อุณหภูมิบนเกาะนั้นสูงอย่างยิ่ง เย่เฟิงที่เพิ่งเหยียบชายหาดหินกรวดของเกาะรู้สึกได้ว่าชุดที่เปียกชุ่มน้ำทะเลเริ่มแห้ง อุณหภูมิรอบเกาะพุ่งสูงถึงห้าสิบองศาเซลเซียสแล้ว หากเข้าใกล้ใจกลางเกาะ อุณหภูมิต้องยิ่งสูงขึ้นแน่
ชายหนุ่มเงยหน้า ทำให้เห็นร่างขนาดใหญ่ที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังอยู่ห่างออกไป มันคือปีศาจกระทิงที่มีเปลวเพลิงลุกโชกบนร่าง บนหัวมีสี่เขา นอกจากหัวแล้วส่วนอื่นของมันมีรูปร่างไม่ต่างจากมนุษย์เลย เพียงแต่ร่างของมันสูงสามถึงสี่เมตร ดูสูงใหญ่ผิดปกติ
“เป็ราชันหั่วยวินเยาจริงด้วย”
เย่เฟิงครุ่นคิดพร้อมกับวิ่งไปยังใจกลางเกาะอย่างเร่งรีบ
เขารับรู้ถึงกลิ่นอายของซูเฟยหยิ่งที่กระจายออกมาจากใจกลางเกาะ เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังต่อสู้กับราชันหั่วยวินเยาอย่างดุเดือด แต่เย่เฟิงรู้สึกได้ว่าราชันหั่วยวินเยาที่อยู่ตรงหน้าดูแตกต่างจากตอนที่เขาพบครั้งก่อน ไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอก แต่ดูเหมือนพละกำลังของมันจะอ่อนแอลงไม่น้อย หากบอกว่าแต่เดิมราชันหั่วยวินเยามีระดับพลังหนึ่งร้อยปีแล้วล่ะก็ ราชันหั่วยวินเยาที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้กลับมีระดับพลังราวๆ สี่สิบห้าสิบปีเท่านั้น เปรียบเทียบดูแล้ว สภาพเขาในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าฉีหลินจือเพียงเล็กน้อย แต่ตอนนี้ซูเฟยหยิ่งาเ็รุนแรงจากเปลวเพลิง ด้วยสภาพเช่นนี้เธอจึงไม่มีข้อได้เปรียบเลยเช่นกัน
“แม่นางน้อย ยอมให้จับซะดีๆ เถอะ!”
ราชันหั่วยวินเยาตะคอกด้วยความป่าเถื่อน น้ำเสียงแฝงความดุดันโเี้ หากซูเฟยหยิ่งถูกจับตัวได้เมื่อไรย่อมต้องถูกเขาฉีกเป็ชิ้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย แน่นอนว่าก่อนหน้านั้น เ้าราชันหั่วยวินเยาจะทำอะไรเธอบ้างย่อมไม่มีใครรู้เลย ความคิดของุ์เป็สิ่งที่มนุษย์ธรรมดาไม่อาจคาดเดาได้
เป็อย่างที่คาดการณ์ไว้ ซูเฟยหยิ่งไม่มีท่าทีตอบสนองเสียงคำรามของราชันหั่วยวินเยาเลยแม้แต่น้อย
เย่เฟิงวิ่งขึ้นไปบนยอดเขา ในแวบแรกเขาเห็นร่างสูงใหญ่อยู่ห่างออกไปเกือบสี่เมตร เงาร่างงดงามวูบไหวผ่านไปพร้อมกับความเย็นเฉียดกาย นั่นก็คือซูเฟยหยิ่ง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการจู่โจมราวกับสัตว์ป่าของราชันหั่วยวินเยา ซูเฟยหยิ่งก็ยังมีสีหน้าเรียบเฉย น่าเสียดาย แม้แต่เย่เฟิงที่อยู่ไกลออกไปยังรับรู้ถึงอุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มสูงขึ้นของเธอ หยาดเหงื่อหลั่งไหล ยิ่งต้านทานก็ยิ่งอ่อนแรงมากขึ้น ทันใดนั้นสายตาเ็าของซูเฟยหยิ่งก็มองไปทางเย่เฟิง เป็แววตาที่แฝงไปด้วยการตำหนิและกังวล เธอคาดไม่ถึงว่าเย่เฟิงจะปรากฏตัวในเวลานี้
หากราชันหั่วยวินเยาเจอเย่เฟิงเข้าจะเป็อย่างไร?
ใบหน้าสวยของซูเฟยหยิ่งยังคงเรียบเฉย แต่เย่เฟิงรู้ดีว่าในใจของเธอกำลังกระวนกระวายอย่างยิ่ง ใน่เวลาที่อยู่โลกเทวะ ทุกครั้งไม่ว่าจะพบอันตรายอะไร ซูเฟยหยิ่งจะห่วงความปลอดภัยของเขาและคอยปกป้องอยู่ด้านหน้าเสมอ
“อาจารย์ ครั้งนี้ผมจะช่วยอาจารย์เอง”
เย่เฟิงขบกรามแน่น เตรียมเคลื่อนไหว
ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กอ่อนแอเหมือนตอนที่อยู่โลกเทวะอีกแล้ว บนโลกนี้มีทรัพยากรมากมายที่จะเพิ่มพลังให้เขาแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขามีพลังระดับยี่สิบปีแล้ว แม้ระดับพลังของเขาจะด้อยกว่าซูเฟยหยิ่งมาก แต่หากพูดถึงการต่อสู้แล้ว เย่เฟิงย่อมสามารถเข้าไปแทรกการต่อสู้ของคนทั้งคู่ได้แน่นอน
สิ่งที่เย่เฟิงจะนำมาใช้ก็คือเคล็ดกระบี่ไร้ตัวตน!
ชายหนุ่มได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชานี้จากแหวนกระบี่ัโบราณ ทั่วทั้งโลกเทวะ เคล็ดวิชานี้ถือว่าไม่ด้อยกว่าใคร หากฝึกจนถึงระดับสูงสุด ต่อให้เป็ราชันหั่วยวินเยาจะนับเป็อะไรได้ ยิ่งกว่านั้นตอนนี้ความแข็งแกร่งของราชันหั่วยวินเยายังลดลงจากเดิม
เมื่อซูเฟยหยิ่งสามารถเห็นเย่เฟิง เป็ธรรมดาที่ราชันหั่วยวินเยาจะสามารถเห็นเขาเช่นกัน
หัววัวขนาดใหญ่หันมาทางเย่เฟิง เปลวเพลิงลุกโชนทั่วร่างดูราวกับเทพวัวอัคคี รูปลักษณ์ภายนอกของมันแข็งแกร่งกว่าเย่เฟิงมาก ร่างเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยมวลกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่ง และเต็มเปี่ยมด้วยพละกำลัง
“ไอ้สวะจากไหนอีกล่ะเนี่ย รีบไสหัวกลับไปซะ!”
เย่เฟิงมีระดับพลังเพียงน้อยนิด ราชันหั่วยวินเยาจึงไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา ทำเพียงปรายตามองเย่เฟิง พร้อมกับพ่นลูกไฟขนาดใหญ่ใส่ชายหนุ่ม จากนั้นก็ไม่สนใจเขาอีก
เย่เฟิงแสดงสีหน้าเ็า หากเป็เมื่อก่อนเขาคงไม่อาจหยุดลูกไฟนี้ได้ แต่ตอนนี้เขามีวิธีหยุดยั้งมันแล้ว
วิชาเซียนโล่ดาวประกายพรึก!
ทันใดนั้นโล่สีน้ำเงินจากพลังชี่ก็ปรากฏรอบตัวเย่เฟิง มีโล่คอยปกป้องจากทุกทิศทาง
ด้านซูเฟยหยิ่งที่กำลังกังวล เพียงไม่นานก็พบว่าลูกไฟของราชันหั่วยวินเยาไม่สามารถเจาะทะลวงโล่ดาวประกายพรึกของเย่เฟิงไปได้!
“ความแข็งแกร่งของแกลดลงไปมากแล้ว เตรียมตัวตายซะเถอะ!”
เย่เฟิงเยาะเย้ย ก่อนกระโจนไปหาราชันหั่วยวินเยาอย่างรวดเร็ว
ในขณะนั้นห่างออกไปไม่ไกล หลงหว่านเอ๋อร์ ซูเมิ่งหาน และจื่อเจี้ยนหลาน แอบขึ้นฝั่งมาโดยไม่เชื่อฟังคำพูดของเย่เฟิง ทั้งสามคนหลบด้านหลังยอดเขา คอยสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ
ตอนที่เห็นเย่เฟิงพุ่งตัวออกไปอย่างบ้าบิ่น ทั้งสามสาวก็ตื่นใ ทว่ามีเพียงหลงหว่านเอ๋อร์ที่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
วิชาเซียน ศรฝังดวงดาว!
ระดับพลังของหลงหว่านเอ๋อร์สูงถึงยี่สิบห้าปี ทำให้การโคจรพลังเพื่อสร้างศรฝังดวงดาวนั้นรวดเร็วมากขึ้น แม้จะเพียงน้อยนิด แต่หากเทียบกันแล้ว มันเร็วกว่าครั้งก่อนถึงห้านาที ชั่วพริบตาศรดาราสีน้ำเงินเข้มก็พุ่งทะยานไปที่ราชันหั่วยวินเยา
“กระบี่ไร้ตัวตน!”
เย่เฟิงไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย ตอนนี้การโจมตีของเขาอาจไม่มีผลกับราชันหั่วยวินเยามากนัก ชายหนุ่มจึงจำต้องใช้ท่าไม้ตายเสียั้แ่เริ่มเพื่อสังหารมัน
กระบี่ฟาดโดนอกของราชันหั่วยวินเยาอย่างจัง ดุจดังอุกกาบาตพุ่งเข้าใส่ด้วยความรุนแรง ทว่าราชันหั่วยวินเยากลับเบี่ยงตัวไปด้านหน้า ทำให้คมกระบี่เฉียดผ่านเส้นขนบนร่างของมันเท่านั้น
“เฮอะ เปล่าประโยชน์!”
ราชันหั่วยวินเยาคำรามด้วยความดุดัน จากนั้นกระทืบเท้าอย่างแรง
เสียงดังสนั่น!
ทั่วทั้งเกาะถึงกับสั่นะเืเพราะแรงเหยียบนั้น ทำให้สามสาวที่อยู่ห่างออกไปซวนเซยืนแทบไม่อยู่
ในที่สุดศรสีน้ำเงินเข้มก็พุ่งมาอยู่ในสายตาของราชันหั่วยวินเยา ทว่าแค่เห็นมัน ราชันหั่วยวินเยาก็ใช้มือคว้าศรสีน้ำเงินเข้มนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนบดขยี้มันทิ้งทันที
ด้วยระดับพลังที่ต่างกันเกินไป ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็ใครก็ดูเหมือนไม่สามารถทำอะไรราชันหั่วยวินเยาได้เลย มีเพียงซูเฟยหยิ่งคนเดียวเท่านั้นที่ยังพอทำอะไรได้บ้าง
หญิงสาวเหลือบมองเย่เฟิง ส่งสัญญาณให้เขารีบหนีไป ท่ามกลางเปลวเพลิง เส้นผมดุจสายไหม ชุดคลุมสีขาวราวหิมะปลิวตามลม ช่างดึงดูดความสนใจยิ่งนัก
เย่เฟิงมองใบหน้างดงามของเธอ เห็นได้ชัดว่าความร้อนในร่างกายหญิงสาวกำลังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะตอนที่ถูกราชันหั่วยวินเยากระตุ้นก็ยิ่งทนแทบไม่ไหว
หากเย่เฟิงหนีไปตอนนี้ ซูเฟยหยิ่งย่อมต้องตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของราชันหั่วยวินเยา นี่เป็สิ่งที่เย่เฟิงไม่มียอมให้เกิดขึ้นเด็ดขาด โชดยังดีที่เขาเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าฝ่ายตรงข้าม เพราะยังมีเคล็ดสังหาร— รำกระบี่ไร้ตัวตน
เคล็ดวิชากระบี่เซียนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เขาได้รับการถ่ายทอดมาจากแหวนกระบี่ัโบราณ และสามารถพัฒนาจนถึงขั้นที่สองแล้ว เมื่อผสานเข้ากับกระบี่เจินชี่ก็ทำให้อานุภาพของมันแข็งแกร่งกว่าขั้นที่หนึ่งเกินสิบเท่า หากเขาใช้มันจู่โจมศัตรูตอนที่ยังไม่ทันตั้งตัว ราชันหั่วยวินเยาที่ความแข็งแกร่งลดลง ย่อมต้องถูกสังหารในชั่วพริบตาเช่นเดียวกับฉีหลินจือเป็แน่
เมื่อคิดเช่นนั้น ชายหนุ่มก็ลงมือทันที
เย่เฟิงไม่ใช่คนชอบถ่วงเวลา เพียงแต่ตอนนี้เขายังไม่มีโอกาส ขอแค่มีโอกาสเพียงครั้งเดียว เขาก็จะลงมือทันที