป็จริงเป็เื่ยากมากที่หญิงสาวผู้นี้จะไม่ถูกรัชทายาทผู้นั้นล่อลวง เพราะเขามีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น กลิ่นอายที่ดูเ็าเหมือนน้ำแข็ง และความอ่อนโยนที่ยากจะลืมเลือน
ในชีวิตของมู่ชิงซ่ง ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาเคยรักอย่างแท้จริงคือคนที่เขาพาออกมาจากวังหลวงในตอนนั้น
แม้ว่าเขากับนางจะไม่สามารถอยู่ด้วยกันในชีวิตนี้ แต่เขาก็ยังอยากเก็บความงดงามของนางไว้ในใจ นอกจากนี้ตระกูลมู่จะคอยสนับสนุนนางอยู่เสมอ ในอนาคตเขามีโอกาสมากมายที่จะได้พบนาง
อย่างไรก็ตาม เหตุใดท่านประมุขถึง้าช่วยนาง? หรือเป็เพราะมิตรภาพอันลึกซึ้งระหว่างท่านประมุขกับซูฮองเฮา?
มู่ชิงซ่งกล่าวว่า “มิตรภาพระหว่างท่านประมุขกับซูฮองเฮาต้องลึกซึ้งมากแน่”
มุมปากของชิงซียกขึ้นเล็กน้อย “แน่นอน!”
อย่างไรก็ตาม ชิงซีไม่สามารถเปิดเผยเหตุผลที่แท้จริงได้ นางจึงเปลี่ยนเื่และกล่าวว่า “ เอาล่ะ เ้าไปเรียกเสี่ยวหรูมาหาข้า แล้วส่งข่าวไปหาฮูหยินทั้งหมดจากแต่ละเรือน แจ้งว่าข้าอยากพบพวกนาง”
มู่ชิงซ่งรับคำและจากไปอย่างรวดเร็ว ชิงซีหลับตาครู่หนึ่ง จากนั้นร่างกายของนางก็มาปรากฏที่เมืองหลวงของแคว้นซินหลัว
เมื่อชิงซีเดินมาถึงเรือนของนางก็พบว่ามีชายหนุ่มในชุดคลุมแลดูสง่างามรออยู่ก่อนแล้ว
นางประหลาดใจมากและกล่าวว่า “เหตุใดเ้าถึงมาที่นี่?”
น่าแปลกที่ฮ่องเต้แห่งซินหลัวจะเสด็จมาที่นี่ตามลำพัง!
ฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่้าเป็พันธมิตรกับนางหรือ? สมองอันน้อยนิดของนางทำงานอย่างรวดเร็ว เมื่อก่อนหมี่เจียจะเป็คนจัดการทุกอย่าง แต่หมี่เจียคนปัจจุบันน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากหมี่เจียคนก่อน ทุกคนต้องทำทุกอย่างเพื่อองค์หญิงน้อยแห่งศาลาน้ำแข็งหิมะ
แต่พลังของิญญาเซียนจะส่งผลอะไรหรือไม่?
นางคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับคำพูดของซีฉาน ในเมื่อหมี่เจียยอมรับชะตากรรมของนางแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาใช่หรือไม่?
นางพยายามอย่างเต็มที่ที่จะโน้มน้าวใจตนเอง
จากนั้นนางก็กล่าวกับชายหนุ่มว่า “เหตุใดเ้าถึงมาที่เรือนของข้า? สายข่าวของเ้ากระจายอยู่ทั่วเมืองแล้วไม่ใช่หรือ? เ้า้าสิ่งใดถึงมาหาข้า? ถ้าเ้าอยากทำการค้าเช่นนั้นข้าก็ยินดีต้อนรับ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้