มารตีเหลือบมองไปที่นุชจรา อย่างอ่อนโยน เธอรู้สึกว่าเวลานี้ความรู้สึกของเธอมันเริ่มเปลี่ยนไปกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งจากสิ่งที่นุชจรา ทำ และจากสิ่งที่เธอเองได้ค้นพบในตัวเอง
“เราไม่ควรพูดถึงมันในตอนนี้... ฉันยังไม่รู้ว่าเราควรทำยังไงต่อไปดี” มารตีตอบเบาๆ ท่าทางของเธอแสดงออกถึงความไม่มั่นใจ
นุชจรา มองไปที่มารตีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดความรู้สึกที่กำลังก่อตัวในใจเธอได้ “ฉันเข้าใจ... แต่มันไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้หรอกนะรตี” นุชจรา กล่าว ก่อนจะยิ้มน้อยๆ ให้กับมารตี
หลังจากเดินเล่นไปได้สักพัก ปพนต์เริ่มรู้สึกว่าความสับสนในใจไม่ได้ทำให้เขาได้คำตอบอะไร เขา้าเข้าใจความรู้สึกของตัวเองอย่างแท้จริง และเขา้าทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมารตียังคงเป็ไปในทางที่ดีเหมือนเดิม เขาเดินกลับมายังห้องและพบมารตีกับนุชจรา ที่นั่งอยู่ด้วยกัน มารตีหันมามองเขาและส่งยิ้มให้
ปพนต์เดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เราต้องคุยกัน” เขาไม่รอคำตอบจากใคร เขาหยุดอยู่ตรงหน้ามารตีและนุชจรา
แล้วพูดต่อ “มันมีหลายอย่างที่พี่ไม่เข้าใจ… แต่ที่สำคัญคือ พี่ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเราเปลี่ยนไปเพราะความรู้สึกที่พี่เองก็ไม่สามารถอธิบายได้”
มารตีเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มและพูดออกไปอย่างอ่อนโยน “รตีเองก็ไม่รู้ว่าอะไรคือคำตอบที่ดีที่สุด แต่รตีรู้แค่เราทั้งสามคนต้องหาทางเดินร่วมกัน”
ปพนต์มองทั้งสองคนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและคำถามในใจ แต่เขาก็รู้ดีว่าในที่สุดเขาจะต้องหาคำตอบในตัวเองให้ได้
วันใหม่มาเยือน
แสงแดดยามสายลอดผ่านม่านผ้าบางเบาในห้องพักที่เปิดโล่งสู่วิวูเาและหมอกขาวจาง ๆ กลางฤดูฝน รีสอร์ตกลางป่ากลับดูนิ่งสงบจนน่าประหลาดใจ ต่างจากความวุ่นวายภายในใจของใครบางคน
มารตีนั่งเหม่ออยู่ริมระเบียง เสื้อคลุมบางเฉียบหลุดหลวมเผยให้เห็นแผ่นหลังที่เคยเต็มไปด้วยรอยััเมื่อคืนก่อน เสียงน้ำจากลำธารใกล้เคียงกล่อมให้เธอจมดิ่งไปในความคิด เธอััได้ถึงแรงดึงดูดที่ยังคงตกค้างในกาย…จากนุชจรา จากหญิงสาวที่เธอไม่คิดว่าจะเข้าใจตนเองได้มากขนาดนี้ มันไม่ใช่แค่เื่ของกายัั มันเป็อะไรที่ลึกกว่านั้น ความละมุน ความอบอุ่น และความอ่อนโยนที่ไม่ต้องเอ่ยด้วยถ้อยคำใด มันทำให้เธอเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า บางที...ความรักอาจไม่ใช่สิ่งที่ต้องมีเพียงรูปแบบเดียว
“ตื่นแต่เช้าจังเลยนะจ๊ะ” เสียงทุ้มนุ่มของปพนต์ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มน้อยๆ ส่งให้เขา
เขานั่งลงข้างเธอ พร้อมวางกาแฟอุ่นไว้บนโต๊ะไม้ตัวเล็ก เธอรับมันมาแนบมือเพื่อคลายความสั่นในอก
“เมื่อคืน…นอนหลับดีไหม?” เขาถาม พลางมองตรงเข้าไปในดวงตาเธอ
มารตีไม่ได้ตอบทันที เธอรู้ว่าเขารู้… หรืออย่างน้อยก็ เห็นบางอย่าง “พี่ปพนต์…เคยรู้สึกเหมือนกำลังหลงทางในตัวเองไหมคะ?” เธอถามเบาๆ พลางก้มมองถ้วยกาแฟในมือ
เขานิ่ง ก่อนจะถอนหายใจ “เห็นไหมล่ะ ว่าพี่ไม่ได้เป็คนเดียว” เขายิ้มน้อยๆ แต่ดวงตาเผยความหนักอึ้งในใจ “คืนนั้น พี่เห็นรตีอยู่กับนุชจรา” ประโยคที่เปล่งออกมานั้นไม่ใช่คำกล่าวโทษ กลับกลายเป็เสียงของคนที่พยายามเข้าใจ
มารตีหันมามองเขาเต็มตา ไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูด และไม่คิดว่าเธอจะรู้สึก…โล่งใจ “แล้วพี่ รู้สึกยังไงคะ?” เธอถามกลับอย่างตรงไปตรงมา
เขานิ่งนาน ก่อนตอบ “สับสน…แต่ไม่โกรธ ไม่รู้สิ บางอย่างในตัวพี่ มันบอกให้รอดู รอเข้าใจรตีให้มากกว่านี้”
บรรยากาศเงียบลงอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่ความอึดอัด เป็ความเงียบที่เต็มไปด้วยความพยายาม ความกล้าที่จะไม่หลีกเลี่ยง
“รตีก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันค่ะ…” มารตีกลั้นหายใจ ก่อนพูดต่อ “แต่รตีรู้สึกกับนุชจรา มากกว่าที่คิด และ…กับพี่ รตีก็ยังรักอยู่”
ปพนต์คลี่ยิ้มเจื่อนๆ “งั้นเราก็ลองเดินไปด้วยกันไหม? แม้ไม่รู้ว่ามันจะพาเราไปไหน แต่…พี่ก็ไม่อยากทิ้งรตีไว้”
หญิงสาวพยักหน้า ดวงตาเริ่มแดงระเรื่อ มือของเธอแตะมือเขาเบาๆ และในัันั้น ทั้งสองคนรู้ดีว่า เส้นทางที่เลือกเดินอาจจะไม่ง่าย แต่จะเดินไปด้วยกัน โดยไม่ปิดกั้นใจของใครอีกต่อไป
เช้าวันถัดมาในรีสอร์ตกลางป่า…
อากาศชื้นเย็นหลังฝนตกปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ ปพนต์เดินอยู่ลำพังริมลำธาร ละอองน้ำจากต้นไม้กระเซ็นใส่เสื้อยืดตัวหลวมที่เขาสวมอยู่ เขาไม่ได้รู้สึกถึงความหนาวนั้นเลย เพราะความคิดในหัวเขายังคงร้อนรุ่ม คืนนั้น...คืนที่เขา "เห็น" มารตีกับนุชจรา อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่มันก็เป็คืนที่เขารู้ตัวว่า…เขาไม่ได้รู้สึกถูกทรยศ แต่กลับรู้สึก “ถูกเปิดเผย” บางสิ่งในใจ
“แล้วเราต้องรู้สึกยังไง…ถึงจะเรียกว่าความรัก?”
“ต้องงั้นเหรอ? หรือแค่ยินดีที่คนที่เรารักเป็ตัวของตัวเองได้…”
เสียงฝีเท้ากระทบพื้นเปียกเบาๆ ทำให้เขาหันไปมอง
นุชจรา เดินเข้ามาอย่างไม่รีบร้อน สวมชุดคลุมบางๆ ที่ปราศจากสิ่งใดอยู่ภายใน เช่นเดียวกับมารตีเมื่อวาน แต่ท่าทางกลับต่างออกไป นุชจรา ดูเงียบ…นิ่ง…และรอคอย
“พี่ปพนต์คะ…” เสียงเรียกนั้นไม่ได้อ่อนโยน แต่ก็ไม่แข็งกระด้าง มันเต็มไปด้วยความกล้าหาญที่เพิ่งถักทอขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ “นุชรู้ว่าพี่เห็นเมื่อคืนนั้น” นุชจรา พูดตรงๆ ด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย
ปพนต์ไม่ได้ตอบทันที แต่หันมาสบตาเธอ
“นุชรู้ว่านุชเป็ส่วนหนึ่งของบางอย่าง ที่อาจทำลายชีวิตคู่ของพี่กับรตี…” นุชจรา เบือนสายตาเหมือนจะถอย
แต่ปพนต์ไม่ปล่อยให้ประโยคนั้นจบ...“แต่เธอไม่ทำลายอะไรเลย” เขาเดินเข้าไปใกล้นุชจรา ช้า ๆ
“ตรงกันข้าม เธอทำให้เรากล้าจะพูดความจริง”
นุชจรา เงยหน้าขึ้นช้า ๆ ก่อนจะหลุดยิ้มแบบไม่เชื่อในคำพูดนั้น “แล้ว…พี่คิดยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้นคะ?”
ปพนต์นิ่ง...ก่อนจะตอบเบาๆ “…พี่ก็ไม่แน่ใจนัก แต่ถ้ารตีเลือกจะมีเธออยู่ในชีวิต พี่ก็อยากจะรู้จักเธอให้มากกว่านี้…ไม่ใช่แค่ในฐานะเพื่อนของภรรยา”
นุชจรา มองเขานิ่ง แล้วจู่ๆ ก็หัวเราะออกมาเบาๆ “แล้วถ้านุชก็อยากจะรู้จักพี่ ในฐานะมากกว่านั้นล่ะคะ?”
บรรยากาศเงียบงัน…แต่ความเงียบนั้นกลับอบอุ่นกว่าทุกครั้งที่เคยผ่านมา เสียงฝีเท้าอีกคู่หนึ่งดังขึ้น...มารตี เธอเดินมาช้า ๆ สีหน้าไม่ได้แปลกใจที่เห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน เหมือนว่าเธอรับรู้ได้ว่าบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น
“เราอาจจะไม่มีคำตอบตอนนี้…” หญิงสาวผู้เข้ามาที่หลังพูดเบาๆ “แต่เราทุกคนสามารถซื่อสัตย์กับใจตัวเอง และให้เวลากันได้…จริงไหมคะ?”
นุชจรา หันไปมองมารตี ก่อนจะเอื้อมไปจับมือเธอ ปพนต์เดินเข้ามาใกล้ แล้วยื่นมืออีกข้างให้ทั้งสองคน และพวกเขาก็ยืนนิ่งๆ
ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมลำธาร…มือทั้งสามคนประสานกันไว้แน่น ไม่มีคำสัญญา ไม่มีอนาคตที่แน่นอน มีเพียงความรู้สึกที่แท้จริง…ที่ไม่มีใครอยากหลบซ่อนอีกต่อไป
เสียงใบไม้กระทบกันเบาๆ กับสายลมเย็นของป่าในยามหัวค่ำ บรรยากาศในบ้านพักไม้หลังเล็กที่ทั้งสามพักอยู่เงียบสงบเกินคาด ไม่มีใครพูดถึงเื่ที่เกิดขึ้นริมลำธารอีก แต่ก็ไม่มีใครหลบตากันอีกเช่นกัน ภายในห้อง แสงไฟเหลืองสลัวๆ กับกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเทียนอโรมาทำให้ทุกอย่างอบอุ่นกว่าคืนก่อน นุชจรา กำลังจัดเตียงที่อยู่กลางห้อง มารตีอยู่ใกล้ๆ กำลังเลือกเสื้อผ้าจากกระเป๋า
ปพนต์นั่งเงียบอยู่บนเก้าอี้หวาย มองทั้งสองสาวเงียบๆ เขารู้สึกเหมือนอยู่ในโลกที่เปลี่ยนไปแล้ว…แต่มันไม่ได้เลวร้าย
“ความสับสน…ค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความอยากรู้จักกันอย่างจริงใจ”
“คืนนี้เราจะนอนกันยังไงเหรอ?” นุชจรา ถามพลางหันมายิ้มขำเล็กๆ
มารตีชะงักเล็กน้อยก่อนจะตอบ “นอนได้หมดเลยจ้ะ…ถ้าใจถึง”
ปพนต์เงยหน้ามองเธอ ทั้งคำพูดและรอยยิ้มนั้น…ไม่ได้ยั่วเย้า แต่มันเต็มไปด้วยความหมายลึกๆ ที่กำลังรอการเปิดเผย
ไม่นาน ทั้งสามก็มานั่งเรียงกันบนเตียง