เมื่อเยี่ยนเจาเจาหันมององค์หญิงแล้วเห็นว่าพระองค์ไม่เก็บร่องรอยความเยาะเย้ยบนดวงหน้าแม้แต่น้อย จึงคาดเดาว่าท่านแม่คงลงมือกับบ้านใหญ่เพราะเื่ที่นางตกน้ำ
องค์หญิงเองก็ทราบว่าบุตรีหัวแก้วหัวแหวนกำลังมองตนอยู่ ทว่าพระองค์ก็เพียงตบเบาๆ บนหลังมือเยี่ยนเจาเจา ก่อนจะช่วยจัดอาภรณ์บนร่างนางให้เรียบร้อย พลางเอ่ยกับซงจื่อด้วยน้ำเสียงเฉยชาว่า “ปล่อยนางรอไปก่อน ไม่มีเหตุผลที่มาเข้าเฝ้าในเรือนข้าั้แ่เช้าตรู่ขนาดนี้หรอก ในเมื่อนางมาแล้วก็ต้องเตรียมใจรอ”
“เพคะ” ซงจื่อยอบตัวคารวะ
“ตั้งโต๊ะเถอะ” องค์หญิงสั่งบ่าวคนอื่นต่อ “ส่งส่วนหนึ่งไปให้นายน้อยและคุณชายิเหอที่ห้องหนังสือตามเดิมด้วย”
ซงจื่อถอยออกไปตามรับสั่ง
เมื่อซงจื่อผละไป เยี่ยนเจาเจาก็เบี่ยงหน้ามาถามองค์หญิงอย่างทนไม่ไหว “ท่านแม่ นางมาทำไมเ้าคะ?”
“อะไรกัน ปกติเ้ากับเยี่ยนฟางหวาสนิทสนมกันตลอดนี่ เหตุใดคราวนี้ไม่ยอมให้นางมาเล่า?” องค์หญิงกล่าวสัพยอก
“เยี่ยนฟางหวาแกล้งข้าประจำ ข้ามองนางออกหมดแล้วเ้าค่ะ” ทว่าเื่ราวความฝันของเยี่ยนเจาเจามิอาจเล่าเลื่อนลอยอย่างละเอียดได้ เลยจำต้องแสร้งกลบเกลื่อนว่า “ท่านแม่ ท่านอย่าพูดวกไปวนมากับลูกเลยนะเ้าคะ!”
องค์หญิงทนมองลูกหมาน้อยน่ารักดื้อดึงของตนออดอ้อนไม่ไหว จึงกล่าวว่า “ลูกสาวนางอยากให้เจาเจาของพวกเรามอบของสนุกๆ แก่นางไม่ใช่หรือ แล้วข้าในฐานะแม่จะไม่ให้ของขวัญนางได้อย่างไร?”
“ท่านแม่ส่งอะไรให้นางเ้าคะ?”
ท่านแม่ก็ทราบอยู่แล้วว่าพวกบ้านใหญ่ทั้งบ้าอำนาจและจิตใจชั่วร้าย เหตุใดถึงส่งของให้พวกนางเปล่าๆ กัน
“ในคลังของข้ามีนกยูงตั้งโต๊ะคู่หนึ่ง ตั้งไว้เฉยๆ ก็คงขึ้นรา จึงมอบให้นางไปดีกว่า”
องค์หญิงรินน้ำอุ่นให้เจาเจาดื่ม แม้พระองค์จะเอ่ยด้วยถ้อยคำเ็า แต่สีหน้ากลับอ่อนโยนอย่างที่คนเป็แม่พึงจะมีเท่านั้น
“นั่นเป็ของที่ท่านแม่ได้มาจากการออกรบ ทั้งต้าซีมีเพียงคู่เดียว เหล่าทหารต้องสละชีพเสียเืเสียเนื้อในา แต่พวกนางกินดื่มเที่ยวเล่นสนุกสนาน เหตุใดท่านแม่ถึงได้มอบให้พวกนางเ้าคะ?”
เยี่ยนเจาเจาไม่เข้าใจว่าท่านแม่ทำเช่นนี้เพราะอะไร ถึงขั้นอยากบอกว่าพวกนางคู่ควรหรือ?
เพียงแต่เจาเจายังอยากเป็สาวน้อยน่ารักว่านอนสอนง่ายสำหรับท่านแม่ จึงจำต้องระงับวาจาเราะร้ายที่จุกคอหอยลงไป และถามอย่างอ่อนโยนแทน
“เป็เพียงของเล่นของกษัตริย์สิ้นชาติเท่านั้น ข้าไม่สนใจมันหรอก” องค์หญิงแย้มสรวลบางๆ พลางหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดคราบน้ำบนใบหน้าของเยี่ยนเจาเจาออก แต่สายพระเนตรกลับเ็าราวกับมีสระน้ำอันเย็นเยียบซ่อนอยู่ “เหมาะกับพวกนางพอดี”
นับั้แ่วันที่เยี่ยนเจาเจาเลือกจะรู้ความจริง องค์หญิงก็ไม่เก็บซ่อนอารมณ์และการกระทำของตนเองอีก พระองค์เปิดเปลือยต่อหน้าเยี่ยนเจาเจาทั้งหมด ทั้งยังใช้วิธีที่ตรงที่สุดช่วยสอนเยี่ยนเจาเจา
ซึ่งประโยคนั้นก็ถูกใจเยี่ยนเจาเจาที่สุดเลย!
“ถ้าพวกนางได้ของดีก็น่าจะแอบดีใจมิใช่หรือ เหตุใดยังมาหาถึงที่เล่าเ้าคะ?”
เยี่ยนเจาเจายังคงติดใจอยู่เพียงอย่างเดียว คงมิใช่ว่ามาขอบคุณหรอกนะ?
เยี่ยนฟางหวาที่มีนิสัยชอบของนอกกายเช่นนั้น เดาว่าหลับยังยิ้มเลยกระมัง
“เมื่อให้ไปแล้วก็เพียงแต่ต้องบอกให้ปล่อยวาง ของบางอย่างแม้ข้าจะไม่แยแส พวกนางก็ทำได้แค่เหลือบมอง กลับกระหายมาไว้ในมือโดยไม่รู้จักประมาณสถานะตนเอง”
เยี่ยนเจาเจาราวกับพบทางสว่าง
หวังซื่อเป็คนรักเงิน ชอบแสวงหาอำนาจ ทั้งยังชอบสร้างภาพและกลัวเสียหน้า ท่านแม่กระทำตรงไปตรงมาโดยการจับจุดอ่อนที่เ็ปที่สุดของนางมาแทงโต้งๆ เช่นนี้ นับเป็การฉีกหน้ากันชัดๆ
ทว่านี่คือองค์หญิง พระองค์มีสิทธิ์ที่จะทำ
เื้ัของเยี่ยนเจาเจาและองค์หญิงฉงหยางไม่ใช่เยี่ยนเหิง แต่เป็ราชวงศ์ต้าซี ตราบใดที่ราชวงศ์นี้ยังแซ่เหลียง หวังซื่อก็ไม่อาจสร้างคลื่นลมอะไรได้
เมื่อเป็เยี่ยงนี้ หวังซื่อที่รักหน้าตายิ่งชีพจึงทนไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม
“ยังมีของขวัญชิ้นใหญ่อีกชิ้น ข้าเห็นว่านางมีปัญหาบางอย่างกับร้านค้าสินสมรสพวกนั้น ข้าจึงจัดการอย่างยุติธรรมแล้ว”
องค์หญิงแย้มสรวลจางๆ พระพักตร์ที่เคยเฉยชาจึงสว่างสดใสขึ้นทันตา ความมีชีวิตชีวาของพระองค์ช่างงดงามจนยากที่จะหาสตรีสูงศักดิ์คนใดในเมืองเซียงเฉิงมาเทียบได้
วิธีการของท่านแม่ยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่เริ่มลงมือจากภายในเรือน แต่ตัดแขนตัดขาหวังซื่อที่อยู่ข้างนอกแทน มิน่าวันนี้นางถึงโกรธจนมาหาเอง
สมกับเป็ท่านแม่!
ั์ตาเยี่ยนเจาเจาทอประกายขณะมององค์หญิงฉงหยางด้วยความเลื่อมใส จนองค์หญิงโล่งพระทัย
ทีแรกพระองค์ยังกลัวว่าสาวน้อยของบ้านจะคิดว่าตนลงมือโเี้เกินไป แต่ดูท่าพระองค์คงคิดมากไปเองแล้ว
“เจาเจา เมื่อก่อนแม่ไม่ยอมให้เ้าแตะต้องของบางอย่าง แต่วันนี้ข้าเพิ่งเข้าใจว่าควรสอนเ้าโดยเร็วที่สุด
ในอดีตข้าเคยอยากให้เ้ารับรู้ด้วยตนเอง ซึ่งมันเข้มงวดเกินไป มิสู้ข้าสอนเ้ากับมือ เ้าจะได้เข้าใจยิ่งขึ้น”
องค์หญิงสรวลบางเบา ทว่าพระพักตร์กลับเผยความน่าเกรงขามเหมือนพี่สาวร่วมอุทรอย่างฮองเฮาเหลียงฮุ่ยออกมา
“อะไรคือการใช้สิ่งของให้คุ้มที่สุด อะไรคือการอาศัยบารมีข่มเหงผู้อื่น เ้าเข้าใจใช่ไหม?”
ส่วนหวังซื่อที่พาเยี่ยนฟางหวามาเข้าเฝ้าองค์หญิง คาดไม่ถึงว่าจะถูกขวางไว้หน้าประตูเรือนนภาคราม
สีหน้าเยี่ยนฟางหวาซีดเซียว นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ยืนอยู่ข้างหลังหวังซื่ออย่างว่าง่าย มองดูแล้วช่างน่าสงสารเป็พิเศษราวกับเป็บุปผาน่าเวทนาที่โดนพายุฝน
ประจวบเหมาะกับเวลานี้ฝนกระหน่ำลงมาพอดี ต่อให้ข้างกายทั้งสองมีหญิงรับใช้กางร่มให้ แต่ลมนั้นก็ยังพัดพาเม็ดฝนสาดเข้ามาจนร่างกายครึ่งร่างของหวังซื่อและเยี่ยนฟางหวาแทบเปียกโชกอยู่ดี
ทว่าวันนี้หวังซื่อเตรียมตัวมาพร้อม หากไม่เห็นพระพักตร์องค์หญิงฉงหยาง นางก็ไม่มีวันกลับ
ซงจื่อเดินออกมาอีกรอบเพื่อบอกให้พวกนางกลับไปก่อน แต่หวังซื่อก็ปฏิเสธอย่างนุ่มนวล แม้จะเห็นว่าทั้งเรือนนภาครามไม่มีใครสนใจใยดีพวกนาง พวกเขาเพียงเหลียวมองสองแม่ลูกตัวเปียกเป็ลูกหมาตกน้ำอยู่ใต้ระเบียงทางเดินจากที่ไกลๆ เท่านั้น
หวังซื่อหลุบตาลง
เื่นี้หากไม่ใช่เพราะเยี่ยนฟางหวาตุกติก ไปลักเล็กขโมยน้อยจนทำร้ายแก้วตาดวงใจขององค์หญิงอย่างเปิดเผย บ้านใหญ่ของนางคงไม่ได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้หรอก
แม้บนใบหน้าหวังซื่อยังแต้มรอยยิ้มจางๆ แต่ดวงตาของเยี่ยนฟางหวาใกล้ลุกเป็ไฟแล้ว
องค์หญิงจะอาศัยบารมีข่มเหงผู้อื่นเยี่ยงนี้ไม่ได้กระมัง!
ทว่าต่อให้ใจนางจะกรีดร้องะเืเลื่อนลั่นเพียงใดก็ไร้คนเหลียวแล
ไม่รู้ว่านางยืนอยู่ตรงนี้นานแค่ไหนแล้ว แต่เยี่ยนฟางหวาััได้เพียงว่าร่างกายท่อนล่างของตนรู้สึกชาจนแทบเป็น้ำแข็ง ก่อนจะเห็นเด็กรับใช้แปลกหน้าคนหนึ่งถือร่มวิ่งมา
เยี่ยนฟางหวาคิดว่าตนรอดแล้ว คาดไม่ถึงว่าเด็กรับใช้คนนั้นแค่ถือกระเช้าอุ่น[1] ใบเล็กมาวางข้างเท้าของนางและหวังซื่อ แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มระรื่น “คุณหนูห้ากำลังปรนนิบัติองค์หญิงรับสำรับ แต่ก็ยังห่วงพวกท่านทั้งสอง เลยส่งบ่าวมามอบกระเช้าอุ่นให้พวกท่านผิงไฟโดยเฉพาะเ้าค่ะ”
กระเช้าอุ่นใบนั้นขาดกะรุ่งกะริ่ง มองแวบเดียวก็ดูออกว่าเป็ของที่ใช้กันเมื่อหลายปีก่อน ไม่รู้ว่าขุดออกมาจากซอกหลืบไหนในสวนมวลบุปผาหอม
เยี่ยนฟางหวารู้สึกเพียงว่าตนเองโกรธจนจะหน้ามืดแล้ว
เยี่ยนเจาเจา นี่มันฉีกหน้า! ฉีกหน้ากันจะๆ เลย!
ถ่านหินที่ใช้กับกระเช้าอุ่นใบเล็กข้างเท้าพวกนางก็ไม่ได้เป็ของดีอะไร ยิ่งรวมกับไอชื้น ควันจึงพวยพุ่งออกมาจากกระเช้าไม่หยุด ฉุนจนเยี่ยนฟางหวาน้ำตาไหล
แต่เด็กรับใช้คนนั้นกลับไม่เอ่ยถึงเื่เข้าพบองค์หญิงสักนิด หลังจากวางกระเช้าอุ่นตามหน้าที่ก็ไม่รอหวังซื่อกับเยี่ยนฟางหวาเอ่ยอันใด เพียงเดินจากไปทันที
ดวงตาของเยี่ยนฟางหวาพลันมืดลงจริงๆ
เชิงอรรถ
[1] กระเช้าอุ่น หมายถึง ภาชนะสำหรับผิงไฟชนิดหนึ่ง เป็กระถางดินเผาหุ้มด้วยตะกร้าสาน โดยอาศัยถ่านเป็ตัวให้ความร้อน