ลมพัดใบไม้ปลิวม้วนวนอยู่กลางอากาศ
“เอ่อ...คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีใครตามมา? หรือว่าพวกนางจะหลอกข้าเล่น? เฮ้อ หัวใจของพวกผู้หญิงนี้เป็อะไรที่คาดเดาไม่ได้เลยจริงๆ เดาไปเดามา มารดามันเถอะ ไม่เคยเดาถูกสักที...”
เมื่อพบว่าเหล่าโร้กสาววัยขบเผาะทั้งหลายไม่ได้ได้ตามมา ซุนเฟยเหม่อมองใบไม้และทะเลทรายสีเหลืองที่ลอยผ่านหน้าด้วยแววตาเศร้าๆ เขาคิดว่าเหล่าสาวๆ จะเปลี่ยนใจกะทันหันขึ้นมาไม่อยากจะมาเที่ยวเล่นที่นี่ ช่วยไม่ได้ที่จะร้องฮึออกมาเบาๆ แล้วเดินไปตามถนนในเมือง ‘ลุกค์ โกลไลน์’ เพื่อไปหา NPC ฟาร่าในเมือง บทบาทของนางที่ ‘ลุกค์ โกลไลน์’ เหมือนชาร์ซีที่ ‘ค่ายโร้ก’ นั่นคือช่างตีเหล็ก ซุนเฟยสามารถซื้ออาวุธที่ร้ายแรงระดับสูงกับนางได้ที่นี่
ซุนเฟยเปิดกล่องโต้ตอบการค้า แล้วกวาดสายตามองสินค้า
เริ่มั้แ่เกราะ
ก่อนหน้านี้พลังป้องกันของ ‘ชุดขนสัตว์อาร์คติก’ ที่ได้มาจากมอนสเตอร์ที่มีพลังป้องกันแค่ 48 ซึ่งตอนนี้มันล้าสมัยแล้ว มันยากที่จะต้านทานกรงเล็บของมอนสเตอร์ระดับสูงได้ ถึงเวลาแล้วที่ต้องโละทิ้ง
เขาพิจารณาอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเลือกชุดเกราะลายแมลงสีแดงที่มีพลังป้องกัน 95 มาหนึ่งชุด ‘เกราะแผ่นไร้ต้าน’ นี้มีพลังป้องกันสูงกว่า ‘ชุดขนสัตว์อาร์คติก’ ตั้งหนึ่งเท่า แต่ราคาของมันก็สูงจนทำให้แทบหยุดหายใจ ซุนเฟยต้องเสียเงินซื้อมาตั้งสองหมื่นเหรียญทอง
นอกจากชุดเกราะนี้ ซุนเฟยยังเลือกหมวกเกราะระดับสูงรูปแบบสปาตันที่จะมีรูปทรงตัว T ปิดจมูก ้าหมวกเกราะจะมีขนนกสีทองตั้งขึ้นเป็รูปแบบที่สวยแปลกตาดี หมวกเกราะนี้มีพลังป้องกัน 13 คุณสมบัติพิเศษคือ ป้องกันความเสียหายด้วยไฟ +18% แล้วยังมี ‘รองเท้าบูทหนัก’ หนึ่งคู่ ซึ่งเป็ไอเทมระดับเมจิค พลังป้องกัน +12 คุณสมบัติพิเศษคือ ต้านทานไฟ ไฟฟ้า พิษ
ชุดเกราะ หมวกเกราะและรองเท้าก็มีแล้ว ขาดแค่ถุงมือที่แข็งแกร่งอีกหนึ่งคู่ ชุดเกราะก็จะสมบูรณ์ น่าเสียดายที่หาอยู่นานซุนเฟยก็พบว่าถุงมือที่ NPC ฟาร่าขายไม่มีชนิดไหนถูกใจซุนเฟยเลย
หลังจากที่ถอนหายใจเบาๆ เขาก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา เขาเลือกซื้อถุงมือเหล็กระดับเริ่มต้นสีขาวหนึ่งคู่ จากนั้นก็กลับไปที่ ‘ค่ายโร้ก’ ให้ช่างตีเหล็กสาวชาร์ซีทำเป็ไอเทมเวทมนตร์ให้ หลังทำเควสหาค้อนเวทมนตร์เสร็จ รางวัลของเควสนี้ จนตอนนี้เขาก็ยังไม่เคยได้ใช้มันเลย ด้วยวิธีนี้ก็จะได้รับถุงมือที่มีความแข็งแกร่งระดับสูงอย่างมาก
ต่อมาก็เป็การเปลี่ยนอาวุธ
ซุนเฟยเลือกอย่างตั้งอกตั้งใจเพื่อเอามาแทนที่ขวานั์สองมือของคนเถื่อนก่อนหน้านี้ เขาเลือกขวานั์สองด้ามที่มีสีแตกต่างกัน สีม่วงหนึ่งด้ามสีเขียวหนึ่งด้าม แต่ความยาวเท่ากับดาบสั้น ทั้งยังเรียกแตกต่างกันด้วย ชื่อว่า ‘คมขวานจิตวิญาณสังหาร’ และ ‘คมขวานจิติญญาแห่งคริสตัล’ ทั้งสองด้ามนี้มีพลังโจมตีอยู่ในระหว่าง 8—25 เมื่อเทียบกับขวานสองมือที่มีรูปร่างใหญ่โตเทอะทะก่อนหน้านี้แล้ว ขวานใหม่นี้ดีกว่า ถือเป็ไอเทมระดับเมจิค นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษคือ +4 ต้านทานกับความแม่นยำในการโจมตีและเวทมนตร์ ซุนเฟยจ่ายเงินหนึ่งเก้าพันเหรียญทองสำหรับขวานสองด้ามนี้ ตอนนี้ตัวละครคนเถื่อนได้เรียนรู้ทักษะ ‘การเหวี่ยงสองมือ’ ซึ่งสามารถใช้ขวานสองด้ามในเวลาเดียวกัน ไม่เพียงผลของทักษะจะก่อให้เกิดลมหมุน แต่พลังการโจมตียังเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าอีกด้วย
ขวานสองด้ามนี้ซุนเฟยคิดว่าเป็อาวุธหลักของตัวละครคนเถื่อน
ส่วนอาวุธสำรอง ‘โล่ตราิญญาคชสาร’ และ ‘มีดสั้นพายุ’ ก่อนหน้านี้ก็ถูกซุนเฟยขายทิ้งไปเรียบร้อย เขาเลือก ‘โล่เหล็กบาง’ ที่มีลายเป็รูปไม้กางเขนเหมือนอัศวินศักดิ์สิทธิ์ พลังป้องกัน 22 ต้านทานทั้งหมด +3 และคุณสมบัติพิเศษคือสองขั้ว ส่วนอุจจาระป็นขวานด้ามสั้นที่เรียกว่า ‘คมขวานแยกเื’ พลังโจมตี 7—20 เพิ่มความเสียหายด้วยไฟ +2 ค่าความเสียหายสูงสุด +41% ความแม่นยำในการโจมตี +32%
คราวนี้ มือซ้ายถือโล่มือขวาถือขวาน อุปกรณ์สำรองตอนนี้มีพลังโจมตีมากกว่าอันเดิมถึงหนึ่งเท่า อีกทั้งคุณสมบัติพิเศษที่ติดมากับไอเทมก็น่าตื่นใจ
สุดท้าย ซุนเฟยก็ต้องเสียงเงินสามพันเหรียญทองซื้อเข็มขัดมิติที่มีพื้นที่สามชั้นสิบหกช่อง หลังจากนี้ หากจะนำสิ่งของจากโลกแห่งความจริงเข้ามายังโลก Diablo ก็คงสะดวกขึ้นไม่น้อย
การเดินทางครั้งนี้ซุนเฟยใช้เงินไปทั้งหมดเกือบหกหมื่นเหรียญทอง แต่เนื่องจากเขาได้ขายไอเทมเดิมไปจึงได้ชดเชยมาบางส่วน ทำให้ตอนนี้เขาเหลือเงินอยู่สามหมื่นห้าพันเหรียญทอง ยังคงเป็เศรษฐีน้อยอยู่
น่าเสียดายที่ NPC ที่นี่มีแหวนมิติและไอเทมเล็กๆ ไว้ป้องกันขายน้อยมาก ดังนั้นซุนเฟยจำต้องดับความคิดที่จะซื้อทิ้งไป ตอนนี้เขามีแหวนมิติและไอเทมเล็กๆ อยู่สองอย่าง น่าเสียดายมันทำได้แค่เพิ่มแสงสว่างที่อยู่รอบตัว และมีคุณสมบัติพิเศษคือเพิ่มความแม่นยำในการโจมตี ไม่ค่อยมีประโยชน์ใช้งานเท่าไร แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย
ในระหว่างนี้ ซุนเฟยยืนยันได้เล็กน้อยว่า...
NPC ทั้งหมดของ ‘ลุกค์ โกลไลน์’ ไม่มีสติปัญญาเป็ของตัวเอง คนที่อยู่ใน ‘ค่ายโร้ก’ ยังทำให้เขารู้สึกว่านี่เป็โลกจริง แต่ไข่มุกทะเลทรายแห่งนี้ทำให้ความรู้สึกประทับใจของซุนเฟยตรงกันข้าม ทั้งหมดให้ความรู้สึกเหมือนเป็โลก Diablo ในเกมคอมพิวเตอร์แบบสแตนอโลนของจริง บทสนทนาและเนื้อหาของ NPC ทุกตัวเหมือนกับในเกมของโลกเก่า แทบจะไม่ต่างกันเลย น้ำเสียงเนิบนาบไม่เปลี่ยนโทนเสียง และนอกจากคำพูดที่ฟังดูห้วนๆ สีหน้าของพวกเขาก็ยังคงดูแข็งกระด้าง ไม่ยิ้มไม่หัวเราะตอบอะไรเลย เหมือนเป็หุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมมา
“ทำไมเป็แบบนี้นะ?”
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงรู้สึกว่า ‘ลุกค์ โกลไลน์’ เหมือนเป็เมืองที่ตายไปแล้ว คาดไม่ถึงว่าเหตุผลที่แท้จริงจะเป็แบบนี้ แต่เหตุผลที่แท้จริงสำหรับปรากฏการณ์นี้ ซุนเฟยก็ได้แต่งงงวย สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ ทำได้แค่ดูอย่างเงียบๆ เท่านั้น
……
เมื่อเปลี่ยนไอเทมใหม่ทั้งหมด ทันใดนั้นซุนเฟยก็รู้สึกถึงพลังที่แข็งแกร่งพลุ่งพล่านไปทั่วรูขุมขนของร่าง ไม่ว่าจะเป็พลังป้องกันหรือพลังโจมตี แต่ด้วยไอเทมพวกนี้ทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งเท่าอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่สวมชุดเกราะนี้ ผลลัพธ์ของมันช่างน่าตื่นใดีแท้ ทั้งด้านความสวยงามและด้านประโยชน์จัดว่าอยู่ในระดับสูง
ทำให้ซุนเฟยนึกถึงเหล่าเซนต์ทุกคนในหนังการ์ตูนญี่ปุ่นเื่ ‘เซนต์เซย่า’ ของโลกเก่าโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจของเขาก็พลันตื่นเต้นขึ้นมา ทำให้ชุดเกราะที่อยู่บนร่างของเขามองไม่เห็น จากนั้นก็ะโออกมาว่า “ได้เวลาโชว์โกลด์คล็อธ จงลงมา” จากนั้นก็ควบคุมเกราะของร่างให้ปรากฏขึ้นทีละตัว การออกท่าแทบจะเหมือนกับอนิเมะเื่เซนต์เซย่า ฉากที่เรียกคล็อธของตัวเอง มีแสงเปล่งประกายออกมาจากชุดเกราะและมีลมพัดแรงอย่างมาก ซุนเฟยรู้สึกพอใจกับฉากเมื่อครู่นี้สุดๆ
สองมือชูขึ้นไปบนอากาศ ก่อนจะปรากฏแสงสว่างชั่วครู่ และขวานหนึ่งเขียวหนึ่งม่วงก็ออกมา ขวานในมือของซุนเฟยทั้งสองด้ามที่ปรากฎออกมาก็มีพลังสังหารที่น่าเกรงขามแผ่ออกมา ทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็เซนต์
“ฮ่าๆๆ ทั้งสองด้ามนี้คือขวานอันล้ำค่า จากนี้จะเรียกมันว่าขวานคู่ม่วงเขียว!”
ซุนเฟยถืออาวุธพรั่งพร้อมเต็มที่ ในมือถือ ‘ขวานคู่ม่วงเขียว’ เดินออกจากเมือง ‘ลุกค์ โกลไลน์’ อย่างสง่างาม เข้าไปยังเขตถิ่นทุรกันดารเพื่อฆ่าล้างบางพวกมอนสเตอร์ แค่เห็นพวกมอนสเตอร์อยู่ตรงหน้าซุนเฟยก็ไม่ลังเลที่จะใช้ขวานฟันมันสามสี่ตัวเพื่อสังหารให้สิ้น ตอนนี้ซุนเฟยสามารถสังหารในดาบเดียว ทักษะ ‘การเหวี่ยงสองมือ’ ทำให้เกิดคมมีดพายุขึ้นมา ดังนั้น ตลอดเส้นทางที่เขาผ่านไปก็กลายเป็เส้นทางแห่งความตาย สิบก้าวสังหารหนึ่ง หลายพันลี้ก็ไม่หยุด
“ความแข็งแกร่งของตัวละครคนเถื่อนตอนนี้ แม้ต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือสี่ดาว ก็มีโอกาสที่จะเอาชนะได้ไม่น้อย”
หลังจากทดลองสังหารมอนสเตอร์ได้สิบกว่านาที ซุนเฟยก็เข้าใจความแข็งแกร่งของตัวเองในตอนนี้ทั้งหมดแล้ว
เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็ไม่อยากล่าช้าอีก ตัดสินใจกลับไปหาวอร์ริฟแล้วเลือก ‘ไปทางทิศตะวันตก’ แสงสีฟ้าก็สว่างวาบขึ้นมาแล้วซุนเฟยก็กลับมาที่ ‘ค่ายโร้ก’
……
“นายท่านซุนเฟย ท่านพูดไม่เป็คำพูด!”
“นายท่านใจร้าย พวกเราก็แค่อยากไปเที่ยวชมเมืองแค่ครู่เดียว ไม่ก่อความวุ่นวายให้ท่านแน่ๆ ท่านต้องพาพวกเราไปสักครั้งนะ!”
“นายท่าน ท่านจะลำเอียงไม่ได้นะ ท่านพาท่านพี่เอเลน่าไปแล้วครั้งหนึ่ง ทำไมไม่พาพวกเราไปด้วยเล่า? พี่เอเลน่าไปได้ พวกเราก็ไปได้เหมือนกันนะ!”
‘ค่ายโร้ก’
ครึ่งชั่วโมงก่อนซุนเฟยหายไปพร้อมๆ วอร์ริฟ ในที่สุดเหล่าโร้กสาวก็เห็นทั้งสองคนกลับมาแล้ว จึงพากันตื่นเต้นแล้วกรูเข้ามาล้อมรอบเขาแล้วส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว
ไม่รู้ว่าั้แ่เมื่อไรที่เอเลน่าคนงามอยู่ตรงนี้
นางพยายามแทรกตัวผ่านวงล้อมของเหล่าพี่น้องมาหาซุนเฟย เห็นซุนเฟยมีท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย ก็ลังเลอยู่สักพักก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “นายท่าน หากท่านสะดวกก็ช่วยพาเหล่าพี่น้องข้าไปด้วยกันเถอะ ั้แ่เล็กจนโตพวกนางก็อยู่แต่ที่นี่ ทุกวันต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ชั่วร้ายนับไม่ถ้วน อยู่แต่กับถิ่นทุรกันดารที่มีแต่ท้องฟ้ามืดครึ้ม จึงโหยหาเมืองที่คึกคักเพื่อ...”
“หยุด!”
ซุนเฟยเรียกให้หยุด ก็หันไปมองเหล่ากุหลาบหนามกลุ่มนี้แล้วถามอย่างแปลกใจว่า “พูดแบบนี้...หรือว่าเมื่อครู่พวกเ้าไม่ได้ตัดสินใจวินาทีสุดท้ายว่าจะอยู่ที่นี่หรือ?”
“อยู่ที่นี่?” เหล่าสาวงามพากันชะงัก “ทำไมพวกเราต้องตัดสินใจว่าจะอยู่ที่นี่กันล่ะ? เป็นายท่านต่างหากที่ไม่ยอมพาพวกเราไป ท่านเล่นหายไปคนเดียวเลย!”
หา...ความจริงเป็แบบนี้หรือ?
ซุนเฟยสับสนเล็กน้อย เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูดว่า “น่าแปลกแฮะ...เอาแบบนี้ล่ะกัน พวกเรามาลองทำอีกครั้งเถอะ...เมื่อครู่อาจจะผิดพลาดกันเล็กน้อย คราวนี้พวกเราจับมือกันห้ามปล่อยมือนะ แล้วหลับตา”
เหล่าสาวๆ ก็พากันทำตาม
เสียงวิ้งดังขึ้น แสงสีฟ้าสว่างขึ้น
ซุนเฟยหายไปจากที่เดิม เอเลน่าก็หายไปพร้อมกับเขา แต่โร้กสาวคนอื่นๆ กลับยังคงยืนอยู่ที่เดิมพลางมองหน้ากันและกัน...
วิ้ง วิ้ง วิ้ง
ไม่ช้าซุนเฟยก็กลับมาอีกครั้ง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมมีแค่เอเลน่าที่ไปได้คนเดียว?” ซุนเฟยตกตะลึง ไม่สมเหตุสมผลเลย หากไปไม่ได้ มันเป็เื่ที่แย่ เพราะอะไร เอเลน่ายังไปได้เลย แต่ทำไมสาวๆ คนอื่นถึงไปไม่ได้ล่ะ?
เหล่าสาวๆ ได้แต่มองหน้ากัน
---------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้