Puppy Love จดหมายรักระหว่างนายและฉัน (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     หลังจากสิ้นเสียงพูด ก็ได้ยินเสียงดัง “ปัง” ขึ้นมา

 

        ในขณะนั้นชวีเสี่ยวปอรีบชะเง้อคอยาวขึ้นไปทันที และเขาก็เห็นว่าบนเวทีเตี้ยๆ ตรงบริเวณด้านหน้าของโถงใหญ่มีพนักงานสองคนยืนอยู่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเอาฆ้องขนาดใหญ่นี้ออกมาตอนไหน ชวีเสี่ยวปอเหลือบมองไปเห็นเด็กน้อยที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ รีบยกมือขึ้นมาปิดหูเอาไว้ทันที พร้อมทั้งอดไม่ได้ที่จะพูดกับเซี่ยเจิงว่า :

 

        “นี่มันงานฉลองร้านหรือละครลิงกันแน่? ”

 

       “การแสดงพื้นบ้าน” เซี่ยเจิงอธิบายออกไปในคำเดียว

 

        แล้วก็เป็๲เช่นนั้นจริงๆ หลังจากที่ตีฆ้องเสร็จสรรพก็มีคนใส่ชุดประจำชนเผ่าหลายคนเดินขึ้นมาบนเวที ตอนนี้ชวีเสี่ยวปอรู้สึกอยากขอบคุณเสียงฆ้องเมื่อครู่ขึ้นมาแล้ว ไม่อย่างนั้นถ้าพวกเขาเพียงแค่พูดขึ้นมาเฉยๆ ชวีเสี่ยวปอก็อาจจะเดินออกจากร้านไปแล้วก็ได้

 

        แต่สองสามเพลงที่เล่นมานี้ค่อนข้างที่จะสนุกมากเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าเขาทั้งสองคนจะฟังไม่ออกสักคำเลยก็ตาม ซึ่งเหตุผลหลักคือบรรยากาศในร้านค่อนข้างดีมาก เสียงร้องของพวกเขานั้นธรรมดาทั่วไปแต่เขากลับทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมไปกับเพลงได้ พี่ผู้ชายโต๊ะด้านหน้าสองสามคนนั้นที่เมาแล้วยังอยากที่จะขึ้นไปร้องรำทำเพลงกับพวกเขาด้วยเลย

 

       “เอาละค่ะ! แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ต่อจากนี้ก็ถึง๰่๥๹เวลาเล่นเกมของพวกเรากันแล้ว!” พนักงานเสิร์ฟที่รับบทเป็๲พิธีกรชั่วคราวดูเป็๲มืออาชีพมากเลยทีเดียว “ฟังทางนี้นะคะ! ทุกท่านไม่ต้องเขินอายไป! มาร่วมเล่นเกมกันเยอะๆ ! เพียงแค่มาร่วมเล่นเกมกับเราก็ได้ของรางวัลกันทุกคน! ”

 

       “ทำไมพอฉันได้ยินประโยคแบบนี้แล้ว? ” ชวีเสี่ยวปอขมวดคิ้ว พร้อมทั้งมองไปยังเซี่ยเจิง : “ถึงรู้สึกเหมือนกับที่โหยวเจียระดมพวกเราให้ไปเข้าร่วมการแข่งขันบาสเกตบอลยังไงยังงั้นเลย”

 

       “นายอยากเล่นไหม? ” เซี่ยเจิงถาม

 

       “เล่นเถอะค่ะ !” เสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังของชวีเสี่ยวปอ เขาจึงรีบหันไปดูทันที เป็๲พนักงานที่มารับออเดอร์ของพวกเขาทั้งคู่ เธอกำลังยืนอยู่ด้านหลังพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “พี่ชายสุดหล่อ หน้าตาของคุณวันนี้เหมือนกับคนที่จะได้ทานฟรีนะคะ”

 

       “นี่มันเป็๲คำบรรยายหน้าตาอะไรกันเนี่ย” ชวีเสี่ยวปอรู้สึกว่าพนักงานคนนี้พูดตรงเกินไปหน่อย แม้ว่าจะรู้สึกไม่สบอารมณ์แต่ก็รู้ตลกอย่างบอกไม่ถูก

 

       “เล่นเถอะนะคะๆ ! ลองเล่นดูเถอะนะคะ ไม่เสียเงินค่ะ” พนักงานพูดชักชวนต่อไปอีก ดูท่าแล้วน่าจะกระตือรือร้นกับการเล่นเกมมากกว่าพวกเขาทั้งคู่เสียอีก

 

       “ถ้างั้นก็? ” ชวีเสี่ยวปอมองเซี่ยเจิง “ลองดูหน่อยไหม? ”

 

       “ได้สิ หน้าของคนกินฟรี” เซี่ยเจิงหัวเราะพร้อมทั้งลุกขึ้นยืน

 

        คนที่ร่วมเล่นเกมมีทั้งหมดสิบคน โดยแบ่งกันเป็๲ห้าคู่ ซึ่งนอกจากพวกเขาทั้งสองคนแล้ว ยังมีอีกคู่ที่เป็๲คู่ชายชาย ส่วนที่เหลืออีกสามคู่ล้วนเป็๲คู่รักกัน

 

       “เอาล่ะค่ะ ก่อนอื่นต้องขอแนะนำกติกาของเกมการแข่งขันกันก่อนนะคะ” พิธีกรพูดออกมาพลางแจกจ่ายลูกโป่งในมือไปให้พวกเขา “ที่จริงแล้วมันง่ายมากๆ เลยค่ะ ภายในเวลาหนึ่งนาที ทั้งสองคนต้องใช้ตัวดันเข้าหากันจนกว่าลูกโป่งจะแตก ทีมไหนที่ดันให้ลูกโป่งแตกได้มากที่สุด ก็จะมีสิทธิ์ได้รับรางวัลไปค่ะ แต่ระวังนะคะ! เงื่อนไขคือห้ามให้เท้าอย่างเด็ดขาด! ต้องเป็๲การร่วมมือของทั้งสองคนเท่านั้นนะคะ! ”

 

        “ให้ตายเถอะ” พอชวีเสี่ยวปอขึ้นมาก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วสิ โดยเฉพาะหลังจากที่พิธีกรแนะนำวิธีการเล่นเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็มีใบหน้าที่ตั้งใจดูเกมการแข่งขันของลูกค้าทั้งร้านมองมายังพวกเขาเป็๲ตาเดียว จึงทำให้ในขณะนั้นชวีเสี่ยวปอต้องหยิบลูกโป่งมาบังหน้าเอาไว้ แล้วเข้าไปพูดกระซิบที่ข้างหูของเซี่ยเจิงว่า : “ถ้าพวกเราขอถอนตัวตอนนี้ยังทันอยู่ไหม? ”

 

       “ยังทันอยู่” เซี่ยเจิงหัวเราะเบาๆ ออกมา “แต่ว่า ฉันอยากกินฟรี”

 

       “อะไรของนายเนี่ย? ” ชวีเสี่ยวปอรู้สึกนึกไม่ถึง

 

        “เตรียมตัว——” พิธีกรลากเสียงยาว “เริ่มได้ !”

 

        ชวีเสี่ยวปอยังไม่ทันที่จะได้รู้สึกตัว เสี้ยววินาทีถัดมาเซี่ยเจิงก็หยิบลูกโป่งจากมือของเขาไป แล้วจับมันยัดลงไประหว่างตัวของพวกเขาทั้งสองคน จากนั้นชวีเสี่ยวปอก็ถูกดึงเข้ามาอย่างแรงจนมีเสียงมีเสียงลูกโป่งแตกดังขึ้นมาตามมา ในตอนนั้นเองทั้งตัวของเขาก็ชนเข้ากับหน้าอกของเซี่ยเจิงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

 

        ให้ตายเหอะ !

 

        ชวีเสี่ยวปอตะลึงงันไปในทันที

 

        เกมนี้นี่เล่นแบบนี้เหรอ?

 

        แต่เขายังไม่ทันจะได้สำรวจดูว่าคู่อื่นว่าเขาเล่นกันอย่างไร ลูกโป่งใบที่สองก็ถูกยัดลงไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เขาลองให้ความร่วมมือกับเซี่ยเจิงอยู่หลายครั้ง แต่แล้วชวีเสี่ยวปอก็พบว่าวิธีนี้เป็๲วิธีที่เร็วที่สุดแล้วจริงๆ อีกทั้งผู้ชมด้านล่างเวทียังให้กำลังใจพวกเขาทั้งคู่อย่างสุดกำลัง

 

        เซี่ยเจิงนี่ช่างเป็๲ผีน้อยที่ฉลาดหลักแหลมจริงๆ

 

       

       “ให้ตายสิ เพื่อที่จะได้กินฟรี” ชวีเสี่ยวปอรู้สึกว่าหน้าอกของตัวเองชาไปหมดแล้ว แต่กลับยังไม่ถึงหนึ่งนาทีอีก “ชาตินี้ฉันขายหน้าไปจนไม่เหลืออะไรแล้วเนี่ย !”

 

       “ความขยันหมั่นเพียรและการประหยัดมัธยัสถ์เป็๞คุณธรรมที่ดีงามของคนเรา” เซี่ยเจิงยิ้มหน้าทะเล้น “นายอยากเล่นเองนะ”

 

       “ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง! ” ในที่สุดก็จบลง ตอนที่พิธีกรกำลังนับถอยหลัง ทุกคนตรงนั้นค่อยๆ ทยอยหยุดการเคลื่อนไหวลง ส่วนชวีเสี่ยวปอก็รีบหันหลังไปหอบหายใจพร้อมทั้งตบหน้าอกไปด้วยทันที

 

       “ถึงแม้ว่าผลลัพธ์จะเห็นเป็๞ที่ประจักษ์แล้ว แต่พวกเรายังต้องขอประกาศคะแนนสุดท้ายกันสักนิดนึงนะคะ!”  พิธีกรชี้ไปยังลูกโป่งที่แตกอยู่เต็มพื้นและเริ่มนับจำนวนลูกโป่ง

 

       “ทีมที่หนึ่งเจ็ดลูก ทีมที่สองเก้าลูก ทีมที่สาม......ทีมที่สามสามลูก? พวกคุณนี่ไม่ไหวเลยจริงๆ ฮ่าฮ่า” ช่างเป็๞พิธีกรที่มาพร้อมความสามารถในการแซวจริงๆ จากนั้นเขาก็พูดขึ้นต่อ : “ทีมที่สี่สิบเอ็ดลูก ทีมที่ห้า! สิบเจ็ดลูก!”

 

       “เป็๞ผู้ชนะ !”

 

        หลังจากที่พิธีกรพูดจบก็จับมือของชวีเสี่ยวปอที่ยืนอยู่ข้างตัวเองชูขึ้นมา ชวีเสี่ยวปอผงะไปจากนั้นทั้งตัวของเขาก็ถูกดึงให้หันกลับมา เขาจึงจำต้องให้ความร่วมมือโดยการยิ้มออกไปอย่างกระอักกระอ่วน และรีบดึงมือออกมาทันที

 

       “ต่อไปเรามาจับรางวัลกันดีกว่าค่ะ”

 

        ในตอนนั้นชวีเสี่ยวปอก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพวกเขาเอากล่องจับฉลากออกมาจากตรงไหน และที่บอกว่ากล่องจับฉลากที่จริงแล้วมันก็คือกล่องลังกระดาษนั่นล่ะ บนนั้นยังมีตัวอักษรบิดๆ เบี้ยวๆ เขียนเอาไว้สามคำว่า “กล่องจับฉลาก”

 

       “นายไปเลย” ชวีเสี่ยวปอสะบัดศีรษะของเขาไปทางเซี่ยเจิง “ฉันมือไม่ค่อยดี”

 

       “ได้” เซี่ยเจิงตอบกลับไปหนึ่งคำ ส่วนชวีเสี่ยวปอก็เดินตามเขาไป

 

       “ฟ้าดินได้โปรดช่วยลูกด้วย” เซี่ยเจิงพึมพำท่องสองสามคำที่ไม่น่าจะช่วยอะไรได้ด้วยท่าทางที่จริงจัง ภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นของพิธีกรและชวีเสี่ยวปอ เขาก็ยื่นมือลงไปล้วงในกล่องจับฉลากอย่างเอาจริงเอาจัง

 

       

        ตอนที่ออกมาจากร้านอาหารท้องฟ้าก็ได้มืดเป็๲ที่เรียบร้อยแล้ว

 

        ทั้งสองคนนั่งอยู่ในรถ พร้อมทั้งมองดูตุ๊กตาหมูน้อยตัวเล็กและคูปองแทนเงินสดของร้านอาหารมูลค่าสิบหยวน โดยที่เขาทั้งคู่ไม่พูดไม่จากันเลยสักคำเดียว

 

       “หน้าฉันมันเหมือนคนที่จะได้กินฟรีไม่ใช่ไง? ” ชวีเสี่ยวปอระงับอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่แล้ว ในขณะนั้นเขาจึงหยิบตุ๊กตาหมูน้อยขึ้นมาบีบไปมาอย่างแรง แต่ทันใดนั้นเขาก็พบเ๱ื่๵๹ใหม่ที่คาดไม่ถึงยิ่งกว่า “บ้าเอ๊ย ตรงก้นยังเบี้ยวเลย! นี่มันร้านเถื่อนหรือไงเนี่ย? ทำไมจับฉลากยังได้ของที่มีตำหนิอีก! ”

 

        เซี่ยเจิงหยิบมาดู “โห จริงๆ ด้วย แต่ลำดับที่เจ็ดได้ของรางวัลเท่านี้ก็ไม่แย่แล้วนะ”

 

       “ยังมีที่แย่ไปกว่านี้อีกเหรอเนี่ย? ” ชวีเสี่ยวปอเอาหมูน้อยตัวนั้นโยนไปยังเบาะหลัง

 

       “ฉันไปถามมาแล้ว” เซี่ยเจิงมองไปยังแก้มของชวีเสี่ยวปอที่ป่องขึ้นมาเล็กน้อยเนื่องด้วยความโมโห และเขาก็รู้สึกอยากขำขึ้นมา “รางวัลของลำดับสุดท้ายเป็๲ไฟแช็กหนึ่งอัน”

 

       “จริงๆ เลย” ชวีเสี่ยวปอเองก็กลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่แล้วเหมือนกัน “ชนจนหน้าอกเจ็บไปหมดแลกกับหมูน้อยก้นเบี้ยวเนี่ยนะ? ”

 

       “ดีมากแล้วล่ะ” เซี่ยเจิงเองตัวพิงไปด้านหลัง “คนเราต้องรู้จักพอ พวกเขาก็เจ็บเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง !”

 

        ชวีเสี่ยวปอถูกทฤษฎีการรู้จักพอที่ไร้ประโยชน์ของเซี่ยเจิงโน้มน้าวเข้าให้แล้ว จากนั้นเขาจึงเอื้อมมือไปดึงเข็มขัดมาขาดไว้ : “ถ้างั้นตอนนี้กลับเลยไหม? ”

 

       “เดี๋ยวก่อน” เซี่ยเจิงควานหาไปในกระเป๋ากางเกง แต่กลับไม่ได้หยิบอะไรออกมา

 

       “มีอะไรเหรอ? ” ชวีเสี่ยวปอถาม

 

       “เหมือนจะลืมกุญแจไว้ในร้านอาหาร” เซี่ยเจิงถอนหายใจออกมา “นายช่วยไปเอามาให้ฉันหน่อยสิ”

 

        ชวีเสี่ยวปอเองก็ไม่ได้คิดมากอะไร พูดออกมาว่าได้คำหนึ่งแล้วก็ลงจากรถไป เขาวิ่งเหยาะๆ กลับไปยังร้านอาหาร แต่เพียงครู่เดียวเขาก็วิ่งกลับมาทันที

 

        ชวีเสี่ยวปอเคาะกระจกรถ พร้อมทั้งหอบหายใจออกมา : “พวกเขาบอกว่าไม่เห็นกุญแจนะ นายลืมไว้ที่สนามบาสหรือเปล่า? ”

 

       “ไม่มีเหรอ? งั้นก็ช่างมันเถอะ พวกเราไปกัน” ในดวงตาของเซี่ยเจิงมีความเ๽้าเล่ห์แววขึ้นมา

 

       “นายไม่หากุญแจแล้วเหรอ? มีสำรองเอาไว้ไหม? ” ชวีเสี่ยวปอรู้สึกแปลกๆ กับท่าทางเช่นนี้ของเซี่ยเจิง แต่เมื่อเปิดประตูฝั่งคนขับออกมา เขาก็เห็นสิ่งของบางอย่างถูกวางเอาไว้ตรงเบาะรถ ทันใดนั้นเขาจึงเข้าใจขึ้นมาแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้