“ยาออกฤทธิ์แล้ว?”
เสียงครางของเถารั่วเซียงทำเอาฉินหลางมีความสุขไปทั้งตัวและหัวใจ แต่เพียงไม่นานเขาก็ตระหนักขึ้นได้ว่าเป็อาการตอนที่ยาออกฤทธิ์ เมื่อกี้อันเต๋อเซิ่งบอกว่ามันชื่อยา ‘ชุนเหมียวสีหยู่’ เหมือนว่ายาตัวนี้ออกฤทธิ์แรงมากๆ ด้วย
แต่ถ้ายาตัวนี้ออกฤทธิ์ไม่แรง โจวหลิงหลิงและผู้หญิงเ่าั้คงไม่ตกเป็เหยื่อ
ฉินหลางรู้ว่า ตอนนี้เถารั่วเซียงครางเพราะฤทธิ์ยา จึงรีบเดินเข้าไปพยุง เตรียมพาเธอออกไปจากที่นี่ แต่ฉินหลางคิดไม่ถึงเลยว่า จู่ๆ เถารั่วเซียงก็กอดเขาเอาไว้ ฉินหลางยังไม่หายตกตะลึง ปากที่เผยอได้รูปของเธอประกบเข้ากับปากของฉินหลาง นอกจากนี้เธอยังกอดรัดเขาไว้แน่นราวกับเป็เถาวัลย์
ไม่มีวิธีอื่นแล้ว แม้ว่าฉินหลางไม่ได้ทาเซ่อเซียงไว้บนร่างกาย แต่ตอนนี้หลูจินตายไปแล้ว ด้วยการควบคุมของฤทธิ์ยาเถารั่วเซียงจึงต้องเลือกฉินหลางเป็ที่ ‘ระบายอารมณ์’
“จูบแรกของฉัน ไม่เหลือแล้วเหรอ!”
เผชิญหน้ากับปืนหรือยาพิษ ฉินหลางไม่มีตื่นเต้นและไม่กระวนกระวายเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ตอนนี้จูบของเถารั่วเซียงกลับทำให้เขาร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูก
สมองของฉินหลางตื้อไปหมดแล้ว แต่ว่า ‘เ้าฉินหลางน้อย’ ในเวลาสำคัญกลับไม่ได้เบลอ รู้สึกเหมือนมันกำลังจะพองโต และที่ทำให้ฉินหลางคิดไม่ถึงก็คือ จู่ๆ อวัยวะข้างล่างของเขาก็รู้สึกสบายตัวอย่างประหลาด ความรู้สึกแบบนี้เกือบจะทำให้เขาร้องครางออกมา เขาก้มลงไปดู ที่แท้เถารั่วเซียงจับเ้าฉินหลางน้อยที่อยู่ในกางเกง เหมือนจะควักมันออกมา ในขณะที่เ้าฉินหลางน้อยก็รู้สึกเหมือนใกล้จะะเิออกมาแล้ว
เขาเงยหน้าขึ้น เห็นเพียงเถารั่วเซียงที่อยู่ใต้แสงเดือน บนใบหน้าเธอแดงก่ำ มีเสน่ห์และน่าหลงใหลมาก สวยจนแทบลืมหายใจ ทำให้ฉินหลางไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ราวกับ้าให้มันผิดต่อไป อ้อยอิ่งอยู่กับเธอไปเรื่อยๆ…
“ฉินหลาง นี่นายเป็เดรัจฉานไปจริงๆ แล้วเหรอ?” ถึงเวลาสำคัญอย่างนี้ทีไร ความเป็สุภาพบุรุษของผู้ชายก็มักจะออกมาสร้างปัญหา ดังนั้นเวลานี้ ครึ่งหนึ่งคือ ‘เทพบุตร’ ที่เป็สุภาพบุรุษ อีกครึ่งหนึ่งคือ ‘ซาตาน’ ที่เป็เดรัจฉาน
“เป็แค่ความผิดพลาดที่สวยงามเท่านั้นเอง อีกอย่างที่ทำไปก็เพื่อช่วยถอนฤทธิ์ยาให้เธอด้วย เธอจะเข้าใจนาย” เสียงของซาตานกล่าวขึ้น “อย่างมาก เสร็จกิจแล้วก็บอกว่ามันเป็ความผิดของพระจันทร์ เธอที่อยู่ใต้แสงจันทร์ดูเย้ายวนมากเกิน…”
“ถ้านายฉวยโอกาส นายก็ไม่ต่างอะไรจากเดรัจฉานแล้วสิ!”
“ถ้าไม่ฉวยโอกาส งั้นนายก็แย่ยิ่งกว่าเดรัจฉานแล้วสิ?”
“…”
เพี้ยะ!
หลังจากตะลุมบอนกันสักพัก สุดท้ายเทพบุตรในใจเขาก็ใช้คุณธรรมและจิตใต้สำนึกเอาชนะซาตานได้สำเร็จ ฉินหลางตบหน้าตัวเองหนึ่งที จากนั้นกัดฟันผลักเถารั่วเซียงออก เขารีบหยิบยาหนึ่งเม็ดออกมาจากกระเป๋าหนัง แล้วยัดมันเข้าไปในปากเถารั่วเซียง “อาจาร์ยเถา นี่คือยาถอนพิษนะครับ”
“ยาจิ่วเซียงยี่ลู่! เ้าเด็กล้างผลาญ!” เสียงตาเฒ่าพิษดังขึ้นข้างๆ หูฉินหลางอีกครั้ง
“เชี่ย! ตาเฒ่าพิษคุณอย่าแอบดูได้ไหม?” ฉินหลางสบถเสียงแ่ๆ
โดยทั่วไปแล้ว ยาถอนพิษหนึ่งชนิดจะถอนพิษชนิดนั้นได้ชนิดเดียว ก็เหมือนกับกุญแจหนึ่งดอกไขที่ล็อกได้แค่หนึ่งอันฉันใดก็ฉันนั้น แต่ในมีกุญแจผีสารพัดประโยชน์ที่สามารถไขได้ทุกล็อก ดังนั้นในยาถอนพิษก็มียาพิเศษที่มีคุณสมบัติ ‘ถอนได้ทุกพิษ’ เช่นเดียวกัน ซึ่ง ‘ยาจิ่วเซียงยี่ลู่’ ก็คือยาพิเศษที่สามารถถอนได้ทุกพิษนั่นเอง เพียงแต่ยาตัวนี้ขาดตลาด หาซื้อยากมาก และราคาแพงลิบลิ่วสุดๆ ที่สำคัญทำยากมากๆ อีกด้วย ดังนั้นตาเฒ่าพิษถึงได้บอกว่าฉินหลางเป็เด็กล้างผลาญ
ความจริงแล้วฉินหลางจะถอนพิษให้เธอโดยวิธีการอื่นก็ได้ แต่เขาจะ้าเวลาคิดค้นและผสมตัวยา แล้วในระหว่างนี้เถารั่วเซียงจะทำยังไง จะให้ฉินหลางทำให้เธอสลบเลยเหรอ?
ยาจิ่วเซียงยี่ลู่ไม่ได้มีเพียงราคาคุย ฤทธิ์ยาของเถารั่วเซียงหมดไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าแดงก่ำก็ค่อยๆ กลับเป็ปกติ
ประมาณ 5 นาทีผ่านไป เถารั่วเซียงก็กลับสู่สภาพปกติ เพียงแต่เธอยังจำเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ได้ชัดเจน นึกถึงตัวเองเป็ฝ่ายเข้าไปจูบฉินหลางก่อน แล้วยังเอาลิ้นเข้าไปเย้าแหย่ฉินหลางด้วย แล้วยังมีการกระทำที่น่าอายกว่านั้นอีก เื่พวกนี้ทำให้เธอทั้งอายและทั้งโกรธไปในเวลาเดียวกัน เธอหันไปพูดกับฉินหลาง “เื่เมื่อกี้นี้ นายจะต้องลืมมันไปให้หมด!”
“ผม…ลืมไม่ลง” ตอนนี้ในใจฉินหลางยังะโโลดเต้นอยู่เลย ความทรงจำ่นั้น สำหรับฉินหลางแล้ว เรียกได้ว่าติดตราตรึงใจ ฉินหลางอยากจะก๊อบปี้ความทรงจำเ่าั้ออกมาจากข้างในสมอง จากนั้นไรท์เป็แผ่นดิสก์ เก็บรักษาไว้ตลอดไปซะด้วยซ้ำ จะลืมไปได้ยังไง โดยเฉพาะลิ้นหวานๆ ที่หยอกเย้าเขาอย่างคล่องแคล่ว รสชาตินั้นคิดถึงทีไรก็ยังคงหอมหวานไม่มีสิ้นสุดเลยจริงๆ
“นาย—นายกำลังคิดถึงเื่เมื่อกี้นี้อีกแล้วใช่ไหม!” เถารั่วเซียงโมโหจนริมฝีปากสั่นเทา แต่ว่าสมองมันเป็ของฉินหลางเธอจะควบคุมความคิดของเขาได้อย่างไร
“อาจารย์เถาครับ ผมรับปาก ว่าจะพยายามลืมเื่นี้ไป” ฉินหลางพูดส่งๆ จากนั้นเขาก็ดึงเข้าเื่อื่น “คืนนี้ผ่านเื่ราวมากมายขนาดนี้ คุณกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
“ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะนอนหรอก” เถารั่วเซียงมองาแบนตัวฉินหลาง “นาย…นายไม่เป็ไรใช่ไหม? เมื่อกี้อันเต๋อเซิ่งบอกว่านายถูกพิษแล้ว นายจะเป็อะไรรึเปล่า?”
“ผมถอนพิษบนตัวคุณได้ ผมก็ต้องแก้พิษให้ตัวเองได้เหมือนกันสิ ผมบอกคุณไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมเป็แพทย์แผนจีนที่เก่งมากๆ”
“แพทย์แผนจีน? นายเป็แพทย์แผนจีนจริงๆ เหรอ?” เถารั่วเซียง มองฉินหลางด้วยความสงสัย “แพทย์แผนจีน มีวรยุทธ์สูงขนาดนี้ด้วยเหรอ?”
“อืม…” ฉินหลางยังคิดไม่ออกว่าจะกลบเกลื่อนยังไงดี พลันสมองแล่น พูดขึ้นด้วยความจริงจังว่า “อาจารย์เถาครับ ที่คุณคิดแบบนั้น เพราะว่าคุณยังไม่ค่อยเข้าใจแพทย์แผนจีน—เราพูดไปด้วยเดินลงไปด้วยดีกว่า”
“ไหล่เขามีงูอยู่ไม่ใช่เหรอ?” แค่คิดเถารั่วเซียงก็กลัวจนใจสั่นแล้ว
“อยู่กับผม ไม่ว่างูอะไรก็ไม่กล้ากัดคุณทั้งนั้น ตอนเข้าอนุบาล ครูเคยบอกกับพวกเราว่า งูก็เป็เพื่อนที่ดีของคนเราเหมือนกัน โดยทั่วไปแล้วพวกมันจะกินหนูที่สร้างความเดือดร้อนให้คนเราเท่านั้น—”
“กรี๊ด!”
จู่ๆ เถารั่วเซียงก็กรีดร้องขึ้นด้วยความใ เพราะว่าเธอเห็นงูหลามอินเดียตัวก่อนหน้านี้กำลังกินคนอยู่ ตอนนี้เหลือเพียงท่อนล่างคาอยู่ที่ปากงูเท่านั้น
“ไม่ต้องกลัว” ฉินหลางเดินเข้าไปแตะที่หัวงูหลามเบาๆ แล้วจึงหันไปพูดกับเถารั่วเซียง “ผมบอกแล้วไง งูพวกนี้กินแต่พวกหนูที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน คนพวกนี้ทำแต่เื่ชั่วๆ ให้งูกินพวกเขาจะได้ไปสู่สุคติ”
ทว่าเถารั่วเซียงกลับไม่กล้าเข้าใกล้งูหลามตัวใหญ่นี้ เพียงเดินตามอยู่ข้างหลังฉินหลาง ลงจากเขาพร้อมกันเท่านั้น
ตอนที่ฉินหลางลงจากเขา งูและแมลงพิษพวกนี้จึงเริ่มแยกย้ายกันไป
“จริงสิ เมื่อกี้นี้นายบอกว่าฉันยังไม่ค่อยรู้จักแพทย์แผนจีนที่แท้จริง งั้นนายบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าแพทย์แผนจีนที่แท้จริงเป็ยังไง?” ดูเหมือนว่าเถารั่วเซียงจะไม่ปล่อยผ่านง่ายๆ แน่ แต่ความจริงแล้วเธอถามฉินหลาง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจออกจากงูที่อยู่รอบๆ ตัว
“แพทย์แผนจีนที่แท้จริงน่ะเหรอ อืม…ไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญวิชาการแพทย์เท่านั้น ต้องมีวรยุทธ์ และยังต้องมีความรู้ในเื่อื่นๆ ด้วย”
“ทำไมถึงต้องมีวรยุทธ์ด้วยล่ะ?”
“มีสำนวนหนึ่งที่รู้กันในหมู่แพทย์แผนจีน ‘แพทย์แผนจีนที่ไม่ฝึกลมปราณ เป็ได้แค่ลมตดเท่านั้นแหละ’ ”
“ถึงมันจะหยาบคาย ทว่าก็สมเหตุสมผลดีนะ?”
“ต้องสมเหตุสมผลอยู่แล้วสิครับ คุณรู้ไหมการแพทย์แผนจีนกว้างมากเลยนะ ไม่ใช่แค่ตรวจโรค กับจ่ายยาเท่านั้น แพทย์แผนจีนที่มีฝีมือจริงๆ ส่วนมากแล้วไม่จำเป็ต้องจ่ายยา ก็รักษาผู้ป่วยให้หายได้… คุณเชื่อสิ อย่างการนวดกดจุดและการฝังเข็ม นี่เป็สองแขนงที่มีความล้ำลึกมาก มองผ่านๆ เหมือนใครๆ ก็เป็กัน แต่จริงๆ แล้วพวกเขาเป็เพียงผิวเผินเท่านั้น การนวดกดจุดและการฝังเข็มที่แท้จริง ตัวของแพทย์เองจะต้องมีวรยุทธ์ ในขณะที่ทำการรักษาจะต้องรวบรวมลมปราณ ใช้ลมปราณกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ใช้ลมปราณในการควบคุมเข็ม ถึงจะเป็วิธีการที่ดี! เื่อื่นๆ อีก คุณรู้จักวิชาธาตุทั้งห้าที่*ฮัวโต๋เป็คนคิดขึ้นมารึเปล่า นั่นก็เป็วิชายุทธ์ที่เอาไว้บำรุง และเพาะเลี้ยงลมปราณโดยเฉพาะ”
คำพูดดังกล่าวของฉินหลางไม่ได้เป็การคุยโว ในฐานะผู้สืบทอดของตาเฒ่าพิษความรู้ความเข้าใจทางแพทย์แผนจีนของฉินหลางล้ำลึกมากๆ และรู้จักแพทย์แผนจีนในสมัยโบราณที่มีความชำนาญ และนิยมใช้ลมปราณเข้ามาช่วยในการรักษาหลายคนเช่นเดียวกัน การที่พวกเขาฝึกยุทธ์ ฝึกควบคุมลมปราณ ไม่ได้เป็การออกกำลังกายเพียงเท่านั้น มันยังเกิดประโยชน์กับผู้ป่วยได้มากกว่า เพราะว่าเืลม และ**พลังชี่คือพื้นฐานของวิชาแพทย์แผนจีน
“ที่นายพูดมา ก็ฟังดูมีเหตุผลพอสมควร… แล้วที่นายถอนพิษกับควบคุมและสั่งการงูเก่งขนาดนี้ นายไปเรียนมาจากไหน”
“เอ่อ…นั่นเป็เพราะ…เพราะว่าผมเป็แพทย์แผนจีนที่เก่งมากๆ ไง ที่ผมบอกว่าเก่ง เพราะผมถอนพิษ กับควบคุมและสั่งการงูพวกนี้ได้ไง”
“ทำไมนายแค่ผิวปากก็สั่งการงูได้แล้ว ประสาทรับเสียงของงูแย่มากไม่ใช่เหรอ?”
“ประสาทรับเสียงแย่ ไม่ได้แปลว่าจะไม่ได้ยินเสียงสักหน่อย อีกอย่างผมไม่ได้ผิวปาก แต่มันคือขลุ่ยแมลง”
“อะไรคือขลุ่ยแมลง ฉันขอดูหน่อยได้ไหม…”
“…”
*ฮัวโต๋ : เป็ชาวตงฮั่น เกิดในปี ค.ศ.145 เป็แพทย์แผนจีนชื่อดังที่ถูกยกย่องให้เป็แพทย์เทวดาในยุคนั้น ได้รับความเคารพนับถือจากชาวจีนมาจนถึงทุกวันนี้
**พลังชี่ : พลังจากอากาศ หรือการไหลเวียนของลมในร่างกาย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้