หากไม่ได้พบกันที่นี่ เย่เฟิงคงลืมอีกฝ่ายไปแล้ว จำได้ว่าตอนอยู่หมู่บ้านล่างูเาฉางไป๋ ชายร่างอ้วนคนนั้นไม่มีแม้แต่แรงจะต่อต้านเย่เฟิง หรืออาจเพราะเวลานั้นเย่เฟิงกดดันเขามากเกินไป เขาถึงมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองอย่างหนัก ผลลัพธ์จึงกลายเป็ว่า เขาเข้ามาก่อตั้งแก๊งในเมืองเยี่ยนจิงงั้นหรือ?
แน่นอนว่าแก๊งใหม่ที่เพิ่งสร้างสำหรับเย่เฟิงแล้วจะนับเป็อะไรได้ แต่สำหรับคนทั่วไปถือเป็เื่สุดยอดมาก พูดได้อีกอย่างว่าภายในแก๊งนั้นมีสมาชิกอยู่หลายร้อยคน ซึ่งถือได้ว่าเป็กลุ่มที่มีอิทธิพลในเมืองเยี่ยนจิงอยู่บ้าง
จากการสนทนาของคนในห้องส่วนตัวหรูหราชั้นบน ทราบว่าชายร่างอ้วนคนนั้นคือหัวหน้าแก๊ง เหยาเป่าซาน ตอนนี้เขาเป็ผู้ทรงอิทธิพลในเมืองเยี่ยนจิง ซึ่งอำนาจของเขากำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“พวกเราขึ้นไปข้างบนกันเถอะ”
เย่เฟิงประคองเซียวเยว่ลุกขึ้นจากโซฟา คิดจะพาเธอขึ้นไปชั้นบนเพื่อหาเหยาเป่าซาน เขา้าดูว่าอีกฝ่าย้าพบตนทำไม หรือคิดจะสะสางแค้นครั้งก่อนตอนที่อยูู่เาฉางไป๋?
เย่เฟิงยกยิ้ม หากเป็ไปตามนั้นเกรงว่าอีกฝ่ายคงต้องผิดหวังเสียแล้ว
“พวกแกจะไปไหน? ยอมเชื่อฟังแล้วรอลูกพี่มา...”
ชายชุดดำสองคนที่เฝ้าตรงหน้าประตูเอ่ยปากห้ามและเข้ามาขวางไว้ทันที พลางจ้องเซียวเยว่ด้วยสายตาหื่นกระหาย หญิงสาวคนนี้ช่างเย้ายวนใจเกินไปแล้ว!
“ไปให้พ้น ลูกพี่พวกแกฉันยังเคยบดขยี้มาั้แ่พวกแกยังอ่อนหัดด้วยซ้ำ”
เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเ็า พร้อมตบเข้าที่หูของคนทั้งคู่ จนพวกเขาลอยไปกระแทกกำแพงที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหรา แรงกระแทกรุนแรงจนพวกเขากระอักเืออกมา ก่อนสลบไป
เมื่อเซียวเยว่เห็นฉากนี้ก็หัวเราะออกมา “นายทำรุนแรงเกินไปแล้วนะ ไม่รู้ไปเรียนมาจากไหน”
เย่เฟิงคิดกับตัวเอง ในโลกเทวะเขาล้วนพบเห็นเพียงผู้ที่ลงมือก่อนกันทั้งนั้น ไม่จำเป็ต้องพูดคุยให้เปลืองน้ำลาย เช่นเดียวกับหลักการที่กล่าวกันว่าใช้กำลังบีบบังคับก็เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็ข้อเท็จจริงในชีวิตทั้งยังไม่จำเป็ต้องกลัวว่าจะถูกนินทาว่าร้าย อย่างน้อยเย่เฟิงก็ไม่ได้ใช้กำลังรังแกผู้อ่อนแอ ผู้ที่เขาจัดการล้วนเป็คนเลว หากไม่เข้ามายุ่งกับเขาก่อน เขาก็ไม่คิดไปยุ่งเกี่ยว! ตามคำสอนของซูเฟยหยิ่ง ศิษย์ของสำนักสุสานดวงดาวต้องมีจิตใจเที่ยงธรรมเป็สำคัญ
หลังจากโจมตีคนทั้งสองไปแล้ว เย่เฟิงก็พาเซียวเยว่ขึ้นไปชั้นบน
“หยุด!”
ชายฉกรรจ์หลายคนกำลังคุยกันตรงทางขึ้นบันได เมื่อพวกเขาเห็นเย่เฟิงและเซียวเยว่เดินขึ้นมาก็เข้ามาขวาง
ในเวลานั้นเอง เย่เฟิงะโเตะพวกเขาจนล้มระเนระนาด ตอนนี้เย่เฟิงมีระดับพลังสิบห้าปี เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหล่าชายฉกรรจ์ธรรมดาย่อมไม่รู้สึกกดดันเลยแม้แต่น้อย ต่อให้อีกฝ่ายมีหลายคนเขาก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย
เย่เฟิงและเซียวเยว่เดินขึ้นบันไดต่อ ทิ้งร่างพวกที่ร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บเอาไว้ด้านหลัง
ขณะเดียวกัน ลูกน้องคนอื่นๆ ที่อยู่ในรอยัลคลับก็มีปฏิกิริยา พวกเขาระดมกำลังกันอย่างรวดเร็ว ในมือมีทั้งมีดมาเชเต้ ท่อนเหล็ก และอุปกรณ์อย่างอื่นที่พอจะใช้เป็อาวุธได้ จากนั้นวิ่งตามเย่เฟิงขึ้นไป แต่ด้วยความระดับเร็วของเย่เฟิง ชั่วพริบตาเขาก็พาเซียวเยว่มาถึงหน้าห้องส่วนตัวหรูหราที่มีชายร่างอ้วนอยู่ด้านใน
หน้าประตูห้องส่วนตัว มีลูกน้องสองคนเฝ้าอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นเย่เฟิงและเซียวเยว่ก็เปลี่ยนสีหน้าทันที
“หยุด ลูกพี่เป่าซานกำลังต้อนรับแขกคนสำคัญ ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าไปรบกวน!”
ชายหนุ่มเชิ้ตขาวกล่าวตำหนิรุนแรง ก่อนเหล่มองหน้าอกของเซียวเยว่ด้วยสายตาหลงใหล เธอน่ามองเกินไปแล้ว!
“เขาเป็คนเชิญฉันมาเอง แต่ตอนนี้กลับให้ฉันรอ มันสมควรแล้วเหรอ?”
เย่เฟิงยกยิ้ม
“เหอะ ลูกพี่เป่าซานเป็ที่นับหน้าถือตาขนาดไหน แค่ให้แกรอนิดรอหน่อย ก็ถือเป็เกียรติของแกแล้ว ยังจะกล้าไม่พอใจ?”
ชายหนุ่มเชิ้ตขาวพูดอย่างดูแคลน พร้อมก้าวเข้าไปหาเย่เฟิง สายตายังจับจ้องเซียวเยว่ไม่ละไปไหน ในสมองก็คิดจะฉวยโอกาสเธอ ตามความคิดของเขา เขามีลูกพี่เป่าซานหนุนหลัง แน่นอนว่าถึงจะไม่ใช่คนใหญ่คนโต แต่หากเขาจะลวนลามหรือย่ำยีหญิงสาวตรงหน้า ก็คงจะไม่เป็ไร สาวสวยแบบเธอไม่ใช่ว่าจะสามารถเจอได้ง่ายๆ หากได้สนุกด้วยกันสักครั้งจะเป็อย่างไรกันนะ?
น่าเสียดายที่เมื่อเขาเข้าใกล้เย่เฟิงในระยะสามเมตร ก็ถูกเย่เฟิงะโถีบยอดอกจนกระเด็นไปไกล ก่อนร่วงกระแทกพื้นอย่างแรงและไถลไปตามพื้นหินอ่อนต่ออีก
“หยุด!”
เมื่อชายหนุ่มเสื้อยืดขาวอีกคนเห็นเช่นนั้นก็หน้าเปลี่ยนสี ดูเหมือนเขาจะรู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรมดา จึงรีบร้อนหยิบโทรศัพท์ออกมาแจ้งสมาชิกคนอื่นในแก๊ง
เย่เฟิงเห็นดังนั้นก็เพียงพยักหน้ากับตัวเองเงียบๆ หนุ่มคนนี้นับว่ายังฉลาดอยู่บ้าง
เขาเงยหน้ามองชายหนุ่มเสื้อยืดขาวก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายดูคุ้นตา รูปร่างหน้าตาสมเป็ชายชาตรี คิ้วขมวดปมราวกับมีเื่ยุ่งยากใจตลอดเวลา
หรือจะเป็ชายหนุ่มคนนั้น?
เย่เฟิงพลันนึกออก ไม่ใช่ว่าเป็ชายหนุ่มคนเดียวกับที่เขาพบทีู่เาฉางไป๋หรอกเหรอ? เขาไม่ได้เจออีกฝ่ายที่หมู่บ้านด้านล่างูเาฉางไป๋ แต่เป็ตอนไปถึงเขตูเาฉางไป๋ต่างหาก คนตรงหน้าคือแฟนหนุ่มของผู้หญิงที่ถูกหนุ่มตระกูลหลงบีบให้ะโตึกโรงแรมลงมา
เขาเป็ชายหนุ่มที่น่าสงสาร แฟนสาวถูกบีบให้ะโตึก ตอนที่ซักถามหลงเสียนกลับถูกอีกฝ่ายตบหน้า ทั้งยังถูกขับไล่ออกจากสถานีตำรวจ นึกไม่ถึงว่าตอนนี้จะกลายเป็ลูกน้องของเหยาเป่าซาน และดูเหมือนว่าสถานะในแก๊งจะไม่ธรรมดา สำหรับความแค้นของชายหนุ่ม เย่เฟิงช่วยล้างแค้นให้เขาแล้ว แต่อีกฝ่ายคงไม่รู้ว่าหลงเสียนตายไปแล้ว
เขามองสีหน้าหม่นหมองของอีกฝ่าย หรือคนคนนี้ยังกังวลเื่นี้อยู่อีก? เหตุผลที่อีกฝ่ายเข้าร่วมแก๊งใหม่ คอยติดตามจัดการเื่ต่างๆ ให้เหยาเป่าซาน อาจเพราะ้าตามหาว่าหนุ่มหน้าหยกคนนั้นเป็ใคร เพื่อล้างแค้นให้แฟนสาว
“ฉันจะปล่อยนายไป ฉันไม่อยากลงมือกับนาย”
เย่เฟิงครุ่นคิดมาถึงตอนนี้ก็เอ่ยกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ฝันไปเถอะ”
ชายหนุ่มเสื้อยืดขาวจ้องเย่เฟิงอย่างเอาเป็เอาตาย ไม่ยอมขยับหลบแม้แต่ก้าวเดียว เขาไม่สนใจเซียวเยว่ที่อยู่ด้านข้างเลยสักนิด ราวกับว่ามองไม่เห็นเธอในสายตา
“งั้นก็โทษทีแล้วกันนะ”
เย่เฟิงยกเท้าถีบยอดอกอีกฝ่าย เพียงถูกถีบยอดอกครั้งเดียว ชายคนนั้นก็ลอยไปกระแทกกำแพงอย่างแรง!
แม้เย่เฟิงจะไม่อยากลงมือกับชายหนุ่มผู้น่าสงสารคนนี้ แต่เมื่ออีกฝ่ายยืนกรานที่จะขวางเขา เย่เฟิงก็ไม่มีทางเลือกอื่น ไม่ว่าจะเป็ที่โลกไหน ความเห็นอกเห็นใจเป็สิ่งไร้ประโยชน์ และมันก็ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อเย่เฟิง
หลังจากถีบอีกฝ่าย เย่เฟิงก็จูงมือเซียวเยว่ไปต่อ ขณะกำลังผลักประตูแดงเพื่อเข้าไปหาเหยาเป่าซานภายในห้อง เย่เฟิงก็รู้สึกว่ามีใครบางคนคว้าข้อเท้าของตนไว้ เพื่อขวางไม่ให้เขาก้าวไปข้างหน้า
ซึ่งก็คือชายหนุ่มเสื้อยืดขาวคนนั้น!
เย่เฟิงก้มมองจึงเห็นว่าจมูกของฝ่ายตรงข้ามมีเืกำเดาไหลออกมา เขานอนอยู่บนพื้นโดยคว้าข้อเท้าเย่เฟิงไม่ยอมปล่อย จ้องเขาอย่างเอาเป็เอาตาย ไม่ยอมให้เข้าไปในห้องส่วนตัวนั้น
ช่างเป็ชายหนุ่มที่ดื้อรั้นเสียจริง!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้