โลหิตกระเซ็นจากปากของฉู่หยวน ฟันก็โดนอัดหลุดออกมาหนึ่งซี่ เวลาพูดก็มีเสียงฟันหลอ เซียวเฉินยิ้มและหยุดมือ เขาก็ไม่คิดจะเล่นงานถึงชีวิต เดิมทีฐานะของเขาก็อิหลักอิเหลื่ออยู่แล้ว แถมที่นี่ยังเป็เมืองหลวงของแคว้นเยี่ย ในเมื่อฉู่หยวนกล้าวางอำนาจก็ต้องมีกลุ่มอิทธิพลใหญ่หนุนหลังแน่นอน
เซียวเฉินจึงหยุดแต่พอสมควร
“โอ๊ย บิดาเจ็บแทบตาย...” ฉู่หยวนนอนพังพาบกับพื้น ร้องครวญครางอย่างเ็ป บางครั้งยังถ่มน้ำลายปนโลหิต มีท่าทางวางอำนาจเหมือนก่อนหน้านี้ เซียวเฉินยิ้ม
“ทำไม ยอมแพ้แล้ว?”
ฉู่หยวนอึ้ง จากนั้นผงกศีรษะอย่างดุดัน
เขาลุกขึ้นหัวเราะหึหึ “สหายมีความสามารถนัก บิดา เอ้อ ข้าฉู่หยวนแพ้แล้ว ยอมแพ้ทั้งปากและใจ พวกเราคบเป็สหายกันเป็อย่างไร?”
เซียวเฉินอึ้ง
เห็นฉู่หยวนยิ้มโดยไม่เสแสร้งก็ผงกศีรษะ
“ได้ ข้าชื่อ...เฉินเซียว” เวลานี้ เซียวเฉินย่อมไม่ใช้ชื่อแซ่ที่แท้จริงของตนเอง ถึงอย่างไร ตัวเขาก็แบกความผิดที่สังหารองค์ชายของแคว้นชางหวงไว้ แล้วแคว้นเยี่ยกับแคว้นชางหวงอยู่ห่างกันแค่หมื่นหลี่ แม้ไม่ใกล้นัก แต่เซียวเฉินก็ระวังตัวอยู่ตลอด
“ฮ่าฮ่า พี่เฉิน ท่านน่าจะอายุประมาณยี่สิบปีสินะ มีความสามารถถึงเพียงนี้ ทำให้ข้านับถือนัก”
ฉู่หยวนเอ่ยพลางหัวเราะหึหึ
เซียวเฉินไม่ได้ตอบ ทว่าตบบ่าของฉู่หยวน “กายเนื้อของพี่ฉู่ก็แข็งแกร่งมาก ต้องเป็ชนชั้นที่มีพร์อันโดดเด่นแน่นอน”
ฉู่หยวนได้ยินคำชมของเซียวเฉินก็อดภาคภูมิใจไม่ได้
“แน่นอน ถึงข้าไม่ได้อยู่อันดับหนึ่งในตระกูลฉู่ แต่ต้องอยู่อันดับสองอันดับสาม ข้าฝึกสองอย่างทั้งมรรคาบู๊และวิชายุทธร่างกาย อายุสิบเก้าปีอยู่ขั้นเสวียนฟ้าเจ็ดชั้นฟ้า เป็บุคคลที่มีชื่อเสียงบนผังบุตร์แคว้นเยี่ยนะ”
เซียวเฉินอึ้งนิดๆ
หากเ้าหมอนี่ไม่บอก เซียวเฉินนึกว่าเขาอายุสามสิบปีเสียอีก คิดไม่ถึงว่าจะอายุไม่ถึงยี่สิบปี เื่นี้ทำให้เซียวเฉินใสุดขีด แต่สิ่งที่ทำให้เซียวเฉินใยิ่งกว่านั้นคือ ฝึกทั้งสองอย่างก็บรรลุถึงขั้นเสวียนฟ้าเจ็ดชั้นฟ้าได้ตอนอายุสิบเก้าปี พร์เช่นนี้ไม่เลวเลยจริงๆ
สมกับคำว่าบุตร์ [1]
พร์เช่นนี้ยังแค่อันดับสองอันดับสามในตระกูล ตระกูลของเขาต้องเป็สัตว์ประหลาดั์แน่นอน
หลังจากคนทั้งสองดื่มสุราและรับประทานอาหารจนอิ่ม ฉู่หยวนก็โยนผลึกเสวียนไว้ถุงหนึ่งแล้วไปกับเซียวเฉิน ระหว่างทาง ฉู่หยวนมองเซียวเฉิน เอ่ยถามว่า “สหาย ข้าว่าพละกำลังเมื่อครู่ของเ้าไม่เหมือนผู้ฝึกมรรคาบู๊ล้วนๆ นะ หรือว่าเ้าก็ฝึกทั้งสองอย่าง?”
เซียวเฉินพยักหน้า
“อืม มีความสำเร็จเพียงเล็กน้อย ไม่คู่ควรให้เอ่ยถึง”
ฉู่หยวนเบ้ปาก กล่าวว่า “สหาย เ้าถ่อมตัวเกินไป อย่างเ้ายังเรียกว่าความสำเร็จเล็กน้อยหรือ? แล้วอย่างข้าจะเรียกว่าอะไร? จริงสิ เ้าร้ายกาจขนาดนี้ เหตุใดข้าถึงไม่เคยได้ยินชื่อของเ้าบนผังบุตร์แคว้นเยี่ย หรือว่าเ้าเป็ผู้เร้นกาย?” เอ่ยถึงตรงนี้ ดวงตาของฉู่หยวนก็เปล่งประกายวิบวับ
เซียวเฉินส่ายศีรษะ
“ข้าไม่ใช่คนของแคว้นเยี่ย แค่มาหาประสบการณ์ที่นี่เท่านั้น”
ฉู่หยวนหัวเราะลั่น “ที่แท้ก็เป็เช่นนี้”
ขณะที่คนทั้งสองยิ้มแย้มพูดคุยบนถนน จู่ๆ ด้านหน้าพลันมีความโกลาหลเกิดขึ้น เห็นสัตว์ปิศาจตัวหนึ่งพุ่งชนดะ มีเด็กน้อยคนหนึ่งใจนร้องไห้โฮ หญิงออกเรือนแล้วคนหนึ่งกอดเด็กคนนั้นและมองสัตว์ปิศาจตัวนั้นแบบตัวสั่นเทิ้ม
เซียวเฉินมีสีหน้าแปรเปลี่ยน ขณะที่เซียวเฉินจะไป ฉู่หยวนกลับเคลื่อนไหวแล้วร่ายรำค้อนใหญ่พุ่งเข้าไปทุบหนึ่งที แสงเสวียนทะลัก โจมตีสัตว์ปิศาจตัวนั้นกระเด็นไปไกลในพริบตา มันพ่นโลหิตสด ร่วงกระทบพื้นและร้องโหยหวนไม่หยุด
ฉู่หยวนมีสีหน้าน่าเกลียด
ทุบสัตว์ปิศาจตัวนั้นอีกสองที เอ่ยอย่างแค้นเคือง “เดรัจฉานที่บ้านใดเลี้ยงไว้ ถึงกับปล่อยออกมาทำร้ายคน?” ว่าแล้วก็ทุบอีกที เดิมทีความสามารถของฉู่หยวนก็แข็งแกร่งอยู่แล้ว บวกกับฝึกวิชาสองแขนง จึงมีพละกำลังมากจนน่าตระหนก สัตว์ปิศาจตัวนั้นจะทนรับได้อย่างไร? มันถูกทุบจนเป็เืเนื้อเลอะเลือนตาย
เซียวเฉินพยุงหญิงออกเรือนแล้วและเด็กน้อยขึ้น หญิงผู้นั้นอุ้มเด็กน้อยกล่าวขอบคุณเซียวเฉินและฉู่หยวนซ้ำๆ แล้วรีบจากไป ในเวลานี้เอง พลันมีคนโผล่ออกมาห้าหกคน เห็นสัตว์ปิศาจที่แหลกเละตรงเบื้องหน้า สีหน้าก็แปรเปลี่ยนทันควัน
“ไอ้คนไม่รักชีวิตคนไหนมันกล้าฆ่าสัตว์ปิศาจที่นายน้อยของเราเพิ่งซื้อมา?”
ทุกคนเงียบไม่กล้าส่งเสียงเหมือนจักจั่นในฤดูหนาว
คนผู้นั้นเห็นเซียวเฉินพยุงเด็กและหญิงออกเรือนแล้วเมื่อครู่ ก็มองมาที่เซียวเฉินและเอ่ยเสียงเข้ม “เ้า ไสหัวมานี่ รอการลงโทษจากนายน้อยของเรา”
คนผู้นั้นชี้นิ้วมาทางเซียวเฉินด้วยสีหน้าดื้อรั้นไร้เหตุผล
จากนั้น เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในชุดหรูหราก็เดินมาช้าๆ เห็นสัตว์ปิศาจที่ตายอนาถบนพื้น สีหน้าเปลี่ยนเป็น่าเกลียด
“ใครฆ่าสัตว์ปิศาจที่ข้าเพิ่งซื้อมา!”
บ่าวรับใช้คนนั้นรีบวิ่งมาชี้เซียวเฉินอย่างดุร้ายทันที “นายน้อย เขานั่นแหละ เขาเป็คนสังหาร ข้าเห็นกับตา”
เซียวเฉินขมวดคิ้ว เขามีสีหน้าน่าเกลียดทันที
ใส่ร้ายคนตามอำเภอใจเพื่อประจบเอาใจเ้านาย? คนแบบนี้เห็นแล้วน่าขยะแขยง หากว่าที่นี่ไม่ใช่เมืองหลวงของแคว้นเยี่ย อยู่ใต้เบื้องบาทโอรส์ ตอนนี้เซียวเฉินคงสังหารไปแล้ว
เด็กหนุ่มมองเซียวเฉินด้วยสีหน้าอัปลักษณ์ “เ้าสุนัขรับใช้ บังอาจยิ่งนัก ถึงกับฆ่าสัตว์ปิศาจของข้า เ้าไม่้ามีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วหรือ? ข้าใช้ผลึกเสวียนห้าพันก้อนซื้อสัตว์ปิศาจตัวนี้มา ขอเพียงเ้าชดใช้ผลึกเสวียนมาสองหมื่นก้อนและโขกศีรษะขออภัยข้า แล้วข้าจะละเว้นชีวิต ไม่เช่นนั้น ข้าจะให้เ้าชดใช้ชีวิตสัตว์ปิศาจของข้า!”
เด็กหนุ่มกล่าวอย่างดุร้าย
ทุกคนสูดลมหายใจหนาวเหน็บทันที ซื้อสัตว์ปิศาจมาด้วยผลึกเสวียนห้าพันก้อนแต่ให้ผู้อื่นชดใช้ด้วยผลึกเสวียนสองหมื่นก้อน นี่ไม่เรียกว่าราคาสูงลิ่วแล้ว เรียกว่าไร้เหตุผลโดยแท้
แต่ผู้อื่นมีต้นทุน ใครใช้ให้ผู้อื่นเป็บุตรหลานของกลุ่มอิทธิพลใหญ่ล่ะ
ชั่วขณะ ทุกคนก็มองเซียวเฉินด้วยสายตาเวทนา
รู้สึกแทนเขาว่าไม่คุ้มเลย แต่ไม่มีใครกล้าห้ามปราม
เกรงว่าจะเป็การหาเื่ใส่ตัว...
“ยังไม่เอ่ยถึงว่าสัตว์ปิศาจตัวนั้นคุ้มค่าผลึกเสวียนสองหมื่นก้อนหรือไม่ พูดแค่เื่สัตว์ปิศาจของเ้าเข่นฆ่าตามใจชอบบนถนน ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ตายก็สมน้ำหน้าแล้ว เ้ายังมีหน้ามาให้ชดใช้อีก?” เซียวเฉินเอ่ยเสียงเ็า เขาชังพวกลูกเศรษฐีที่สุด ดังนั้น เซียวเฉินจึงไม่มีสีหน้าดีๆ ให้
คำพูดของเซียวเฉินทำให้เด็กหนุ่มคนนั้นมีสีหน้าเย็นเยียบ เขามองเซียวเฉินและแค่นเสียง “ข้าคิดจะเลี้ยงสัตว์ปิศาจของข้าอย่างไรก็ได้ คนชั้นต่ำตายไปแค่ไม่กี่คนแล้วเกี่ยวอะไรกับเ้าด้วย? ในเมื่อเ้าสังหารสัตว์ปิศาจของข้า เ้าก็ต้องชดใช้ คุกเข่าขอโทษข้าเสีย ไม่เช่นนั้น ข้าจะให้เ้าตายไปพร้อมกับสัตว์ปิศาจของข้า”
นิสัยวางอำนาจและเห็นชีวิตคนไร้ค่าของเด็กหนุ่ม ทำให้เซียวเฉินแผ่สภาวะอันน่าสะพรึงออกมาทั่วร่าง
“เ้ามีสิทธิ์อะไรมาดูถูกชีวิตของคนอื่น หรือว่าชีวิตของเ้าคือชีวิต แต่ชีวิตของคนอื่นไม่ใช่ชีวิต? หรือว่าในสายตาของเ้า ชีวิตคนยังไร้ค่ายิ่งกว่าเ้าเดรัจฉานตัวนั้น?” เซียวเฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเ็า ดวงตาปรากฏแสงมืด
เด็กหนุ่มคนนั้นหัวร่อหยันอย่างดูแคลน “มีสิทธิ์อะไรหรือ? ก็สิทธิ์ที่ข้าเป็ประมุขน้อยของตระกูลหยาง ง่ายขนาดนี้แหละ ชีวิตของข้าจึงมีค่ามากกว่าพวกเขา เ้าจะทำอะไรได้? ชีวิตของพวกเ้าคู่ควรที่จะเปรียบเทียบกับสัตว์ปิศาจของข้าหรือ? น่าขำจริงๆ รีบชดใช้และขอโทษมา ความอดทนของนายน้อยอย่างข้ามีจำกัด”
เซียวเฉินหัวร่อหยัน
“ได้ ข้าจะชดใช้ให้!” ระหว่างที่เอ่ยวาจา เซียวเฉินก็ปลดปล่อยพลังเสวียนทั่วร่าง น่าพรั่นพรึงอย่างประหลาด อานุภาพกดดันอันแข็งแกร่งกดทับทุกคนที่นั่น พวกเขาหวาดกลัวแทบตาย
“ผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนเต๋า...”
ภาพนี้ แม้แต่ฉู่หยวนก็นิ่งอึ้งไป เฉินเซียวถึงกับเป็ผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนเต๋า! เขาเพิ่งอายุเท่าไรกัน อายุไม่ถึงยี่สิบปีมีความสามารถขั้นเสวียนเต๋า แม้แต่พี่ใหญ่ของเขาก็ยังทำไม่ได้เลย...
ขณะที่ทุกคนนิ่งอึ้ง เซียวเฉินก็มาถึงเบื้องหน้าของเด็กหนุ่ม ยกมือขึ้นตบเขาลอยไปอย่างแรงจนพ่นโลหิตปนฟันออกมา และร่วงพื้นอย่างหนักหน่วง
“ในเมื่อเ้าไร้เหตุผล ข้าก็จะสอนให้พูดคุยด้วยเหตุผล”
ใบหน้าของเซียวเฉินเ็าแผ่ซ่านไอหนาว เวลานี้ เขาดุจเทพสังหาร ใช้ความสามารถอันแข็งแกร่งสยบทุกคนไว้
---
[1] บุตร์ หมายถึง ผู้ที่์โปรดปราน เป็คำที่ชาวซยงหนูใช้เรียกฉานอวี๋ (ผู้ปกครอง) ต่อมาใช้กับผู้ที่แข็งแกร่ง