เมื่อหลินฟู่อินเห็นหมอหลี่นิ่วหน้า
นางจึงเลิกคิ้วแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “ท่านหมอหลี่มีปัญหาอะไรหรือเ้าคะ?”
สูตรยาที่นางจ่ายไปเป็สูตรตามอาการของหลี่ฮูหยิน
โดยเน้นไปที่การล้างตับและพลังชี่ในร่างกาย เพิ่มการไหลเวียนเืและสลายลิ่มเื
กำจัดความร้อนสะสมและลดความชื้น หรือหมอหลี่จะมีข้อเสนออื่นกัน?
หากมี
นางก็จะรับฟังคำแนะนำของเขาอย่างเปิดใจ
หลินฟู่อินมีความรู้แค่ทางทฤษฎีของแพทย์แผนจีนเท่านั้น
แม้นางจะเคยจ่ายยาจนบรรดาเพื่อนพ้องคนสนิทเชื่อใจอย่างสุดซึ้งแล้ว แต่นางก็จะไม่หลวมตัวคิดว่านางเก่งที่สุดแน่นอน
หมอหลี่รีบโบกไม้โบกมือ
“ไม่เลย ข้าไม่เชี่ยวชาญในเื่นรีเวชอยู่แล้ว เมื่อดูสูตรยาที่แม่นางหลินจ่ายมาก็ต้องบอกว่าข้าประทับใจมาก!
แต่ถึงสมุนไพรตัวอื่นจะพอหาได้ แต่ข้าไม่มีกัญชาเทศนี่สิ”
ไม่มีกัญชาเทศหรือ?
หลินฟู่อินตบหน้าผาก
นางลืมคิดไป
แคว้นต้าเว่ยนั้นล้าหลังในแง่ของนรีเวชศาสตร์
ยาสำหรับนรีเวชจึงมีน้อยมาก ในตอนที่นางไปรักษาบุรุษชาวเป่ยหรงผู้นั้น นางเห็นกัญชาเทศอยู่ทั่วูเา
นางจึงเก็บกิ่งกลับไปให้หลินเฟินและหลินฟางดู
แต่โชคร้ายที่รอบหมู่บ้านหูลู่มีกัญชาเทศอยู่ไม่มาก
มันเป็สมุนไพรสำคัญสำหรับโรคทางนรีเวชที่นางอยากเก็บไว้เพิ่ม
“จริงด้วย แม่นางหลิน
ตอนที่หลี่อี้ไปรับสมุนไพรสำหรับใช้ด้านนรีเวชจากแม่นางเมื่อคราวก่อน
ในนั้นมีกัญชาเทศอยู่ด้วยหรือไม่?” ดวงตาของหมอหลี่เบิกขึ้น แล้วรีบถามอย่างกระวนกระวาย
“ไม่มีเ้าค่ะ”
หลินฟู่อินส่ายหน้าแล้วหัวเราะออกมา “เพราะตอนนั้นกัญชาเทศยังไม่โตพอสำหรับการเก็บเกี่ยวเท่าไร”
กัญชาเทศนั้น ต้องรอจนโตเต็มที่เท่านั้นถึงจะเก็บได้
และตอนนี้ดอกมันก็ยังไม่ทันบาน เพราะหมู่บ้านหูลู่อยู่ใกล้แคว้นเป่ยหรง อุณหภูมิจึงต่างจากเจียงหนาน
เป็ผลให้กัญชาเทศบานช้ากว่าปกติ
เมื่อได้ยินหลินฟู่อินกล่าวเช่นนี้แล้ว
สีหน้าของหมอหลี่จึงดูโล่งใจขึ้นมา “แม่นางหลินไปเก็บมาได้เลยหรือไม่?”
หลินฟู่อินนับวันดู เมื่อเห็นว่ามันใกล้วันแล้ว
จึงพยักหน้าแล้วกล่าว “น่าจะได้เ้าค่ะ เมื่อถึงเวลาแล้ว ข้าจะให้พี่ๆ ทั้งสองของข้าไปช่วยเก็บมาให้เ้าค่ะ
ท่านหมอหลี่โปรดวางใจ เพราะสูตรยาที่ข้าจ่ายให้ ต่างก็เป็ของที่หาได้ไม่ยากตามธรรมชาติเ้าค่ะ”
หมอหลี่ยิ่งประทับใจมากขึ้น
พยักหน้าไม่หยุด
พลางคิดในใจว่า
หากพี่ชายของเขารู้เื่ของเด็กสาวคนนี้เข้า
คงได้กรีดร้องแล้วรีบวิ่งแจ้นจากบ้านมาเพื่อขอรับนางเป็ศิษย์แน่ หากเป็เช่นนั้นแล้ว
ท่านพ่อคงไม่ปล่อยเขาไว้…
ไว้ถึงเวลาค่อยคุยเื่นี้ก็แล้วกัน
หลินฟู่อินเห็นว่าเขาไม่มีข้อโต้แย้งในเื่สูตรยาแล้ว
นางจึงลงมือเขียนสูตรยาทาต่อ เชียงหัว [1] สามเฉียน หงฮวา [2] สองเฉียน
ไป๋จื่อสองเฉียน อ้ายเยี่ย [3] สามเฉียน ตู๋หัว [4] สองเฉียน เซวี่ยเจวี๋ยหนึ่งเฉียน เช่อเสา [5] สามเฉียน
อู่เจียผี [6] สามเฉียน ฝางเฟิง [7] สองเฉียน
โสมตังกุยสามเฉียน โท่วกู่เฉ่า[8] สามเฉียน…
“ตัวสูตรยาใช้ภายนอกอันนี้ก็ง่ายมาก
เพียงบดสมุนไพรเหล่านี้ให้เป็ผง ใส่ลงถุงผ้าสะอาด นำไปนึ่ง ตากแห้ง เป็การดีหากเหลือน้ำไว้ด้วย
จากนั้นนำไปทาบริเวณที่เจ็บ ทาทุกเช้าเย็น ทีละสามครั้ง ต่อเนื่องหกถึงเจ็ดวัน
สลับด้วยการประคบร้อน ยาปริมาณนี้จะพอดีสำหรับ่หกหรือเจ็ดวันเ้าค่ะ”
“ยาภายนอกและภายใน
ลึกล้ำยิ่งนึก!” หมอหลี่มองสูตรยาที่ได้มาแล้วพยักหน้าอย่างประทับใจ
ผู้คนต่างเรียกเขาว่าหมอเทวดา
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเด็กสาวผู้นี้แล้ว เขามิอาจเรียกตัวเองเช่นนั้นได้เลยจริงๆ
“แม่นางหลิน
ถึงภรรยาข้าจะยังไม่ได้ลองใช้ยานี้ แต่แค่อ่านสูตรยาก็ทำให้ข้าสบายใจขึ้นมากยิ่งนัก!”
หมอหลี่กล่าวอย่างปลาบปลื้ม และเมื่อหยุดคิดไปครู่หนึ่ง เขาจึงถามออกมา
“มีเื่หนึ่งที่ข้าอยากจะถามเ้า ไม่ทราบว่าได้หรือไม่?”
“ท่านหมอหลี่
เชิญว่ามาเลยเ้าค่ะ” หลินฟู่อินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ตัวข้าถือว่าค่อนข้างมีฝีมือในเมืองแถบนี้
แต่ตัวข้านั้นขาดความเชี่ยวชาญในนรีเวชศาสตร์
และข้ายังเหนื่อยกับการต้องรับมือกับเหล่าคนไข้มากมายที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือเพราะกลัวเป็ข่าว
ข้าจึงไม่อาจช่วยเหล่าสตรีที่เป็โรคทางนรีเวชได้มากนัก” หมอหลี่ถอนหายใจ
สายตาเต็มไปด้วยความกังวลต่อเหล่าคนไข้ แล้วจึงร้องขอ “แม่นางหลินเป็สตรี
ทั้งยังเชี่ยวชาญเื่นรีเวชศาสตร์และสูติศาสตร์
หากข้าจะให้แม่นางหลินเช่าบ้านของข้าใกล้ๆ ร้านยา เพื่อที่แม่นางจะสามารถอยู่รักษาเหล่าสตรีที่นี่ได้
แม่นางคิดเห็นยังไงบ้าง?”
คำพูดของหมอหลี่ทำให้หลินฟู่อินรู้สึกนับถือขึ้นมา
นี่เป็วิธีคิดของหมอที่เป็ห่วงคนไข้อย่างแท้จริง!
นางมีความคิดที่จะซื้อบ้านในเมืองอยู่แล้ว
เงินก็เตรียมไว้พร้อม แต่ในเมื่อหมอหลี่ประเมินค่านางไว้สูง และคิดว่านางจะสามารถรักษาเหล่าสตรีที่เป็โรคทางนรีเวชได้มากขนาดนี้แล้ว
เช่นนั้นนางก็ควรจะซื้อบ้านที่อยู่ใกล้ร้านยาของหมอหลี่ เพื่อเปิดเป็โรงหมอเลยดีหรือไม่?
“ท่านหมอหลี่
ทำเช่นนั้นมันจะไม่เป็การแย่งลูกค้าของท่านหรือเ้าคะ? อีกอย่าง
การที่สตรีจะร่ำเรียนวิชาแพทย์ในแคว้นต้าเว่ยก็ไม่ใช่เื่ที่เหมาะสมเท่าไรด้วยมิใช่หรือ?”
เมื่อคิดดูแล้ว หลินฟู่อินจึงลองทดสอบดู
แต่ใครจะคาดคิด ว่าหมอหลี่จะเพียงสะบัดชายเสื้อจนเกิดเป็กระแสลมเล็กๆ
ขึ้นมา แล้วกล่าว “ใครกันที่เป็คนเขียนกฎว่าสตรีจะเรียนวิชาแพทย์ไม่ได้? เป็พวกหมอไร้จรรยาบรรณที่ไม่พอใจเมื่อเห็นสตรีใช้วิชาแพทย์จนปล่อยข่าวเช่นนั้นออกมายังไงล่ะ!”
จิตใจของหลินฟู่อินสั่นไหว
เป็เช่นนี้เองหรอกหรือ?
ความจริงแล้ว ไม่มีกฎหมายข้อใดในแคว้นต้าเว่ยที่ห้ามสตรีมิให้เรียนวิชาแพทย์เลย!
“คนพวกนั้นไม่มีค่าพอที่จะเรียกตัวเองว่าหมอหรอก!”
หมอหลี่กล่าวอย่างใส่อารมณ์ “แค่พูดคำว่านรีเวชศาสตร์ขึ้นมา พวกหมอบ้าภาพลักษณ์สักคนก็จะโพล่งขึ้นมาว่าสตรีที่เป็โรคทางนรีเวชนั้นสกปรก
หมอมากมายจึงไม่ยอมศึกษาด้านนรีเวช จนผู้ที่รู้ในศาสตร์เหล่านี้เหลือเพียงหยิบมือ และผู้ที่รู้ต่างก็รู้เพียงน้อยนิด!”
หลินฟู่อินเข้าใจว่าเขากำลังพูดความจริง
จึงรู้สึกหมดแรง
หากในต้าเว่ยมีสตรีที่เรียนวิชาแพทย์มากกว่านี้
และสามารถรักษาโรคเกี่ยวกับนรีเวชให้กันได้ การสูญเสียคงจะน้อยกว่านี้มาก!
“ตอนที่ข้ายังเล็ก
ข้าเองก็เคยเย้ยหยันพี่ชายผู้อุทิศตนให้กับการศึกษาด้านนรีเวชศาสตร์
จนกระทั่งข้าได้ออกเดินทางแล้วได้พบสตรีที่ต้องเป็ทุกข์มากมาย จึงได้รู้ตัวว่าข้าคิดผิดไปมากเพียงใด!
หากข้าทุ่มเทให้กับการศึกษาวิชาแพทย์สำหรับสตรีด้วย
ภรรยาข้าก็คงไม่ต้องมาทนเป็ทุกข์แล้ว…”
หลี่ฮูหยินกลับมาพร้อมกับสาวใช้ที่ถือขนมมาด้วย
กำลังจะย่างเท้าเข้าประตู แต่ก็ได้ยินคำกล่าวเมื่อครู่เสียก่อน นางจึงรู้สึกเป็สุขขึ้นมาที่ได้แต่งงานกับบุรุษที่ยอดเยี่ยม
แต่ก็เ็ปเช่นเดียวกัน
การเป็สตรีในโลกเช่นนี้มันช่างลำบากนัก!
“แม่นางหลิน
ข้าเห็นด้วยกับสามีของข้า กฎหมายข้อใดกันที่บอกว่าสตรีไม่มีสิทธิ์ร่ำเรียนวิชาแพทย์?
เ้าเพียงต้องเปิดโรงหมอใกล้ร้านยาของพวกข้า
และหากมีคนไข้ที่เป็โรคเกี่ยวกับนรีเวชเข้ามา
พวกข้าก็จะแนะนำให้มายังโรงหมอของเ้า เยี่ยมไปเลยมิใช่หรือ?” หลี่ฮูหยินก้าวเข้าประตูมาแล้วกล่าวอย่างเร่งรีบ และกล่าวต่อ
“ข้าชอบแม่นางหลินมาก หากเป็เช่นนี้ เราก็จะไปมาหาสู่กันบ่อยๆ ได้ด้วย!”
-----------------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] เชียงหัว
หมายถึง รากของพืช Notopterygium incisum Ting ex H. T. Chang
[2] หงฮวา
หมายถึง ดอกคำฝอย
[3] อ้ายเยี่ย
หมายถึง ใบโกฐจุฬาลัมพา
[4] ตู๋หัว
หมายถึง Heracleum hemsleyanum Diels
[5] เช่อเสา
หมายถึง RADIX PAEONIAE RUBRA
[6] อู่เจียผี
หมายถึง Acanthopanax gracilistylus W.W.Smith
[7] ฝางเฟิง
หมายถึง Saposhnikovia divaricate
(Turcz.) Schischk.
[8] โท่วกู่เฉ่า
หมายถึง Phryma leptostachya sp. asiatica