เซี่ยเสี่ยวหลานกำลังครุ่นคิดว่าตนกับจี้เจียงหยวนมีมิตรภาพระหว่างเพื่อนนักศึกษามากน้อยแค่ไหน
แต่มิตรภาพการ ‘ร่วมทุกข์’ ของเซี่ยจื่ออวี้กับหวังเจี้ยนหัวนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าคงมีอย่างเต็มเปี่ยม
กอปรกับการทุ่มเทอย่างไม่้าผลตอบแทนของเธอที่มีต่อหวังเจี้ยนหัว ตอนนี้ดูเหมือนว่าแม้แต่หวังก่วงผิงก็เห็นด้วยที่เธอคบกับหวังเจี้ยนหัว เซี่ยจื่ออวี้ตรากตรำลำบากมาหนึ่งปีกว่า ในที่สุดความพยยามของเธอก็ประสบความสำเร็จ แล้วจะให้เซี่ยจื่ออวี้ไม่ยินดีได้อย่างไร
สิ่งเดียวที่ไม่สมบูรณ์แบบก็คือ ขณะที่เธอกำลังมีความสุขกับความสำเร็จนี้ เธอได้พบความจริงที่ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเองก็มีชีวิตที่ดีมากเช่นกัน เื่นี้ทำให้เซี่ยจื่ออวี้รู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
เธอยุ่งกับการหาที่อยู่ใหม่ให้กับพ่อแม่ จางชุ่ยกับเซี่ยฉางเจิงมาปักกิ่งได้สามเดือนแล้วแต่กลับต้องย้ายบ้านถึงสามครั้ง เซี่ยจื่ออวี้กัดฟันกรอด เธอจะต้องรีบซื้อบ้านเป็ของตัวเองให้ได้โดยเร็วที่สุด
อีกทั้งเธอยังยุ่งอยู่กับการเป่าหูฟ้องหวังเจี้ยนหัวอีกด้วย
เดิมทีเซี่ยจื่ออวี้อยากใช้เครือข่ายความสัมพันธ์ของหวังเจี้ยนหัวช่วยสืบข่าวของเซี่ยเสี่ยวหลาน หวังเจี้ยนหัวรับฟังในสิ่งที่เธอบอก แต่เขากลับไปหาเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยตัวเอง แน่นอนว่าเซี่ยจื่ออวี้ไม่้าให้หวังเจี้ยนหัวกับเซี่ยเสี่ยวหลานติดต่อกันลับหลังตน ทว่าหวังเจี้ยนหัวกลับรีบรุดไปหาอีกฝ่ายอย่างกรุ่นโกรธ เซี่ยจื่ออวี้ที่มีชนักติดหลังจึงไม่กล้าแสดงออกชัดเกินไป
โชคดีที่หลังจากหวังเจี้ยนหัวกลับมาท่าทางของเขาดูโมโหยิ่งกว่าเดิม
พอเซี่ยจื่ออวี้ถามไถ่ หวังเจี้ยหัวก็ไม่ค่อยยอมเล่าออกมามากนัก
“นึกไม่ถึงเลยว่าเซี่ยเสี่ยวหลานตอนนี้จะ...น่าผิดหวังจริงๆ จื่ออวี้เธอพูดถูก เซี่ยเสี่ยวหลานเปลี่ยนไปเยอะมาก!”
นี่คือครั้งที่สองแล้วที่หวังเจี้ยนหัวถูกเซี่ยเสี่ยวหลานหยามเกียรติอย่างซึ่งๆ หน้า
ครั้งแรกคือตอนอยู่ที่วัดไป๋ซี เซี่ยเสี่ยวหลานขอให้เขาคืนเงินท่ามกลางฝูงชน
ครั้งที่สองคือหน้ามหาวิทยาลัยหัวชิง เซี่ยเสี่ยวหลานพูดคุยยิ้มแย้มอยู่กับชายอื่น แม้เซี่ยเสี่ยวหลานจะปลีกตัวไปแล้ว แต่ผู้ชายคนนั้นกลับเย้ยหยันเขา
ความมั่นใจตัวเองของของหวังเจี้ยนหัวนั้นอ่อนไหวมาก ตอนแรกจี้เจียงหยวนคงซ่อนตรามหาวิทยาลัยไว้ หลังจากนั้นก็จงใจเอามันออกมา เขาตั้งใจแน่นอน! จี้เจียงหยวนคิดว่าหวังเจี้ยนหัวสมองมีปัญหา และ้าสืบประวัติเขา ด้านหวังเจี้ยนหัวเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน จี้เจียงหยวนเป็คนดังพอสมควรในรั้วมหาวิทยาลัย แค่พูดชื่อคนก็รู้จักทันทีว่าคือคนที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกา หวังเจี้ยนหัวแค่เอ่ยปากถามก็รู้เื่แล้ว
ที่แท้เงินที่เซี่ยเสี่ยวหลานใช้ซื้อบ้านก็ได้มาแบบนี้
ชาวจีนโพ้นทะเลที่กลับจากอเมริกาย่อมร่ำรวยเงินทอง
หวังก่วงผิงอยู่ที่ไร่มาแปดปี เงินเดือนชดเชยที่ได้มาแค่สามหมื่นกว่าเท่านั้น หาก้าซื้อเรือนสี่ประสานหลังนั้น ยังขาดเงินอีกตั้งครึ่งหนึ่ง
ชาวจีนโพ้นทะเลที่กลับมาจากต่างประเทศร่ำรวยกว่าหวังเจี้ยนหัวมากอย่างแน่นอน ว่าที่พ่อแม่ภรรยาของเขาถูกเ้าของบ้านไล่ออกจากบ้านเช่า แต่ชาวจีนที่กลับจากต่างประเทศสามารถควักเงินซื้อบ้านหลังนั้นให้กับเซี่ยเสี่ยวหลานได้อย่างสบายๆ เงินดอลลาร์มันช่างหอมหวานจริงๆ !
ความคิดของหวังเจี้ยนหัวค่อนข้างมืดมนทีเดียว เขาคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานคงมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับจี้เจียงหยวนแล้วเป็แน่ จี้เจียงหยวนถึงได้ยอมทุ่มเงินให้เธอมากขนาดนี้
เื่นี้ทำให้หวังเจี้ยนหัวเดือดจัด
แต่เซี่ยจื่ออวี้นั้นกลับรู้สึกดีใจอย่างยิ่ง เธอ้าให้ภาพลักษณ์ของเซี่ยเสี่ยวหลานในใจหวังเจี้ยนหัวนั้นยิ่งแย่เท่าไรก็ยิ่งดี แน่นอนว่าเธอก็มีจุดที่ไม่ชอบใจเช่นกัน เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เพียงหาคู่ครองในมหาวิทยาลัยหัวชิงได้ แต่ยังเป็ถึงนักศึกษาที่กลับมาจากอเมริกาอีกด้วย
เซี่ยจื่ออวี้พยายามข่มความไม่พอใจนี้เอาไว้
อย่างไรก็ตามคนมีเงินก็สู้คนมีอำนาจไม่ได้ กลับจากเมืองนอกใช่ว่าจะเก่งกาจเท่าหวังเจี้ยนหัวในอนาคตเสียหน่อย
เซี่ยจื่ออวี้ปลอบใจตัวเองได้อย่างรวดเร็ว และเริ่มพูดปลอบโยนหวังเจี้ยนหัว “คุณลุงบอกแล้วไม่ใช่หรือ ปีหน้าจะให้เธอย้ายมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยปักกิ่งก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหัวชิงสักนิด เธอคิดอย่างไรบ้าง”
ย้ายไปเรียนที่หัวชิงคงไม่ได้ เพราะหวังเจี้ยนหัวจะมีโอกาสไปมาหาสู่กับเซี่ยเสี่ยวหลาน เซี่ยจื่ออวี้ไม่วางใจ
ก่อนหน้านี้หวังเจี้ยนหัวบอกปัดว่ายังตัดสินใจไม่ได้ ทว่าความจริงเขากับหวังก่วงผิงปรึกษากันแล้วว่าจะไปหัวชิง ภายหลังจากถูกเ้านั่นเหยียดหยาม เขายิ่งหนักแน่นในความคิดนี้ ตอนจี้เจียงหยวนล้วงตรามหาวิทยาลัยออกมา ภาพนั้นราวกับกำลังตบหน้าหวังเจี้ยนหัวจนชาไปหมด
หากเขาไม่ไปหัวชิง แล้วจะกู้หน้าตัวเองกลับมาได้อย่างไร?
จื่ออวี้เป็คนอ่อนโยนและใจกว้าง เธอย่อมเข้าใจและสนับสนุนความคิดของเขาแน่นอน
“จื่ออวี้ ฉันอยากไปหัวชิง ที่นั่นเหมาะกับแผนการในอนาคตของฉันมากกว่า!”
เหมาะกับแผนการในอนาคตมากกว่า?
เซี่ยจื่ออวี้ขบฟันแน่น เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อหวังเจี้ยนหัว แต่ใช่ว่าจะยอมให้เขามีโอกาสเข้าไปพัวพันกับเซี่ยเสี่ยวหลานอีกครั้ง!
เซี่ยจื่ออวี้รู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ตลอดทั้งวัน เมื่อเธอไปยังชั้นเรียนกวดวิชา อาจารย์ของชั้นเรียนกวดวิชาก็เข้ามารายงานว่าสัปดาห์นี้เหอเจียไม่ได้มาเรียน และไม่ได้ขอลาหยุดอีกด้วย เธอถามเซี่ยจื่ออวี้ว่าควรทำอย่างไร
ชั้นเรียนกวดวิชามีนักเรียนมากมาย แต่เซี่ยจื่ออวี้จำเหอเจียได้ดีเป็พิเศษ เพราะแม่ของเหอเจียคือคนที่รับมือได้ยากนัก กว่าจะเก็บเงินค่ากวดวิชาได้นั้นไม่ง่ายเลย ทว่าแม่ของเหอเจียยังร้องอยากได้ใบเสร็จรับเงินน่ะสิ
พอได้ยินว่าเหอเจียไม่มาเรียน เซี่ยจื่ออวี้ก็ยิ่งรู้สึกรำคาญใจ
“โตขนาดนั้นแล้ว คงไม่เดินหลงทางหรอกน่า ถ้าเธอไม่มาแล้วเรียนตามคนอื่นไม่ทัน ครั้งหน้าถ้าแม่ของเธอมาหาเื่กันอีก พวกเราคงมีคำตอบให้แล้ว!”
เซี่ยจื่ออวี้รำคาญแม่เหอเจียเหลือเกิน เื่มากกับทุกอย่าง แต่กยังอยากให้ลูกสาวมาเรียนกวดวิชา
อาจารย์ของชั้นเรียนกวดวิชาล้วนเป็นักศึกษาจากวิทยาลัยฝึกหัดครู เมื่อเห็นว่าเซี่ยจื่ออวี้ดูอารมณ์ไม่ดีนัก เธอก็ทำได้แค่บ่นพึมพำในใจ เด็กมหาลัยที่ไม่เคยผ่านโลก ไม่คิดเลยว่าการที่เหอเจียขาดเรียนไปหนึ่งสัปดาห์นั้นเป็เื่สำคัญมากเท่าไร
ถึงอย่างไรเธอก็แจ้งกับเซี่ยจื่ออวี้แล้ว นั่นถือเป็การรับผิดชอบต่อนักเรียนในชั้นของเธอแล้วไม่ใช่หรือ!
—-------------------------------------
เวลานี้เหอเจียย่อมไปชั้นเรียนกวดวิชาไม่ได้
ความจริงเธอถูกขังอยู่ที่บ้านมาสองวันแล้ว บ้านตระกูลเหอราวกับถูกเมฆดำหนาปกคลุมไปทั่วทั้งบ้าน กู้ซือเหยียนเชื่อฟังคำแนะนำของเซี่ยเสี่ยวหลาน จึงนำเื่ที่เหอเจียท้องมาบอกแก่แม่ของเหอเจีย
แม่เหอเจียไม่ได้รู้สึกขอบคุณกู้ซือเหยียนแม้แต่น้อย ทั้งยังตำหนิกู้ซือเหยียนอย่างร้ายกาจ
เธอบอกว่ากู้ซือเหยียนเป็เด็กเป็เล็กไม่รู้จักมารยาท พูดเื่เช่นนี้ส่งเดชได้อย่างไร ลูกสาวเธอเพิ่งจะอายุเท่าไรเชียว!
ไม่ว่ากู้ซือเหยียนจะอธิบายอย่างไร แม่เหอเจียก็ไม่ยอมเชื่อ หากไม่ใช่เพราะกู้ซือเหยียนอายุยังน้อย แม่เหอเจียคงตบกู้ซือเหยียนจนหน้าแหกไปแล้ว ด้วยเหตุนี้แม่ของเหอเจียจึงโกรธจัด และบอกให้อาเล็กโจวอบรมสั่งสอนกู้ซือเหยียนให้ดี
กู้ซือเหยียนถูกขับไสไล่ส่งออกจากบ้านเหอ
แต่เธอไม่เสียใจ เซี่ยเสี่ยวหลานบอกแล้วว่า ถ้าอยากช่วยเพื่อนสนิทคงต้องยอมทนรองรับอารมณ์
อาเล็กโจวรู้สึกประหลาดใจ “ลูกแกล้งเหอเจียหรือเปล่า พวกลูกทะเลาะกันหรือ?”
กู้ซือเหยียนส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่ว่าแม่ของเธอจะถามอะไร เธอก็ไม่ปริปากสักคำ
การบอกแม่เหอเจียเป็สิ่งจำเป็ แต่หากพูดเื่นี้ที่บ้าน ทุกคนก็คงรู้เื่เหอเจียกันหมดไม่ใช่หรือ
แม่เหอเจียไม่คิดที่จะเชื่อกู้ซือเหยียนเลยสักนิด และรู้สึกว่าเหอเจียเรียนมัธยมต้นปีสามคงลำบากมาก จึงซื้อปลามาทำอาหารเพื่อบำรุงสมองให้กับลูกสาว
ปลาน้ำแดงถูกยกขึ้นโต๊ะ เมื่อเหอเจียได้กลิ่นของมันก็ปิดปากก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ
“เหอเจีย ่นี้ลูกท้องไส้ไม่ค่อย...”
แม่เหอเจียหยุดพูดกลางคัน
ท้องไส้ไม่ค่อยดี?
อาการเหอเจียทำไมถึงเหมือนอาการของคนท้อง!
หรือว่ากู้ซือเหยียนจะไม่ได้พูดเหลวไหล... แต่เหอเจียลูกสาวเธอเพิ่งอายุเท่าไรเอง จะท้องได้อย่างไรกัน? แม่เหอเจียโกรธจัดจนถือตะเกียบไม่อยู่ เธอพุ่งเข้าห้องน้ำและลากตัวเหอเจียออกมา ั้แ่เหอเจียรู้ตัวว่าตนท้องก็รู้สึกกดดันมาก พอถูกแม่ซักถามมีหรือที่เธอจะทนไหว
สองสามีภรรยาตระกูลเหอไม่สามารถยอมรับได้
ลูกสาวเพิ่งอายุไม่เท่าไรก็ตั้งครรภ์?
พ่อเหอเจียผู้เป็เสาหลัก สั่งให้เหอเจียเล่าเื่ราวออกมาอย่างชัดเจน
เหอเจียเล่าเื่ ‘รักแรก’ ที่ชั้นเรียนกวดวิชา พูดไปก็ร้องไห้ฟูมฟาย นึกไม่ถึงว่าตนจะตั้งท้องขึ้นมาเช่นนี้
แม่เหอเจียปวดหัวจนตาลายไปหมด หากแต่ความสามารถในการจับประเด็นของเธอนั้นดีเยี่ยม นักเรียนสองคนในชั้นเรียนกวดวิชาเดียวกัน ส่งสายตาไปมาจนเกิดความรัก ทว่าอาจารย์ของชั้นเรียนกวดวิชาทำไมถึงไม่รู้เื่สักนิด?
หากบอกกันสักคำ หลังจากคนที่บ้านรู้เื่ เหอเจียก็คงไม่กล้ามีความสัมพันธ์กับเด็กผู้ชายคนไหนอย่างแน่นอน!
“เหล่าเหอ ชั้นเรียนกวดวิชานี่… ที่เจียเจียเป็แบบนี้ ทั้งหมดต้องเป็เพราะชั้นเรียนกวดวิชานั่น...”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้