หลังจากพักฟื้นได้เจ็ดวัน สัตว์อสูรเสือก็สามารถลุกขึ้นและเดินไปรอบๆ ได้ช้าๆ
"โฮ๊ก!"
ในวันนี้สัตว์อสูรเสือที่ลุกขึ้นยืนได้ มันเงยหน้าขึ้นและคำรามใส่โจวเย่เพื่อจะบ่งบอกบางอย่าง
โจวเย่ขมวดคิวแล้วถามว่า มีอะไรเหรอ ?
ทันใดนั้น คิ้วของมันก็เปิดออก และเงาแห่งจิติญญาสีดำก็ลอยออกมา ลอยไปทางคิ้วของโจวเย่
โจวเย่ยิ้มและพูดว่า "ถ้าเ้า้าติดตามข้า เ้าไม่จำเป็ต้องมอบเครื่องหมายิญญาของเ้าให้ข้า ข้าเชื่อใจเ้า"
ดวงตาของเสือเป็ประกาย เห็นได้ชัดว่าคำพูดของโจวเย่ทำให้มันแปลกใจมาก
โจวเย่ยกมือขึ้นและผลักเครื่องหมายิญญาของสัตว์อสูรเสือกลับไปเบา ๆ
หากเ้าจะติดตามข้า เ้าต้องสัญญากับข้าว่า จะไม่ทรยศต่อข้า และข้าจะปฏิบัติต่อเ้าดั่งสหาย ต่อไปนี้ข้าจะเรียกชื่อเ้าว่า ไป๋ิ โจวเย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
โฮ๊กก!
สัตว์อสูรเสือ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วส่งเสียงคำรามยาวๆ ราวกับสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อโจวเย่
และมันก็ดึงเครื่องหมายของิญญาของมันกลับคืนมา และล้มตัวลงนอนเพื่อแสดงความเคารพต่อโจวเย่
โจวเย่มีความสุขมาก เขาไม่คาดคิดว่าการเปลียนต่ำแหน่งที่อยู่ จะทำให้เขาโชคดีได้ขนาดนี้
เ้าลุกขึ้นเถอะ ข้าจะเก็บกวาดที่นี่ก่อน ! โจวเย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากทำลายศพทั้งหมดแล้ว โจวเย่ ได้ตรวจสอบสมบัติในแหวนกักเก็บ ในแหวนกักเก็บมีทรัพยากรสมุนไพรและยามากมาย แหวนของชายชรายังมีกระเป๋าสัตว์อสูรที่มีไว้สำหรับการเก็บสัตว์เลี้ยงอสูรและยังมีหินดึกดำบรรพ์อีกด้วย โจวเย่ยิ้มด้วยความปิติยินดี
โจวเย่ต้องเข้าเมืองต่างๆที่เขาผ่าน และเขาไม่สามารถนำไป๋ิเดินเข้าไปในเมืองได้ เพราะสัตว์อสูรระดับที่สามจะทำให้คนในเมืองตื่นตระหนกอย่างไม่ต้องสงสัย
ในจักรวรรดิอัคคี ไม่มีใครสัตว์อสูรระดับที่สาม สัตว์อสูรระดับที่สามเป็ตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง และสัตว์อสูรระดับที่สามตัวเดียวสามารถทำลายกองกำลังขนาดใหญ่ที่ไม่แข็งแกร่งได้
ตอนนี้ความแข็งแกร่งของไป๋ิลดลง เทียบเท่าระดับที่ห้าของอาณาจักรมหาคุรุยุทธ์ และต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนในการฟื้นฟูพลังยุทธ์ของมัน
หลังออกจากูเา โจวเย่ได้ไปที่ เมืองเจียงหนาน
ทันทีที่เขามาถึงประตูเมือง เขาเห็นหญิงสาวที่สวยงามมากคนหนึ่งวิ่งออกมาจากประตูเมืองด้วยความหงุดหงิด
และทหารยามหลายสิบคนในเมืองรีบวิ่งตามเธอออกมาด้วย
คุณหนูซีเว่ย ! คุณหนูท่านจะไปไหน ? ทหารยามที่วิ่งออกมาได้ถามขึ้น
ข้าบอกกับพวกเ้ากี่ครั้งแล้วว่าข้าไม่ได้ชอบคุณชายของเ้า ! ข้าไม่ยากเจอเขา ! และข้าก็มีคนที่ชอบอยู่แล้ว หญิงสาวสวยที่มีอายุราวสิบหกหรือสิบเจ็ดปี มีใบหน้าที่สวยงามคล้ายพระจันเสี้ยว และมีรูปร่างทรงเสน่ห์ พูดด้วยความหงุดหงิด
หญิงสาวคือ เถียนซีเว่ย จากตระกูลเถียน
และในขณะนี้เอง ชายหนุ่มเสื้อดำเดินออกจากเมืองด้วยสีหน้าเศร้าหมอง และกล่าวว่า ซีเว่ย ! ทำไมเ้าถึงไม่ชอบข้า ตอนนี้ข้ากำลังได้เข้าร่วมกองทัพอัคคีเหล็กแล้ว ข้าไม่ดีพอตรงไหน ?
โจวเย่ ไม่สนใจเขาเพียงเหลือบมองแล้วเดินไปที่ประตูเมือง
ทันทีที่เขาเดินเข้าใกล้ประตูเมือง เถียนซีเว่ยที่ได้สังเกตเห็นโจวเย่ได้วิ่งมากอดแขนของเขาและกล่าวว่า จ้าวหยาง ! ผู้ชายคนนี้คือคนรักของข้า เ้าตัดใจสะเถอะ !
และหญิงสาวก็หันมากระซิบกับโจวเย่ต่อว่า พี่ชาย ท่านช่วยแกล้งเป็คนรักของข้าหน่อย เดี๋ยวข้าจะตอบแทนท่าน
โจวเย่ ที่ได้ยินคำพูดของหญิงสาวได้ตกตะลึงอยูครู่หนึ่ง หลังจากตั้งสติได้เขาได้กระซิบกลับไปว่า มันไม่ใช่เื่ของข้า! และทำไมข้าต้องเ้าช่วยเ้าด้วย ?
หลังจากพูดจบ โจวเย่ก็พยามเอามือที่จับแขนของเขาออกไป แต่เถียนซีเว่ยก็ยิ่งจับแน่นขึ้นไปอีก
โจวเย่หันไปมองเถียนซีเว่ย และสายหัวอย่างช่วยไม่ได้
จ้าวหยาง ที่ได้ยินสิ่งที่เถียนซีเว่ยพูด ใบหน้าของเขาเป็สีเขียวด้วยโกรธทันที และะโด้วยความโกรธว่า เ้าหนุ่ม ! เ้าเป็ใคร ?
โจวเย่ เหลือบมองจ้างหยาง และพูดด้วยความหงุดหงิดว่า ข้าชื่อโจวเย่ ! ไม่สิ ! แล้วทำไมข้าต้องบอกเ้าด้วย ?
หลังจากพูดจบโจวเย่ก็เดินเข้าเมืองไปพร้อมกับเถียนซีเว่ยที่จับแขนของเขา และเขาเมินเฉยต่อจ้าวหยางโดยสิ้นเชิง
จ้าวหยางผงะ เขาตกตะลึงเป็อย่างมาก เขาเป็หนึ่งในนายน้อยของ เมืองเจียงหนาน และตระกูลของเขาเป็ตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเจียงหนานแห่งนี้ และเขากำลังได้เข้าร่วมกองทัพอัคคีเหล็กซึ่งเป็กองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวรรดิ ด้วยเกียรติยศและภูมิหลังที่แข็งแกร่ง เขาไม่เคยถูกด็กหนุ่มคนไหนเมินเฉยเขามาก่อน
ในเมืองเจียงหนาน ชื่อเสียงของจ้าวหยางนั้นดังกว่าพ่อของเขา และแผ่นดินทิศใต้นี้ทุกคนรู้ถึงการมีอยู่ของเขา
หลังจากฟื้นสติเขาก็พบว่า เถียนซีเว่ยและชายหนุ่มที่มีชื่อว่าโจวเย่ได้หายเข้าไปในเมืองแล้ว
ในขณะนี้ ทางด้านโจวเย่
พี่ชาย ท่านเป็คนที่ไหนเหรอ ? ข้าไม่เคยพบท่านมาก่อนเลย !
โจวเย่เงียบ เขาไม่พูดอะไร เขาี้เีเกินกว่าจะตอบ
เถียนซีเว่ย ดูเหมือนจะสนใจโจวเย่มาก และเธอก็ถามด้วยรอยยิ้มต่อว่า พี่เย่ ท่านมีพลังยุทธ์อยู่ในระดับใดแล้วเหรอ ? ข้าไม่สามารถมองเห็นระดับพลังของท่านได้เลย และท่านต้องแข็งแกร่งกว่าข้าแน่นอน !
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โจวเย่ก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตา เขารำคาญมาก และเขาี้เีเกินกว่าจะตอบ หากเถียนซีเว่ยไม่ใช่หญิงสาวที่สวยงาม เขาคงสบัดเธอกระเด็นไปแล้ว
จ้าวหยาง มีพลังอยู่ในระดับที่สามของอาณาจักรคุรุยุทธ์ และโจวเย่ไม่สามารถเอาชนะเขาได้
ยิ่งไปกว่านั้น โจวเย่และจ้าวหยางไม่รู้จักกัน และเขาไม่มีความแค้นใดๆ กับจ้าวหยาง ดังนั้นเขาจึงไม่อยากสร้างปัญหา
เมื่อเห็นว่าโจวเย่ไม่ตอบ และยังเฉยเมย เถียนซีเว่ย ก็หัวเราะอย่างรวดเร็วและพูดว่า พี่เย่ ข้าจะไม่ถามท่านล่ะ ถ้างั้นพวกเราไปทานอาหารเย็นด้วยกัน ข้าจะเลี้ยงพี่เย่ในฐานะเพื่อนและแขก
โจวเย่วางแผนที่จะกินอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเถียนซีเว่ย ชักชวนเขาจึงติดตามไป
ระหว่างทาง เถียนซีเว่ยบอกกับโจวเย่ เกี่ยวกับจ้าวหยาง แต่โจวเย่ไม่ได้สนใจเลย
ไม่นานนัก เถียนซีเว่ยก็พาโจวเย่ไปที่ร้านอาหารที่หรูหราและงดงามแห่งหนึ่ง
หลังจากเข้ามาและกินดื่มได้สักพัก จ้าวหยางก็ได้เดินเข้ามาพร้อมกับเหล่านายน้อยที่เป็เพื่อนของเขา เขามากินอาหารที่โต๊ะด้านข้างชิดกับโจวเย่และเถียนซีเว่ยที่นั่งกินอยู่
ในขณะที่กินอาหาร โจวเย่ก็รู้เื่ราวต่างๆ จากเพื่อนของจ้าวหยาง เพื่อนของจ้าวหยางพูดประจบสอพลอเก่งมาก
แต่โจวเย่ไม่ได้สนใจเื่
เหล่านี้เลย บนโต๊ะมีอาหารรสเลิศ โจวเย่สนใจแต่เื่การกินเท่านั้น และเขาไม่ชอบรบกวนการสนทนาของคนอื่นๆ