หลิงเทียนอวี่ถอนหายใจเบาๆ “เกรงว่าคงจะมีแค่ยอดอัจฉริยะที่เก่งเทียมเทพเท่านั้นถึงจะทำเื่ที่ยากขนาดนั้นได้ ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขามีพลังแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่ ทว่าข้าเคยได้ยินท่านผู้นำเว่ยพูดถึงผู้บุกเบิกตระกูลทั้งสี่กับผู้าุโทั้งสิบมาบ้าง พวกเขาน่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่าห้าร้อยปีแล้วกระมัง”
“ห้าร้อยปี?” หลงเหยียนและคนอื่นๆ ตกตะลึงเป็อย่างมาก หลงเหยียนอ้าปากค้าง ส่วนอีกสี่คนที่เหลือก็พากันเบิกตาโพลง ชาตินี้ตนจะมีอายุยืนได้เพียงครึ่งของพวกเขาไหมนะ
“เอาละ เลิกตะลึงกันได้แล้ว เื่ของกลุ่มอำนาจฝ่ายใน แค่ฟังให้พอเข้าใจก็พอแล้ว เพราะนั่นไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเราสักเท่าไร เอาเป็ว่า พวกเ้าต้องจำไว้ให้ดีว่าเรือนเหยากวางแห่งสำนักตงฟางของเราอยู่ในเขตการปกครองของท่านเว่ยเวย ส่วนท่านผู้นำของเรือนอื่นๆ ที่เหลือ อีกหน่อยพวกเ้าจะค่อยๆ ได้ยินเื่ของพวกเขาจากปากของศิษย์พี่ที่มาก่อนเอง แปดผู้พิทักษ์กฎกับสี่นักรบโลหะเองก็เหมือนกัน อีกหน่อยพวกเ้าจะค่อยๆ รู้จักพวกเขาเอง”
หลงเหยียนกับคนอื่นๆ พยักหน้าเป็เชิงรับรู้ กลุ่มอำนาจที่แสนยิ่งใหญ่นี้ช่างซับซ้อนเสียจริง แค่หลงเหยียนเอาชนะลั่วเฉิงได้ ก็เริ่มรู้สึกอึดอัดเหมือนมีคนจ้องจะเล่นงานอยู่ตลอดเวลา ต่อให้จะมีท่านแม่คอยช่วยอยู่เื้ั ถึงอย่างไรเขาก็คิดว่าท่านแม่คงอยากให้เขาเรียนรู้ และค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นไปด้วยความสามารถของตนมากกว่า เพราะการเอาชนะเอาความท้าทายนั้นจะทำให้ชีวิตมีรสชาติขึ้นมาก
“เอาละ ตอนนี้ข้าจะบอกเื่ระดับพลังของคนในเรือนเหยากวางให้พวกเขารู้ ท่านเว่ยเวยเป็ยอดฝีมือระดับชีพธรณีขั้นสูง ส่วนสาวใช้คนสนิทสองคนที่พวกเ้าเห็นในวันนี้เป็ยอดฝีมือระดับชีพธรณีระดับล่าง บุรุษหลายคนที่เดินตามหลังท่านผู้นำเป็ยอดฝีมือระดับชีพธรณีขั้นเริ่มแรก ข้าเองก็มีพลังระดับชีพธรณีเริ่มแรกเช่นกัน ต่อมาก็เป็หัวหน้าและผู้ฝึกส่วนมากมีพลังอยู่ในระดับชีพมนุษย์ระดับล่าง อย่างไรก็ตาม มีบางคนที่มีพลังอยู่ในระดับชีพมนุษย์ระดับสูง น่าเสียดายที่เส้นทางแห่งพลังของคนเ่าั้มาจนถึงขีดจำกัด ไม่อาจเลื่อนพลังขึ้นไปได้อีกแล้ว ถัดจากหัวหน้าก็เป็หัวหน้ากอง หรือที่เรียกกันว่าผู้ฝึก ซึ่งก็คือคนที่มีพลังระดับเดียวกันกับลั่วซางนั่นเอง”
“ลั่วซางอายุยังน้อย กลับมีพลังในระดับชีพมนุษย์ขั้นสูงแล้ว ถือว่าเป็ผู้ที่มีพร์สูงส่งไม่เบา น่าเสียดายที่เขาเป็คนเ้าเล่ห์ ท่านผู้นำเลยไม่ไว้ใจ และไม่ยอมมอบงานสำคัญแก่เขาเสียที”
หลงเหยียนรู้ดีว่าลั่วซางมีพร์ไม่น้อย ทว่าคนแบบเขา ถือเป็บุญแค่ไหนแล้วที่เบื้องบนทำแค่เพียงไม่สนับสนุน ทว่าก็ไม่ได้กลั่นแกล้งอะไรเช่นกัน ในเมืองใหญ่อย่างเมืองอู่ตี้ เห็นได้ชัดว่าคนเบื้องบนทั้งหลายให้ความสำคัญกับนิสัยและความประพฤติไม่น้อย
“เรือนเหยากวางของเราไม่ใช่พวกไร้ประโยชน์ที่อยู่ให้เสียข้าวสุกไปวันๆ หรอกนะ พวกเรามักจะได้รับภารกิจจากเบื้องบนหลายครั้งต่อเดือน ยกตัวอย่างเช่นเมืองนี้ พวกเรามีพื้นที่ในการปกครองที่กว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็หมู่บ้านเล็กๆ หรือใจกลางเมือง ต่างก็มีคนของเราดูแลอยู่ ทว่าหากคนพวกนั้นมีเื่ที่จัดการไม่ได้ เบื้องบนก็จะส่งพวกเราไปช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้แทน”
“แน่นอน ในเมื่อเป็ภารกิจก็ต้องมีเงินรางวัลเป็ธรรมดา โดยการให้รางวัลในที่นี้ ต้องอิงตามผลงานที่ได้รับในภารกิจแต่ละครั้ง หากทำผลงานน้อยก็ได้น้อย หากทำผลงานมาก ก็จะได้รับค่าตอบแทนมากเช่นกัน เมื่อถึงตอนนั้น พวกเ้าต้องบันทึกผลงานที่ทำลงไปในป้ายสัญลักษณ์ประจำตัวของแต่ละคน เท่านี้ก็พอแล้ว ป้ายสัญลักษณ์พวกนี้จะเป็ตัวบ่งบอกฐานะของพวกเ้าเอง เมื่อทำผลงานมากจนได้รับการเลื่อนขั้น ป้ายสัญลักษณ์ก็จะเปลี่ยนสีไปจากเดิม ลวดลายบนป้ายก็จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน”
หลงเหยียนรู้ข้อมูลและกฎกติกาในที่แห่งนี้อย่างคร่าวๆ แล้ว สำนักตงฟางไม่ธรรมดาเลยจริงๆ นี่ขนาดเป็แค่กลุ่มอำนาจแยกย่อยเท่านั้น ยังมีสมาชิกมากนับหมื่นคนเลยทีเดียว
เมื่อกลายเป็คนของตระกูลอู่ตี้ มหาอำนาจขนาดเล็กอื่นๆ ในเมืองหยุนจงย่อมไม่เข้ามาหาเื่แบบสุ่มสี่สุ่มห้าอยู่แล้ว เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าตระกูลอู่ตี้มีอำนาจที่น่าหวาดกลัวแค่ไหน และนี่ก็คือข้อดีของการเป็สมาชิกของกลุ่มมหาอำนาจขนาดใหญ่
หลิงเทียนอวี่มองคนทั้งห้าพลางพูดต่อ “หากอยากได้ค่าตอบแทนเป็อย่างอื่น พวกเ้าก็นำผลงานไปแลกเป็เงินได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าผลเพลิงิญญามีมูลค่าเท่ากับหยกิญญาสิบชิ้น หากพวกเ้าไม่อยากสะสมผลงานในป้ายสัญลักษณ์ ก็นำผลงานเ่าั้ไปแลกเป็หญ้าวิเศษ ผลิญญา หรืออื่นๆ ได้”
“ยังมีอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือวงเวทเฉียนคุน!”
“วงเวทเฉียนคุนคืออะไรหรือ?” หลงเหยียนกับทั้งสี่คนถามอย่างสงสัย
“จะเข้าใจว่าวงเวทเฉียนคุนเป็ถุงผ้าเฉียนคุนขนาดใหญ่ก็ได้ เพราะในวงเวทจะมีห้วงมิติที่รองรับของได้เป็จำนวนมาก เมื่อก่อน เมืองอู่ตี้ รวมไปถึงเมืองหยุนจงมียอดฝีมืออยู่มากมาย ยอดฝีมือเหล่านี้เป็คนสร้างวงเวทเฉียนคุนขึ้น ซึ่งในวงเวทแต่ละแห่งจะมีห้วงมิติเป็ของตัวเอง เป็เหมือนโลกขนาดเล็กอีกใบที่ถูกสร้างขึ้นนั่นเอง โดยทั่วไปจะมีเพียงยอดฝีมือที่มีพลังมากกว่าระดับชีพเทพเท่านั้นถึงจะเข้าไปในวงเวทเฉียนคุนได้ พวกเ้าต้องครุ่นคิดให้ดีก่อนจะตัดสินใจทำอะไร เพราะห้วงมิติในวงเวทเฉียนคุนนั้นไม่เหมือนกับโลกแห่งความเป็จริงเลยสักนิด ห้วงมิติในนั้นจะเล็กหรือใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของยอดฝีมือที่สร้างวงเวทขึ้น เมื่อสร้างเสร็จ ห้วงมิติในนั้นจะกลายเป็โลกล่องหนอีกใบที่แยกตัวออกไปจากโลกความจริงอย่างสิ้นเชิง ต่อมา มีคนรุ่นหลังมากมายที่ใช้ห้วงมิติดังกล่าวเพื่อสร้างอำนาจให้แก่ตนเอง เพราะในห้วงมิติจะมีทุกสิ่งเหมือนกับโลกแห่งความเป็จริง ยกตัวอย่างเช่นสัตว์อสูร มนุษย์ ปีศาจ หรือแม้กระทั่งต้นไม้ใบหญ้า ูเาสูง ท้องฟ้ากว้าง และอื่นๆ อีกมากมาย มียอดฝีมือจำนวนไม่น้อยที่หน่ายกับโลกแห่งความเป็จริง จึงอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในห้วงมิติของตนแทน ด้วยเหตุนี้ ไม่แน่ว่าในห้วงมิติเ่าั้อาจจะมีสมบัติหรือพลังล้ำค่าที่คนรุ่นก่อนทิ้งเอาไว้ก็ได้”
“เอาเป็ว่าห้วงมิติเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็สถานที่ในการฝึกพลังนั่นเอง เพราะในโลกแห่งความเป็จริงไม่มีสัตว์อสูรมากขนาดนั้น ทั้งยังไม่มีพื้นที่ให้ฝึกพลังได้อย่างตามใจ ไม่มีธาตุพลังแห่งธรรมชาติที่เข้มข้น ไม่มีปีศาจหลากหลาย กลับกันแล้ว ในห้วงมิตินั้น สิ่งมีชีวิตทั้งหลายสามารถขยายเผ่าพันธุ์ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดเลยทีเดียว”
ห้วงมิติที่ถูกสร้างขึ้นอย่างนั้นหรือ ช่างน่าเหลือเชื่อและน่าพิศวงเสียจริง หลงเหยียนอยากลองเข้าไปสำรวจห้วงมิติที่ว่านี้จนแทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว
“เอาละ นี่ยังไม่ใช่เื่ที่น่าสนใจที่สุด เพราะวงเวทเฉียนคุนที่ว่านี้ก็เป็แค่ห้วงมิติแห่งใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นเท่านั้น เมื่อก่อนข้าเคยได้ยินมาว่าในโลกใบนี้ยังมีสิ่งอื่นที่น่าสนใจกว่านั้นหลายเท่าตัว ยกตัวอย่างเช่น วงเวทเคลื่อนย้ายเฉียนคุน นั่นต่างหากที่น่าสนใจที่สุด น่าเสียดายที่วงเวทเคลื่อนย้ายเฉียนคุนนี้อยู่ไกลเกินกว่าที่คนแบบพวกเราจะเอื้อมถึง อย่าลืมเสีย หากได้เข้าไปสังหารสัตว์อสูรในห้วงมิติ ให้เอาลูกแก้วปีศาจ ศพสัตว์อสูร และิญญาปีศาจของพวกมันออกมาด้วย เพราะทั้งหมดนั้นสามารถนำไปแลกเป็ผลงานในป้ายสัญลักษณ์ หรือนำไปแลกกับของอย่างอื่นที่้าได้”
หลงเหยียนยังไม่เคยได้ยินเื่ของวงเวทเฉียนคุนมาก่อนเลย ในตอนนั้นเอง อยู่ๆ เสียงอ่อนเพลียของราชสีห์หิรัณย์ก็ดังขึ้น หลงเหยียนได้ยินดังนั้นก็แอบหลบไปจากสายตาของหลิงเทียนอวี่และคนอื่นๆ จากนั้นจึงถามกระซิบขึ้นเบาๆ “สิงโตน้อย เ้าเป็อย่างไรบ้าง?”
“พี่เหยียน วางใจเถอะ ข้าไม่ตายง่ายๆ หรอก ถึงอย่างไรเ้าลั่วซางคนนี้ช่างน่าแค้นใจเสียจริง หากไม่ใช่เพราะข้าถูกผนึกพลังอยู่ละก็ ข้าจะทำให้เขาตายอย่างอนาถเลย คอยดู”
หลงเหยียนรู้สึกเหมือนหินที่ทับอยู่กลางอกนั้นมลายสิ้น อุตส่าห์ถ่ายทอดพลังปราณให้สิงโตน้อยตั้งมากขนาดนั้น ดูเหมือนวิธีนี้จะได้ผล
“สิงโตน้อย เ้ารู้จักวงเวทเคลื่อนที่เฉียนคุนไหม?”
“วงเวทเคลื่อนที่เฉียนคุนหรือ? มันเป็วงเวทที่ใช้เพื่อเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุด คิดไม่ถึงว่าคนในเมืองเล็กๆ เช่นนี้จะรู้จักวงเวทเคลื่อนที่เฉียนคุนด้วย!”
หลงเหยียนอับอายเล็กน้อย แม้กระทั่งเมืองหยุนจงก็ยังถูกเรียกว่าเป็แค่เมืองเล็กๆ หรือนี่ สิ่งที่ได้ยินทำให้หลงเหยียนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เพราะเมืองแห่งนี้มีประชากรมากถึงสามร้อยล้านคนทีเดียว ลำพังแค่เมืองอู่ตี้กับตระกูลหลงอู่ ก็มีสมาชิกต่างกันนับล้านแล้ว
“สิงโตน้อย ข้าไม่คุยกับเ้าแล้ว พี่อวี่บอกว่าหากมีพลังถึงระดับชีพเทพเมื่อใด ก็สามารถเข้าไปฆ่าสัตว์อสูรในห้วงมิติเฉียนคุนได้แล้ว”
“ห้วงมิติเฉียนคุน? อ้อ ที่นั่นสนุกมากเหลือเกิน ไม่แน่เ้าอาจเจอของดีอย่างไม่คาดคิดก็ได้ เมื่อก่อนข้าได้สร้างห้วงมิติเฉียนคุนของตนไว้ก็จริง ถึงอย่างไรนั่นก็เป็แค่ของเล่นที่ข้าเคยจับต้องมาแล้วทั้งนั้น ไม่ใช่ของล้ำค่าอะไรหรอก”
เขาอยากจะเป็ลมให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย การคุยกับสิงโตน้อยทำให้เสียความมั่นใจได้ดีจริงๆ หากได้เจอกับหลงหลิง พวกเขาต้องคุยกันถูกคอมากแน่ หลงเหยียนคิดดังนั้นพลางเดินไปยืนข้างหลิงเทียนอวี่และคนอื่นๆ อีกครั้ง ด้วยเกรงว่าจะพลาดข้อมูลสำคัญไป
หลงเหยียนจดจำเื่ห้วงมิติเฉียนคุนดังกล่าวเอาไว้อย่างขึ้นใจ ในนั้นมีปีศาจอสูรจำนวนมาก ถือเป็์ของหลงเหยียนเลยก็ว่าได้ ในนั้นเขาสามารถฝึกพลังด้วยโลหิต และเพิ่มพลังปราณให้ตนได้ นอกจากนี้ยังเพิ่มความมั่นคงแก่พลังในร่างกายได้อีกด้วย เขามีพลังระดับชีพัขั้นที่แปด ทั้งยังรับรู้ได้ว่าพลังของตนกำลังจะเลื่อนระดับขึ้นไปอีกขั้นแล้ว นอกจากนี้ สิงโตน้อยยังมีหญ้าวิเศษเซียนหอมหมื่นลี้ติดตัวอยู่ เมื่อใดที่แข็งแกร่งมากพอ เขาจะหลอมละลายเซียนหอมหมื่นลี้ทันที
--------------------