"เอาล่ะ ทีนี้ถึงคราวพวกเ้าแล้ว" หลังจากสังหารหยานลี่และหยานป๋อจนดับสูญสิ้น หลี่ชิงหยุนหันกายกลับไปมองในทิศทางของเล่ยหยาน เล่ยถิงและเล่ยหยวนด้วยแววตาเ็า
หลี่ชิงหยุนเริ่มต้นด้วยการกำจัดตระกูลหยานเสียก่อนเพื่อที่จะสังหารบุคคลที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำมิให้พวกเขาเข้ามาเป็กว้างขวางคอ ณ เวลานี้ถึงทีของพวกตระกูลขุนนางเล่ยแล้ว!
'ชายผู้นี้อันตรายเกินไป' เล่ยหยานพึมพำงึมงำในขณะเหลือบมองดูหลี่ชิงหยุนจากระยะไกล ความกลัวเริ่มผุดขึ้นมาในหัวของมัน ซึ่งนั่นเป็ความกลัวจากสิ่งที่ไม่รู้จัก...
เล่ยหยานไม่สามารถมองผ่านระดับของนักสู้หน้ากากหยกผู้นี้ได้แม้แต่น้อยราวกับบุคคลที่ไร้การบ่มเพาะ มันเห็นเพียงนักสู้หน้ากากหยกฆ่าสองพ่อลูกตระกูลหยานโดยใช้เวลาแค่ 3 วินาทีเท่านั้น
นักสู้ที่ไม่ทราบระดับ! อีกทั้งยังเป็ผู้บรรลุเต๋าแห่งดาบ! รวมกับความเร็วที่น่าสะพรึงกลัวนั้น แค่นั้นก็เพียงพอที่จะให้พวกเขาเอาจริงเอาจังและจำต้องทุ่มสุดตัว
"ถิง! หยวน! พวกเราสู้กับเขาไปด้วยกัน" เล่ยหยานออกคำสั่งด้วยสีหน้าถมึงทึงและไม่มีเจตนาที่จะรั้งรออีกต่อไป ดังนั้นเล่ยหยานจึงต้องทำงานร่วมกันกับอีกสองคนเพื่อสังหารนักสู้หน้ากากหยกคนนี้ให้เร็วที่สุด
แน่นอนว่าหลี่ชิงหยุนจะไม่ปล่อยให้พวกเขารอนานจนเกินไป เขาเป็ฝ่ายที่พุ่งเข้าไปด้วยความเร็วประดุจสายฟ้าแลบ
หลี่ชิงหยุนกำลังกำหนดเป้าหมายคนที่อ่อนแอที่สุดก่อน...และจากนั้นเขาก็พวยพุ่งไปทางเล่ยหยวนพร้อมกับดาบในมือของเขา ด้วยการงอข้อมือฟันเป็แนวเฉียงเล็งไปที่คอของเล่ยหยวนอย่างไร้ปราณี!
ครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้เต๋าแห่งดาบ หลี่ชิงหยุนเพียงอยากจะรู้ว่า หากเขาต้องต่อสู้ข้ามระดับบ่มเพาะกับเล่ยหยวน เขาจะสามารถมีข้อได้เปรียบเหนือพวกเขาหรือไม่
ั้แ่หลี่ชิงหยุนกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขายังไม่เคยได้ต่อสู้เอาจริงเอาจังด้วยดาบเลยแม้แต่สักครั้งเดียว
และครั้งนี้ถือเป็โอกาสที่ดีสำหรับการฝึกดาบของเขา!
เล่ยหยวนเห็นดังนั้นเขาพลันควงหอกเป็กังหันลมเพื่อใช้ป้องกันการโจมตีจากดาบสีดำ
"เชร้ง!"
"หว่อง!"
หอกและดาบปะทะกันกลางอากาศด้วยความรุนแรงถึงขีดสุดบังเกิดเสียงหวีด "หว่อง!" ของมีคมทั้งสองที่กำลังต่อกร
แรงกดดันจากอาวุธทั้งสองะเิออกก่อเป็แรงต้านสะท้อนกลับไปยังพวกเขาทั้งสอง
เห็นได้ชัดว่าการโจมตีของทั้งสองคนอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน หลี่ชิงหยุนกระเด็นถอยหลังร่นออกไปถึงสี่ก้าว ส่วนเล่ยหยวนเองถอยหลังออกไปห้าก้าว
ระหว่างนั้นเล่ยหยานและเล่ยถิงพุ่งเข้ามารับ่ต่อจากเล่ยหยวนในทันที นี่เป็โอกาสทองในการกำจัดชายคนนี้ พวกเขาจะไม่ปล่อยให้จังหวะนี้เสียไปอย่างแน่นอน
ดาบของเล่ยหยวนและง้าวของเล่ยถิงมาจากทางซ้ายและขวาพร้อมๆกัน เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของหลี่ชิงหยุนเพื่อมิให้หลบหนี
หลี่ชิงหยุนที่เห็นท่าไม่ดี เขาพยายามะโขึ้นที่สูงทันทีเพื่อหลบการโจมตีจากทางด้านซ้ายและด้านขวา
เล่ยหยวนที่เพิ่งตั้งหลักได้เมื่อเห็นดังนั้น มันะโขึ้นไป้าของหลี่ชิงหยุนทันที ตอนนี้หลี่ชิงหยุนถูกล้อมรอบจากสามทิศทางโดยสมบูรณ์
เมื่ออาวุธของคนทั้งสามกำลังจะัักับร่างของหลี่ชิงหยุน ทันใดนั้น ร่างกายของสีดำทมึนกลับหายไปจากที่เดิม และโผล่มาจากทางด้านหลังของเล่ยหยวนด้วยความเร็วที่ตามองไม่เห็น
"อะไร!" เล่ยหยวนที่ได้เห็นการเคลื่อนไหวนั้น มันใแทบฉี่จะราด และยากจะเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของบุคคลนี้จะเร็วได้ขนาดนี้
ด้วยสามัญสำนึกนักสู้ปกติจะไม่มีทางเคลื่อนไหวได้ในขณะที่ลอยอยู่กลางอากาศ แต่นักสู้หน้ากากหยกคนนี้แตกต่างออกไป ไม่ใช่แค่เขาทำอย่างนั้นได้เท่านั้น แต่ยังทำได้โดยที่พวกเขาไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้เสียด้วยซ้ำ
หลี่ชิงหยุนเกาะกุมดาบในมือแน่น ดาบสีดำในมือมีม่านแสงสีขาวปกคลุมใบดาบ เขาเริ่มใช้เจตนาดาบอีกครั้ง คราวนี้เขาเล็งไปที่ขั้วหัวใจของเล่ยหยวนจากทางด้านหลังทันที
เล่ยหยวนที่ระวังตัวอยู่ตลอดเวลาโบกหอกของมันไปด้านหลัง เพื่อป้องกันดาบจากหลี่ชิงหยุนไม่ให้แทงเข้าที่หัวใจ
เมื่อดาบและหอกปะทะกันอีกครั้ง ครั้งนี้หอกโดนดาบแทงไปตรงๆ หอกของเล่ยหยวนหักครึ่งในทันที
"อะไร!" เล่ยหยวนแทบไม่อยากจะเชื่อ "เจตนาดาบของคนผู้นี้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียวหรือ?"
เมื่อเห็นว่าหอกหักไปและไร้การจู่โจมต่อเนื่อง มุมปากของหลี่ชิงหยุนขดเป็รอยยิ้มจางๆ และเขายังโจมตีต่อไปเพื่อที่จะเก็บเกี่ยวชีวิตของเล่ยหยวนโดยทันท่วงที!
ขณะที่ดาบกำลังจะแทงเข้าสู่ขั้วหัวใจเล่ยหยวน จู่ๆกลับบังเกิดเสียง "หวด!" แสงสีขาวจากง้าวขนาดใหญ่ลอยมาปิดกั้นเส้นทางของดาบสีดำของหลี่ชิงหยุนไว้อย่างกะทันหัน
"เคร้ง!"
เมื่อเห็นว่าการสกัดกั้นดาบของหลี่ชิงหยุนด้วยง้าวของเล่ยถิงได้ผล เล่ยหยานที่อยู่ทางด้านซ้ายพุ่งเข้าโจมตีหลี่ชิงหยุนจากด้านหน้าโดยทันท่วงทีโดยมิให้เขามีโอกาสในการโต้กลับ
ขณะนี้หลี่ชิงหยุนไม่สามารถใช้ดาบของเขาเพื่อป้องกันได้อีกต่อไป
โดยไม่รีรอให้เล่ยหยานเข้าใกล้แต่อย่างใด หลี่ชิงหยุนปลดปล่อยแรงกดดันออกมาจากวังนิวาน ดวงดารา 9 ดวงสีทองลอยละล่องอยู่เหนือหัวของเขาโจมตีไปที่เล่ยหยานด้วยการจู่โจมทางจิติญญา ก่อนที่ดาบของเล่ยหยานจะถึงตัวของเขา
"อั๊ก!" จู่ๆเล่ยหยานััได้ถึงความเ็ปสุดขีดจากในหัวของมัน นี่คือการโจมตีทางิญญาจากหลี่ชิงหยุน เมื่อเล่ยหยานโดนการโจมตีนี้เข้าไป ดาบที่กำลังจะถึงตัวของหลี่ชิงหยุนก็หยุดชะงักลงจากการแทรกแซง
ขณะที่เล่ยหยานกำลังกรีดร้องอยู่นั้น หลี่ชิงหยุนได้หายตัวไปจากจุดเดิม และถอยกลับไปตั้งหลักซึ่งห่างจากพวกเขาทั้งสามพอสมควร
เล่ยถิงและเล่ยหยวน รีบเข้าไปดูอาการของเล่ยหยานที่กำลังกรีดร้องในทันควัน
"ลูกพี่หยานเกิดอะไรขึ้น!?" เล่ยถิงและเล่ยหยวนตื่นตระหนก เมื่อครู่พวกเขาเห็นแค่ดวงดาวระยิบระยับ 9 ดวงเท่านั้น แต่พวกเขากลับไม่เห็นาแบนร่างของเล่ยหยานเลยแม้แต่จุดเดียว
เล่ยหยานที่เริ่มจะหายจากความเ็ป มองไปทางหลี่ชิงหยุนด้วยดวงตาที่อาฆาต ก่อนกล่าวอธิบายให้เล่ยถิงและเล่ยหยวนฟังด้วยสีหน้าที่มุ่งร้าย "เ้าหน้ากากหยกผู้นั้น ใช้การโจมตีทางจิติญญา!"
การโจมตีทางจิติญญานั้นเป็สิ่งป้องกันยากที่สุด หากผู้ที่ไม่ได้ฝึกฝนจิติญญาต่อสู้กับผู้ฝึกฝนจิติญญา เขาจะไม่สามารถป้องกันการโจมตีจากจิติญญาได้เลยแม้แต่น้อย
อีกทั้งจิติญญาเป็สิ่งที่อ่อนแอที่สุดในร่างกายของมนุษย์ ถ้าโดนใช้ประโยชน์จากจุดนั้น ผลแพ้ชนะจะถูกกำหนดได้โดยง่าย
'เจ้าหน้ากากหยกผู้นี้มาจากไหน เขาภูมิหลังแบบไหนกันแน่?' เล่ยถิงเองก็เริ่มสงสัย จากข้อมูลสันนิษฐานของหยานป๋อได้กล่าวว่าคนผู้นี้ต้องเกี่ยวข้องกับตระกูลหลี่ แต่ในใจของเล่ยถิง มันกลับคิดว่าชายหน้ากากหยกคนนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลหลี่แต่อย่างใด ตามความคิดของมันเอง พ่อบ้านของหยานป๋ออาจจะไปหาเื่คนๆนี้เมื่ออยู่ในป่าสนดำก็เป็ได้
"สหายผู้นี้ ขออภัยในความอวดดีก่อนหน้านี้ของพวกข้า ข้าขอทราบชื่อของเ้าได้หรือไม่?" จู่ๆเล่ยหยานหยุดการต่อสู้ และเริ่มที่จะพูดคุยกับหลี่ชิงหยุนก่อนด้วยสุ้มเสียงที่เบาบางลง
นั่นเป็เพราะพวกเขาไม่เคยเป็ศัตรูต่อกันมาก่อน ดังนั้นมันจึงคิดจะเจรจากับนักสู้หน้ากากหยกคนนี้
หลี่ชิงหยุนที่กำลังจะเข้าไปโจมตีอีกครั้ง จู่ๆเขาได้ยินคำพูดของเล่ยหยาน เขาเองก็ชะงักเช่นกัน 'เกิดบ้าอะไรขึ้น? สมองของคนๆนี้ผิดปกติหรือไม่?'