ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด แต็ก!
เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ดังขึ้น ผ้าห่มเปิดออกพร้อมหญิงสาวที่ลุกขึ้นจากเตียงด้วยผมยุ่งเหยิง เธอลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์ที่โชว์เวลา ตี 5:30 เธอค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง จัดการพับผ้าห่มแค่พอคลุมหมอน ก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ เธอเดินออกจากห้องน้ำหลังอาบน้ำเสร็จ มาหยุดที่เตียงและหยิบโทรศัพท์ขึ้นดูนาฬิกาอีกครั้ง 06:00
เธอวางโทรศัพท์และเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า ก่อนจะหันกลับมาหยิบเสื้อผ้าจากกองที่ใส่แล้ว และรีบหยิบกระเป๋าออกจากห้อง
เธอถึงที่ทำงานตอน 06:30 ก่อนเข้างานเธอแวะร้านกาแฟที่อยู่ภายในตึก
“วันนี้รับเหมือนเดิมไหมครับ คุณหมอ”
บาริสต้าหนุ่มทักทายเธอด้วยน้ำเสียงเป็กันเอง
“วันนี้ขอเป็ลาเต้แล้วกันค่ะ อยากกินอะไรหนักๆ หน่อย แล้วก็ขอแซนวิชชิ้นนี้เพิ่มด้วยนะคะ”
เธอพูดพร้อมกับควานหากระเป๋าสตางค์ในกระเป๋าผ้าที่ได้แถมมาตอนไปอบรมวิชาการ
“ทั้งหมด 120 บาทครับ”
“ขอโทษทีนะคะ พอดีหากระเป๋าสตางค์ไม่เจอเลย”
เธอพูดในขณะที่ควานหากระเป๋าสตางค์ในถุงผ้า
“เอาอเมริกาโน่ 1 แก้วค่ะ คิดเงินรวมกับของฉันได้เลย ฉันเลี้ยงเอง ฟิล”
หญิงสาวสวยปากแดง หน้าอิ่มเอิบ พูดและยิ้มตาปิด ก่อนจะยื่นบัตรเครดิตให้บาริสต้า
“อ้าว มิน ไม่เอา เดี๋ยวเราจ่ายเอง”
ฟิลหันมาพูดกับฝั่งตรงข้าม ขณะที่มือยังอยู่ในกระเป๋าผ้า หน้าตาดูรู้สึกผิด
“ไม่เป็ไร ถือว่าเป็การขอบคุณที่เมื่อคืนเธออยู่เวรแทนฉันไง”
มินรับบัตรคืนจากบาริสต้าหนุ่ม เก็บบัตรเข้ากระเป๋า และจูงมือฟิลให้พ้นจากหน้าเคาน์เตอร์
“แล้วเมื่อคืนเป็ไงบ้าง”
“ก็ไม่มีเคสอะไรพิเศษนะ”
“ขอบคุณจริงๆ นะ แก ฉันติดธุระจริงๆ ทำให้แกต้องเหนื่อยแทนเลย”
“ฮึ้ย ไม่ต้องคิดมากหรอก เื่แค่นี้เอง ปกติกลับห้องฉันก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว”
“แค่เลี้ยงกาแฟจริงๆ อาจจะไม่พอ เดี๋ยวออกเวรวันนี้ฉันพาไปหาอะไรอร่อยๆ กินนะ”
“ไม่เป็ไรจริงๆ แก ฉันโอเค แค่กาแฟก็พอแล้ว แกเป็เพื่อนคนเดียวของฉันนะ ทำไมแค่นี้จะทำให้ไม่ได้”
“โอเคๆ ว่าแต่วันนี้แกไม่แต่งหน้ามาอีกแล้วเหรอ”
“ฉันเหรอ? ก็ปกตินะ เสื้อตัวนี้ก็ใส่ซ้ำ ไม่มีเวลาซักเลย”
“เนี่ยไง ฟิล ทำไมแกไม่ค่อยดูแลตัวเองเลย หาคนมาดูแลได้แล้วมั้ง”
“บ้า ใครจะมาสนใจฉันล่ะ ฉันไม่ได้สวยแบบแกนะ มิน”
“โหย ตาแกก็คม ปากก็เป็กระจับสวย จมูกยังพุ่งเหมือนคนทำจมูกมาอีก ถ้าแกแต่งหน้าหน่อยนะ ฟิล ดาวิกา ก็ ดาวิกาเหอะ”
“ไม่เอาอะ แค่ตื่นมาทำงานได้ทุกวันนี้ก็บุญแล้ว”
“กาแฟได้แล้วครับ”
“ค่า”
มินเดินไปหยิบกาแฟและขนมที่สั่งมาให้ฟิล
ทั้งคู่เดินออกจากร้านพร้อมกาแฟคนละแก้ว
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ
“มิน แกขึ้นไปก่อนเลย พ่อฉันโทรมา”
“โอเคแก เจอกันข้างบน”
ฟิลรอจนมินเดินห่างไปจนพ้นสายตา ก่อนจะรับสายด้วยน้ำเสียงเกร็งๆ
“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ”
“สวัสดี ลูก วันนี้ทำงานใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ คุณพ่อมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เปล่าหรอก วันนี้ตอนเย็นพ่อนัดกับคุณเอกไว้ให้น่ะ พอดีเขาไปดูที่เปิดร้านอาหารสาขาใหม่แถวที่หนูอยู่ เลยอยากให้ได้เจอกัน”
ฟิลรู้สึกหัวเสียขึ้นมา เพราะพ่อชอบนัดพวกผู้ชายแก่ๆ มีเงิน หรือคนมีหน้ามีตาทางสังคมมาให้เธอเจออยู่บ่อยๆ ถึงจะหัวเสียแต่เธอก็พยายามเลี่ยงที่จะพูดรุนแรงกับพ่อ
“หนูไม่ไปไม่ได้เหรอคะ”
“พ่อนัดมาให้หนูหลายรอบแล้วนะ พ่ออยากให้หนูได้เจอกับสังคมดีๆ คนดีๆ บ้าง จะได้ไม่เป็เหมือนแม่ของหนู”
“แม่ของหนู… แม่หนูไม่ได้ทำอะไรไม่ดีนี่คะ”
คำนี้ทำให้ฟิลรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น พ่อชอบบอกว่าแม่หนีไปหาผู้ชายคนอื่น แต่ฟิลรู้ว่าจริงๆ แล้วเป็พ่อเองที่ไม่รู้จักพอจนทำให้แม่ต้องตัดสินใจย้ายออกไป ถึงแม่จะใจร้ายที่ไม่เคยกลับมาเยี่ยมฟิล แต่ฟิลก็ยังรักแม่ที่เคยเลี้ยงเธอมาั้แ่เด็กๆ
“แกจะพูดอะไรก็ช่าง แต่วันนี้แกต้องไป แต่งตัวมาสวยๆ ด้วย พ่อจะไปรับตอนเย็น”
ปลายสายยืนกรานเสียงแข็งก่อนกดวางสายไป
ฟิลเดินตรงไปที่ห้องน้ำ ล็อกประตูก่อนมีเสียงดังตามมา เพี้ยะ! เพี้ยะ!
ฟิลนั่งลงบนโถชักโครก ก่อนเอามือตบหน้าตัวเอง 2 ที ใบหน้าแดงเป็สีเดียวกับตาที่น้ำตาเริ่มเอ่อ เธออยากจะกรี๊ด แต่ก็กลัวจะรบกวนคนข้างนอก
ในตอนเย็นวันนั้น ฟิลพยายามนึกหาเหตุผลที่จะเบี้ยวนัด พอดีกับที่มินรบเร้าที่จะพาฟิลไปเลี้ยงข้าวให้ได้ ฟิลเลยตัดสินใจให้มินช่วยโกหกพ่อว่าเธอกลับไปก่อนแล้วเพราะรู้สึกไม่สบาย พระอาทิตย์ตกก่อนที่พวกเธอจะเลิกงาน
ทั้งคู่แวะที่ร้านอาหารกึ่งบาร์แห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากบ้านของฟิล มินติดรถฟิลมาเพราะกลัวจะเมาแล้วขับไม่ไหว ภายในร้านตกแต่งด้วยหน้ากากในรูปแบบต่างๆ ทั้งหน้ากากสีขาว สีดำ ไปจนถึงหน้ากากตัวละครจากหนังดังๆ ที่ร้านมีไม่เกิน 10 โต๊ะ ตรงกลางเป็บาร์ไม้ที่ไม่มีคนนั่ง ทั้งคู่เลือกนั่งที่โต๊ะตัวในสุด บนหัวมีหน้ากากสีแดงพร้อมโปสเตอร์หนังดังเื่หนึ่ง
“เื่เดิมๆ เหรอ”
มินถามเปิดประเด็นถึงเื่ที่ให้เธอโกหก
“ใช่ ฉันไม่ชอบเลยที่พ่อชอบพยายามยัดเยียดผู้ชายคนนู้นคนนี้ให้ฉัน ั้แ่จำความได้ ฉันก็ไม่เคยได้เลือกอะไรเองเลย แม้แต่กระเป๋าดินสอของฉันยังเป็ลายธาตุไทยอะ”
มินหัวเราะเบาๆ มองเพื่อนที่ดูอมทุกข์ก่อนจะยิ้มให้
“อ้ะๆ ไม่ต้องคิดมาก แกจะกินอะไรฉันเลี้ยงเอง สั่งได้เต็มที่เลย ฉันบอกเลยร้านนี้เนื้อดีมากก”
“ฉันเอาแบบแกละกัน”
“รับอะไรดีครับ วันนี้”
พนักงานจดออเดอร์เดินเข้ามาทักทายพวกเธอทั้งคู่
“วันนี้ขอเป็สเต็กเทนเดอร์ลอย มีเดียมแรร์ 2 ที่จ้ะ”
“เครื่องดื่มจะรับเป็อะไรดีครับ”
“ขอเป็ไวน์แดงแล้วกัน เธอดื่มอะไร”
“ฉันขอน้ำเปล่า”
“ฟิล ไม่เอาสิ ดื่มกับฉันหน่อย ไหนๆ ก็เซ็งๆ แล้ว อีกอย่างพรุ่งนี้ก็ไม่ได้ทำงานนี่”
มินปิดสมุดเมนู ทำหน้าออดอ้อนฟิล ก่อนหันไปพูดกับพนักงานจดออเดอร์
“เป็ไวน์แดงเหมือนกันเลยค่ะ”
ฟิลพยักหน้าแล้วปิดสมุดเมนูลง
“ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
ฟิลลุกขึ้นเดินตรงไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์บาร์ ฟิลกลับมาที่โต๊ะก่อนที่อาหารจะมาเสิร์ฟพอดี
“แกอย่าเพิ่งกินนะ ฉันขอถ่ายรูปก่อน แป๊บนึง”
มินยกมือขึ้นปรามฟิล
“โอเค กินได้”
ฟิลกินสเต็กจนหมดจาน ในขณะที่มินไปแค่ครึ่งเดียว เพราะมินอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มากกว่าอาหาร เธอพิมพ์อยู่สักครู่ก่อนจะหน้ามุ่ย วางโทรศัพท์ลง และพูดขึ้น
“แก ฉันอยากดื่มต่อ ไปที่บาร์กัน”
มินจับมือฟิลลุกขึ้นเดินไปที่บาร์ ฟิลก็ได้แต่เออออตามไปด้วย บรรยากาศในร้านตอนนี้ดูเริ่มครึกครื้นขึ้นกว่าเมื่อตอนหัวค่ำ โต๊ะที่มีไม่มากนักก็เริ่มเต็ม มินที่ตอนแรกสนใจแต่โทรศัพท์ ตอนนี้เธอทิ้งมันไว้ในกระเป๋าและเร่งแต่ให้ชนแก้ว
ทั้งคู่ดื่มกันจนเริ่มได้ที่ ในขณะที่ฟิลก็เริ่มมึนหัว
“แก ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
มินพูดเสียงงัวเงีย ก่อนหยิบกระเป๋าพยายามลุกขึ้นโซซัดโซเซ เดินไปเข้าห้องน้ำ ฟิลมองตามหลังเพื่อให้แน่ใจว่ามินเข้าห้องน้ำได้ ก่อนหันกลับมานั่งกินตามเดิม ไม่นานนักเธอได้ยินเสียงเอะอะโวยวายอยู่ตรงห้องน้ำที่มินเพิ่งเดินไป
เธอหันกลับไปดู เห็นว่ามินกำลังมีปากเสียงกับผู้ชายคนนึงอยู่ ฟิลรีบพรวดขึ้นจากเก้าอี้และตรงดิ่งไปหาเพื่อน
“จะเลิกกันได้ยังไง”
มินที่สภาพดูไม่ได้สติกำลังยืนเถียงกับฝ่ายชายรูปร่างผอม ตัวขาว ใส่หมวกแก๊ปและเสื้อฮู้ด
“เธอ ทำไมไม่เข้าใจ ก็บอกแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นเป็แค่เพื่อน จะต้องให้พูดอีกกี่รอบวะ”
“เพื่อนห่าอะไร”
มินพยายามหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋า ก่อนเปิดคลิปบางอย่างให้ฝ่ายชายดู
“เพื่อนเขาเอากันเหรอ มึงดู”
ฝ่ายชายหน้าเสีย เริ่มหันมองรอบข้างที่ตอนนี้คนเริ่มหันมามองมากขึ้น ก่อนจะพยายามจับแขนของมินเพื่อจะดึงออกไปที่อื่น มินพยายามขัดขืนแต่ไม่เป็ผลเพราะแรงจากฝ่ายชาย ฟิลเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้าไปห้าม ฟิลเดินอ้อมเข้าไปที่ด้านหลังมิน แล้วจับแขนมิน
“แก ใจเย็นๆ ก่อน ค่อยๆ คุยกันนะ ตอนนี้คนในร้านมองหมดแล้ว”
“จะมองก็ช่างมัน ฉันอยากให้คนอื่นรู้กันให้หมดเลย ว่าไอ้ดาราคนนี้เนี่ย มันทำอะไรไว้กับฉัน!”
มินะโเสียงดังขึ้น แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ ฝ่ายชายก็ดึงแขนมินออกจากร้าน ในขณะที่ฟิลก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่รีบเดินตามออกไป
ทั้ง 3 คนมาหยุดอยู่ที่ตรอกข้างๆ ร้าน มีรถจอดอยู่ 1 คัน
ฟิลทำได้แค่ยืนมองทั้งคู่เถียงกันเสียงดังอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะเริ่มแย่ลง
เพี้ย!
จู่ๆ ฝ่ายชายตบเข้าที่หน้าของมินอย่างจัง มินทรุดลงไปนั่งกับพื้น น้ำตาไหลจากความเจ็บ ไม่ทันที่ฟิลจะก้มตัวลงไปประคองมิน ฝ่ายชายก็กำลังจะชักเท้าถีบอีกรอบ แต่ดีที่เท้านั้นมาไม่ถึงทั้ง 2 คน เพราะมีชายคนนึงเดินเข้ามาชนเท้าไว้ทัน
“อ้ะ ขอโทษทีครับ พอดีผมจะมาสูบบุหรี่”
ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีดำรัดพอดีตัวเพราะกล้ามเนื้อ หันกลับมามองเ้าของเท้านั้น ที่ตอนนี้กึ่งล้มกึ่งยืนพิงผนัง ก่อนที่จะรีบพุ่งเข้ามาดึงคอเสื้อชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีดำ
“มึงอยากมีเื่เหรอ”
“เปล่านะครับ ผมแค่มาสูบบุหรี่ แต่คุณขวางทางผมอยู่ ว่าแต่หน้าตาคุณดูคุ้นๆ นะ เหมือนดาราดังเลย ใช่แน่ๆ คุณคิมใช่ไหมครับ แม่ผมชอบคุณมากเลย พระเอกแสนอบอุ่น… แป๊บนะครับ ผมหยิบโทรศัพท์แป๊บนึง”
ฟิลที่ตอนนี้นั่งกอดมินอยู่ มองไม่เห็นอะไรมากนัก เพราะหลังของชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีดำบังฝั่งดาาายจนมิด ชายหนุ่มล้วงมือหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงสแล็ค กดเข้า TikTok กด Live และหันกล้องไปหาดาราหนุ่ม
“อ้ะ ผมกดผิด ไปกดไลฟ์อะ ไม่เป็ไรๆ แม่ผมชอบเข้ามาดูไลฟ์ผมบ่อยๆ… นี่ครับ แม่ผมเจอคุณคิมที่แม่ชอบด้วยแหละ”
ดาราหนุ่มรีบปัดมือถือทิ้ง ก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถที่จอดอยู่ตรงตรอก และขับออกไปโดยไม่พูดอะไร
ชายหนุ่มเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง ก่อนจะหันกลับมาหามินและฟิล ที่ตอนนี้นั่งกอดกันในขณะที่มินเอามือข้างนึงจับไปที่แก้มที่โดนแรงปะทะ
“พวกคุณโอเคไหมครับ ผมขออนุญาตนะครับ”
ชายหนุ่มยื่นมือช่วยฟิลประคองมินให้ลุกขึ้นเดินออกจากตรอกมืดนั้น ฟิลหันไปมองหน้าชายหนุ่ม ในขณะที่แสงไฟวอร์มไลท์จากร้านค่อยๆ สาดเข้ามาที่ใบหน้า เผยให้เห็นคิ้วที่ดกดำ ดวงตาเฉี่ยวเหมือนนก รับกับจมูกที่โด่งปลายเชิดพอดี ทั้งหมดเข้ากับผมดำขลับที่ดูเหมือนจะไม่ได้เซ็ตของชายหนุ่ม ปากเหมือนรูปหัวใจที่ตอนนี้กำลังพูดอะไรบางอย่าง แต่ฟิลไม่ได้ยินเสียงนั้น
“อะไรนะคะ”
ทั้งคู่ประคองมินลงมานั่งที่เก้าอี้หน้าร้าน ฟิลเหมือนเพิ่งได้สติและรีบถามกลับฝั่งตรงข้าม
“พวกคุณกลับกันได้ไหมครับ ให้ผมเรียกแท็กซี่ให้ไหม”
“พอดีฉันเอารถมาค่ะ”
ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขึ้น มองตาฟิล ก่อนทำจมูกฟุดฟิด
“ดื่มกันไปเยอะขนาดไหนครับเนี่ย”
“ไม่ได้เยอะขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่มึนๆ นิดหน่อย”
ฟิลหลบตา ผงะออกห่างเล็กน้อยก่อนตอบ
“งั้นเอาแบบนี้แล้วกันครับ ทิ้งรถไว้ที่นี่ก่อน แล้วเดี๋ยวผมนั่งแท็กซี่ไปส่งพวกคุณ ไม่รู้ว่าไอ้ดารานั่นมันจะวนกลับมาหาพวกคุณอีกเมื่อไหร่ เื่รถไม่ต้องห่วง ร้านนี้ผมมาประจำ เดี๋ยวผมคุยกับเ้าของร้านให้”
ฟิลหันไปมองมินที่ตอนนี้ฟุบอยู่กับโต๊ะ เมาไม่ได้สติ พลางคิดว่าเธอคนเดียวที่สูงไม่ถึง 160 เซน ไม่น่าจะแบกเพื่อนที่สูงเกือบ 170 เซนขึ้นห้องคนเดียวไหว
“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ฉันเกรงใจจังเลย คุณจะสูบบุหรี่นี่คะ สูบก่อนก็ได้นะ ฉันรอได้”
“ผมโกหกน่ะครับ ผมไม่สูบบุหรี่”
“แล้วเื่ไลฟ์สดล่ะคะ”
“อันนั้นผมกดไลฟ์จริง แต่ไม่มีคนดูหรอกครับบัญชีผมคนติดตามแค่ 1-2 คนเอง”
ชายหนุ่มพูดระหว่างกำลังโบกแท็กซี่
“ขอบคุณและขอโทษจริงๆ นะคะ ที่คุณต้องมาเจอเื่แบบนี้ และ ต้องมาโกหกเพราะฉัน ว่าแต่คุณชื่อ..?”
“ผมเจมส์ครับ คุ—”
เจมส์ยังไม่ทันได้ถาม ฟิลก็รีบตอบกลับแบบลนๆ
“ฉันฟิลค่ะ ส่วนนี่มินค่ะ”
เจมส์ยิ้มก่อนเปิดประตูรถให้และพูด
“ยินดีที่ได้โกหกให้ครับ”
