เด็กหนุ่มกระแทกประตูออกไป หลินหวั่นชิวคิดกับตัวเองว่าคงเป็เพราะเมียของเจียงหงหย่วนหนีไปสองคน จึงกลายเป็ปมในใจของเจียงหงหนิง เขาเลยกลัวว่านางจะหนีไปเช่นกัน
นางรู้สึกได้เองขึ้นมาอย่างฉับพลันว่า หากจะปักหลักที่บ้านหลังนี้ชั่วคราวก็มีปัญหาหลายอย่างที่ต้องแก้
อย่างเช่นหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักแบบเจียงหงหนิง หากไม่เกลี้ยกล่อมให้ดี เขาอาจจะไม่ยอมให้นางออกจากบ้านเลยก็ได้
หรือต่อให้ออกไปได้ นางก็จะมีคนคอยตามติดแจเหมือนผู้คุม
ถ้าวันไหนนางมีวิธีหนีไปจากที่นี่ขึ้นมา หากมีคนคอยตามอยู่ตลอดก็ไม่ต้องหนีแล้วพอดี!
หลินหวั่นชิวเป็คนสมัยใหม่ ส่วนลึกในใจไม่อาจยอมรับเื่ที่ถูกขายเป็เมียไว้คลอดลูกให้กับชายแปลกหน้า
ดังนั้น ที่นี่จึงเป็ได้แค่ที่พักพิงชั่วคราว ไม่ว่าจะสลัดชายคนนี้พ้นหรือไม่ นางก็ต้องลองดูก่อน
ต้องลองพยายาม จะได้ไม่เสียใจภายหลัง
ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลายอมรับชะตากรรม
หนุ่มน้อยน่ารักออกไปแล้ว ตอนนี้ในห้องจึงเหลือนางแค่คนเดียว หลินหวั่นชิวดื่มยาแล้วหยิบโอสถชำระไขกระดูกออกมาจากช่องเก็บของ ลังเลเล็กน้อยว่าจะกินดีหรือไม่
ยาไม่ใช่ของที่จะกินมั่วๆ ได้ หากเพิ่งทะลุมิติมาแล้วตายเพราะกินยาผิดคงขาดทุนน่าดู
แต่เสียนอวี๋น่าจะไม่ได้หลอกคน มิเช่นนั้นจะอธิบายเื่ของขวัญที่นางทะลุมิติมาว่าอย่างไร?
แม้แต่การทะลุมิติยังเป็เื่จริง โอสถวิเศษที่ช่วยชำระไขกระดูกก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
หลังจากที่คิดทบทวนหลายรอบ ในที่สุดหลินหวั่นชิวก็กัดฟันโยนโอสถเม็ดหนึ่งเข้าปาก จากนั้นจึงดื่มน้ำตามเพื่อกลืนลงไป
ชีวิตมีค่า ความรักมีค่ายิ่งกว่า แต่เพื่ออิสรภาพแล้ว นางยอมทิ้งทั้งสองอย่าง!
เพื่ออิสรภาพ นางสู้ตาย!
ไม่รู้โอสถชำระไขกระดูกนี้จะเป็แบบที่นิยายบรรยายเอาไว้หรือเปล่า กินลงไปแล้วเหมือนได้เกิดใหม่ จากไก่อ่อนกลายเป็ยอดฝีมือ
หลินหวั่นชิวคิดอย่างเบิกบานใจ หากเป็เช่นนั้นก็ดี ขอเพียงนางแข็งแกร่งขึ้น นางก็จะมีต้นทุนมาต่อรองกับเจียงหงหย่วน
แต่นางเพิ่งจะดีใจได้ไม่นาน ท้องก็บิดเหมือนเป็ตะคริว
นางรีบกุมท้องเดินลงจากเตียง เพื่อออกไปร้องเรียก “หงหนิง…”
“เสี่ยวหนิง…”
“หนิงหนิง…”
“มีอะไร?” เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักที่กำลังฝ่าฟืนหยุดงานอย่างไม่สบอารมณ์ เขามองนางด้วยสายตาหวาดระแวง ทำท่าเหมือนกับจะบอกว่า ไม่ว่าเ้าจะใช้ลูกไม้อะไรข้าก็ไม่เชื่อ
“ห้องน้ำ…ห้องน้ำอยู่ที่ใดหรือ?” ท้องบิดรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แรงจนนางแทบกลั้นไม่อยู่
“อยู่หลังบ้าน” เจียงหงหนิงเดินนำไปด้านหลัง หลินหวั่นชิวรีบตามไป
ไม่มีเวลามาสนใจว่าห้องน้ำจะซอมซ่อขนาดไหน
ถอดกางเกงย่อตัวลงทันทีที่เข้าไป…
มารดามันเถอะ ไอ้โรคจิตไร้ยางอายนั่นโกหกนางว่าไม่มีห้องน้ำ!
หลินหวั่นชิวปวดท้องอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่ลืมที่จะด่าเจียงหงหย่วนในใจ
เจียงหงหนิงเฝ้าอยู่ด้านนอกไกลๆ จ้องห้องน้ำไม่ละสายตา กลัวหลินหวั่นชิวจะอ้างว่ามาเข้าห้องน้ำแล้วหนีไป
แต่ผ่านไปเนิ่นนาน หลินหวั่นชิวก็ยังไม่ออกมา คิ้วบนใบหน้าเหนือดวงตาน้อยของเจียงหงหนิงขมวดเป็ก้อน
ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ได้ตกส้วมตายไปแล้วใช่หรือไม่?
“นี่ เ้าเสร็จหรือยัง?”
“ยัง…” เสียงอิดโรยของหลินหวั่นชิวส่งออกมาจากด้านใน เจียงหงหนิงขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม “รีบออกมาได้แล้ว!”
“ยังไม่เสร็จ…” ไอ้เด็กนี่ สนดินสนฟ้า แม้แต่นางถ่ายหนักก็ยังจะสนอีก
นางก็อยากออกไปอยู่ แต่ท้องมันปวดมากเลย!
โอ้ย…นั่งจนขาจะเป็ตะคริวแล้ว
จะฆ่ากันหรืออย่างไร!
“เ้า…เ้าคงไม่ได้ท้องเสียหรอกใช่หรือไม่!” เจียงหงหนิงเริ่มร้อนใจ ท้องเสียไม่ใช่เื่เล็กๆ นะ ในหมู่บ้านเคยมีเด็กตายเพราะท้องเสียอยู่
มิหนำซ้ำนางเองก็กำลังป่วย ขับถ่ายมากไม่ได้เด็ดขาด!
หากผู้หญิงคนนี้ตาย หมูป่าของพี่ใหญ่ก็ขาดทุนน่ะสิ!
“เ้าห้ามตายนะ ห้ามตายเด็ดขาด! ข้า…ข้า…ข้าจะไปตามหมอมา!” เจียงหงหนิงร้อนใจ ไม่มีเวลามาจับตาดูหลิวหวั่นชิวแล้ว รีบสาวเท้าวิ่งออกไป
ผ่านไปสักพัก หลินหวั่นชิวค่อยเกาะกำแพงออกมา แข้งขาอ่อนแรงไปหมด
นางกลับเข้าห้องอย่างยากลำบาก เอนตัวลงบนเตียง ได้ยินเสียงเจียงหงหนิงดังมาจากด้านนอก “ลุงสวี ท่านเร็วเข้าหน่อย”
จากนั้นก็เห็นเจียงหงหนิงดึงแขนเสื้อชายชราคนหนึ่งเข้ามา
แต่ทั้งคู่กลับต้องปิดจมูกทันทีที่เข้ามาถึง
เหม็นมาก!
เนื่องจากหลินหวั่นชิวนั่งแช่ในห้องส้วมเป็เวลานาน กลิ่นนี้จึงไม่มีผลกระทบต่อนางมากนัก ผิดกับคนที่มาจากด้านนอกทั้งสองที่เกือบถูกนางรมกลิ่นตาย
ประกายรังเกียจปรากฏบนใบหน้าของหมอสวี เขาหันตัวกลับทันที “ไม่ดูๆ เหม็นขนาดนี้ นางอุจจาระราดบนเตียงหรืออย่างไร? แย่จริงเชียว ทำข้าเสียเวลาหมด ค่าเดินทางยี่สิบเหรียญทอง ไปเอามาเดี๋ยวนี้ไอ้หนู!”
เจียงหงหนิงหน้าแดง เขาดึงชายเสื้อตัวเอง พูดอู้อี้ว่า “ข้า…ข้าไม่มีเงิน แต่วางใจเถอะท่านหมอสวี ไว้พี่ใหญ่ข้ากลับมาแล้วจะจ่ายให้ท่านแน่นอน! ท่านโปรดเมตตาหน่อยเถิด ช่วยตรวจให้พี่สะใภ้ข้าที”
หมอสวีได้ยินดังนี้ก็หน้าดำมืดกว่าเดิม เขากระชากคอเสื้อเจียงหงหนิง “ไม่มีเงินยังจะกล้าตามหมอ ไอ้เด็กเวร… เหม็นขนาดนี้ยังจะกล้าให้ข้าตรวจอีก…”
“ไสหัวออกไป!” หลินหวั่นชิวโมโหแล้ว ด่าว่านางอุจจาระราดบนเตียงยังพอทน เพราะกลิ่นก็เหม็นจริงๆ
แต่จะมารังแกเด็กต่อหน้านางไม่ได้เด็ดขาด!
“เ้ายังไม่ตรวจอาการให้ข้าด้วยซ้ำ ยังจะหน้าด้านเก็บเงิน เ้าใช่หมอแน่หรือ ผันตัวไปเป็โจรมิดีกว่าหรือ? หรือว่าเ้าเองก็เป็โจรอยู่ก่อนแล้ว แค่แก่ชราลงก็เท่านั้น!”
หลินหวั่นชินยันตัวลุกขึ้นชี้หน้าด่า นางเกลียดคนแก่ที่ทำตัวไม่น่าเคารพที่สุด ทั้งพวกที่บีบให้ยกที่นั่งให้บนรถประจำทาง พวกที่ไล่เด็กๆ ออกไปแล้วยึดสนามบาส สนามฟุตบอลไว้เป็ที่ร้องรำทำเพลงของตัวเอง กลางดึกกลางดื่นยังเปิดเพลงเต้นระบำในเขตที่พักอาศัย…คนแก่พวกนี้ไม่มีอะไรดี ไม่ใช่ว่าคนแก่ไม่ดีหรอกนะ แต่คือคนไม่ดีที่แก่แล้วต่างหาก!
หมอสวีถูกหลินหวั่นชิวด่าจนโมโห เขาผลักเจียงหงหนิงลงกับพื้นและจะเดินไปหาหลินหวั่นชิว “นังหญิงคณิกายั่วยวนพี่เขยตัวเอง ถูกขายแล้วยังจะกล้าอวดดี วันนี้ข้าจะสอนเ้าให้รู้จักทำตัวเป็คน!”