“ฮึ บุรุษผู้ประเสริฐไม่ทะเลาะกับอิสตรี นับว่าเ้าร้ายกาจก็แล้วกัน” จ้านอู๋มิ่งรู้สึกหดหู่ซึมเซาแล้ว นี่เกี่ยวอะไรกับนางด้วย ไข่นกอินทรีสายฟ้าที่ตนได้มาเองยังไม่ยอมให้กิน ไม่ได้กินถูกไข่ของคุณหนูใหญ่หลิ่วเ้าสักหน่อย ทำให้เ้าต้องโกรธมากขนาดนี้ด้วย
“น่าเสียดายเกินไปแล้ว!” เหยียนควนก็ถอนหายใจออกมาคำหนึ่งเช่นกัน คุณชายสี่ตระกูลจ้านที่ไม่โดดเด่นคนนี้รสนิยมสูงไปหน่อยแล้ว ไข่นกอินทรีสายฟ้าล้ำค่ามากขนาดนี้กลับเอามากินเสียอย่างนั้น
“ข้าบอกแล้วไงว่าพวกเ้ามีแขนขาทั้งสี่ที่พัฒนาแข็งแกร่งขึ้น ความนึกคิดธรรมดาสามัญ มีความเมตตากรุณาของสตรี ถ้าข้าไม่กินไข่นก ผงเปลือกไข่จะมาจากไหน ไม่ใส่ผงเปลือกไข่แล้ว จะทำให้นกอินทรีสายฟ้าจัดการกับตระกูลเจิ้งได้อย่างไร ไม่ใช้นกอินทรีสายฟ้าจัดการกับพวกมัน หรือว่าจะให้พวกเ้าหลายคนเข้าไปต่อสู้เสี่ยงชีวิตหรือ?” จ้านอู๋มิ่งจ้องเหยียนควนถามขึ้นอย่างอารมณ์มิค่อยดีนัก “เ้าจะออกไปสู้?” แล้วหันไปมองทางเจี่ยชิง “หรือว่าเ้าออกไปสู้?” สุดท้ายหันหน้ามาทางหลิ่วหว่านอวี๋จ้องแล้วถามว่า “หรือบางทีเป็เ้าที่ออกไปสู้?”
เนิ่นนานต่อมา จ้านอู๋มิ่งพูดอย่างโกรธเคืองขึ้นอีกว่า “มิเห็นหรือว่าผู้อื่นเป็ถึงนายท่านสองเจิ้ง ราชันาระดับสามดาว พวกเ้าทั้งหมดนี้กล้าโผล่หน้าออกไป ผู้อื่นหนึ่งคนหนึ่งฝ่ามือ ก็ถูกฆ่าเสียชีวิตกันหมดแล้ว แล้ว้าไข่นกมามีประโยชน์ผายลมอันใด ยังมิสู้เอามากินเพิ่มพลังกันสักเล็กน้อยยังดีกว่า เื่จัดการกับศัตรูมอบให้นกอินทรีสายฟ้าไปกระทำก็ใช้ได้แล้ว”
ทุกคนประหลาดใจจนเงียบกริบอีกครั้ง คำพูดของจ้านอู๋มิ่งไม่สามารถจะโต้แย้งได้ ตระกูลเจิ้งมาครั้งนี้ไม่เพียงมีราชันาสามดาวเท่านั้น ยังมีราชันาสี่ดาว ยิ่งราชันาหนึ่งดาวด้วยแล้วมีถึงห้าคน ถึงแม้ตอนนี้จะสูญเสียเหลือเพียงเจิ้งหย่งฟูราชันาสามดาวคนนี้และราชันาหนึ่งดาวสองคน แต่ก็ยังสามารถต่อสู้กับพวกเขาจนอวนขาดปลาตาย[1] ได้ เพียงแต่พวกเขาไม่เข้าใจ จ้านอู๋มิ่งใช้ผงเปลือกไข่ ทำให้นกอินทรีสายฟ้าไล่ล่าตามฆ่าเจิ้งหย่งฟูและคนอื่นๆ ได้เช่นไร
ยังมิทันรอให้พวกเขาถามจ้านอู๋มิ่ง ก็เห็นเงาร่างคนผู้หนึ่งทะยานขึ้นมาทางยอดเขาอย่างรวดเร็ว ทุกคนตื่นเต้นขึ้นมาทันใด
“เหยียนอี้…” เหยียนควนสีหน้าแปรเปลี่ยน เขาจำคนที่กำลังขึ้นูเามาอย่างรวดเร็วได้ ตระกูลหลิ่วและตระกูลเจิ้งขัดแย้งกันเป็เวลานาน ยอดฝีมือระดับาาาขึ้นไปของตระกูลเจิ้ง ตระกูลหลิ่วล้วนมีบันทึกข้อมูลไว้ ถึงแม้เหยียนอี้จะเป็เพียงาาาระดับหนึ่งดาว ก็อยู่ในข้อมูลของตระกูลหลิ่วเช่นกัน อีกทั้งยังเคยประมือกันหลายครั้ง
“เพียงคนเดียวก็ยังกล้าขึ้นมารนหาที่ตาย…” เจี่ยชิงสีหน้าผุดรอยยิ้มเย็นเยียบ พลังจิติญญาแห่งการต่อสู้รวมตัวขึ้นรอบทิศทันที เหมือนเมฆฝนควบแน่นเป็แม่น้ำสีส้มสายหนึ่ง
“อย่าลงมือ ตอนนี้เขาไม่ได้เป็คนของตระกูลเจิ้งอีกต่อไปแล้ว เขาคือคนรับใช้ของข้า” จ้านอู๋มิ่งรีบขัดจังหวะเจี่ยชิงที่กำลังควบแน่นรวบรวมพลังปราณ
เจี่ยชิงหยุดชะงัก ทุกคนสีหน้าประหลาดใจมองจ้านอู๋มิ่งอย่างสงสัย เหยียนควนถามขึ้นอย่างเชื่อครึ่งกึ่งสงสัยว่า “เ้าบอกว่าเขาเป็คนรับใช้ของเ้า?”
“เื่นี้จะโกหกเ้าไปเพื่ออะไร ่เวลาก่อนหน้านี้ นายท่านสามเจิ้งเสียชีวิตแล้ว ข้าช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เขาก็เลยยอมรับข้าในฐานะเ้านาย” จ้านอู๋มิ่งหัวเราะ พูดอย่างสบายๆ
“เจิ้งอวี้ฟูตายแล้ว?” ทุกคนตื่นตระหนกอีกครั้ง เจิ้งอวี้ฟูเพิ่งตายมินานและตายในป่าสัตว์อสูร ถึงที่สุดมันมิใช่เื่ราวที่ควรแก่การพูดถึง ดังนั้นโลกภายนอกจึงยังมิทราบเื่การตายของเจิ้งอวี้ฟู
“มิผิด ตายที่นอกหุบเขาค่างปีศาจนี้เช่นกัน ก็คือครั้งที่ข้าขโมยเมรัยเมื่อคราวก่อน” ระหว่างที่จ้านอู๋มิ่งพูดจา เหยียนอี้เหินร่างมาถึง ตอนที่เขาเห็นกลุ่มคนรอบๆ จ้านอู๋มิ่ง สีหน้าพลันแปรเปลี่ยนเป็เคร่งเครียด เขาทราบดีด้วยพลังการบ่มเพาะของเหยียนควนและเจี่ยชิง เพียงพอที่จะจัดการเขาจนน่วม
“ไม่ต้องกังวล ล้วนเป็คนกันเองทั้งสิ้น” จ้านอู๋มิ่งยิ้มๆ
เหยียนอี้ได้ยินจึงก็ค่อยๆ ลดท่าทีระวังตัวลง แสดงความคารวะจ้านอู๋มิ่งครั้งหนึ่งพูดว่า “ทุกอย่างเป็ไปตามแผนของคุณชาย”
“นกอินทรีสายฟ้ามาแล้ว ความเร็วของเ้าไม่สามารถเทียบได้กับนกอินทรีสายฟ้า” จ้านอู๋มิ่งหัวเราะพูดขึ้น
“แผนอะไรของเ้ากันแน่?” ความอยากรู้ในใจหลิ่วหว่านอวี๋ยิ่งทวีมากขึ้น จ้านอู๋มิ่งพฤติกรรมลึกลับตลอดมา ยามนี้มีคนรับใช้ระดับราชันาเพิ่มมาอีกหนึ่งคน คนรับใช้ผู้นี้กลับเคยเป็แขกรับเชิญของตระกูลเจิ้ง
“ต้องขออภัยจริงๆ ข้าต้องขอกล่าวคำขอโทษพวกท่านสักคำ อันที่จริงสาเหตุที่นกอินทรีสายฟ้าบ้าคลั่งขึ้นเมื่อวานนี้ เป็เพราะข้ามิทันระวังเผลอไปขโมยไข่พวกมันมา รังหนึ่งสี่ห้าใบ น่ารักมากเกินไปแล้ว ข้าทนไม่ไหวเลยเอามันมาทั้งหมด ดังนั้นนกอินทรีสายฟ้าจึงบ้าคลั่งขึ้นมา ข้าเองก็คิดไม่ถึงว่าพวกเ้าเข้ามาในจังหวะนั้นโดยบังเอิญ สุดท้ายเลยทำให้พวกเ้าต้องลำบากแล้ว” จ้านอู๋มิ่งปากพูดว่าขออภัยอย่างยิ่ง แต่ดูท่าทางของเขาสิ ไหนเลยจะมีท่าทีของการขอโทษจริงๆ เหมือนกับที่ปากพูด
“อา ที่แท้เมื่อวานเป็ฝีมือของเ้าเองที่ทำให้พวกเราเดือดร้อน!” คิ้วงามดุจใบหลิวของหลิ่วหว่านอวี๋คว่ำลงแล้ว
“เื่นี้ก็ตำหนิข้าไม่ได้เช่นกัน สายตานกอินทรีสายฟ้ามิดีเอง เห็นเพียงแต่พวกท่านแต่มิเห็นข้า เวลานั้นข้ามัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งหนีอยู่ ไหนเลยจะทราบว่าพวกท่านกำลังสู้ตายกับนกอินทรีสายฟ้าอย่างกล้าหาญเล่า…” คำพูดจ้านอู๋มิ่งแทบจะทำให้เหยียนควนและคนอื่นๆ โมโหจนเกิดอาการเจ็บหน้าอกเมื่อหายใจ อันใดเรียกว่านกอินทรีสายฟ้าสายตามิดีเอง อันใดเรียกว่าสู้ตายกับนกอินทรีสายฟ้าอย่างกล้าหาญ เมื่อวานนี้หลังจากที่เจอนกอินทรีสายฟ้า พวกเขาก็หนีเอาชีวิตรอดมาตลอดทาง แม้แต่เผชิญหน้าโดยตรงก็ยังมิกล้า
“เ้า!” หลิ่วหว่านอวี๋ยามนี้กะทันหันจนพูดจาไม่ออก จ้านอู๋มิ่งพูดมาก็ถูกต้อง เื่นี้มิอาจกล่าวโทษผู้อื่นเช่นกัน นกอินทรีสายฟ้า้าโจมตีผู้ใดนั่นเป็เื่ของนกอินทรีสายฟ้า ไม่ใช่สิ่งที่จ้านอู๋มิ่งสามารถควบคุมได้ ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อวานนี้นกอินทรีสายฟ้าจึงเหมือนดั่งเกลียดชังและมีความแค้นพยาบาทลึกล้ำใหญ่หลวง ติดตามไล่ล่าพวกเขาไม่ยอมเลิกรา ยังรวมตัวกันเป็กลุ่มใหญ่ พลันหลิ่วหว่านอวี๋นึกถึงคำพูดจ้านอู๋มิ่งเมื่อครู่ อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องเสียงแหลมพูดว่า “เ้าพูดว่า ไข่ทั้งสี่ห้าฟองในรังเ้าล้วนขโมยมาจนหมดแล้ว?”
จ้านอู๋มิ่งยักไหล่ แสดงว่าใช่
“เช่นนั้นไข่ที่เหลือล่ะ?” หลิ่วหว่านอวี๋เริ่มกังวลเกี่ยวกับไข่อีกแล้ว
“ฟองหนึ่งย่างกินแล้ว ฟองหนึ่งทอดกินแล้ว ยังมีอีกฟองทำไข่ต้ม…”
“เ้า ไอ้ลูกล้างผลาญครอบครัว!” หลิ่วหว่านอวี๋กำลังจะพังทลายแล้ว เท้าบินข้างหนึ่งเตะจนจ้านอู๋มิ่งล้มลงไปอยู่บนพื้น
จ้านอู๋มิ่งตบๆ ตรงก้นราวกับไร้เื่ราวใดๆ ลุกขึ้นมา พูดด้วยใบหน้าใสซื่อไร้เดียงสาว่า “นี่ยังมิใช่เพื่อช่วยพวกเ้าจัดการกับตระกูลเจิ้งหรอกหรือ?”
“ช่วยพวกข้าจัดการกับตระกูลเจิ้ง เมื่อวานนี้เ้ายังไม่รู้จักคุณหนูอย่างข้าเลยนะ เ้ายังหน้าไม่อายมาพูดว่าช่วยพวกเรา” หลิ่วหว่านอวี๋พูดอย่างดูแคลน
“อย่างไรก็ตามตระกูลเจิ้งเป็ศัตรูร่วมกันของพวกเรา ช่วยข้าก็คือช่วยพวกเ้า ไข่ไม่กี่ฟองนี่กินแล้วก็กินไปแล้ว เ้าคิดดูนะ ข้าให้เหยียนอี้เอาผงเปลือกไข่โรยบนพื้นั้แ่ผาไม้ดำมาถึงหุบเขาค่างปีศาจด้วย่เวลาที่เหมาะสม เพื่อให้นกอินทรีสายฟ้าติดตามกลิ่นอายของไข่ เปลือกไข่ฟองเดียวไม่เพียงพอหรอกนะ ดังนั้นได้แต่ต้องกินเพิ่มหลายฟองหน่อย พูดจริงๆ นะ ไข่นกอินทรีสายฟ้านี้เป็ของบำรุงชั้นเลิศจริงๆ ั้แ่เมื่อวานถึงตอนนี้ข้ายังรู้สึกพลังเต็มเปี่ยม ัผยองพยัคฆ์ลำพอง…”
“ข้าจะเรียกเ้าว่าไอ้บ้าพลัง ข้าจะเรียกเ้าว่าไอ้ัผยองพยัคฆ์ลำพอง…” พลันหลิ่วหว่านอวี๋ทุบใส่ด้วยหมัดชุดใหญ่ ฟันเสือน้อยกัดเสียงดังกรอดๆ ตลอดเวลา การมีสัตว์เลี้ยงน่ารักเป็นกอินทรีสายฟ้าสักตัวเป็ความใฝ่ฝันของนางตลอดมา แต่นกอินทรีสายฟ้าตัวเล็กๆ ไม่สามารถเลี้ยงให้เชื่องได้ ดังนั้นนกอินทรีสายฟ้าสัตว์อสูรชนิดนี้จำเป็ต้องเก็บไข่ของพวกมันมา จึงจะมีโอกาสเลี้ยงมันให้เชื่องั้แ่ตัวเล็กๆ ทางตระกูลเคยพยายามช่วยนางเก็บมา่หนึ่ง แต่ก็มิเคยเก็บได้ ครั้งนี้นางอยากไปผาไม้ดำเพื่อขโมยไข่นกด้วยตนเอง ไม่คิดว่าจะมาพบเจอกับเื่แบบนี้ ภายใต้อันตรายเกือบเสียชีวิตแต่ก็สามารถรอดกลับมาได้ แล้วค้นพบสมบัติวิเศษสุดแสนหายากที่ตนเองใฝ่ฝันมาตลอด แต่ถูกเ้าหมอนี่ที่มิโดดเด่นคนหนึ่งถือเป็เนื้อสุกรกับผักสีเขียว กินเข้าไปแล้ว นั่นจะต้องเสียใจเพียงไร ะเืใจเพียงไหน
การโจมตีของหลิ่วหว่านอวี๋ทำให้คนที่อยู่ด้านข้างดูแล้วต้องส่ายหน้า เ้าเป็ปรมาจารย์นักยุทธ์คนหนึ่ง ผู้อื่นแม้แต่พลังจิติญญาแห่งการต่อสู้ก็ไม่มี หมัดหนักหน่วงของเ้านี้ ผู้อื่นก็ยังเพียงแค่กุมหัวร้องโวยวายลั่นเท่านั้น เห็นได้ชัดว่ามิได้ใช้พลังจิติญญาแห่งการต่อสู้ ด้วยมิอาจตัดใจทำร้ายเขานั่นเอง จิตใจของสาวน้อยวัดจากสามัญสำนึกหรือเหตุผลธรรมดาไม่ได้จริงๆ
“หยุด หยุด…หยุด!” จ้านอู๋มิ่งกุมศีรษะร่ำร้องขึ้น
“มีวาจารีบพูด มีลมรีบผาย คุณหนูอย่างข้ายังไม่หายโมโห เ้าตัวล้างผลาญครอบครัวนี่ กลับเอาไข่ดีๆ ขนาดนี้มากินจนหมดสิ้นแล้ว…”
“ข้ามีข้อเสนออย่างหนึ่ง ถ้าหากคุณหนูหลิ่วเรียกข้าท่านพี่แสนดีคำหนึ่ง ข้าจะต้องคิดวิธีเก็บไข่นกอินทรีสายฟ้ามาให้เ้าฟองหนึ่ง ถึงเวลานั้นเ้าจะนำไปทอดหรือย่างล้วนแล้วแต่เ้า” จ้านอู๋มิ่งพูดด้วยสีหน้าน่าสงสาร
“เ้า...คิดจะเอาเปรียบข้า ไข่ล้วนถูกเ้าขโมยจนหมดแล้วชัดๆ เ้าพูดจริงหรือ?” หลิ่วหว่านอวี๋พลันสีหน้าแปรเปลี่ยน ถามด้วยความยินดีและแปลกใจ นางคิดถึงปัญหาข้อหนึ่งขึ้นมาได้ จ้านอู๋มิ่งบอกว่าในรังนั้นมีไข่อยู่สี่ห้าฟอง ฟองหนึ่งทอดกิน ฟองหนึ่งย่างกิน ฟองหนึ่งต้มกิน ใช้ไปเพียงแค่สามฟอง ไยมิใช่เหลืออีกสองฟอง ถ้าหากเพียงแค่เรียกท่านพี่แสนดีคำหนึ่งก็สามารถได้รับไข่นกอินทรีสายฟ้าฟองหนึ่ง คุ้มค่าถึงเพียงนี้
“วาจาเป็สัจจะ พูดแล้วไม่คืนคำ เ้าจะเรียกหรือไม่เรียกล่ะ?” จ้านอู๋มิ่งถามวาจาเสียงหนักแน่น
“ท่านพี่ที่แสนดี…” หลิ่วหว่านอวี๋สีหน้าแดงระเรื่อ จนต้องเรียกออกมาอย่างอึดอัดงุ่มง่าม แต่ยามเผชิญหน้ากับหมอนี่ที่มิโดดเด่นคนนี้ ในใจนางกลับเกิดระลอกคลื่นขึ้นมาระลอกหนึ่ง
“ไม่ได้ยิน เสียงเบาอย่างนี้…” ทันใดในมือจ้านอู๋มิ่งเพิ่มไข่ฟองใหญ่เปล่งประกายสีเขียวออกมาฟองหนึ่ง เหมือนกับมะกอกั์ที่เปล่งประกายยันต์ลวดลายสายฟ้าเล็กๆ ก็มิปาน
“อา…” หลิ่วหว่านอวี๋กรีดเสียงแหลมเล็กคราหนึ่ง นี่คือไข่ของนกอินทรีสายฟ้า ตำนานเล่าว่านกอินทรีสายฟ้าไม่เพียงสื่อสารธาตุสายฟ้าได้เท่านั้น และในขณะเดียวกันก็ควบคุมธาตุลมได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นสีของไข่จึงเป็เขียว อัตราความเร็วรวดเร็วสุดเปรียบปาน
“เรียกท่านพี่ อย่าแย่ง…” จ้านอู๋มิ่งะโ เอาเก็บไข่ข้างหลังด้วยมือเดียว
“ท่านพี่แสนดี…” หลิ่วหว่านอวี๋ไหนเลยจะสนใจภาพลักษณ์อะไรอีก แย่งไข่เอามาไว้ในมือ
“รีบเก็บขึ้นมา อย่าให้นกอินทรีสายฟ้าัักลิ่นอาย” จ้านอู๋มิ่งพูดเตือนขึ้น
หลิ่วหว่านอวี๋พอได้ยิน พลันใทันใดรีบเร่งเก็บไข่ขึ้นมา นางกลัวจริงๆ ว่าสิ่งที่นางเพิ่งได้รับจะสูญหายไปอีก
“เอาล่ะ พวกเราได้เวลาอันสมควรไปซ้ำเติมฝ่ายที่เพลี่ยงพล้ำแล้ว คาดว่านกอินทรีสายฟ้าคงทำอะไรนายท่านสองเจิ้งไม่ได้ พวกเรายังคงต้องลงมือเองอยู่ดี” จ้านอู๋มิ่งมองดูสัตว์อสูรวานรสองสามตัวกำลังทำความสะอาดสมรภูมิในระยะไกล สัตว์อสูรราชันวานรถูกทำร้ายได้รับาเ็สาหัส หลังจากฆ่าเจิ้งหงแล้วมันก็รีบกลับไปที่ถ้ำเพื่อบ่มเพาะฟื้นฟูพลัง สัตว์อสูรวานรทั้งหุบเขาค่างปีศาจตายและาเ็จำนวนมาก หุบเขาค่างปีศาจนับว่าสูญเสียอย่างหนักหนาสาหัสจริงๆ
จ้านอู๋มิ่งไม่อยากพลาดแหวนจักรวาลของเจิ้งหง ราชันาระดับสี่ดาวผู้สง่างาม ของที่อยู่ในแหวนจะต้องมีไม่น้อยอย่างแน่นอน จะปล่อยให้สัตว์อสูรวานรเ่าั้ได้ไปสิ้นเปลืองเปล่าๆ ได้อย่างไร
“เหยียนอี้ ไปช่วยเก็บแหวนจักรวาลเอามาให้ข้า สิ่งของไม่ควรปล่อยให้สิ้นเปลืองเปล่าๆ” จ้านอู๋มิ่งออกคำสั่ง เหยียนอี้เข้าใจทันที รีบทะยานไปที่สมรภูมิการต่อสู้ที่เพิ่งจบลงทันที
เหยียนควนประหลาดใจจนบ้าใบ้ แหวนเ่าั้เป็ของเขาแล้วั้แ่เมื่อไร เ้านี่ร่ำรวยโชคลาภจากคนตายโดยมิรู้จักเกรงใจเลยสักนิดเดียวจริงๆ คิดอยู่ครู่หนึ่ง เหยียนควนก็ติดตามไปด้วยเช่นกัน คนของตระกูลจี้และตระกูลเจิ้งล้วนจากไปหมดสิ้นแล้ว สัตว์อสูรวานรหลายตัวาเ็าแเต็มไปหมด ไม่มีอะไรต้องไปวิตกกังวล
“พวกเรารออยู่บนเขาอีกสักพัก เื่พวกนั้นปล่อยให้เป็งานของราชันแห่งา พวกเราอีกสักครู่ช่วยพวกเขานับรายการสิ่งของก็ใช้ได้แล้ว” จ้านอู๋มิ่งยืดเอวบิดตัวไปมาอย่างสุขสบายสำราญใจยิ่งนัก สายตามองไปที่ไกลๆ สมควรถึงเวลาสาวอวนปิดท้ายแล้ว มิรู้ว่านายท่านสองเจิ้งมาสิ้นชีวิตที่นี่เช่นกัน ตระกูลเจิ้งจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่อาจปล่อยให้คนตระกูลเจิ้งมีชีวิตรอดหวนกลับเมืองมู่เหย่ได้แม้แต่คนเดียว หลังจากเื่ราวครั้งนี้ สมรภูมิการต่อสู้เพื่อต่อต้านตระกูลเจิ้งควรอยู่นอกเมืองมู่เหย่ ตระกูลหลิ่วจะเป็ตัวเลือกที่ดีมากอีกทางหนึ่ง
เหยียนอี้กลับมาอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่พบแหวนจักรวาลของเจิ้งหง เหยียนควนและคนอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน แหวนจักรวาลของราชันาล้วนหายหมดสิ้นแล้ว จ้านอู๋มิ่งหัวเราะแล้ว มันคงอยู่ในมือของจี้เซี่ยงหนานอย่างแน่นอน อยู่ในมือจี้เซี่ยงหนานแทบเหมือนกับอยู่ในมือของตนเอง
“ไปกันเถอะ ขืนไม่ตามไปอีกพวกมันก็จะหลบหนีไปไกลแล้ว” จ้านอู๋มิ่งลงจากูเาด้วยท่าทีผ่อนคลาย ทุกคนกังวลว่าจ้านอู๋มิ่งจะตามไม่ทัน เหยียนอี้นำสัตว์อสูรนกกระจอกสีขาวมาให้ตัวหนึ่ง
“พวกเ้าล้วนเป็ยอดฝีมือ ย่อมไม่้าพาหนะ ได้แต่ให้ข้าสนุกเพลิดเพลินใช้มันคนเดียวแล้ว ถ้าหากน้องสาวแสนดีคิดจะขี่ พวกเราสามารถร่วมขี่ตัวเดียวกันนะ” จ้านอู๋มิ่งพูดพร้อมสีหน้ามีรอยยิ้มชั่วร้าย
“ผู้ใดเป็น้องสาวแสนดีของเ้า” ใบหน้าหลิ่วหว่านอวี๋แดงก่ำขึ้นมาทันใด
“เมื่อครู่ท่านพี่แสนดีก็เรียกแล้ว ทุกคนล้วนได้ยินกันถ้วนหน้าแล้ว ตอนนี้กลับไม่ยอมรับขึ้นมา การเปลี่ยนแปลงนี้รวดเร็วเกินไปแล้วกระมัง” จ้านอู๋มิ่งเรียกร้องเงื่อนไขขึ้นมา
“อันนั้นไม่นับ เ้าคนสารเลว…” สีหน้าหลิ่วหว่านอวี๋อับอายขวยเขิน หันกายวิ่งไปทางข้างหน้าทันที
ด้านหลังแว่วเสียงหัวเราะอย่างดื้อด้านของจ้านอู๋มิ่ง
[1] ตายตกตามกันไปทั้งสองฝ่าย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้