ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองัเมืองที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่อย่าง ''ด๊อกทาวน์''นั้นกำลังแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศที่กำลังรุ่งเรืองเฟื่องฟูราวกับแสงอาทิตย์ในฤดูใบไม้ผลิ
ถึงแม้ว่าเมืองนั้นยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์เสร็จไปเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยร้านค้าและภัตตาคารนั้นถูกสร้างขึ้นเป็อย่างแรกเพื่อดึงดูดผู้คนให้หลั่งไหลมา ที่สำคัญจริงๆก็คงจะเป็การสร้างระบบขนส่งทางไกลขึ้นมา จึงทำให้ผู้เล่นจำนวนมากต่างเดินทางมาที่ด๊อกทาวน์ไม่น้อยกว่าที่เดินทางไปในเมืองใหญ่เมืองอื่นๆ
ไม่ว่าเมืองไหนก็ตามที่้าเจริญรุ่งเรืองจำนวนประชากรนั้นเป็สิ่งที่สำคัญ
ถัดจากเมืองด๊อกทาวน์ไปทางทิศตะวันตกนั้นจะมีทะเลทรายเหลืองขนาดใหญ่ซึ่งทะเลทรายเหลืองนี้อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ ขนาดกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาซึ่งแต่ก่อนหน้านี้ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะเกิดความลังเลถ้า้ามาเพิ่มระดับที่นี่เนื่องจากค่อนข้างไกลจากตัวเมืองในการหาอุปกรณ์หรือไอเทมมาคอยรองรับแต่ถึงอย่างไรก็ตาม หลังจากที่ด๊อกทาวน์ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้จำนวนผู้เล่นมีอัตราขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ทะเลทรายนั้นก็เต็มไปด้วยวัตถุดิบมากมายและที่สำคัญซากของมอนสเตอร์ก็เป็วัตถุดิบชั้นเลิศ ซึ่งเป็ส่วนประกอบสำคัญของสายสร้าง ผลก็คือทะเลทรายเหลืองที่ค่อนข้างร้างผู้คน ก็กลับกลายเป็มีผู้คนหลั่งไหลมาไม่ขาดสายจนดูราวกับไม่มีวันสิ้นสุด
เมืองที่ใกล้กับด๊อกทาวน์ที่สุดนั่นก็คือเมืองม้าซึ่งก่อตั้งโดยกิลด์ราชวงศ์มด ถึงแม้จะบอกว่าอยู่ใกล้กัน แต่นั่นก็เกือบ 80 กิโลเมตร ถ้าไม่เดินทางด้วยม้า ก็คงต้องเดินกันเป็วันๆ เป็อย่างน้อย
ตัวกำแพงเมืองเป็สิ่งที่สำคัญที่สุดในบรรดาสิ่งก่อสร้างทั้งหลายในเมืองเพราะเป็สิ่งที่จะยืนยันได้ถึงความปลอดภัยภายในเมือง ซึ่งไม่สามารถที่จะประมาทได้เลยแม้เพียงเล็กน้อยร้านค้า บ้านเรือน และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ นั้นสามารถทำสัญญาเพื่อให้ผู้เล่นเป็ผู้สร้างด้วยตัวของเขาเองได้แต่สำหรับกำแพงเมืองนั้นจะต้องสร้างมันด้วยตนเองระยะเวลาสิบวันก็ถือว่าไม่ช้าเกินไป แต่ความคืบหน้าดูแย่กว่าที่คาดเอาไว้เนื่องจากเหตุผลภายในของฉินหวังกรุ๊ป ด๊อกทาวน์ก็ต้องทำาป้องกันเมืองหลังจากนี้ในอีกสิบวันข้างหน้าถ้าพูดถึงในแง่ของความเข้มแข็งของฉินหวังกรุ๊ปแล้ว มีเวลามากเกินพอที่จะสร้างเมืองขึ้นภายในระยะเวลาสิบวันแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงห่างไกลจากความเป็จริงอยู่บ้าง
ด๊อกทาวน์นั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกมีแต่ทรายเป็จำนวนมาก ในส่วนของูเาก็แทบจะไม่มี ทำให้เกิดการขาดแคลนหิน ในเวลานี้ต้องขนย้ายวัตถุดิบประเภทหินมาจากหุบเขาอาทิตย์ตกที่อยู่ห่างไปราว15 กิโลเมตร เฉพาะการขนย้ายอย่างเดียวต้องใช้ผู้เล่นมากกว่า 30,000คน นี่ยังไม่รวมจำนวนคนที่ใช้ขุดหินอีกด้วยซึ่งไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้เลย
เนื่องจากด๊อกทาวน์นั้นเริ่มสร้างเมืองหลังสุดทำให้คนงานที่มีความสามารถในด้านการก่อสร้างนั้นถูกดึงตัวไปโดยกลุ่มผู้นำเสียเกือบหมดถึงแม้ว่าด๊อกทาวน์จะเสนอเงื่อนไขที่มากกว่าก็ตาม แต่ก็ยังดึงดูดผู้เล่นเข้ามาได้ไม่มากเท่าที่ควรซึ่งไม่มีทางเลือกจึงได้แต่เพิ่มจำนวนด้วยผู้เล่นสายต่อสู้แทนถึงแม้ว่าผู้เล่นสายต่อสู้นั้นจะมีทักษะในการสร้างแต่เนื่องจากระดับที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดนี้เป็เหตุที่ทำให้งานนั้นเสร็จล่าช้าออกไป
โชคยังดีที่หวังโหรวนั้นไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
จากโรงเรียนมาสู่วงการธุรกิจ หวังโหรวนั้นได้นำประสบการณ์ที่มีมาใช้ในการจัดการเื่ต่างๆถึงแม้ว่าการสร้างเมืองขึ้นมานั้นจะมีความยุ่งยากมากกว่า มีทั้งงานที่ยุ่งยากซับซ้อนไปจนถึงงานที่ง่ายๆเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ยังคงดูเหมือนว่าจัดการได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายเพราะเนื่องจากมีทีมผู้บริหารระดับสูงที่สุดในเกม คอยตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆของด๊อกทาวน์ ถ้ามองดูจากภาพรวมของด๊อกทาวน์ในเวลานี้ภายใต้การควบคุมทำให้ยังคงมีความคืบหน้าอยู่ ก่อนที่มอนสเตอร์จะเข้าโจมตีเมืองสิ่งก่อสร้างสำหรับไว้ป้องกันมอนสเตอร์นั้นจะเสร็จตรงตามตารางที่วางเอาไว้ถึงแม้ว่าจะมีความยุ่งยากให้เห็นอยู่บ้าง
ฉินหวังกรุ๊ปเพิ่งเลื่อนขั้นให้กับเซี่ยลี่ชานิ (เสียงจักจั่นในหน้าร้อน)ขึ้นมาเป็ผู้ดูแลหน่วยย่อย ขึ้นมากำกับดูแลชั่วคราวโดยรับผิดชอบในการก่อสร้างกำแพงในส่วนที่สามนี้ซึ่งเดิมทีเขานั้นเป็คนที่มาจากชนบท จบมาจากมหาวิทยาลัยระดับสามลำพังด้วยเงินเดือนในตอนนี้ยังไม่พอที่จะซื้อห้องขนาด 1 ตารางเมตรได้เลย เขาเองหลงใหลในงานประเภทนี้เป็อย่างมากถึงกับเพิ่มค่าสถานะในส่วนของพละกำลัง 12 ส่วนด้วยความเต็มใจ ถึงแม้ว่าจะเป็บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมาไม่ถึงห้าเดือนก็ทำให้ฉินหวังกรุ๊ปมีชื่อเสียงโด่งดังใน่เวลาอันสั้นซึ่งทำให้พวกเขาดูพิเศษกว่าปกติทั่วไปอยู่บ้าง แต่การให้เงินเดือนที่มากที่สุดสวัสดิการที่ดีเลิศ มีการจัดการดูแลอย่างมีมนุษยธรรมเพราะเหตุผลสามข้อนี้จึงทำให้ผู้คนจำนวนมากที่ทำงานหนักเพื่อชีวิตความเป็อยู่ที่ดีขึ้นต่างก็แห่ตามไปราวกับฝูงเป็ดทันทีที่ฉินหวังกรุ๊ปเปิดรับสมัคร ซึ่งเป็เื่ที่น่าดีใจอย่างยิ่ง
เซี่ยลี่ชานินั้นเป็พนักงานกลุ่มแรกของฉินหวังกรุ๊ปซึ่งในเวลานั้นยังเป็เพียงแค่ฉินหวังอุตสาหกรรมเหมืองแร่อยู่เลย ถ้าจะให้พูดตามตรงตอนที่เข้ามาที่ฉินหวังอุตสาหกรรมเหมืองแร่นั้นเขาคิดว่าจะลองพยายามทำไปก่อน แต่เขาเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าฉินหวังอุตสาหกรรมเหมืองแร่จะพัฒนาอย่างก้าวะโได้มากถึงเพียงนี้เดิมทีในตอนแรกนั้นเขาเหลือเงินเพียงแค่พอกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้นถึงแม้ว่ามันจะดูไม่มีอนาคตเท่าไร แต่เขาก็จะอดทนฟันฝ่ามันไปให้จงได้
แล้วจู่ๆความสุขก็มาเยือนโดยพลัน หลังจากนั้นเพียงแค่หนึ่งเดือนที่ได้เข้ามาทำงานเงินเดือนของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็สองเท่า ซึ่งมันเป็สิ่งที่คนทั่วไปนั้นยากจะจินตนาการถึงบริษัททั่วไปนั้นอย่างน้อยก็ต้องทดลองงานเป็ระยะเวลาไม่ต่ำกว่าสามเดือนต่อให้เป็ตำแหน่งพิเศษก็ยังต้องใช้เวลาขั้นต่ำหนึ่งเดือน ซึ่งนี่จึงกลายเป็เื่ที่น่ายินดีเป็อย่างมากเพราะเป็การยืนยันว่าเขานั้นจะไม่ถูกเลิกจ้างแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงเื่เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นอีกเงินเดือนที่เขาได้เดือนนั้นเป็จำนวนเงินที่มากที่สุดเท่าที่เขาเคยได้มาั้แ่ทำงานมาสี่ปี
สามเดือนต่อมา เนื่องจากการทำงานอย่างหนักจึงทำให้เซี่ยลี่ชานิได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็ผู้ดูแลหน่วยย่อยและเงินเดือนของเขาก็เพิ่มขึ้นอีก ถึงแม้ว่าตอนนี้ควรจะเป็แค่ชุดสีฟ้าเหมือนระดับชั้นแรงงานแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้เป็ผู้ดูแลหน่วยย่อยอยู่ดีซึ่งคำพูดของเซี่ยลี่ชานินั้นหมายถึงว่า ถ้าเทียบกับบริษัทอื่นที่สวมเสื้อเชิ้ตขาวผูกเนกไทต่อให้อยู่ในระดับเดียวกันที่เงินเดือนระดับ 16,000 นั้น พวกที่ใส่ขุดขาวผูกเนกไทก็ไม่มีทางได้เงินเดือนระดับนี้เลย
ซึ่งเซี่ยลี่ชานิเองก็พอใจในบริษัทนี้เป็อย่างมากถึงกับอธิษฐานขอพรในใจให้บริษัทรักษาอัตราการเติบโตแบบนี้เอาไว้เพราะเมื่อบริษัทมีการพัฒนาขึ้น ค่าแรงของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยซึ่งในเื่การให้ความสำคัญกับพนักงานนั้น ในประเทศนี้จะมีสักกี่บริษัทกันที่ปฏิบัติได้จริงใจอย่างที่ฉินหวังกรุ๊ปกำลังทำอยู่
เซี่ยลี่ชานิรู้สึกดีใจมากที่เขาไม่ได้ตามเพื่อนของเขาไปที่วังเทพแห่งตะวันไม่อย่างนั้นเขาคงจะรู้สึกเสียใจจนตายเป็แน่เพื่อนของเซี่ยลี่ชานิเองก็เป็คนที่ขยันขันแข็งมากคนหนึ่งซึ่งโชคดีที่ตอนนี้ได้เป็หัวหน้าทีมเล็กๆ ทีมหนึ่ง เงินเดือนอยู่ที่ 4,500 ซึ่งถือได้ว่าสูงมากแล้วเมื่อเทียบกับกิลด์อื่นแต่เมื่อเทียบกับเซี่ยลี่ชานิแล้วถือว่าต่ำกว่ามากเลยทีเดียว
จู่ๆ เขาก็คิดถึงแฟนสาวของเขาที่เพิ่งแยกทางกันไปเมื่อราวครึ่งปีก่อนเห็นจะได้ทำให้อารมณ์ของเซี่ยลี่ชานินั้นกลับกลายเป็สับสนวุ่นวายขึ้นมาหลังจากสี่ปีในมหาวิทยาลัย รวมถึงความสัมพันธ์ที่มีหลังเรียนจบดูเหมือนว่าความรักที่ยาวนานถึงเจ็ดปีนั้นจะไม่สามารถช่วยให้เขาผ่านพ้นวิกฤติทางด้านการเงินได้อยู่ดีเซี่ยลี่ชานิก็รู้ตัวดีว่าเกิดจากความไม่เอาไหนของตัวเขาเอง เมื่อไม่มีเงินไม่มีบ้าน เป็ธรรมดาที่ผู้ใหญ่ย่อมต้องไม่ไว้วางใจในตัวเขาอยู่แล้วสี่ปีของการทำงานอย่างหนัก เปลี่ยนงานไปแล้วแทบนับครั้งไม่ถ้วนแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อยู่ดีทำให้เซี่ยลี่ชานินั้นเกลียดตัวเองอย่างที่สุด แต่เขาเองก็ไม่ตำหนิแฟนสาวที่ขอเลิกกับเขาเพราะเธอนั้นก็โดนทั้งผู้ใหญ่กดดัน และไหนจะสิ่งล่อลวงอย่างรถยนต์ยี่ห้อ BMWอีก ซึ่งทำให้ผู้หญิงหลายคนนั้นไม่สามารถปฏิเสธมันได้เขาเองก็เกลียดชังโอกาสที่ช่างมาช้าเสียเหลือเกิน และเวลาเ่าั้ก็ไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้อีกแล้ว
จนกระทั่งเมื่อวานแฟนสาวของเขาที่ไม่เคยได้ยินข่าวมาราวครึ่งปี จู่ๆ ก็ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาและพูดขึ้นว่า ้าจะกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เธอเล่าให้ฟังว่าเ้าของ BMW นั้นปฏิบัติกับเธอไม่ดี ในตอนแรกเธอเองก็หลงใหล เพราะเนื่องจากเพิ่งจะได้รู้จักกันแต่หลังจากนั้นความรู้สึกเ่าั้ก็เริ่มจางหายไป เขาเริ่มไม่ค่อยกลับบ้านและเริ่มดื่มหนักมากเมื่อกลับถึงบ้านบางครั้งก็เจอรอยลิปสติกอยู่บนใบหน้าของเขาอีกด้วยแฟนสาวของเขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง ว่าตราบใดที่เขายอมตกลง เธอจะเลิกกับเ้าของBMW และกลับมาหาเขา เพื่อรื้อฟื้นความหลังและสานสัมพันธ์อันดีขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
แฟนสาวอยู่ในอ้อมกอดของเขากำลังร้องไห้ด้วยความเสียใจเป็อย่างมากเซี่ยลี่ชานิก็ทั้งรักและเสียใจมากไม่แพ้กัน แต่ถึงอย่างนั้นแล้วเขาก็ไม่ยอมรับเพราะภาพที่แฟนสาวของเขานั้นเคยเดินจากไปยังตามหลอกหลอนอยู่ในใจของเขาเรื่อยมา
เพราะถึงอย่างไร เราก็ไม่สามารถย้อนกลับไปเหมือนในอดีตได้อีกแล้ว
เซี่ยลี่ชานิในเวลานี้ตำหนิที่ตนเองนั้นต่ำต้อย เมื่อ้าเทียบกับสิ่งที่สูงค่ากว่าในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกวุ่นวาย ยุ่งเหยิง และสับสนไปหมด ในส่วนของงานในเวลานี้ก็เต็มไปด้วยความสับสนแต่เซี่ยลี่ชานินั้นไม่ได้กังวลในเื่ของความคืบหน้าแม้แต่น้อยกลุ่มที่มีเขาเป็ผู้นำนั้นสามารถทำงานได้เร็วที่สุด ภายในสองวันตราบใดที่มีเวลาอีกสองวันเขามั่นใจว่าภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาต้องสำเร็จเรียบร้อยอย่างแน่นอนเมื่อนั้นทุกคนก็จะได้รับรางวัลใหญ่กันถ้วนหน้า
สำหรับพนักงานที่ทำผลงานได้ดีฉินหวังกรุ๊ปเองก็ไม่เคยที่จะขี้เหนียวเื่เงินอยู่แล้ว
ใช่แล้ว...เขาจะไม่กลับไปเป็เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
ก่อนที่เซี่ยลี่ชานิจะถอนหายใจออกมา ถึงยังมีร่องรอยแห่งความเศร้าโศกแสดงให้เห็นอยู่บนใบหน้าอยู่บ้างแต่สุดท้ายเขาก็สงบใจลงได้อย่างรวดเร็ว เวลานี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การสร้างกำแพงเมืองทันใดนั้นดวงตาของเขาก็จ้องเขม็ง และะโออกไปด้วยเสียงอันดังว่า "หยุดก่อนนายเป็ใคร?"
ผู้เล่นที่ทำหน้าที่ขนหินคู่หนึ่งหยุดชะงักอย่างกะทันหันสีหน้าฉายแวววิตกกังวลให้เห็นเพียงครู่จนแทบจะจับสังเกตไม่ได้ ก่อนจะก้มหน้าต่ำลง
เมื่อเห็นลักษณะท่าทีที่แสดงออกมาดังนั้นเซี่ยลี่ชานิก็รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล ก่อนจะถามย้ำกลับไปว่า"รีบตอบมาให้ไว ว่าพวกนายเป็ใคร หน่วยรักษาความปลอดภัยออกมาหยุดพวกเขาไว้"
เมื่อเห็นเซี่ยลี่ชานิะโขึ้นผู้เล่นหลายคนเริ่มมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปดูเหมือนว่าเขาจะหลบซ่อนตัวต่อไปไม่ได้อีกแล้วจึงรีบหันกลับเพื่อเตรียมที่จะหนีออกไป แต่ในเวลานี้พวกเขาถูกล้อมไว้ด้วยหน่วยรักษาความปลอดภัยแล้วต่อให้หนีออกไปได้ก็ต้องถูกจับได้อยู่ดี ดาบก็ถูกชักออกมาจากฝักแล้ว หากพวกเขาขยับแม้เพียงนิดเดียวก็คงจะไม่เหลือชีวิตรอดกลับไปเป็แน่
ทันทีที่ถูกจับได้ หลายคนก็เริ่มหวาดกลัวเดิมทีก็หวาดกลัวอยู่แล้ว เพราะว่าเขานั้นทำผิด แต่เมื่อคิดดูอีกทีนี่ก็เป็แค่เกมอย่างดีระดับก็ลดลงไปหนึ่งเลเวลเท่านั้นถ้าตายลง ซึ่งมันก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไร
"หัวหน้า คุณให้พวกเราหยุดทำไมกัน?" ผู้เล่นคนหนึ่งในกลุ่มถามขึ้นเซี่ยลี่ชานินั้นอยู่ในตำแหน่งผู้ดูแล ถึงอย่างไรตำแหน่งผู้ดูแลนั้นไม่ค่อยจะน่าฟังนักมันคล้ายกับผู้คุมนักโทษ ดังนั้นผู้เล่นส่วนใหญ่จึงเรียกผู้ดูแลว่า หัวหน้า ตามที่โบราณเขาเรียกกันมา
เซี่ยลี่ชานิไม่ได้แสดงท่าทีอื่นใดออกมา ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงเ็าว่า"ตอบคำถามฉันมาเดี๋ยวนี้ พวกนายเป็ใครกันแน่?"
"พนักงานขนส่ง" เขาตอบออกไปตามปกติ
เนื่องจากการขนย้ายวัตถุดิบประเภทหินนั้นไม่จำเป็ต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยดังนั้นจึงได้มีการรวบรวมคนงานที่มาทำหน้าที่ขนส่งบริเวณนี้เป็จำนวนมากซึ่งหลายคนก็เป็พนักงานชั่วคราวที่รับจ้างทำงานวันต่อวัน ทำให้ที่นี่นั้นมีทีมงานนับหมื่นคนและเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ฉินหวังกรุ๊ปจึงส่งเ้าหน้าที่ขนส่งเฉพาะทางมาให้อีกห้าพันคนเพื่อรับผิดชอบในการจัดการการขนส่งกำแพงเมืองนั้นมีความยาวหลายลี้ ซึ่งไม่สามารถสร้างให้เสร็จได้ภายในคราวเดียวจึงได้แบ่งการสร้างออกเป็ส่วนๆ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นจึงได้ให้มีการแข่งขันกันระหว่างกลุ่มขึ้นคู่ไหนที่มีความก้าวหน้าในแต่ละวันสูงขึ้นก็จะได้รับรางวัลเพิ่มซึ่งเซี่ยลี่ชานิเป็คนดูแลอยู่นั้น กลุ่มของเขาสามารถทำผลงานได้สูงขึ้นทุกวันเพื่อเป็การตอบแทน จึงได้ส่งทีมขนส่งเฉพาะทางมาให้เขาโดยเฉพาะ เขาเองก็ได้พบกับทีมเฉพาะกิจที่ว่านี้แล้วถึงแม้ว่าเขาจะจำชื่อไม่ได้ทุกคน แต่เขาสามารถจำหน้าตาท่าทางได้ซึ่งคนที่อยู่ต่อหน้าเขาในเวลานี้ไม่คุ้นเอาเสียเลย
เนื่องจากทีมขนส่งนั้นมีขนาดใหญ่มาก และกำแพงเมืองก็เชื่อมถึงกันหมด จึงไม่ใช่เื่แปลกที่จะมีผู้เล่นจากกลุ่มอื่นมาปะปนกับกลุ่มขนส่งอื่นอย่างไม่ตั้งใจซึ่งเซี่ยลี่ชานิก็เคยได้ยินคนเขาพูดกันถึงเื่นี้อยู่บ้างซึ่งทั้งสามกลุ่มที่เขาดูแลอยู่นั้นก็มีชื่อเสียงมากกว่ากลุ่มอื่นและทีมขนส่งนั้นมีความสำคัญเป็ที่สุด และอีกอย่างหนึ่งเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นเมื่อเห็นว่าผิดสังเกตเขาจึง้าซักถามให้มากขึ้น และก็ไม่ได้คิดว่าการถามคำถามธรรมดาเช่นนี้หลังจากที่ถามไปแล้ว ปฏิกิริยาของคนเหล่านี้จะทำให้ผู้คนนั้นเริ่มสงสัย
ดูเหมือนว่าจะไม่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมสำหรับคำตอบของทีมขนส่งที่ได้ตอบไปแม้ว่าจะไม่รู้ถึงตัวตนของเขา และเซี่ยลี่ชานิเองก็ไม่ได้สงสัยในเื่นี้ แต่ก็มีหลายคนที่กำลังเก็บซ่อนความตึงเครียดนั้นอยู่ก็ถึงกับโล่งอก
ต้องมีคนร้ายแอบอยู่ในกลุ่มนี้เป็แน่เซี่ยลี่ชานิจึงยกเลิกการถามคำถามไป ฟังจากที่คนคนนี้ตอบแล้ว ดูท่าน่าจะเคี้ยวยากอยู่พอควรการจับมาทรมานคงจะไม่เป็ผล แต่ที่สำคัญคือ ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ไหนต่างหากเซี่ยลี่ชานิเริ่มรู้สึกปวดหัวขึ้นมาบ้างแล้ว ดูเหมือนว่าหัวสมองของเขามันช่างเชื่องช้าอะไรเช่นนี้
ทีมขนส่งกว่าร้อยคนได้แต่ยืนนิ่งไม่มีใครกล้าขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวถึงแม้ว่าฝั่งตรงข้ามจะมีฝ่ายรักษาความปลอดภัยเพียงแค่ยี่สิบคนเท่านั้นทั้งหมดเป็นักรบระดับกลาง ซึ่งสามารถรับมือกับผู้เล่นมากกว่าร้อยคนได้อย่างสบายไม่ต่างจากเอื้อมมือไปเด็ดดอกไม้ ถึงอย่างไรก็ต้องสำเร็จเก้าในสิบส่วนอย่างแน่นอน
ดูเหมือนว่าที่นี่จะมีความวุ่นวายมากเกินไปแต่โชคยังดีที่สถานที่อื่นไม่ได้รับผลกระทบไปด้วย สาเหตุหลักก็คือ ระบบการแข่งขันที่ยังคงมีผลอยู่นั่นทำให้กลุ่มขนส่งที่เหลือจึงไม่สนใจสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากงานที่ทำตรงหน้าเท่านั้นรางวัลที่ฉินหวังกรุ๊ปเสนอให้นั้นช่างเย้ายวนใจยิ่งนัก จำเป็ต้องรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดพลาดโอกาสนี้ไป ก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะได้ในครั้งถัดไป
การขนส่งหินนั้นใช้รถเข็นธรรมดา ในความเป็จริงก็เป็เพียงแค่แผ่นไม้แผ่นหนึ่งข้างใต้ก็มีล้ออยู่สองล้อ เป็อุปกรณ์ที่ค่อนข้างเรียบง่ายเนื่องจากการขนส่งครั้งนี้ต้องใช้แรงงานคนเป็หลัก โดยบนรถเข็นหนึ่งคันนั้นสามารถบรรทุกหินไปได้เพียงห้าก้อนเท่านั้นทำให้หนึ่งกลุ่มที่ประกอบด้วยคนจำนวนหนึ่งร้อยคนนั้นสามารถขนส่งหินได้เพียง 500ก้อนต่อเที่ยว ซึ่งจำนวนนี้ถือว่าค่อนข้างต่ำมากแต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางอื่นอยู่ดี เพราะยุคนี้ไม่นิยมในการใช้ม้า หรือการลากเทียมเกวียนแล้วถึงแม้ว่ามันจะทำจำนวนได้ทีละมากๆ ก็ตามแต่ก็ไม่มีใครเต็มใจที่จะใช้มันเพื่อลากจูง ดังนั้นคงต้องพึ่งแต่กำลังคนเท่านั้น ซึ่งความแข็งแกร่งของมนุษย์ก็เทียบไม่ได้กับสัตว์อยู่ดี
ดูเหมือนจะมีผู้เล่นที่มีปัญหาอยู่สี่คนซึ่งเป็ตำแหน่งพื้นที่อยู่ติดกัน ทันทีที่หลบหนีออกจากรถเข็น ก็ทำให้เกิดพื้นที่ว่างขึ้นมากมายคนอื่นที่อยู่รายรอบก็กลัวที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนที่มีปัญหาจึงพากันก้าวถอยหลังออกห่างจากรถเข็นทั้งสี่คัน
ซึ่งในตอนนี้เซี่ยลี่ชานิก็มั่นใจแล้วว่าทั้งสี่คนนี้ต้องถูกส่งมาจากฝ่ายตรงข้ามเพื่อมาสร้างความวุ่นวายหรือความเสียหายเป็แน่จุดประสงค์คง้ายับยั้งการสร้างเมืองด๊อกทาวน์ แต่ว่ามากันเพียงแค่สี่คน... คิดจะสังหารคนงานก่อสร้างทั้งหมดเลยอย่างนั้นหรือ?ต่อให้ทำได้แล้วจะทำอย่างไรต่อไป ล้อเล่นกันหรือเปล่า...หน่วยรักษาความปลอดภัยที่นี่ไม่ได้กินแต่เนื้อแห้งๆ นะต่อให้สังหารทั้งหมดนี่ได้แล้วยังไงล่ะ... แค่พริบตาทีเดียว พวกเขาก็ฟื้นคืนชีพกลับมาทำงานใหม่ได้ต่อแล้วระดับลงลดแค่หนึ่งหรือสองเลเวล ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับทักษะเลยดังนั้นแล้วต่อให้ฆ่าคนไปก็เปล่าประโยชน์ แล้วอีกอย่างศัตรูเองก็ดูไม่น่าโง่ขนาดนี้
เซี่ยลี่ชานิกวาดตามองไปมาระหว่างผู้เล่นทั้งสี่คนกับรถเข็นเ่าั้ทันใดนั้นก็เหมือนว่าสมองเพิ่งจะแล่น คน-ก้อนหิน, คน-ก้อนหิน ทำไมถึงไปสนใจแต่คน มันอาจจะอยู่ที่ก้อนหินก็เป็ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นเซี่ยลี่ชานิก็ตบเข่าตัวเองดังฉาด และะโด้วยเสียงอันดังว่า"รีบวางรถเข็นที่ขนหินทั้งสี่คันนั้นลง เราขอตรวจค้นหน่อย"
สิ้นเสียงคำสั่งทั้งสี่คนสีหน้าเริ่มเปลี่ยนไปกลายเป็ซีดเผือด
เมื่อเห็นสถานการณ์ออกมาเช่นนี้เซี่ยลี่ชานิยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า หินพวกนั้นจะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอนตราบใดที่พวกเขาพบปัญหา ก็เท่ากับว่าประสบความสำเร็จครั้งใหญ่แล้วด้วยความเมตตาของบริษัท พวกเขาจะต้องได้รับโบนัสอย่างแน่นอน เมื่อคิดได้ดังนี้อารมณ์ของเซี่ยลี่ชานิก็เริ่มดีขึ้น ก่อนจะมองไปที่คนทั้งสี่ด้วยความพึงพอใจต้องขอบคุณคนทั้งสี่นี้ที่อาจจะทำให้เขาได้รับความดีความชอบในครั้งนี้ ที่ชนบทนั้นครอบครัวของเขาเปรยๆว่า้าสร้างบ้านหลังใหม่อยู่ พ่อของเขาทำงานอย่างหนักจึงเก็บหอมรอมริบได้เงินมาส่วนหนึ่งราว60,000 หยวน ซึ่งเป็เงินที่มากที่สุดในชีวิตของเขาแล้วและถ้ารวมกับอีก 30,000 หยวน ที่เขาส่งกลับไปเพิ่มถึงแม้จะดูไม่มากนัก แต่ก็น่าจะใกล้ครบแล้ว
"ระวังอย่างให้คนพวกนั้นส่งข้อความออกไปได้"ทันทีที่เซี่ยลี่ชานิเห็นนิ้วมือของชายคนดังกล่าวเริ่มเคลื่อนไหวในใจเริ่มรู้สึกไม่ดี จึงะโออกไป แต่ดูเหมือนว่าจะสายไปเสียแล้ว
คนที่เป็ผู้นำรู้ชะตากรรมของตนเองแล้วว่าถึงอย่างไรเขาก็ต้องตาย จึงเริ่มบ้าคลั่ง รอยยิ้มเต็มไปด้วยความเ็า
"รีบฆ่าพวกเขาซะ"
"เสียใจด้วย มันสายไปแล้ว" ผู้นำพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบมีเพียงรอยยิ้มเท่านั้นที่ดูน่าขนลุก
ดูเหมือนมันจะสายไปแล้วจริงๆ...!
มีแรงสั่นะเืเกิดขึ้นทิศทางมาจากทางด้านล่างลึกลงไปใต้ฝ่าเท้าเนื่องจากคนงานก่อสร้างกำลังยุ่งอยู่ทั้งหัวหน้าและหน่วยรักษาความปลอดภัยสองข้างทางก็เพิ่งจะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่างทางด้านล่างนั่นมีเสียงคล้ายกับการะเิเหมืองดังขึ้น แต่ได้ยินไม่ค่อยถนัดนัก คล้ายกับเสียงของสุนัขที่กำลังหอนต่อกันมาเป็ทอดๆในยามค่ำคืน เสียงะเิดังขึ้นติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ผ่านไปชั่วครู่ก็เกิดเสียงดังคำรามก้องขึ้นในหูของเขา
แรกเริ่มนั้นแผ่นดินเริ่มค่อยๆสั่นไหว จนกระทั่งเริ่มสั่นอย่างรุนแรงจนสุดท้ายกลายเป็คลื่นการสั่นะเืไปมาคล้ายกับแผ่นดินไหวจนไม่มีใครสามารถยืนอยู่ได้ ทั้งหมดจึงล้มกลิ้งลงกับพื้น
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนั้นทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ตั้งสติไม่ทันทำอะไรไม่ถูก หลายคนที่ล้มไปแล้วพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ก็ไม่เป็ผล ก่อนจะเริ่มะโร้องด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัวจากนั้นก็เริ่มวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด แต่เมื่อพื้นดินสั่นไหวมากยิ่งขึ้นและดูจะรุนแรงขึ้นไปอีกในขณะที่กำลังยืนขึ้นมาแล้วก็ต้องล้มกลิ้งลงไปกับพื้นอีกครั้งดูเหมือนการลุกขึ้นยืนนั้นจะเป็เื่ที่ยากมากเสียแล้ว
บึ้ม...!
เสียงจากการะเิดังกึกก้องไปทั่วบริเวณฝุ่นควันฟุ้งกระจายตลบเต็มท้องฟ้า บดบังดวงตะวันไว้จนมิดดูไปแล้วไม่ต่างจากวันสิ้นโลกเลย
ได้ยินว่ามีการค้นพบหินอัคนี (หินบะซอลต์) ขึ้น ทันทีที่ทราบถึงข่าวนี้ผู้นำระดับสูงของฉินหวังกรุ๊ปก็ปิดข่าวทันทีหินอัคนีนั้นมีสีดำคล้ำ ไม่แวววาว มีลักษณะแข็ง และทนทานต่อการสึกกร่อนเป็วัตถุดิบชั้นเลิศสำหรับการสร้างกำแพงเมือง ในตำนานเคยกล่าวเอาไว้ว่ากำแพงเมืองของพระราชวังนั้นก็สร้างขึ้นจากหินอัคนีซึ่งหินชนิดนี้นั้นค่อนข้างหาได้ยาก โดยทั่วไปก็ยังพบเห็นได้ยากทันทีที่ได้ยินข่าวหวังโหรวเองก็ใไม่น้อย ก่อนจะส่งข้อความหา ''น้องชายมีด'' ทันที ซึ่งน้องชายมีดก็ไม่กล้าละเลยก่อนจะนำทีมผู้เล่นราวสามร้อยคนมุ่งหน้าไปทันทีซึ่งเขาเป็เพียงทัพหน้าเท่านั้น โดยมีกองกำลังทหารขนาดใหญ่ตามมาอยู่เื้ั
ข่าวของหินอัคนีนั้นแพร่สะพัดออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในขณะที่น้องชายมีดเดินนำหน้าอยู่นั้นจู่ๆ ก็หยุดเดินก่อนที่จะหันหลังกลับและมองไปยังด๊อกทาวน์ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็ซีดเผือดทันที ผู้คนที่เดินตามมาก็พากันมึนงงอย่างไม่เข้าใจก่อนจะหันกลับไปมอง แค่เพียงชั่วครู่ สีหน้าของทุกคนก็ดูตื่นตระหนกไม่ต่างจากน้องชายมีด
หมอกควันคละคลุ้งพวยพุ่งขึ้นเป็กลุ่มก้อนควันขนาดมหึมาและลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าคล้ายกับฝุ่นขี้เถ้าในยามทีู่เาไฟกำลังะเิ ท่ามกลางเปลวไฟมีเศษหินแตกหักเป็ชิ้นส่วนพุ่งกระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศทางกำแพงเมืองที่ยาวหลายลี้ก็ดูเหมือนว่า ทั้งหมดล้วนตกอยู่ในแรงะเิเมื่อมองจากที่นี่ก็เหมือนว่าจะมองไม่เห็นกำแพงเมืองแล้วเห็นเพียงแค่ควันและฝุ่นที่ทอดยาวคล้ายกับัเท่านั้น
ถล่มลงมาแล้วกำแพงเมืองพังแล้ว ในใจของทุกคนต่างพูดเป็เสียงเดียวกัน
ในฐานะผู้บังคับบัญชากองทัพ น้องชายมีดก็ทำใจให้สงบลงได้อย่างรวดเร็วสีหน้าของเขาเฉยชาไม่ต่างจากก้อนหิน ก่อนจะะโกลับไปยังฝั่งตรงข้ามว่า"พวกนายกำลังทำอะไรกันถึงได้ทำหน้าตาเศร้าโศกเสียใจขนาดนั้น นี่ไม่ใช่เวลาอวสานของโลกเสียหน่อยมันก็แค่กำแพงเมืองถล่ม พวกนายน่าจะดีใจด้วยซ้ำที่ฝ่ายศัตรูใช้แผนการเช่นนี้นั่นหมายถึงอะไร ถ้าไม่ใช่ศัตรูนั้นหวาดกลัวพวกเราถ้าพวกเขาแข็งแกร่งจริงคงไม่ใช้แผนสกปรกเช่นนี้ ฉันขอยืนยันได้เลยว่า กำแพงเมืองจะถูกสร้างขึ้นใหม่ภายในสามวันมันจะสูงกว่านี้ ใหญ่ขึ้นกว่านี้ และยาวขึ้นกว่านี้อีกด้วยพวกนายเชื่อฉันหรือเปล่า?
"เชื่อสิ... พวกเราเชื่อมั่นอยู่แล้ว"ความเชื่อมั่นที่ลดลงชั่วครู่ของคนกว่าสามร้อยคนก็กลับเพิ่มขึ้นอีกครั้งดวงตาเต็มไปด้วยความแน่วแน่ ก่อนจะะโขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันจนเสียงดังะเืไปถึงชั้นฟ้า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้