ก๊อกๆๆ!
กู่ไห่ที่อยู่บนเกาะกลางเวหา ยังคงวางเม็ดหมากลงบนกระดานอย่างต่อเนื่อง หมากหลายกระดานจึงถูกแก้ไปเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ มีหมากถึงหนึ่งร้อยกระดานที่ถูกแก้จนแล้วเสร็จ
ติงรุ่ยซึ่งกำลังพยายามต้านคำสาปของหลี่ชิงเหออยู่นั้น ทำได้เพียงเงยหน้ามองตามเขา
“กู่ไห่ ต่อให้เ้าปลดม่านพลังได้ ก็ไม่มีวันได้ชีพจรัไป!” ติงรุ่ยเอ่ยเสียงเย็น
“ไม่ว่าข้าจะได้มันหรือไม่ อย่างไรเสีย หญิงชราเช่นท่านก็จะต้องตายอยู่ดี ความผิดโทษฐานกักขังถังจู่นั้น คือปะาสถานเดียว ท่านคิดว่าตนจะหนีไปได้อย่างนั้นหรือ?” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเยียบเย็น ขณะเดียวกัน มือก็ยังแก้หมากไม่หยุด
“รับโทษ? ฮึ่ม! ในเมื่อข้ากล้าทำเช่นนี้ ย่อมหาได้เกรงกลัวต่อสิ่งใด แต่เ้า กู่ไห่ ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็หัวหน้าสังกัดวารีด้วยซ้ำ กลับกล้าสังหารหัวหน้าสังกัดเิไท่ คิดว่าจะหนีบทลงโทษของหออี้ผินได้หรือ? แน่นอน ว่าข้ามีคนคอยควบคุมอยู่ แต่เ้าเองก็ทำผิดกฎเช่นกัน” ติงรุ่ยพูดอย่างเ็า
“ใครที่คอยควบคุมเ้า? เขาเป็ใคร?” หลงหว่านชิงเลิกคิ้วทันที
ในหออี้ผิน นอกจากตนซึ่งเป็ถังจู่แล้ว ยังจะมีใครที่ดำรงตำแหน่งสูงกว่า?
กู่ไห่ยังคงวางหมากในมืออย่างสุขุม พลางเหลือบมองหญิงชราที่กำลังจะหลุดจากคำสาปเป็ระยะๆ ก่อนถามเสียงเรียบ “ท่านหัวหน้าสังกัดติง กล่าวหาว่าข้าคือคนที่ฆ่าเิไท่ มีหลักฐานอะไร จึงมาใส่ร้ายข้าเช่นนี้? ”
“ฮ่าๆๆ! หลักฐาน? ทุกคนต่างก็เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในดินแดนแรกสาบสูญทั้งสิ้น” ติงรุ่ยะโเสียงแข็ง
“อย่างนั้นหรือ? แล้วหากเิไท่ยังมีชีวิตอยู่เล่า?” ชายหนุ่มถามอย่างเฉยชา
สีหน้าของหญิงชรามืดครึ้ม
ทันใดนั้น กู่ไห่ก็หัวเราะเสียงต่ำ “ใช่หรือไม่ หัวหน้าเิ? ท่านจะซ่อนตัวเช่นนี้ไปอีกนานแค่ไหน?”
“อะไรนะ?” ท่าทีของหลงหว่านชิงพลันแปรเปลี่ยน
เิไท่ถูกกู่ไห่สังหารไปแล้วมิใช่หรือ?
ที่ด้านล่าง มีเสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้นในกลุ่มผู้ฝึกตน
ตูม!
จู่ๆ ก็เกิดเสียงดังสนั่น... ติงรุ่ยสามารถหลุดพ้นคำสาปได้ในที่สุด
ติ๊ง!
เสียงกู่ฉินเงียบลง พลังปราณกระบี่โดยรอบจึงค่อยๆ สลายไป
“ท่านหัวหน้า!” ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวด้วยความเคารพ
หญิงชราค้ำไม้เท้าในมือลงกับพื้น ก่อนเงยหน้ามองกู่ไห่ “เ้าบอกว่าเิไท่ยังมีชีวิตอยู่อย่างนั้นหรือ?”
“ฮ่าๆๆ! ข้าเพิ่งได้พบเขาเมื่อไม่นานมานี้ ที่พรรคค้าเฟิง” ชายหนุ่มหัวเราะ
หญิงชราดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าใดนัก พลางหันไปมองทั่วบริเวณ
ผู้ฝึกตนที่อยู่รายรอบ ต่างก็พากันกวาดตามองไปทั่วบริเวณเช่นเดียวกัน... เิไท่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่พวกเราอย่างนั้นหรือ?
ไม่ไกลกันนัก าาหมากล้อมสังหารก็แสร้งหันไปมองรอบตัว ราวกับกำลังมองหาเิไท่เช่นกัน
“ฮ่าๆๆ! าาหมากล้อมสังหาร เื่ระหว่างท่านกับติงรุ่ยก็เกิดขึ้นมานานเต็มที ความคับแค้นใจของท่านทั้งสอง ถึงเวลาที่ต้องสะสางแล้วกระมัง?
ตอนนี้ถังจู่ก็อยู่ตรงหน้านี้แล้ว... ท่านล่ะ? คิดจะทรยศต่อหออี้ผินด้วยหรือไม่?” กู่ไห่กล่าวอย่างเยือกเย็น
าาหมากล้อมสังหาร?
ทุกคนหันขวับไปมองคนผู้นั้นทันที แม้แต่ศิษย์ของเขาเอง ก็ยังอดงุนงงต่อสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นไม่ได้
หญิงชราจ้องมองาาหมากล้อมสังหาร ด้วยแววตาเย็นะเื
“กู่ไห่ เ้ารู้ได้อย่างไร?” าาหมากล้อมสังหารถามกลับเสียงต่ำ
“อะไรนะ? ท่านอาจารย์!” เหล่าศิษย์ของาาหมากล้อมสังหารต่างร้องอุทาน
ทันทีที่เขาดึงหมวกของตนขึ้น ทุกคนจึงมั่นใจว่าคนตรงหน้านี้ คือเิไท่จริงๆ
“เขาเป็ใคร?” ผู้ฝึกตนหลายคนแสดงสีหน้างุนงง
ชายผู้นี้ ดูต่างจากคนที่ถูกกู่ไห่สังหารไปก่อนหน้านี้ ที่ดินแดนแรกสาบสูญ
“เิไท่ เป็เ้าจริงๆ หรือ?” ติงรุ่ยเอ่ย
บนท้องฟ้า กู่ไห่ยังคงวางหมากในมือลง แม้หญิงชราจะมิได้สนใจเขา และเหมือนจะมีความสุขไม่น้อย ที่เห็นอีกฝ่ายแก้หมากเหล่านี้ ดูท่า คงหวังจะให้ชายหนุ่มแก้หมากทั้งหมดนี้ได้โดยเร็ว
...
ทว่าตอนนี้ กู่ไห่กำลังยิ้มเยาะมาจากเบื้องบน
หลงหว่านชิงที่ยืนอยู่ข้างๆ มองดูชายหนุ่มแก้หมากด้วยความเป็ห่วง “พวกเขาจะไม่ตามขึ้นมาหรือ?”
“ติงรุ่ย้าให้ข้าแก้หมากเหล่านี้ให้เสร็จโดยเร็ว หากข้าตายไปเสียก่อน นางก็ไม่อาจเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้ เช่นนั้นข้าย่อมต้องตายหลังแก้หมากเสร็จแล้ว มิใช่หรือ?” ชายหนุ่มเย้ยหยัน
“แต่...”
“อย่ากังวลเลย ปล่อยให้พวกเขาทะเลาะกันต่อไปเถอะ นี่เป็เื่น่าเศร้าของพวกเขาเมื่อยี่สิบปีก่อน” กู่ไห่กล่าวอย่างเฉยเมย
...
“หากเ้าคือเิไท่ แล้วอาจารย์ของข้าล่ะ?” เหล่าศิษย์ของาาหมากล้อมสังหารถามอย่างร้อนรน
“ฮึ่ม!” เิไท่สูดลมหายใจลึก ก่อนโบกมือของตนขึ้น
ตูม!
เพียงพริบตา ศิษย์ของาาหมากล้อมสังหารผู้นั้นก็ะเิหายไปทันที
“ติงรุ่ย ช่างเป็เกียรติยิ่งนักที่ได้พบ ดูเหมือนยี่สิบปีมานี้ เ้าจะไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย ยังคงหน้าตาน่าเกลียดเช่นเดิม” เิไท่พูดจายียวน
“ฮึ่ม! เ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ไม่ว่าจะตอนนั้น หรือในยามนี้” หญิงชราเอ่ยอย่างเ็า
ได้ยินเช่นนั้นเิไท่ก็ไม่รอช้า ทะยานร่างเข้าหาอีกฝ่ายทันที
ตูม!
แท่งไม้ขนาดใหญ่พุ่งตรงเข้ามา
“ไป!” เิไท่โจมตีออกไป
ตูม!
พลังหมัดปะทะกับไม้เท้า เสียงการต่อสู้ดังะเืเลื่อนลั่น ลมกระโชกแรงพัดโหมกระหน่ำใส่พื้นทรายและโขดหิน
ติงรุ่ยก้าวถอยหลัง
“ไม่! ตอนนั้นเ้าเหนือกว่าหลี่เหว่ยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งยังถูกทรมานมาถึงยี่สิบปี แล้วความแข็งแกร่งของเ้า จะเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ได้อย่างไร?” ท่าทีของหญิงชราเปลี่ยนไป
“เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ข้าก็เป็เช่นนี้!” เิไท่พูดเรียบๆ
“เป็ไปไม่ได้ ยี่สิบปีที่แล้วข้าก็อยู่ที่นั่นด้วย หากเ้าแข็งแกร่งขนาดนี้ ทำไมถึงโดนพวกเราจับได้อย่างง่ายดาย? ทั้งยังถูกคุมขังเอาไว้เช่นนั้น?” ติงรุ่ยจ้องเขม็งอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“แล้วถ้าบอกว่า ข้าจงใจให้มันเป็เช่นนั้นล่ะ” เิไท่เอ่ยอย่างเยือกเย็น
“จงใจ?” หญิงชราเลิกคิ้ว
“หากไม่ได้ถูกเ้าจับตัวไป บางที ตอนนี้ข้าคงมีชะตากรรมไม่ต่างอะไรกับท่านถังจู่คนก่อน” เิไท่เย้ยหยัน
“อะไรนะ?” ติงรุ่ยอุทาน
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ท่าทีของหลงหว่านชิงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
เห็นได้ชัด ว่าหญิงในอ้อมแขนของเิไท่ตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที พลางหันขวับไปมองเขา แม้ว่าจะไม่มีใครเห็นสีหน้าของเธอก็ตาม
“เ้าทำนายได้ถึงการตายของท่านถังจู่ ใช่หรือไม่?” ท่าทางของหญิงชราแปรเปลี่ยน
“ไม่ใช่ว่าข้าทำนายได้ แต่สัญญาณทั้งหมดเป็เครื่องบ่งบอกทุกอย่าง พวกเราถูกจับตามองมาตลอด ส่วนข้าก็รู้เื่มากเกินไป แม้แต่ท่านถังจู่ยังโดนหมายหัว แล้วนับประสาอะไรกับข้า เพราะยังไม่อยากตาย ดังนั้นจึงมีหนทางเดียวเท่านั้นที่จะรอดได้ คือยอมให้เ้าจับกุม
เ้าเชื่อฟังเขา ข้าจึงถูกเ้าคุมขัง เพียงเพื่อหลีกหนีการไล่ล่าของเขา ข้าจึงซ่อนตัวมานานถึงยี่สิบปี เป็อย่างไร เหงาบ้างหรือไม่? ฮ่าๆๆ!” เิไท่กล่าว พลางหัวเราะเยาะเย้ย
“ใครกัน? ใครสังหารแม่ของข้า?” หลงหว่านชิงะโถาม
เิไท่มองหญิงสาว แล้วพูดว่า “ฮ่าๆๆ! ข้ามิได้้าจะปิดบังท่าน แต่ข้าไม่รู้จริงๆ รู้แค่ว่ามีมือมืดคอยชักใยทุกอย่างอยู่เื้ั แม้ว่าคนผู้นั้นจะไม่เคยปรากฏตัว ทว่าข้าก็รู้สึกถึงเขาได้ แต่ไม่รู้ว่าเป็ผู้ใด บางที ติงรุ่ยอาจจะรู้กระมัง”
“หือ?” หญิงชรามองเิไท่
กู่ไห่ที่กำลังแก้หมากอยู่้า พลันแสยะยิ้ม “เช่นนั้น ที่เ้ายอมจำนนต่อหลี่เหว่ย ก็มิใช่เพราะเฟิงหลิงภรรยาของเ้า? ที่ผ่านมาเ้าเพียงใช้ภรรยาเป็ข้ออ้างหรอกหรือ?”
หญิงในอ้อมแขนของเิไท่ตัวสั่นทันที
แน่นอนว่าหญิงผู้นั้นคือเฟิงหลิง ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางคิดเสมอ ว่าที่เิไท่ยอมเป็เบี้ยล่างหลี่เหว่ย ก็เป็เพราะตัวเอง แต่ตอนนี้กลับพบว่า...
“เฟิงหลิงที่น่าสงสาร ถูกทรมานมายี่สิบปีกลับไม่มีใครสนใจ ที่เ้ายอมถูกจับ ไม่ใช่เพราะนาง แต่เพื่อปกป้องความลับที่มีเพียงเ้าเท่านั้นที่รู้” กู่ไห่เยาะหยัน
“ความลับอะไร?” ติงรุ่ยแสดงสีหน้างุนงง
“กู่ไห่ เ้ารู้อะไร?” เิไท่ถามเสียงเย็น
“ความลับที่มือมืดตามหา มิใช่อยู่ที่ท่านแม่ของถังจู่ แต่อยู่กับนาง ภรรยาของเ้า เพื่อเก็บความลับนี้ เ้าจึงใช้ท่านถังจู่คนก่อนเป็เหยื่อมิใช่หรือ? จากนั้นเ้าก็ซ่อนตัว พร้อมกับความลับนี้จากผู้คน ไม่ว่าจะเป็มือมืดนั่น หลี่เหว่ย ท่านแม่ของท่านถังจู่ ติงรุ่ยและทุกผู้คน” กู่ไห่กล่าวอย่างใจเย็น
“กู่ไห่?” ใบหน้าของเิไท่มืดมน
หญิงชราขมวดคิ้วแน่น เมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างคนทั้งสอง... อะไรคือความลับที่พวกเขาพูดถึงกันแน่?
“กู่ไห่ มันคือความลับใด เกี่ยวอะไรกับการตายของแม่ข้า เิไท่ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเื่นี้ด้วยหรือ?” หลงหว่านชิงถามอย่างข้องใจ
“ความลับอยู่ที่หญิงสาวในอ้อมแขนของเิไท่ เฟิงหลิง... นางคือกุญแจที่ไขเข้าสู่ชีพจรัได้” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเฉยชา
“หือ?” ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็หันไปมองคนในอ้อมแขนของเิไท่ทันที
หญิงในอ้อมแขนตอนนี้ กำลังตัวสั่นเทาด้วยความหวาดหวั่น
“เิไท่ เ้าช่างมากแผนการนัก โเี้อำมหิต เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ทุกคนก็ไม่ต่างอะไรกับหมากของเ้า ท่านถังจู่คนเก่าชื่นชมเ้ามาก แต่เพื่อประโยชน์ส่วนตน เ้ากลับปล่อยให้นางถูกสังหารเพื่อเก็บความลับนี้เอาไว้
เ้ายอมสูญเสียทุกสิ่ง ทั้งยังฆ่าศิษย์น้องหญิงของตน แม้แต่เฟิงหลิง ภรรยาตัวเอง ก็ยังมอบให้หลี่เหว่ยได้ แถมปล่อยให้นางถูกทรมานโดยไม่แยแส และที่สำคัญ ยังยอมถูกกักขังในพรรคต้าเฟิงมานานถึงยี่สิบปี ทุกอย่างนี่ ก็เพื่อชีพจรัเท่านั้น
ฮ่าๆๆ! เ้าคิดว่าตัวเองสามารถควบคุมทุกอย่างได้อย่างนั้นหรือ ไม่เลย! ที่จริงแล้วเ้าคือเบี้ยล่างมาตลอดต่างหากเล่า” กู่ไห่เย้ยหยัน
ขณะพูด ชายหนุ่มก็โอบหลงหว่านชิง แล้วะโเข้าไปในดอกไม้สีขาวตรงหน้า
“เ้ากำลังทำอะไร? ยังเหลือหมากอีกสี่ร้อยห้าสิบกระดาน ที่ยังไม่ได้แก้มิใช่หรือ?” หญิงสาวถามกลับด้วยความงุนงง
“ใครบอกท่านกัน ว่าต้องแก้หมากทั้งหมด จึงจะเข้าสู่โลกของหมากล้อมได้” กู่ไห่ยิ้ม
“ฮะ?”
ชายหนุ่มรวบร่างหลงหว่านชิงขึ้นมาอุ้ม ก่อนะโเข้าไปในบริเวณที่ปกคลุมด้วยหมอกสีขาว แล้วหายไปทันที
“แย่แล้ว!” ติงรุ่ยมองดูร่างทั้งสองที่หายลับไป ด้วยใจอันร้อนรน
ส่วนเิไท่ก็กระชับกอดเฟิงหลิง ก่อนทะยานขึ้นฟ้าพลัน
ฟึ่บ!
หมอกสีขาวโพลนกระจายออกมาทันใด
ตูม!
หญิงชราพยายามโจมตีเขตแดนตรงหน้าด้วยพลังทั้งหมด แต่กลับไร้ซึ่งรอยขีดข่วนใดๆ
ภายในเขตแดนนั้น กู่ไห่เงยหน้าขึ้นมอง พร้อมหัวเราะร่า “ท่านหัวหน้าติง ขอบคุณที่ให้เวลาข้า... ฮ่าๆๆๆๆ!”
ขณะที่หัวเราะ ชายหนุ่มก็ก้าวไปยังชีพจรัที่อยู่ในเขตแดน
“เ้าคนชั่ว กู่ไห่!” ติงรุ่ยคำราม
ที่นางยอมเผชิญหน้ากับเิไท่ ก็เพราะ้าให้กู่ไห่แก้กลหมากยี่สิบเก้าเส้นให้แล้วเสร็จ แต่ใครจะคาดคิด ว่าเขาจะสามารถเข้าสู่โลกของหมากล้อมได้ ด้วยการแก้หมากไปแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น?
“เิไท่ ทั้งหมดเป็เพราะเ้า!” หญิงชราจ้องอีกฝ่ายตาวาวโรจน์
เิไท่มิได้ครั่นคร้าม เพียงมองกลับไป แล้วเอ่ยด้วยเจตนาที่จะปรามาสอีกฝ่าย “เป็เ้าที่ไร้ความสามารถเอง... เฟิงหลิง เข้าไปข้างในกันเถอะ!”
“อะไรนะ?” ดวงตาของติงรุ่ยเบิกกว้าง
กู่ไห่สามารถเข้าสู่โลกของหมากล้อมได้ เพราะเขาเข้าใจถึงแก่นแท้ของกลหมาก แล้วเิไท่ล่ะ?
“ฮึ่ม!”
ทันทีที่เฟิงหลิงัักับเขตแดน รัศมีของดอกมู่ตานก็ปรากฏขึ้นบนศีรษะของนาง และปกคลุมร่างหญิงสาวกับเิไท่เอาไว้ในพริบตา
“ฮะ!” พวกเขาเดินผ่านเข้าไปอย่างง่ายดาย
“ไม่!”
หญิงชราร้องะโด้วยความกราดเกรี้ยว
ตูม!
นางพุ่งเข้าโจมตีเขตแดนด้วยไม้เท้าอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ไร้ผล
“กุญแจ? เฟิงหลิงคือกุญแจ ที่สามารถผ่านเขตแดนของท่านผู้เฒ่า[1]ได้อย่างนั้นหรือ?” ติงรุ่ยกล่าว พลางพยายามสะกดอารมณ์
--------------------------------------
[1] ‘ท่านผู้เฒ่า’ ในนิยายเื่นี้ คือ คำสรรพนามที่ผู้คนใช้ในการเรียก ‘ท่านผู้าุโกวนฉี’ โดยไม่ได้ระบุชื่อ แต่ทุกคนต่างก็รู้กันดีว่าหมายถึงใคร
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้