การมาถึงของซูจื้อหงทำให้หยางเฉินประหลาดใจอยู่ไม่น้อยแม้แต่โม่เชี่ยนนีก็แสดงท่าทีว่ารู้อยู่แล้ว นั่นทำให้หยางเฉินยิ่งรู้สึกหงุดหงิดอยู่ในใจ
เมื่อคืนที่ผ่านมาหลินรั่วซีได้เซ็นสัญญาร่วมมือทางธุรกิจกับอีกสองบริษัทซึ่งแน่นอนว่าตระกูลซูเป็ศัตรูตัวฉกาจแต่ทำไมหลินรั่วซีจึงยังชวนซูจื้อหงมาทานอาหารเช้าร่วมกันที่นี่อีก?
"ดูเหมือนคุณหยางจะมีเื่สงสัยมากมายเชียวนะครับ" ซูจื้อหงเอ่ยถามอย่างสุภาพ
อย่างไรก็ตาม หยางเฉินไม่เคยชอบท่าทางของซูจื้อหงอยู่แล้วเขาหรี่ตาเล็กน้อยพร้อมกล่าวว่า
"ผมสงสัยก็จริง แต่คุณก็ไม่จำเป็ต้องบอกผม"
ซูจื้อหงได้ยินดังนั้นก็เพียงคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วไม่ได้พูดอะไรอีก
หลินรั่วซี และโม่เชี่ยนนีเห็นหยางเฉินมีใบหน้าที่ถมึงทึงก็เผยรอยยิ้มออกมา
ในขณะนั้นเองอู๋เยวี่ยเดินเข้ามาพร้อมกับมีโน้ตบุ๊กที่อยู่ในมือและกล่าวกับหลินรั่วซีว่า
"หลังจากบริษัทฉางหลินโอนเงินห้าพันล้านหยวนเข้าบัญชีเมื่อรวมกับของเราและของมู่หยุนแล้ว บัญชีเงินฝากของธนาคารสวิสก็จะเสร็จสมบูรณ์"
"ยืนยันสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของฉางหลินได้หรือเปล่า?" หลินรั่วซีถาม
อู๋เยวี่ยได้ยินดังนั้นก็รีบเปิดไฟล์ในโน้ตบุ๊ก และแสดงแผนภาพกราฟที่ซับซ้อนออกมาก่อนกล่าวว่า
"ตามการวิเคราะห์ของอาเธน่ากรุ๊ปหลังจากฉีดเงินห้าพันล้านหยวนเข้าไปแล้ว หุ้นของฉางหลินจะตกฮวบอย่างรุนแรง ภายใน 3-4 เดือน ฉางหลินจำเป็ที่จะต้องหานักลงทุนเพิ่มเพื่ออัดฉีดเงินพยุงตัวไม่ให้หุ้นตกลงไปมากกว่านี้"
"กลุ่มอาเธน่าคืออะไร?" หยางเฉินเอ่ยถามหลินรั่วซี
หลินรั่วซีไม่ได้ตอบ โม่เชี่ยนนีที่อยู่ข้างๆจึงกรุณาหยางเฉินด้วยการอธิบายขึ้นว่า
"เป็เหล่ามือดีที่บอสหลินเฟ้นหามาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกเพื่อวิเคราะห์สถิติและความเป็ไปได้ของสถานการณ์คู่แข่ง"
ซูจื้อหงเสริมขึ้นอย่างอารมณ์ดีว่า
"แม้ว่ากลุ่มนี้จะมีสมาชิกน้อยกว่าสิบคน แต่นั่นก็ทำให้ผมอิจฉาแทบแย่แล้วฮ่า ฮ่า ฮ่า"
หลินรั่วซีครุ่นคิดสักครู่ก่อนกล่าวว่า
"เป็ไปได้ ฉางหลินไม่เข้าใจธุรกิจนี้ดีพอและตระกูลเฉิงก็คงไม่กล้าเสี่ยง... อู๋เยวี่ยดำเนินแผนการขั้นต่อไปได้"
"ค่ะ บอสหลิน!"
อู๋เยวี่ยโค้งคำนับก่อนเดินออกจากศูนย์อาหารไป
หยางเฉินมองอู๋เยวี่ยอย่างงงงัน และในที่สุดเขาก็ไม่อาจอดทนต่อไปได้
"ใครก็ได้อธิบายหน่อยได้มั้ยว่ามันเกิดเื่อะไรขึ้น?"
หลินรั่วซีจิบน้ำส้มเล็กน้อยพร้อมกล่าวว่า
"ก่อนที่เราจะตกลงร่วมลงทุนในธุรกิจนี้ฉันใช้เวลาไปถึงสามเดือนในการกว้านซื้อหุ้นในโรงงานผลิตเช่นเดียวกับอีกหลายสิบบริษัทใช้เงินลงทุนไปทั้งสิ้นแปดพันล้านหยวน ลงทุนกับมู่หยุนห้าพันล้านและอีกสามพันล้านฉันตัดสินใจที่เข้าซื้อหุ้นของฉางหลิน"
"ซื้อหุ้นฉางหลิน?" หยางเฉินสงสัยว่าพวกเขาอาจได้ยินผิดไป เพราะฉางหลินเพิ่งจะเซ็นสัญญารวมลงทุนกับอวี้เหล่ยและมู่หยุนไปไม่นานนั่นเอง!?
"นายได้ยินไม่ผิดหรอก" โม่เชี่ยนนีอธิบายต่อ
"เราได้ติดต่อสื่อทุกช่องทางและจะเริ่มต้นกระจายข่าวในเช้าวันนี้เพื่อแพร่กระจายข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของฉางหลินมีเดียแน่นอนว่านักลงทุนเมื่อได้เห็นข่าวนี้ก็จะเริ่มทยอยขายหุ้นออกและเราก็จะกว้านซื้อหุ้นของฉางหลินในราคาที่แสนถูกรอจนกว่าหุ้นขึ้นเราก็จะขายมันในราคาแพง... เมื่อฉางหลินขาดเงินทุนสนับสนุนแน่นอนว่าเื่นี้จะต้องเกิดผลกระทบอันใหญ่หลวงกับฉางหลินแน่นอน"
หยางเฉินรู้สึกว่าแผนนี้นั้นง่ายเกินไป
"ฉางหลินเป็บริษัทั์ใหญ่ที่มีสินทรัพย์นับพันล้านเราจะทำได้จริงๆ น่ะเหรอ?"
"ที่ฉางหลินตัดสินใจเข้ามาลงทุนในจงไห่นั้นเป็การตัดสินใจที่ผิดพลาดแม้ว่าพวกเขาอาจได้รับประโยชน์ในระยะยาวแต่ในการเริ่มต้นนั้นพวกเขา้าเงินอัดฉีดมหาศาล แม้ว่าเฉิงซินหลินจะตัดสินใจลงทุนกับเราและมู่หยุนเพื่อเพิ่มพันธมิตรและรักษาเสถียรภาพเอาไว้แต่โชคร้ายที่เขาคิดว่าธุรกิจเป็เื่ง่าย" โม่เชี่ยนนีกล่าวเสริม
ซูจื้อหงตบมือชอบใจ หัวเราะกล่าวว่า
"ธุรกิจคือา ลูกปืนล้วนไม่มีตา"
หยางเฉินเหลือบมองไปที่ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของหลินรั่วซี ที่มองไปยังซูจื้อหงก่อนจะยิ้มถามว่า
"ประธานซูว่ายังไงล่ะคะ"
ซูจื้อหงหัวเราะเสียงดังก่อนกล่าวว่า
"ทำไมเราไม่ไปคุยกันห้องคอมพิวเตอร์เพื่อเฝ้าดูาในตลาดหุ้นแล้วค่อยๆ อธิบายให้คุณหยางฟังไปเลยล่ะครับ?"
...
เช้าวันนี้ในออฟฟิศของเฉิงซินหลิน บนโต๊ะของเขาขณะนี้ไม่มีถ้วยกาแฟหอมกรุ่นที่เขาชอบดื่มอยู่เป็ประจำแต่วันนี้กลับกลายเป็ถ้วยน้ำชาแทน เพื่อให้เขาสามารถสงบจิตใจที่วุ่นวายลง
เพราะตอนนี้อารมณ์ของเฉิงซินหลินนั้นไม่ปกติ
ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังได้ยืนยันแล้วว่าบัญชีการจัดการร่วมในธนาคารสวิสมีเงินลงทุนทั้งสิ้นเจ็ดพันล้านซึ่งห้าพันล้านในนั้นเป็เงินที่เขาเพิ่งจะโอนเข้าไป
แน่นอนว่าการลงทุนร่วมกันในครั้งนี้ นับเป็การลงทุนครั้งใหญ่ที่มีจำนวนเงินลงทุนทั้งสิ้นหนึ่งหมื่นสองพันล้านหยวน
แต่ทุกอย่างดูเหมือนทุกอย่างมันช่างเรียบง่ายจนเกินไปจนเฉิงซินหลินเริ่มรู้สึกสังหรใจบางอย่าง
เขาไม่ใช่คนโง่ เขารู้อย่างชัดเจนว่าการลงทุนครั้งนี้เป็ถือว่าเป็เื่ใหญ่ มิหนำซ้ำยังเป็การลงทุนในสิ่งที่เขาไม่ถนัด แน่นอนว่าตอนนี้เขาไม่อาจหันหลังกลับไปได้อีกแล้ว
สุดท้ายเฉิงซินหลินก็จ้องมองไฟล์เอกสารบนจอคอมพิวเตอร์ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น
ตระกูลหลินธุรกิจอุตสาหกรรมสื่อขนาดใหญ่ และตัวเขาเองก็ตัดสินใจเลือกเมืองจงไห่เป็ที่ตั้งแห่งใหม่แม้ว่าในการเริ่มต้นนั้นจะต้องใช้เงินทุนมหาศาล
บริษัทมีเดีย และอุตสาหกรรมแฟชั่นของหลินรั่วซีจะช่วยให้ฉางหลินได้เปรียบโดยธรรมชาติ
เฉิงซินหลินเชื่อมั่นว่าการลงทุนในครั้งนี้จะสร้างผลกำไรให้กับฉางหลินได้อย่างมหาศาล
แม้ว่าหลินรั่วซีจะเป็ผู้บริหารที่ชาญฉลาด แต่ในสายตาของเฉิงซินหลินสุดท้ายเธอก็จะต้องตกเป็ของเขาจนได้...
แม้ว่าเขาจะห่างกับเธอั้แ่เธอจบจากมหาวิทยาลัย แต่เขาก็ยังเชื่อมั่นว่าด้วยวิธีการของเขา เขาจะต้องคว้าหัวใจของเธอกลับคืนมาได้อย่างแน่นอน
อีกอย่างหนึ่งก็คือ เขาก็ค้นพบจุดอ่อนของผู้ชายคนนั้นแล้ว
ดังนั้นตอนนี้เขาจึงไม่จำเป็ต้องกังวล และค่อยๆทำไปตามแผนที่วางไว้อย่างรอบคอบเท่านั้น!
ทันใดนั้นเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นถี่รัว
"เข้ามา"
อู๋เต๋าพาสารร่างที่เหนื่อยอ่อนเข้ามาในห้องด้วยความทุลักทุเล
"ท่านประธานครับ เราเพิ่งได้รับรายงานมาว่าหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ของจีนประโคมข่าวให้บริษัทของเราเสียๆ หายๆ ซึ่งมีทั้งเื่อื้อฉาวของบริษัทและเื่ภายในของทางเราด้วยนะครับ!"
เฉิงซินหลินได้ยินดังนั้นก็ไม่มีอาการตื่นใใดๆ เขาถามขึ้นอย่างใจเย็นว่า
"สาเหตุล่ะ"
"สื่อต่างๆ ปิดกั้นไม่ให้เราสามารถติดต่อเข้าไปได้แต่เราสามารถแก้ข่าวได้โดยการแถลงข่าวเพื่อชี้แจงได้ ว่าพวกเขาไม่มีหลักฐานเพียงพอ... แต่... แต่"
"แต่อะไร?"
"หุ้นของเราลดลงถึงจุดต่ำสุดในรอบเดือนแต่กลับมีผู้ซื้อรายใหญ่กว้านซื้อไปจำนวนมาก... ผมคิดว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่ถูกต้อง" อู๋เต๋าเอ่ยขึ้นอย่างแ่เบา
มันไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน!
เฉิงซินหลินรู้สึกเย็นวาบไปทั่วหนังศีรษะ เขาเริ่มตระหนักถึงสิ่งที่ผิดพลาดก่อนจะะโสั่งออกมาด้วยเสียงอันดังว่า
"เร็วเข้า รีบระดมทุนรวบรวมเงินทั้งหมดเท่าที่จะหาได้เดี๋ยวนี้!!"
"ครับ!"
อู๋เต๋าวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากออฟฟิศด้วยความหวาดกลัว
เฉิงซินหลินไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เขารู้ว่านี่เป็าที่โหดร้ายอย่างแท้จริงไม่แกตายฉันก็ตาย!
เขา้าเริ่มต้นการตอบโต้อีกฝ่ายทันที!
มันเป็ใครกันแน่!?
ฉางหลินเข้ามาในจงไห่ โดยไม่ได้ติดต่อกับบริษัทใดๆ เลยนอกจากอวี้เหล่ย!
หลินรั่วซีงั้นหรือ? ความเย็นะเืดั่งเทพธิดาที่แสนเืเย็น!?
เฉิงซินหลินแทบไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าหักหลังเขา...
ในขณะที่เขายกหูโทรศัพท์ขึ้นเพื่อต่อสายสอบถามจากเธอโดยตรง เขาก็หยุดชะงักไว้เสียก่อน
นั่นเพราะเขารู้ว่าถ้าเขาถามไปตรงๆ โดยไม่คำนึงถึงคำตอบ ชีวิตนี้เขาจะไม่สามารถทวงคืนอะไรได้อีก เขาไม่สามารถเสี่ยงกับการเดิมพันในครั้งนี้ได้!
"ท่านประธานครับ!!"
เสียงะโของอู๋เต๋าดังมาแต่ไกล
"ท่านประธานครับ เกิดเื่ใหญ่แล้ว!"