เฉินชุ่ยอวิ๋นชะงักค้างเมื่อโดนกอด นับั้แ่เจิ้งหยวนรู้ความก็ไม่เคยใกล้ชิดเธอขนาดนี้มาก่อน เธอจึงทำตัวไม่ถูกไปพักหนึ่ง ก่อนค่อยได้ยินเสียงบุตรสาวที่หล่อนห่วงแสนห่วงคนนี้เอ่ยขึ้นมาทั้งน้ำตา “แม่ ฉันผิดไปแล้ว แม่ ฉันสำนึกผิดแล้ว…”
หัวใจเฉินชุ่ยอวิ๋นพลันอ่อนยวบยาบ เธอรู้จักบุตรสาวตัวเองดี นิสัยดื้อรั้น แถมยังโผงผาง ตราบใดที่คิดว่าตัวเองเป็ฝ่ายถูกก็จะค้านจนหัวชนฝา ทว่ามาคราวนี้กลับบอกว่าตัวเองผิดไปแล้ว คงจะปลงตกและรู้สึกผิดจริงๆ อย่างแน่นอน แม้ท่าทีผู้เป็ลูกจะเปลี่ยนไปกะทันหันจนน่าสงสัย แต่เธอแน่ใจว่าลูกแท้ๆ ของเธอไม่ใช่พวกพูดจาอ่อนหวานเพื่อบรรลุเป้าหมาย
“ตอนนี้แกรู้ตัวว่าผิดแล้ว…” เฉินชุ่ยอวิ๋นว่าพลางทุบหลังเจิ้งหยวนสองที “ถ้าอย่างนั้นเมื่อกี้เถียงพ่อแกทำไม! ตั้งใจยั่วโมโหฉันกับพ่อเหรอ?”
เจิ้งหยวนซุกหัวไว้ที่คอของเฉินชุ่ยอวิ๋น หน้าตาดูอัดอั้น ทว่ากลับไม่พูดไม่จาแต่อย่างใด เธอก็ไม่รู้จะอธิบายท่าทีที่เปลี่ยนไปฉับพลันอย่างไร เธอจำได้อยู่ว่าเมื่อครู่ตนทำสิ่งใดลงไป หล่อนเถียงพ่อคอเป็เอ็น ‘พ่อตีฉันให้ตาย ฉันก็จะดีกับหลินเสี่ยวหยางเหมือนเดิม’ ทำนองนี้ ดังนั้น อยู่ๆ มาบอกตนเองสำนึกผิดในชั่วพริบตา มันไม่ต่างจากการล้อเล่นเลย
“เดี๋ยวไปยอมรับผิดกับพ่อด้วย เข้าใจไหม?” เฉินชุ่ยอวิ๋นไม่หวังให้บุตรสาวพูดจานุ่มนวลใดๆ
ขอเพียงยอมรับผิดก็ดีมากแล้ว เธอดันเจิ้งหยวนออก ก่อนใช้มือช่วยเช็ดน้ำตาลูก
“ถ้าพ่อดุด่าแก แกก็อย่าไปต่อปากต่อคำเขา!” สามีเธอกับบุตรสาวหัวแข็งพอกันทั้งคู่
พูดจาอ่อนโยนไม่เป็ เธอกลัวจริงๆ
ว่าเจิ้งเฉวียนกังจะใช้คำพูดไม่น่าฟังจนบุตรสาวรู้สึกเสียหน้าแล้วทำอะไรเลอะเลือนอีก
รอบนี้เธอคงห้ามไม่ให้เจิ้งหยวนเตลิดอีกครั้งไม่ไหว
เจิ้งหยวนสูดน้ำมูกพลางยอมตอบตกลงเสียงอู้อี้ขึ้นจมูก “อื้อ” ตกลงไป
เฉินชุ่ยอวิ๋นมองเธอ เห็นดวงตาบุตรสาวแดงก่ำ ทั้งยังร้องไห้เป็ระลอกก็ปวดใจ มิหนำซ้ำเจิ้งหยวนยังไม่เคยโดนตีแรงๆ มาั้แ่เล็กยันโต คราวนี้ขึ้นรอยจ้ำแดงเป็ปื้นไว้บนแขน พ่อก็ช่างเหลือเกินนัก ลงมือรุนแรงขนาดนี้ได้อย่างไร! คิดได้ดังนั้น เฉินชุ่ยอวิ่นก็อดตำหนิเจิ้งเฉวียนกังไม่ได้ “ดูรอยบนแขนสิ
เดี๋ยวให้พี่แกไปซื้อยามาทาเสีย” หล่อนพูดพลางรั้งคอเสื้อเจิ้งหยวน
“บนตัวมีรอยแผลไหม? ให้ฉันดูหน่อย…”
เจิ้งหยวนนิ่งไม่ขยับ ปล่อยแม่ของเธอเลิกเสื้อผ้าขึ้น เผยให้เห็นรอยฟกช้ำบนร่าง เฉินชุ่ยอวิ๋นมองแล้วใจหายวาบ ดวงตาเปียกชื้น บ่นพึมพำไม่หยุดหย่อน “เขาลงมือหนักขนาดนี้เลยเหรอ พระเ้า เขาทำลงได้ยังไง… ลูกโง่ แกบอกว่าแกฉลาดนักหนา ทำไมทำแต่เื่โง่ๆ เล่า ถ้าเขาตี แกก็หลบสิ ยืนนิ่งเป็ไม้ไปได้!”
เจิ้งหยวนเม้มปาก แล้วยิ้มปลอบโยนเฉินชุ่ยอวิ๋น “ไม่เป็ไรค่ะ แม่ แค่ดูน่ากลัวเท่านั้น จริงๆ แล้วไม่เจ็บเลย” ชาติที่แล้วเธอดื้อด้าน ครั้งนี้ที่โดนพ่อตี เธอก็มักจะเชิดหน้าทนรับไว้ ไม่คิดหลบหลีก เหมือนทำเช่นนี้จะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะไม่มีวันยอมรับความผิดของตัวเอง ทว่าพอเกิดใหม่ถึงเข้าใจว่ามันไร้สาระอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาและบรรลุเป้าหมายแล้ว ยังจะพังกันทั้งสองฝ่ายด้วย ทั้งที่เธอสามารถยอมรับผิดก่อนได้ แล้วค่อยหาวิธีอ้อมค้อมสักหน่อยเพื่อหาทางลงมือจากฝั่งตนเองให้ยกเลิกการหมั้นหมายอย่างราบรื่นได้แท้ๆ
ได้ยินเจิ้งหยวนเอ่ยเช่นนี้ เฉินชุ่ยอวิ๋นก็ถอนหายใจติดกันหลายเฮือก ก่อนจะจัดเสื้อผ้าของเธอแล้วเอ่ยต่อ “แกก็อย่าเจ็บแค้นที่พ่อตีเลย ความจริง ความจริง…แกทำอย่างนี้ก็ผิดศีลธรรมเหมือนกัน! แกไม่ใช่ไม่รู้ว่ามีสัญญาหมั้นกับสกุลเฝิง ลอบคบหาคนอื่นในอำเภอใช้ได้ที่ไหนกัน? ่หมั้นหมายแรกๆ สกุลเฝิงไม่รังเกียจที่แกอายุน้อย รอมานานหลายปีจนแกอายุสิบแปดปีสามารถจดทะเบียนสมรสได้ อยู่ดีๆ แกดันมาบอกว่าไม่แต่งแล้ว คนเขาจะไม่นินทาเอาเหรอ!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้