จางชุ่ยจ่ายเงินเดือนให้น้องชายและน้องสะใภ้สูงขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าคนตระกูลจางจะรู้สึกปลาบปลื้มเพียงใด เวลาที่บิดามารดาเยินยอเธอนั้นมากกว่าหลายสิบปีก่อนรวมกันเสียอีก ถ้าจะลดเงินเดือน อย่าว่าแต่น้องชายและน้องสะใภ้จะคิดอย่างไร ผู้เฒ่าบ้านจางทั้งสองย่อมไม่เห็นด้วยก่อนใครอื่นแน่!
จางชุ่ยเห็นด้วยกับการส่งเซี่ยหงเซี๋ยกลับบ้าน เธอต้องรับผิดชอบค่ากินอยู่ทั้งเดือน ทั้งยังจ่ายค่าแรงย้อนหลังให้พอสมควร จำเป็ต้องซื้อเสื้อผ้าให้เซี่ยหงเซี๋ยอีกด้วยหรือ?
พอปลดเซี่ยหงเซี๋ย หนึ่งเดือนคงประหยัดไปได้หลายสิบหยวน
ตอนได้กำไรเจ็ดแปดร้อยหยวนต่อเดือน เงินหลายสิบหยวนไม่ได้หนักหนาอะไร เมื่อหนึ่งเดือนได้แค่ 200 กว่า หลายสิบหยวนก็คือเงินจำนวนมากแล้ว
“เช่นนั้นก็ลดเงินเดือนของน้าจื่ออวี้กับน้าสะใภ้”
จางชุ่ย้าเพียงส่งเซี่ยหงเซี๋ยกลับไปก่อน ปากจึงกล่าวตกลงว่าจะลดเงินเดือน อย่างไรเสียบัญชีของร้านก็มีเธอเป็ผู้ดูแลเพียงคนเดียว ลดเงินเดือนแค่ฉากหน้า ถึงเวลาค่อยแอบชดเชยให้เป็การส่วนตัวอีกทีก็ย่อมไม่มีใครรู้
เซี่ยหงเซี๋ยได้รับประกาศปลดคน แม้จางชุ่ยจะพูดจาอ่อนหวานน่าสงสารขนาดไหน ก็แปลว่าไม่้าให้เธอทำงานในร้านอยู่ดี
อาศัยที่จางจี้หลายเดือน เซี่ยหงเซี๋ยฝึกฝนตนเองจนเหลี่ยมจัด
จางจี้ดูแลการกินอยู่ ข้าวปลาอาหารไม่คิดเงิน เซี่ยหงเซี๋ยรับประทานไม่ยั้ง ทั้งร่างอวบกลมเปล่งปลั่งขึ้นเป็เท่าตัว ไม่ต้องตากแดดอยู่ในชนบท ผิวพรรณจึงขาวใสขึ้นเล็กน้อย อายุสิบแปดไร้ร่องรอยสาวขี้เหร่ เซี่ยหงเซี๋ยดูดีขึ้นจริงๆ ชีวิตในตัวเมืองสุขสบายถึงเพียงนี้ เซี่ยหงเซี๋ยจะทำใจจากจางจี้ไปได้อย่างไร?
ใช่แล้ว หลังตรุษจีนการค้าขายของจางจี้ย่ำแย่ลงมาก เซี่ยหงเซี๋ยอยู่ในร้านยิ่งดูว่างเข้าไปใหญ่
แต่ทำไมไล่เธอคนเดียว ไม่ไล่จางหม่านฝูหรือเจียงเหลียนเซียงเล่า
เซี่ยหงเซี๋ยอาศัยอยู่ที่ร้านหลายเดือน อย่างอื่นไม่แน่ใจ ทว่าใครคือเถ้าแก่ที่แท้จริงของบ้านจาง เธอจะดูไม่ออกเชียวหรือ
เธออยากะโโหวกเหวกโวยวาย แต่พอคิดไปคิดมา เธอคนเดียวต่อกรกับทุกคนได้ที่ไหน ท่อนไม้เซี่ยหงเซี๋ยคนนี้ก็พอมีพัฒนาการบ้าง หรือเรียกว่าความฉลาดของเธอถูกใช้ในเวลาแบบนี้เสียหมด
จางชุ่ยบอกว่าในร้านไม่ขาดแคลนแรงงานคน เซี่ยหงเซี๋ยเชื่อฟังโดยดี และพูดว่าตนเองจะกลับหมู่บ้านต้าเหอ
----------------------------------------
เมื่อเซี่ยหงเซี๋ยกลับถึงบ้าน หวังจินกุ้ยเดือดดาลในบัดดล
“ดีนี่ ตอนส่งเสียพี่สาวลูกเรียนหนังสือ ก็บอกว่าทั้งครอบครัวร่วมแรงร่วมใจ ตอนนี้พวกลุงของลูกเปิดร้านมีเงินทองแล้ว ก็ไม่้าคนอื่นในครอบครัว ตัวเองใช้ชีวิตมั่งมีสุขสบาย แม้แต่น้ำแกงเหลือๆ สักคำยังสละให้หลานสาวไม่ได้!”
เซี่ยหงเซี๋ยแสร้งรั้งมารดาเอาไว้ หวังจินกุ้ยยิ่งโดนรั้งยิ่งอารมณ์พลุ่งพล่าน บุกเข้าไปในห้องแม่เฒ่าเซี่ย
หวังจินกุ้ยโกรธจริง
เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว ภาระงานในไร่นายิ่งมากขึ้น ตอนแรกครอบครัวขาดวัวแก่หลิวเฟินนั่นไป ตอนนี้เซี่ยต้าจวินหนีหายไม่เห็นแม้แต่เงาอีกคน ส่วนเซี่ยฉางเจิงเปิดร้านในเมือง จางชุ่ยก็ไปอาศัยอยู่ในเมืองเป็เพื่อนลูกสาวเล่าเรียนั้แ่หลายปีก่อน ไร่นาของตระกูลเซี่ยไม่ใช่น้อยๆ ผู้ใหญ่ผู้น้อยรวมกันสิบกว่าคนทีเดียว ทว่างานในไร่นาให้หวังจินกุ้ยและเซี่ยหงปิงจัดการทั้งหมด
หวังจินกุ้ยลอบอู้งานเป็นิสัย ใช้จอบขุดดินสองเฟิน [1] เพื่อปลูกพืช เธอก็ร้องคร่ำครวญไม่มีที่สิ้นสุด
ตอนนี้เซี่ยฉางเจิงไม่ให้หวังจินกุ้ยหาเศษหาเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งยังส่งเซี่ยหงเซี๋ยกลับบ้านอีก... กลับบ้านมาทำอะไรเล่า ช่วยครอบครัวเซี่ยฉางเจิงทำนาหรือ? หวังจินกุ้ยจึงโวยวายเื่นี้ต่อหน้าแม่เฒ่าเซี่ย
“ร้านอาหารว่างนั่นคือร้านที่พี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่เปิดชัดๆ ทำไมขี้งกแบบนี้? ฉันไม่ได้บอกให้พวกพี่สองคนนำเงินกลับบ้านมาใช้ด้วยกันเสียหน่อย หงเซี๋ยช่วยงานในร้านยังรับไว้ไม่ได้ พวกเราสมควรต้องเสียสละชีวิตให้บ้านพี่ใหญ่หรือ!”
หวังจินกุ้ยพร่ำบ่นราวกับกำลังยิงปืนกล พูดจนหญิงชราเซี่ยวิงเวียน
เซี่ยหงปิงเดินค่อยๆ เยื้องย่างเข้ามาในห้อง พลันตัดสินใจครั้งสุดท้าย “ฉันคนนี้ที่เป็น้องย่อมไม่้าเอาเปรียบพี่ใหญ่ แม่จะทำอย่างไรกับครอบครัวพี่ใหญ่ อย่าว่าแต่เื่หลานสาวคนโตเรียนหนังสือ จวิ้นเป่าแม่ก็เป็คนเลี้ยงให้ใช่หรือไม่? พวกเขามั่งมีแล้วไม่เห็นหัวพี่น้อง ไม่ว่าอย่างไรก็ควรรับแม่ไปใช้ชีวิตสุขสบายในเมืองด้วยอยู่ดี”
แม่เฒ่าเซี่ยริมฝีปากสั่นเทา
“ร้านอาหารว่างนั่นพี่ใหญ่แกเป็คนเปิดจริงหรือ?”
เซี่ยหงปิงพยักหน้า “มีข่าวมาจากทางครอบครัวพี่สะใภ้ พี่สะใภ้ใจกว้างกับคนบ้านจางยิ่งนัก แม่พี่สะใภ้ออกมาโอ้อวดว่าเดือนๆ หนึ่งแค่เงินเดือนอย่างเดียวพี่สะใภ้ใหญ่จ่ายให้ตั้ง 100 หยวน แถมตรุษจีนครอบครัวพี่สะใภ้ยังได้รับอั่งเปาอีก”
ยุคสมัยที่บ้านใครรับประทานเนื้อสัตว์สักมื้อยังปิดบังไม่มิดเช่นนี้ จางชุ่ยจ่ายเงินเดือนให้น้องชายและน้องสะใภ้ 100 หยวนต่อเดือน คนบ้านมารดาเธอพลั้งปากพูดไปจึงเป็สิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ข่าวคราวค่อยๆ เปิดเผยออกมา และแพร่มาถึงหมู่บ้านต้าเหอ เซี่ยหงปิงอดกลั้นไม่แสดงความขุ่นเคืองมาโดยตลอด เมื่อไล่เซี่ยหงเซี๋ยกลับบ้าน เซี่ยหงปิงยังจะทนอะไรได้อีก?
ทั้งบ้านพี่รองหนีหายไปกันหมด พี่ใหญ่กับภรรยาเป็เถ้าแก่ถึงในเมือง ทำไมเขาต้องหมกตัวอยู่บ้านทำไร่ทำนาเป็เกษตรกรด้วย!
แม่เฒ่าเซี่ยกำลังตัวสั่นเช่นกัน
เธอลำเอียงรักเซี่ยจื่ออวี้ มิใช่เพราะเซี่ยจื่ออวี้มีอนาคตไกลหรือ แม่เฒ่าเซี่ยโปรดปรานลูกหลานที่อนาคตสดใสมากกว่า เนื่องจากคาดหวังให้ลูกหลานพาเธอใช้ชีวิตที่สุขสบาย เธอไม่รู้ว่า ‘จางจี้’ ทำเงินได้มากน้อยแค่ไหน รู้เพียงแต่ตอนตรุษจีนเธอให้เงินเซี่ยจื่ออวี้ 400 หยวน เซี่ยจื่ออวี้ก็ไม่เคยแพร่งพรายสถานการณ์ของจางจี้ออกมาให้เธอฟัง
แม่เฒ่าเซี่ยเกิดโทสะจากการโดนหลอกลวง
ลูกชายและจื่ออวี้รับรู้เื่นี้หรือไม่?
ลูกชายคนเล็กกับภรรยาของเขากำลังเพ้อเจ้อ หรือว่าคนโตกับภรรยาลวงหลอกทั้งครอบครัวจนหัวหมุน?
แม่เฒ่าเซี่ยคว้ามือของเซี่ยหงเซี๋ย “ลุงและป้าสะใภ้หลานเป็คนเปิดร้านอาหารว่างจริงๆ หรือ?”
บริเวณที่เซี่ยหงเซี๋ยโดนคว้านั้นเจ็บไม่ใช่ย่อย เห็นได้ชัดว่าแม่เฒ่าเซี่ยออกแรงมากเพียงใด ทว่าเธอยังหวังให้แม่เฒ่าเซี่ยออกโรง จึงทนความเ็ปพลางตอบกลับอย่างจริงจังมาก “มีหลายครั้งที่ฉันเห็นป้าสะใภ้ใหญ่ไปธนาคารเพื่อฝากเงินน่ะ”
ช่วยเหลือคนอื่นทำงาน หนึ่งเดือนก็ได้เงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คงไม่ถึงขั้นต้องไปธนาคารทุกเดือนใช่หรือไม่?
แต่เป็เถ้าแก่ย่อมได้เงินต่อเดือนไม่น้อยแน่นอน เก็บเงินไว้ในบ้านไม่ปลอดภัย ถึงจำเป็ต้องฝากเงินทุกๆ เดือน เซี่ยหงเซี๋ยแอบอู้งาน สายตาวนเวียนกับคนอื่นไปเสียหมด เธอไม่เพียงแต่เห็นจางชุ่ยไปฝากเงิน ยังเห็นจางชุ่ยถอนเงินให้เซี่ยจื่ออวี้อีกด้วย
เซี่ยหงเซี๋ยใช้มือทำท่าทาง “...เงินก้อนหนาขนาดนั้น น่าจะหลานพัน!”
หลายพัน!
ช่วยงานคนอื่นจะมีเงินเป็พันหยวนได้ที่ไหน
จำนวนนี้มากเสียจนแม่เฒ่าเซี่ยจินตนาการไม่ถึง ถ้าเป็เื่จริง เซี่ยฉางเจิงและภรรยาคือเถ้าแก่ของจางจี้ไม่ผิดแน่
เธอลำเอียงเข้าข้างครอบครัวลูกชายคนโตทั้งใจ แต่กลับโดนบ้านคนโตปิดบังเงียบเชียบ แม่เฒ่าเซี่ยย่อมโมโหแทบทนไม่ได้
ลูกสะใภ้ใหญ่ท่าทางซื่อสัตย์ คิดไม่ถึงว่าอันที่จริงภายในจะซ่อนความเ้าเล่ห์ไว้ แม่เฒ่าเซี่ยจึงผลักความผิดทั้งหมดให้กับจางชุ่ยโดยไม่รู้ตัว เซี่ยฉางเจิงคือลูกชายของเธอ เซี่ยจื่ออวี้คือหลานสาวสุดที่รักของเธอ การลวงหลอกเธอไม่มีทางเป็ความคิดของสองคนนี้แน่นอน
เซี่ยหงปิงช่างกตัญญูเสียจริงๆ จะส่งแม่เฒ่าเซี่ยไปเขตอันชิ่ง ณ บัดนี้เลย
แม่เฒ่าเซี่ยหวาดกลัวการเข้าเมืองมากทีเดียว คราวก่อนนักเรียนเ่าั้แสดงอารมณ์โกรธเคือง เกือบเข้ามาตีเธอแล้ว
“หงปิง แกไปเรียกพวกพี่ใหญ่มา มีเื่อะไรปิดบ้านคุยกัน ครอบครัวพวกเราทะเลาะกันเช่นนี้ยังน่าขันไม่พอหรือ?”
่นี้ตระกูลเซี่ยไม่ราบรื่น
นอกจากเื่น่ายินดีที่เซี่ยจื่ออวี้สอบติดมหาวิทยาลัย ที่เหลือล้วนคือเื่น่าเยาะเย้ย
กิตติศัพท์เหลวแหลกของเซี่ยเสี่ยวหลาน หลิวเฟินหย่าร้าง เซี่ยต้าจวินหนีออกจากบ้าน คนอื่นเห็นความวุ่นวายของตระกูลเซี่ยเป็กับข้าว ใจของแม่เฒ่าเป็ทุกข์อย่างถึงที่สุด!
----------------------------------------
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้ไปหยางเฉิงมือเปล่า
เธอนำของดีท้องถิ่นไปไม่น้อย มอบให้เฉินซีเหลียงนิดหน่อย เถ้าแก่เฉินรู้สึกแปลกใจมาก
หลังจากแปลกใจก็คือความยินดี
มีลูกค้าประจำที่มารับซื้อสินค้าจากเขามากมาย ทุกคนล้วนต้องต่อรองราคากับเขา นับว่าเซี่ยเสี่ยวหลานถือเป็ลูกค้าคนแรกที่นำข้าวของมาฝากเขา เฉินซีเหลียงรู้สึกว่าทำธุรกิจกับเซี่ยเสี่ยวหลานช่างสบายใจเหลือเกิน เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่แค่ตรงไปตรงมา ยังทำธุรกิจอย่างใจกว้างอีกด้วย
เสนอแนะความคิดให้แก่เขา แถมคราวก่อนก็พาเขาไปทำกำไรเร่งด่วนด้วยกัน
เฉินซีเหลียงพอมีจิตสำนึก เขาจึงถามเซี่ยเสี่ยวหลานเป็การตอบแทน “สินค้าที่เธอรับไปครั้งก่อนขายดีหรือเปล่า? ทางนี้มีแบบใหม่มาอีกแล้ว ถ้าแบบไหนขายไม่ดี ส่งกลับมาให้ฉันเปลี่ยนให้เธอนิดๆ หน่อยๆ ก็ได้... บอกไว้ก่อนนะ เปลี่ยนได้เท่านั้น แต่จะคืนไม่ได้!”
เชิงอรรถ
[1]分 เฟิน คือ หน่วยวัดพื้นที่ มีขนาดเท่ากับ 66.67 ตารางเมตร ที่ดินสิบเฟินเท่ากับหนึ่งหมู่ (亩) ซึ่งมีขนาดเท่ากับ 666.67 ตารางเมตร