ก่อนการต่อสู้คัดเลือกศิษย์ชั้นยอดจะเริ่มต้นขึ้น ิอวี่ไม่เคยใช้ร่างแห่งหยินหยางเลย เขาคิดว่าตนเองไม่ได้ปล่อยลมปราณที่น่าสงสัยอะไรออกมาเลย
แต่ิอวี่กลับไม่รู้เลยว่า ร่างกายของเขามีลมปราณบางอย่างที่มองไม่เห็นถูกปล่อยออกมา ลมปราณนั้นเบาบางมาก แต่มันก็มีอยู่จริง แล้วเมื่อครู่ตอนที่ซ่งหยวนหยวนจับที่หัวไหล่ของิอวี่ นางก็ได้ใช้พลังจิตของนางสำรวจทั่วร่างกายของเขาแล้ว
ด้วยพลังฝีมือของซ่งหยวนหยวนที่แข็งแกร่งมากขนาดนี้ เมื่อิอวี่อยู่ต่อหน้านาง ของบางอย่างที่ปกปิดเอาไว้ อย่างไรก็ไม่มีทางรอดพ้นสายตาของซ่งหยวนหยวนไปได้!
“ปล่อยลมปราณในดวงจิตเทวะของเ้าแล้วกระตุ้นร่างนักรบออกมาซะ ข้าจะดูกำลังแฝงของเ้า”
ซ่งหยวนหยวนหันหลังกลับมาแล้วเอามือกอดอก นางเยื้องคางใส่ิอวี่
ก่อนหน้านี้ิอวี่แสดงพร์ที่น่าทึ่งอย่างมากออกมาต่อหน้าศิษย์ทั่วไปของสายเลี่ยนเหยียน แต่ในสายตาของซ่งหยวนหยวนมันแค่ผ่านเกณฑ์พอดี อย่าลืมเด็ดขาด ในฐานะที่ผู้กล้าที่แข็งแกร่งอย่างซ่งหยวนหยวน อายุแค่ยี่สิบแปดก็ได้เป็ถึงผู้าุโใหญ่ของสายเลี่ยนเหยียน แสดงว่านางก็ต้องมีพร์มากเหมือนกัน
นางเจอผู้กล้าหนุ่มสาวที่คิดว่ามีพร์มาเยอะแยะมากมาย แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าการฝึกยุทธ์นั้นมันยาวไกลนัก ยิ่งฝึกไปนานเท่าไร ยิ่งยากลำบากมากกว่าเดิม
ในตอนอายุสิบแปดปี ซ่งหยวนหยวนก็มีขอบเขตอมฤตขั้นที่สองแล้วจนหลายต่อหลายคนนั้นตกตะลึง สิบปีผ่านไป ด้วยพร์ของซ่งหยวนหยวน ความเร็วในการพัฒนาของนางก่อนหน้านี้ก็เริ่มช้าลงไปหลายเท่ากว่าจะมาถึงในระดับนี้
ดังนั้น การที่ิอวี่มีพร์แบบนี้ สำหรับซ่งหยวนหยวนแล้วมันไม่ได้เป็เื่แปลกอะไร หากเขาไม่มีพร์ในการฝึกเลย แล้วจะคู่ควรเป็ศิษย์ของนางได้อย่างไร?
ดังนั้น สิ่งที่ซ่งหยวนหยวนสนใจไม่ใช่พร์ของิอวี่ แต่เป็ร่างนักรบของเขา
ในโลกนี้มีร่างนักรบเยอะแยะมากมายซึ่งบางอย่างนั้นแข็งแกร่ง การมีร่างนักรบนั้นเป็ดั่งตัวช่วย ซ่งหยวนหยวนไม่ได้คาดหวังว่าร่างนักรบของิอวี่จะต้องแข็งแกร่งมาก นางแค่หวังว่าร่างนักรบของเขาจะมีจุดเด่นที่พิเศษเพื่อให้มีช่องว่างในการพัฒนาต่อ อย่างน้อยก็ไม่ใช่แค่ตัวช่วย
“ร่างนักรบมันเปรียบเสมือนความลับอย่างหนึ่งของแต่ละคน เหลือสิทธิกับพื้นที่ส่วนตัวให้ข้าได้ไหม”
ิอวี่ขมวดคิ้ว ในเวลานี้เขายังไม่อยากเผยความสามารถที่แท้จริงของเขาออกมา
ระหว่างที่พูด ิอวี่มองไปรอบๆ ก็พบว่าวิหคเพลิงบินอยู่บนท้องฟ้าในระดับที่สูงมาก และรอบกายรายล้อมไปด้วยทะเลหมอก แทบไม่มีใครเลย
นั่นก็หมายความว่า ิอวี่ไม่มีทางได้รับความช่วยเหลือจากใครเลย!
หากในเวลานี้ซ่งหยวนหยวนลงมือกับเขา ถ้าอย่างนั้น ด้วยพลังฝีมือที่แข็งแกร่งของนาง อย่างไรก็เอาชนะเขาได้อยู่แล้ว เขาไม่มีวิธีรับมือได้เลย!
ดังนั้น สิ่งที่ิอวี่พูดในเวลานี้บอกได้เลยว่ามันเป็การขัดขืน หากซ่งหยวนหยวนเล่นไม้แข็ง ถ้าอย่างนั้นิอวี่ก็ต้องจำใจเดิมพัน เดิมพันว่าซ่งหยวนหยวนจะอยากได้อะไรในตัวเขาหรือไม่
“ข้ารู้นะว่าเ้าคิดอะไรอยู่”
ซ่งหยวนหยวนไม่ได้ตอบคำถามของิอวี่เลย แต่เปลี่ยนประเด็นไปเลยว่า “หลายปีที่ผ่านมา ข้าเคยเห็นร่างนักรบของผู้กล้าในสายเลี่ยนเหยียนมาเยอะแยะมากมาย ดังนั้นอย่าอวดดีจนเกินไป ข้าเป็อาจารย์เ้า ข้าไม่ทำอะไรกับเ้าหรอก ข้าบอกได้เลยว่าเ้าคิดมากไป”
ความหมายของซ่งหยวนหยวนนั้นชัดเจนมาก เ้าคิดว่าข้าจะไปแอบดูพร์ในตัวเ้า แต่เ้าไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เ้าจะแสดงออกมานั้น มันแทบไม่ได้ทำให้ข้าอยากจะได้มันเลย อีกอย่าง ข้าก็มีจรรยาบรรณในฐานะอาจารย์ อย่ามาดูถูกข้า
“ก็ได้”
ิอวี่เบะปาก เขารู้ว่าไม่อาจปิดบังได้อีกแล้ว ลูกธนูอยู่บนคันศรแล้ว ไม่ยิงไม่ได้!
“ตู้ม!”
จากนั้น ลมปราณในดวงจิตเทวะของิอวี่ที่ฟื้นกลับมาบางส่วนก็แผ่กระจายไปทั่วแขนขา ร่างกายของเขามีเปลวไฟเผาผลาญลุกโชนขึ้นมาในทันทีและแผ่กระจายไปทั่วร่างกาย ทำให้ร่างกายของเขากลายเป็สีแดงทองในพริบตา!
ในเวลานี้เอง อากาศรอบตัวของิอวี่นั้นก็เพิ่มอุณหภูมิสูงขึ้น อากาศรอบด้านเหมือนถูกแผดเผา
เ้าวิหคเพลิงที่อยู่ด้านล่างิอวี่ััได้ถึงอุณหภูมิความร้อนจาก้าก็ส่งเสียงร้องออกมาแบบคุมไม่ได้ บนปีกสีแดงของมันปล่อยแสงออกมาเพื่อต้านพลังงานที่น่ากลัวที่ิอวี่ปล่อยออกมา
“หือ?”
ดวงตาอันงดงามของซ่งหยวนหยวนจ้องไปที่ร่างสีแดงทองของิอวี่อย่างไม่กะพริบตา!
ถึงแม้จะเป็ร่างแห่งเปลวเพลิง แต่เปลวเพลิงนี่มันบริสุทธิ์ขนาดนี้เลยหรือ?
“ตู้ม! ... ”
ระหว่างที่ซ่งหยวนหยวนกำลังคิดด้วยความใ ิอวี่ก็เร่งเครื่องเปิดสถานะหยางสูงสุด นี่เป็ครั้งแรกที่เขาเปิดใช้งานสถานะหยางสูงสุดในระดับขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่ง เขารู้สึกว่าพลังงานที่เต็มเปี่ยมของเขานั้นถูกปล่อยออกมาจนหมด เปลวเพลิงสีแดงเหมือนอสูรที่พุ่งออกมาจากร่างกาย มันโห่ร้องและคำราม!
วิหคเพลิงส่งเสียงร้องที่หนักหน่วงออกมาอีกครึ้ง ทะเลหมอกที่อยู่ด้านล่างของเขานั้นถูกลมปราณแทรกซอนจนกลายเป็สีแดงเพลิงและเผาจนเดือด
เมื่อเห็นลมปราณที่แข็งแกร่งตรงหน้าและเปลวเพลิงที่ท่วมตัวิอวี่ ซ่งหยวนหยวนก็ยกมือของนางขึ้นมาแล้วยื่นออกไป เปลวเพลิงที่อยู่บนตัวของิอวี่ก็ม้วนตัวแบบควบคุมไม่ได้ มันเหมือนอสรพิษที่กำลังเลื้อยไปตามมือของซ่งหยวนหยวน
ถึงแม้เปลวไฟมันจะมีระดับความร้อนที่สูงมาก แต่ซ่งหยวนหยวนไม่ได้รู้สึกว่าร้อนเลย กลับกัน นางเหมือนเพลิดเพลินไปกับเปลวไฟนั้นด้วย ราวกับว่ามันเป็ความอบอุ่นที่อ่อนโยน
“ไม่เลว”
ซ่งหยวนหยวนยิ้มมุมปาก สายตาที่นางมองไปที่ิอวี่นั้นเริ่มแตกต่างออกไป
“พอหรือยัง?” ิอวี่เก็บเปลวเพลิงทั้งหมดกลับเข้าร่างกาย แล้วถอนหายใจหันไปถามซ่งหยวนหยวน
“การปกปิดความสามารถมันไม่ใช่เื่ดีนะ” ซ่งหยวนหยวนกลับส่ายหน้าแล้วยิ้ม “ร่างนักรบของเ้า น่าจะไม่ได้มีแค่นี้นะ”
... บ้าชะมัด!
ิอวี่รู้ว่าเขาถูกซ่งหยวนหยวนมองทะลุปรุโปร่งเลย ผู้หญิงอกโตคนนี้ฉลาดเกินไปแล้ว เขาเสแสร้งไม่ได้เลย
หลังจากที่เปลวเพลิงของิอวี่สลายหายไปหมดแล้วก็มีหมอกสีดำปรากฏออกมาทั่วตัว มันแผ่ความเย็นออกมาจากในกระดูก อากาศรอบตัวเริ่มเกาะตัวเป็เกล็ดน้ำแข็ง!
ดวงตาที่เฉียบคมเหมือนไม่มีความรู้สึกใดๆ สายตาที่เ็าจ้องมองไปด้านหน้าราวกับเทพมรณะจุติลงมา
สถานะหยินสูงสุดถูกเปิดใช้งานแล้ว!
“เริ่มน่าสนใจขึ้นแล้วสินะ”
ซ่งหยวนหยวนลูบคาง มองไปยังลมปราณน้ำแข็งที่เ็าของิอวี่ด้วยความสนใจ จากนั้น ... นางก็หายไปต่อหน้าต่อตาของิอวี่ในทันที
นางโผล่อีกทีก็อยู่ตรงหน้าของิอวี่แล้ว นางซัดฝ่ามือไปที่หน้าอกของิอวี่! นางกำลังทดสอบความเร็วของิอวี่!
ฝ่ามือของนางรวดเร็วว่องไวมาก ต่อให้ิอวี่เปิดสถานะหยินสูงสุดอยู่แต่เขาก็เห็นได้แค่เงาลางๆ ิอวี่เอี้ยวตัวเกือบจะหลบการโจมตีของซ่งหยวนหยวนไม่พ้น จากนั้นเขาก็ดีดปลายเท้าขึ้นเพื่อออกห่างจากหลังของเ้าวิหคเพลิง แล้วหนีการโจมตีของซ่งหยวนหยวน
แต่หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าซ่งหยวนหยวนมาจับมือของเขาเอาไว้ตอนไหน ิอวี่พยายามสลัดออก เขารู้สึกว่าได้ใช้แรงทั้งหมดที่มีแล้ว แต่มืออันอ่อนนุ่มของนางมันเหมือนมีพลังมหาศาลพุ่งมา เขาสลัดอย่างไรก็ไม่หลุด!
ิอวี่จึงเปิดดวงตาเทพมรณะจ้องไปที่ซ่งหยวนหยวน แต่นางกลับไม่มีความผิดปกติใดๆ เลย แต่กลายเป็หัวของิอวี่ต่างหากที่เริ่มเอียงไปด้านหลัง หัวของเขาหนักอึ้งเหมือนพลังจิตนั้นตีกลับมา!
ิอวี่ได้แสดงปฏิกิริยาอันสูงสุดที่เขาทำได้ในระยะเวลาสั้นๆ ไปแล้ว แต่เขาก็พบว่าพออยู่ต่อหน้าซ่งหยวนหยวนเขาเหมือนลูกไก่ตัวน้อย ไม่มีแม้แต่แรงจะขัดขืนเลย
“เอาล่ะ ข้าพอจะเข้าใจสถานการณ์ของเ้าแล้ว เก็บร่างนักรบของเ้าเถอะ”
คำพูดของซ่งหยวนหยวนทำให้ิอวี่ที่กำลังระวังตัวนั้นตะลึงไป แล้วเริ่มขมวดคิ้ว
ที่แท้ มันเป็แค่บททดสอบหรือ?
ิอวี่เก็บสถานะหยินกลับมา แล้วพยายามอดทนกับความรู้สึกปวดหัว เขามองซ่งหยวนหยวนด้วยความเหม่อลอย แล้วก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
“ั้แ่เมื่อครู่ข้าก็มองออกแล้วว่า เ้าไม่เพียงมีร่างนักรบแห่งเปลวเพลิง แต่ยังมีร่างนักรบที่อยู่ตรงข้ามอย่างร่างนักรบแห่งน้ำแข็ง และยังสามารถใช้พลังแห่งความหนาวเย็นด้วย เ้าโจมตีข้าด้วยพลังจิต แรงกำลังที่เ้าใช้สลัดเพื่อหลุดจากข้าก็มีมาก น่าจะมีพลังเทียบเท่าราชสีห์สองหมื่นตัวได้ ดูท่า กำลังในร่างนักรบของเ้าเองก็น่าจะช่วยเสริมเ้าไม่น้อย พร์พวกนี้ไม่เลวเลยนะ”
ไม่เลวเลยจริงๆ
ซ่งหยวนหยวนไม่ได้พูดอะไรแบบนี้มานานมากแล้ว
เห็นิอวี่ยังอยู่ในความตะลึง ซ่งหยวนหยวนก็ส่ายหน้ายิ้มแล้วพูดว่า “เ้าวางใจเถอะ ข้าไม่คิดจะทำอะไรเ้าหรอกนะ แล้วก็จะไม่เอาเื่ไพ่ไม้ตายของเ้าไปบอกใครด้วย แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากำลังแฝงของเ้าใกล้เคียงกับศิษย์ชั้นยอดจริงๆ ของข้าเหมือนกัน ต่อไปฝึกวิชากับข้าเ้าต้องเอาพื้นฐานให้แน่น เ้าจะได้มีหน้ามีตาแน่นอน”
คำพูดพวกนี้ มันยิ่งทำให้ิอวี่ขมวดคิ้วหนักมาก
เขารู้ว่าตัวเขาเองนั้นมีพร์ เขาฝึกเคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูงจนมีร่างแห่งหยินหยางขึ้นมา ในคนอายุเท่าๆ กันไม่มีใครสู้พรสวรค์ของเขาได้เลย แต่ความหมายของซ่งหยวนหยวนในตอนนี้ก็คือ ศิษย์ชั้นยอดที่มีความสามารถสุดยอดพวกนั้นมีพร์มากกว่าเขาอย่างนั้นหรือ?
ิอวี่กำลังอยู่ในวัยหนุ่มเืร้อน พูดตามตรงเลย เขาก็ไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ซ่งหยวนหยวนพูดสักเท่าไร
แต่ความสามารถที่แข็งแกร่งสุดยอดของซ่งหยวนหยวนเมื่อครู่ มันทำให้ิอวี่ต้องกลับมาคิดใหม่ สิ่งที่ซ่งหยวนหยวนพูด ... มันจริงหรือเปล่านะ?
หากทุกอย่างเป็ความจริง ประโยชน์ที่เคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูงให้กับเขานั้น เมื่ออยู่ในสายเลี่ยนเหยียนที่มีดาวเด่นเต็มไปหมดมันก็จะกลายเป็อะไรที่อ่อนมากๆ
“เดี๋ยวข้าจะพาเ้าไปยังที่พักของเ้า วันนี้เ้าพักก่อน แล้วพรุ่งนี้เที่ยงไปที่ตำหนักเมฆาเพลิงของข้า เพื่อทำพิธีรับศิษย์อย่างเป็ทางการต่อหน้าศิษย์คนอื่น เ้าก็จะกลายเป็ศิษย์ของข้าอย่างสมบูรณ์ หลังจากนี้ ข้ายังมีเื่สำคัญจะสั่งอีก”
“ขอรับ”
ิอวี่พยักหน้า จากนั้นซ่งหยวนหยวนก็บังคับเ้าวิหคเพลิงให้บินตรงไปด้านหน้าต่อไป โดยไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีกเลย
ถึงแม้นางจะไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจลึกๆ นางรู้สึกยินดีมาก ต่อให้ความสามารถของิอวี่ตอนนี้จะอ่อนมาก แต่ขอแค่นางอบรมให้ดี ไม่เกินสิบปี ด้วยพร์ที่ิอวี่มี ต่อให้จะสู้พวกที่มีความสามารถวิปริตไม่ได้ แต่ก็สามารถกลายเป็ผู้กล้าที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่งได้!
ิอวี่ยืนอยู่ด้านหลังซ่งหยวนหยวน เขามองไปที่แผ่นหลังของนางแล้วรู้สึกว่าซ่งหยวนหยวนราวกับปริศนาที่ยากจะไขออกได้
ซ่งหยวนหยวนแข็งแกร่งมากจริงๆ ไพ่ไม้ตายของิอวี่เผยออกมาต่อหน้านางจนหมด
แต่เื่น่ายินดีอย่างหนึ่ง ซ่งหยวนหยวนยังไม่รู้เื่ของหยกโบราณ เพราะมันเป็ไพ่ไม้ตายใบสุดท้ายที่ิอวี่ซ่อนเอาไว้ลึกที่สุดของเขา!
“เฮยจี อยู่ไหม?”
ิอวี่ลองติดต่อกับเฮยจี น้ำเสียงของเขาแทบรอไม่ไหวเลย
เขาอยากรู้มากเลยว่าซ่งหยวนหยวนนั้นอยู่ในระดับไหน ถึงเมื่อครู่เขาจะแย่มาก ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงอ่อนแอไม่มีทางสู้
“อือ ... ”
เฮยจีพูดอย่างยินดีว่า “เื่อื่นปิดไม่ได้ไม่เป็ไร โชคยังดีที่นางยังไม่รู้เื่หยกโบราณ”
“อือ” ิอวี่พยักหน้าแล้วพูดว่า “เ้ามองออกหรือเปล่าว่านางอยู่ในระดับไหน?”
“ดูไม่ออกเลย” เฮยจีส่ายหน้า
“ ... ก็ได้”
เฮยจีคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พูดว่า “แต่ข้ารู้ว่านางจะต้องมีขอบเขตอมฤตขั้นที่หกแน่ ไม่ ... น่าจะมากกว่าขอบเขตอมฤตขั้นที่หกด้วย เพราะในจุดตันเถียนมีแหล่งพลังงานสรรพสิ่งอยู่และมันก็พัฒนาเต็มที่แล้วด้วย ไม่ใช่แค่ในระดับแรก”
