ก่อนหน้านี้เย่เฟิงแปลกใจเล็กน้อย เด็กสาวใบหน้ารูปไข่ค่อนข้างมีฝีมือ ทำไมถึงหนีไปโดยไม่สืบหาก่อนว่าหญ้าจินเย่หายไปไหน ตอนนี้เหมือนสาวน้อยคนนั้นมีแผนสำรอง เพราะดูเธอไม่กลัวว่าเย่เฟิงจะหนีไปไหนเลย เธอคงมีอำนาจในเมืองนี้ อย่างน้อยก็สามารถสั่งการผู้บังคับการสำนักรักษาความปลอดภัยสาธารณะแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย
เย่เฟิงไม่สามารถอยู่เฉยแล้วตายไปโดยไม่ได้ทำอะไร ยิ่งไม่สามารถให้ตำรวจยึดหญ้าจินเย่ไป ชายหนุ่มเสียใจเล็กน้อย ถ้ารู้ว่าจะเป็แบบนี้คงไม่เสียเวลาเขียนโน้ตทิ้งไว้แต่รีบหนีไปไม่ดีกว่าหรือ จะได้ไม่มีปัญหายุ่งยากแบบนี้ แต่พอคิดอีกที ถ้าตอนนั้นเขารีบหนีไปก่อน อย่างไรเธอก็สืบชื่อของเขาได้จากการเช็กอินโรงแรม สุดท้ายผลลัพธ์คงไม่ต่างจากตอนนี้เท่าไร
“ฉันว่านายให้ความร่วมมือกับพวกเราดีกว่า จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว” ชายจมูกงุ้มพูดพลางเดินมาทางเย่เฟิงพร้อมตำรวจวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง ในสายตาของพวกเขา เย่เฟิงเป็เพียงเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดา ทั้งยังถูกใส่กุญแจมือ จึงไม่มีพิษภัย
หัวหน้าหลิวที่อยู่ด้านข้างหวังว่าทั้งสองจะพบหญ้าจินเย่ทั้งสามใบจากเย่เฟิงเพื่อจะได้นำไปมอบให้หัวหน้าของเขา แม้จะไม่เข้าใจเหตุผลที่หัวหน้าให้ความสำคัญกับหญ้าทั้งสามต้นมากขนาดนี้ แต่ก็ต้องทำตามคำสั่ง บางครั้งรู้มากเกินไปก็ใช่ว่าจะดี
ขณะที่ชายจมูกงุ้มและตำรวจวัยกลางคนเข้าใกล้เย่เฟิง เขาก็ะโถอยหลังไปหลายก้าวจนชิดผนังห้อง พร้อมใช้มือที่ถูกล็อกด้วยกุญแจมือหยิบหญ้าจินเย่ออกจากกระเป๋าลับในเสื้อ
เขาใส่ทั้งหญ้าจินเย่และเช็คสองล้านในกระเป๋าลับของเสื้อตลอด มันจึงไม่ถูกตำรวจยึดไปง่ายๆ เหมือนโทรศัพท์ของเขา
เวลานี้ สิ่งที่เขาต้องทำคือกินหญ้าจินเย่ จากนั้นดูดซับพลังฟ้าดินที่อยู่ในนั้นอย่างรวดเร็ว ถ้าเขามีระดับการบ่มเพาะวรยุทธ์ถึง 5 เดือนก็สามารถพยายามทำลายกุญแจมือได้
แม้การดูดซับพลังฟ้าดินจากหญ้าจินเย่ในสถานการณ์เช่นนี้จะอันตรายกว่าปกติ หากพลาดพลั้งอาจทำให้เส้นลมปราณภายในร่างได้รับความเสียหาย หรือกระทั่งเสียชีวิตกะทันหันได้ แต่เขาไม่มีทางเลือก หากไม่ลงมือตอนนี้ ไม่เพียงหญ้าจินเย่จะถูกยึด แต่เขาคงไม่มีจุดจบที่ดี บางทีอาจถูกตัดสินความผิดตามข้อหาที่กล่าวมา แบบนั้นมันน่าเศร้าเกินไป
ความผิดคดีข่มขืน ต้องโทษกี่ปี เย่เฟิงไม่มีทางยอมให้เป็แบบนั้น
ขณะหยิบหญ้าจินเย่เข้าปากและกลืนลงไป เขาก็ได้ยินหัวหน้าหลิวะโเสียงดัง “ เดี๋ยวก่อน!”
ตอนนี้หัวหน้าหลิวเหงื่อท่วมตัว! ในแสงสลัวเขายังสามารถเห็นหญ้าในมือของเย่เฟิง มันมีเหง้าสีทองเหมือนที่เ้านายของเขาอธิบาย คิดไม่ถึงเลยว่าโลกนี้จะมีหญ้าแบบนี้!
น้ำเสียงของหัวหน้าที่เขาได้ยินทางโทรศัพท์บ่งบอกว่าหญ้าจินเย่ทั้งสามต้นนี้มีค่ามาก ไม่ว่าเย่เฟิงจะเป็หรือตาย จะต้องได้หญ้าทั้งสามต้นไว้ในมือ แต่ตอนนี้ชายหนุ่มเหมือนจะกินมันเข้าไป แล้วเขาจะอยู่เฉยได้หรือ? หัวหน้าหลิวคาดว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับหญ้าทั้งสามต้น หมวกบนหัวของเขาต้องหายไปแน่
“นายชื่อเย่เฟิงใช่ไหม?” หัวหน้าหลิวคิดว่าตนต้องทำให้อีกฝ่ายสงบลงก่อน เขาพูดต่อ “ฉันแนะนำว่านายอย่าทำอย่างนั้นดีกว่า ถ้านายกินหญ้านั่น รับรองว่าข้อหาของนายไม่ใช่แค่คดีข่มขืนแน่”
เมื่อเย่เฟิงได้ยินเช่นนั้นก็คิดเล็กน้อยก่อนหยุดกลืนต้นหญ้า เขาไม่กลัวที่จะต้องสู้ แต่คิดได้ว่าตัวเองใช้หญ้าจินเย่เป็เครื่องมือข่มขู่ตำรวจได้
“คุณ้าหญ้าพวกนี้จริงเหรอ? ปล่อยผมไปก่อน ไม่อย่างนั้นผมกลืนมันในคำเดียวแน่” เย่เฟิงรักษาระยะห่างกับตำรวจและอมหญ้าจินเย่ไว้
การกระทำของชายหนุ่ม ทำให้หัวหน้าหลิวโกรธอยู่ในใจ ไอ้เด็กเวรนี่ถึงกับกล้าอมต้นหญ้าไว้ในปาก ต่อให้เขาเอามันมาได้แต่หญ้าเ่าั้ก็เปื้อนน้ำลายของมันมาด้วย หวังว่าหัวหน้าจะไม่ตำหนินะ...
“ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ ที่นี่คือสถานีตำรวจ ทุกอย่างต้องเป็ไปตามกฎหมาย” หัวหน้าหลิวอยู่ในตำแหน่งนี้มาหลายปี ย่อมมีประสบการณ์จัดการเื่ต่างๆ “ถ้านายยอมส่งหญ้าทั้งสามต้นมา ไม่ว่าจะคดีอะไรก็ได้ลดโทษเป็เพียงโทษสถานเบาเท่านั้น”
ในความคิดของเขา ฝ่ายตรงข้ามเป็เพียงเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาเท่านั้น แค่ข่มขู่นิดหน่อยก็ยอมจำนนเเล้ว
น่าเสียดายที่เย่เฟิงไม่ใช่นักเรียนมัธยมปลายธรรมดา เขาจะหลงกลได้อย่างไร?
“จริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ขอโทษด้วยนะ ผมจะกลืนมันลงไป” เย่เฟิงขยับปากเคี้ยว แน่นอนว่าเป็เพียงการแสร้งทำ
เขาคิดในใจ ดูเหมือนเด็กสาวคนนั้นจะไม่รู้ว่าหญ้าต้นหนึ่งถูกใช้รักษาอาการาเ็ภายในของเธอไปแล้ว ยังจะหาหญ้าจินเย่สามต้นกลับไปอีกหรือ
เมื่อมองย้อนกลับไป เย่เฟิงเสียดายมากที่ตนใช้หญ้าจินเย่ต้นหนึ่งเพื่อช่วยชีวิตเธอ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นอีกครั้ง เขาก็คงเลือกช่วยเธอเหมือนเดิม ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ได้หญ้าพวกนี้มาจากเธอ ชายหนุ่มไม่สามารถละเมิดจิตสำนึกของตัวเองได้
“หยุดก่อน! พ่อหนุ่มอย่าใจร้อน” เมื่อเห็นเย่เฟิงเคี้ยว หัวหน้าหลิวก็ตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่ภายนอกยังดูสงบนิ่ง “คุณรู้ไหม จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทำแบบนั้น?”
“ปล่อยผมไป ไม่งั้นก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก” ชายหนุ่มกล่าวเสียงหนักแน่น เย่เฟิงคร้านจะพูดเื่ไร้สาระกับตำรวจ ชายจมูกงุ้มและตำรวจวัยกลางคนไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตอนนั้นเองโทรศัพท์มือถือของหัวหน้าหลิวดังขึ้น เมื่อเขามองโทรศัพท์ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีและรีบรับสาย เบอร์ที่โทรมาทำให้เขาไม่สามารถรักษาความสงบได้และรีบออกจากห้องสอบปากคำ ขณะที่เย่เฟิงและตำรวจอีกสองคนต่างได้ยินน้ำเสียงนอบน้อมและหวั่นเกรงของหัวหน้าหลิว ไม่รู้ว่าปลายสายคือใคร
ชายจมูกงุ้มแปลกใจกับสีหน้าของหัวหน้าหลิว เพราะไม่เคยเห็นหัวหน้าของเขาแสดงความเคารพตอนรับสายมากเช่นนี้ ต่อให้เป็ผู้บังคับการสำนักรักษาความปลอดภัยของเมืองหลวงโทรมาก็ตาม?
เย่เฟิงไม่ผลีผลาม พลางไตร่ตรองว่ามีขั้วอำนาจไหนอยากให้เขาแย่กว่านี้ ถ้าตอนนี้เขามีพลังบ่มเพาะวรยุทธ์สิบปีก็คงดี หากฝึกหยินเสิน ประสาทการมองเห็นและได้ยินจะสูงขึ้นกว่านี้หลายเท่า มากพอที่จะทำให้เขารับรู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันทางโทรศัพท์ ถ้าเขามีวรยุทธ์ระดับสิบปีคงไม่ถูกตำรวจจับมาโรงพักหรอก
ไม่นานนัก หัวหน้าหลิวก็กลับเข้าห้องสอบสวนพร้อมเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งพบแรงกดดันที่น่าหวาดหวั่นมา
เขายืนห่างจากเย่เฟิงไม่กี่เมตร ก่อนพูดด้วยความเคารพและสุภาพว่า “คุณชายเย่ ต้องขอโทษที่ล่วงเกิน คุณสามารถกลับไปได้เลย ก่อนหน้านี้เป็เื่เข้าใจผิดนิดหน่อยครับ”
เมื่อเย่เฟิงได้ยินก็ตกตะลึง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“ไม่นะครับท่าน!” เมื่อได้ยินดังนั้น ชายจมูกงุ้มก็ะโด้วยความตกตะลึงก่อนพูดต่อ“หัวหน้าหลิว เ้าเด็กนี่…”
“คุณหรือผมที่เป็หัวหน้า?” หัวหน้าหลิวจ้องอีกฝ่ายเขม็ง
แม้ชายจมูกงุ้ม้าพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาไม่ใช่คนโง่ เมื่อเห็นท่าทางเคารพของหัวหน้าหลิวก็ลอบตื่นตระหนกในใจ หรือเย่เฟิงจะมีภูมิหลังยิ่งใหญ่
เย่เฟิงตกตะลึง หรือเย่เฟิงคนก่อนจะมีคนหนุนหลังที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าเป็ใคร
คุณชายเย่?
“ยังไม่ปลดล็อกกุญแจมือให้คุณชายเย่อีก?” หัวหน้าหลิวตะคอก
เมื่อชายจมูกงุ้มได้ยินก็เดินไปหาชายหนุ่มอย่างไม่เต็มใจนัก
เย่เฟิงเห็นอย่างนั้นก็ระวังตัว แต่ชายจมูกงุ้มไม่แสดงพิรุธใด มีเพียงใบหน้าบิดเบี้ยวที่แสดงถึงความไม่พอใจขณะไขกุญแจมือให้เขา
ชายจมูกงุ้มค่อนข้างกลัวและไม่กล้าพูดสิ่งใดเมื่อเห็นหัวหน้าหลิวเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็วหลังวางสายโทรศัพท์ เขาพูดไม่ออกเล็กน้อย หัวหน้าหลิวแค่รับโทรศัพท์ ทำไมถึงเปลี่ยนมาทำดีกับเด็กนี่ขนาดนี้
เย่เฟิงเข้าใจว่าประเทศจีนตอนนี้ เ้าหน้าที่ระดับสูงหลายนายถูกกดดันบ่อยครั้ง ชัดเจนว่าคนที่เพิ่งช่วยเขาจากสถานการณ์ลำบากไม่ใช่คนธรรมดา และมีอิทธิพลมากกว่าสาวน้อยคนนั้น แม้จะรู้สึกไม่ชอบมาพากล แต่ถ้าตำรวจพวกนี้จะจัดการเขา คงไม่หลอกด้วยอะไรแบบนี้หรอก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้