“ซูหนี่ว์ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ข้ารับประกันว่านางจะไม่ไปบอกใคร ท่านวางใจได้” แม้แต่เหม่ยฉียังไม่เข้าใจตัวนางเอง เหตุใดนางมีกิริยาวาจาร้ายกาจเหมือนเยว่ฉี กระนั้นนางยังจับงูได้เร็วกว่าความคิดในหัวนาง ยกงูตัวใหญ่ในมือขึ้นเหมือนนางกำลังจับงูจงอางั์สักตัวมาเป็เพื่อนเล่น “ท่านมาทำลับ ๆ ล่อ ๆ ในพุ่มไม้หลังโรงยา ลักลอบมาหาข้าแต่หัววัน มีธุระอันใดเ้าคะ? ใต้เท้าเจี้ยน”
‘ปล่อยข้า’
เสียงในภวังค์ดังขึ้น นางประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนนึกขึ้นได้ว่าไม่มีทางที่เสียงของใต้เท้าจะออกมาจากปากงู นางถอนหายใจ ปล่อยอสรพิษร้ายแล้วยืนหันหลัง เอามือกอดอก ให้เวลาเขาสวมเสื้อผ้า
เจี้ยนหยู่กำลังสงสัยนาง ทว่าเยว่ฉีก็ฉลาดนัก นางเอะใจั้แ่ทหารองครักษ์ของเขาไม่มาเฝ้าประตูหน้าโรงปรุงยาแล้ว ยิ่งเขาควรจะต้องจับตาดูนางอย่างเข้มงวด
“ท่านได้ยินที่ข้าพูดกับสาวใช้หรือไม่? ใต้เท้า”
“ข้าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น”
ลึก ๆ ในใจบุรุษทั้งสับสนหวาดกลัว เขาหลบเลี่ยงการสบตา ขณะที่นางมองเขาด้วยแววตาอ่อนโยน นางยิ้ม เชิญชวนเขาเข้าไปชิมยาสูตรใหม่ เขาสวมชุดสีนิลสองชั้นและผ้าคาดเอว เป็เสื้อผ้าที่หยิบมาอย่างเร่งรีบ
“เยว่ฉี... เ้าไม่เคยยิ้มให้ข้า”
“มีรอยยิ้มให้เพียงบิดากับชายที่รัก แล้วมิตรสหายผู้มีพระคุณ ผู้ดูแลข้าเป็อย่างดีเล่า? เป็ไปได้หรือว่าข้าจะไม่สนใจไยดีสักนิด”
“เ้าเ็า สุขุม เพราะข้าเคยสอนเ้าให้ปกปิดอารมณ์จากศัตรู มิตรสหาย มนุษย์ไม่แน่นอน จากมิตรสหายอาจกลายเป็ศัตรู วันใดวันหนึ่ง”
‘ก็จริงอย่างที่ท่านพูดนั่นแหละ ในนิยายเื่นี้หลังจากที่ข้าแต่งงานกับท่านผู้ตรวจการ สามีที่ว่าดี สุดท้ายก็หายหัวไปต่างแคว้นจนวันที่อันตรายมาถึงตัว ข้ามีแค่ท่านเคียงข้างกาย ท่านเลือกที่จะตายแทนข้า’ นางคิดในใจ ส่งชามดินเผาให้แม่ทัพเจี้ยนหยู่ ไหน ๆ เขาก็มาถึงโรงยานางแล้ว ก่อนที่นางจะเดินไป เขาเดินตามนางเช่นเงา มองนางก้มลงเก็บไม้ใบกลมเล็กขึ้นอยู่ริมคูน้ำ ดวงตาเรียวรีมีรอยยิ้มอยู่ภายใน
“ไป๋จูหมู่ไช่[1]แก้ร้อนใน แก้พิษโลหิต ทำให้เืเย็น หนึ่งตำลึงต้มน้ำชงเหล้า อีกต้นนี้... ต้าฝูผิง[2] แก้พิษผื่นได้ดี แก้คันด้วยเ้าค่ะ ท่านจำได้ไหม?” นางปิดปากหัวเราะจนหัวไหล่สั่น เมื่อนึกถึงร่างกระดำกระด่างของงูเผือกพยายามไถตัวไปหินกรวดคม มันไถไปไถมาไม่หยุด
แม่ทัพเจี้ยนหยู่เบิกตากว้างโมโห นั่นเป็ครั้งเดียวที่เห็นนางยิ้มจริง ๆ แต่นางหัวเราะต่างหาก! นางหัวเราะเยาะเขาเพราะต้นไม้แก้คันในมือ
“เงียบเดี๋ยวนี้ เ้า... หญิงแพศยา ไร้ยางอาย!”
หากว่าคืนนั้นไม่ได้สมุนไพรของเยว่ฉี แม่ทัพเจี้ยนหยู่ผู้กินของผิดสำแดงมาคงเจ็บ ๆ คัน ๆ ไปถึงรุ่งอรุณ
แม่ทัพใหญ่กลับมาจากสนามรบ นำกำลังพลนับแสนนายไปปราบฏ ใช้พละกำลังมากมหาศาลจนไม่มีเหลือ เขาสะบักสะบอมกลับมาพร้อมชัยชนะ พิชิตแคว้นฉู่แคว้นไห่ เข้าเฝ้าฮ่องเต้องค์ใหม่ ครั้นฮ่องเต้จะตกรางวัลให้ เขาก็ไม่ยอมรับแม้สักสิ่งหนึ่งให้เป็บุญคุณต่อกัน เขากล่าวว่าเขาอยู่ในแผ่นดินต้าเหลียงเพราะที่นี่เป็บ้านของเขา
ถึงเวลามื้อค่ำ ดื่มสุราสังสรรค์ เขานั่งทำงานในกระโจมใกล้กับกำแพงเมือง ไม่ได้กลับไปพักผ่อน เยว่ฉีพบอสรพิษเผือกตัวใหญ่นอนเกลือกกลิ้งอยู่ในกระโจม นางกุมท้องหัวเราะดังลั่นอย่างคนไม่เคยหัวเราะ นางไม่คิดว่าปีศาจสามารถเจ็บป่วยได้ ก่อนที่นางจะรีบกลับไปต้มสมุนไพรรักษาอาการคันให้เขา
เหม่ยฉีทำให้เขาอับอายขายหน้าพอสมควร วันถัดมา ทันทีที่ตะวันทอแสงรำไร ทหารหนุ่มฝึกวิชาหอกทวนอยู่ด้านหน้ากระโจม นางกลับมาปฏิบัติหน้าที่ ถือตะกร้าต้มน้ำแกงเป็ยาอายุวัฒนะนำมาให้เขา
“เ้าวางไว้...”
ใบหน้าดุดันก้มมองนาง แล้วหันไปสนใจทหารสามสิบนายถือทวนอย่างเข้มแข็ง เหม่ยฉีลอบยิ้ม ก้มหน้ามองพื้น “เ้าค่ะใต้เท้า”
เหม่ยฉีนอบน้อมถ่อมตนกว่าวันก่อน นางคิดว่ารังแกเขามากเกินไปจนนางรู้สึกผิดซะเอง นางวางตะกร้าไม้ลงบนโต๊ะกลม กลิ่นอาหารหอมฟุ้งไปทั่ว
“เ้าไม่เคยทำอาหารมา”
“ข้าเสียมารยาทกับใต้เท้า ล่วงเกินท่านด้วยเสียงหัวเราะน่ารำคาญ จึงตื่นแต่เช้ามาทำอาหารกับบ่าวรับใช้เป็การไถ่โทษ”
“ข้าเพียงเสียอารมณ์เล็กน้อย ไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร” เจี้ยนหยู่จริงใจต่อนาง เขาเหมือนจะอ้าปากถามบางเื่กับนาง ชิงพูดขึ้นเสียก่อน
“ต้มสมุนไพรบำรุงร่างกายไม่ต่างจากยา เพียงต่างวิธีทำ น้ำแกงนี้อร่อย น้ำต้มรากบัว ดื่มเป็ประจำป้องกันได้สารพัดโรค ไก่ตุ๋นเปลือกทับทิมปรับการไหลเวียนโลหิต ไม่ต้องกังวลว่าข้าจะวางยาพิษท่าน”
เป็เื่ที่รู้กันว่าปีศาจอสรพิษต้านพิษทุกชนิด เหม่ยฉีจัดวางอาหารในกระโจมอย่างเป็ระเบียบ ค่อยออกไปพบแม่ทัพใหญ่ที่กำลังฝึกหทาร
เจี้ยนหยู่ไม่เลิกสงสัยนาง เขาท่าทางสองจิตสองใจ ไม่รู้นางมีแผนการอะไร เขารู้จักนางมานาน หลายวันมานี้เหมือนกับว่าเขาไม่รู้จักนางเลย กระทั่งนางยกมือโขกศีรษะ ขอตัวลาไปทำธุระประปรังในเรือนท่านหมอหลวง
“เยว่ฉี...” ปลายเสียงอึกอัก เขากลอกตาไปมา กว่าจะพูด “เื่เงิน... ขอผ่อนจ่าย”
“ข้าร่ำรวยมากเกินจะรับเงินเล็กน้อยเ้าค่ะ ช่างเถิด ท่านอย่าเก็บมาใส่ใจ ข้าลาเ้าค่ะใต้เท้า”
“เยว่ฉี!” เรียกเสียงดังลั่น ทหารที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ มองตาม ทว่าพอสบเข้ากับสายตาดุดันของแม่ทัพใหญ่ หมายความว่าพวกเขาไม่ควรยุ่ง ต่างคนก็กลับมาไปสนใจงานของตน เขาประจันหน้าสตรีร่างผอมบางด้วยความกล้า แม้ว่านางมีสีหน้างุนงง “ข้าบอกจะจ่าย ก็คือข้าจะจ่ายเ้า”
“ตามใจใต้เท้าเ้าค่ะ”
[1] 白猪母菜 ผักเบี้ยขาว : Lindernia pysidria ALL.
[2] 大薸 จอก : Pistia stratiotes Linn ผักกอก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้