มู่อี้หานเผยรอยยิ้มเ้าเล่ห์ออกมา “ที่รักจ๋า อย่าอ่อนต่อโลกให้มันมากนักเลย? ถ้าไม่แสดงให้คนอื่นดู คุณคิดว่าการมาร่วมงานครั้งนี้จะไปมีประโยชน์อะไร?” การแสดง มันก็แค่การแสดง แสดงให้ทุกๆ คนเห็นก็เท่านั้น
หยิ่นยวี๋โม่มองเขาที่ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นทุกทีจนเกิดความกลัวและอยากจะหนีไปจากเขาแต่มือของเขาคว้าไปที่เอวของเธอและจับมันไว้แน่น “ที่รักจ๋า คุณไม่ต้องกลัวนะ ผมรักคุณ” คำว่ารักทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของเธออย่างจัง มันทำให้เธอรู้สึกอัปยศเหลือเกิน
“ปล่อยฉัน! ไม่อยากนั้นฉันไม่เกรงใจคุณแล้วนะ” หยิ่นยวี๋โม่พูดใส่มู่อี้หานด้วยความโมโห แต่ไม่รู้ทำไมมันกลับกลายเป็การเชื้อเชิญเขาด้วยความเสน่หา
“คุณจะไม่เกรงใจผมงั้นเหรอ? ได้! จะเอาแบบนี้ใช่ไหม? แบบนี้ใช่ไหม?”ริมฝีปากของเขาค่อยๆ ลูบไล้ไปตามแก้มของเธออย่างแ่เบา ขยับๆ ไปที่ปลายจมูกจากนั้นจึงหยุดอยู่ที่ริมฝีปากบนของเธออย่างอ้อยอิ่ง
“ผมแค่อยากจูบคุณ”มู่อี้หานเอ่ยออกมา มันเป็การประกาศอย่างหนึ่งว่าเขาได้เธอแล้วก็เท่านั้น
หยิ่นยวี๋โม่กำลังจะเปิดปากยังไม่ทันได้พูดอะไร ริมฝีปากและลิ้นของเขาทำให้ทุกอย่างหยุดลง ในปากของเธอลิ้นที่เปียกแฉะของเขาตวัดลิ้นเล็กๆของเธอ จนเธอไม่สามารถหลบหลีกได้อีกสุดท้ายเธอก็หนีการจู่โจมของเขาไม่พ้น
ด้านหลังกระถางต้นไม้การพลอดรักที่แแ่ของพวกเขาทั้งคู่ในสถานที่แบบนี้นักข่าวจำนวนมากกำลังรอขุดข่าวเพื่อพาดหัวข่าวในวันรุ่งขึ้นการจูบอันดูดดื่มของมู่อี้หานกับหยิ่นยวี๋โม่ ทำให้เหล่านักข่าวทั้งหลายกระหายจะเล่นข่าวนี้
ไม่ว่าผู้หญิงของมู่อี้หานจะมีอีกสักกี่คนแต่นี่เป็ครั้งแรกที่เขาพาคุณนายมู่มาเปิดตัวต่อสาธารณชน แน่นอนมันเป็ข่าวเด็ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เพิ่งสลับตัวเ้าสาวไปและนี่ก็เป็ข่าวเด็ดที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจเป็จำนวนมาก
โจวลี่ฉีก็เห็นฉากนั้นด้วยเหมือนกันเธอจ้องพวกเขาด้วยความเคียดแค้น ไม่ว่านั่นจะเป็การแสดงละครของมู่อี้หานกับหยิ่นยวี๋โม่หรืออย่างไรก็ตามแต่นั่นมันก็คือจูบ เธอไม่้าเป็คนที่ต้องถูกทิ้งคนนั้น
หยิ่นยวี๋โม่ถูกขโมยสติทั้งหมดไปเพราะจูบที่เร่าร้อนจูบนั้นสองมือที่เคยพยายามผลักอกของเขาออกไป กลับเปลี่ยนเป็โอบหลังเขาโดยไม่รู้ตัวหลังจากนั้นเธอตอบรับจูบของเขาเช่นเดียวกัน
“ที่รักจ๋า คิดไม่ถึงเลยนะ ว่าคุณจะชอบขนาดนี้ จูบของผมดีกว่าพวกผู้ชายคนอื่นไหมหืม?” มู่อี้หานถอนริมฝีปากออก หน้าผากของทั้งคู่ยังคงชิดกันคำพูดเหน็บแนมที่มีต่อเธอ ทำให้หยิ่นยวี๋โม่เพิ่งได้รู้ แม้การจูบจะดูดดื่ม หรืออบอุ่นมากเพียงไหน แต่มันก็เป็เพียงการแสดงเท่านั้น ไม่ได้มาจากใจจริงของเขาแม้แต่น้อย
“คุณสนุกมากนักใช่ไหม? คุณคิดว่าเล่นละครแล้วฉันจะมีความสุขงั้นเหรอ?”หยิ่นยวี๋โม่สวนต่อทันที “คิดไม่ถึงว่ารองประธานมู่จะอ่อนหัดขนาดนี้!”
เธอจงใจเน้นคำว่ารองประธานออกมาเพื่อเตือนสติเขา ว่าเขาเป็เพียงแค่รองประธาน ถึงแม้ทุกคนจะเห็นว่าเขาเป็ประธานบริษัทไปแล้วถึงอย่างนั้นในสายตาเธอ เขาก็ยังเป็เพียงแค่รองประธาน
“คุณว่าผมอ่อนหัดงั้นเหรอ? ดี ผมจะเป็คนอ่อนหัดให้คุณดู” มู่อี้หานค่อยๆ พูดทีละคำเมื่อประโยคเ่าั้หลุดออกจากปากมู่อี้หาน ฝ่ามือของเขาคว้าหลังเธอเอาไว้
เมื่อหยิ่นยวี๋โม่ได้ยินเขากระซิบแบบนั้นยังไม่ทันตั้งตัว ซิปด้านหลังชุดราตรีของเธอพลันถูกดึงลงมา ทำให้หลังของเธอเย็นวูบ
“คุณคิดจะทำอะไร?” หยิ่นยวี๋โม่ลุกลี้ลุกลนและสับสน
มู่อี้หานตรงหน้าเธอในตอนนี้เป็บ้าไปแล้วเขาสามารถทำทุกอย่างในที่แห่งนี้ได้จริงๆ
“คุณกลัวไหม? คุณหนูหยิ่น” มู่อี้หานไม่ได้จะแสดงหนังสดต่อหน้าฝูงชน เพื่อให้คนมากมายได้เห็นเขาเพียงแค่อยากข่มขู่เธอให้กลัวเท่านั้น หยิ่นยวี๋โม่ได้แต่เงียบ เธอกลัวทำไมเธอจะไม่กลัวล่ะ?
มู่อี้หานยื่นมือเอื้อมไปดึงซิปของเธอขึ้นเหมือนกับเมื่อครู่ไม่ได้เกิดเื่อะไรขึ้น วงแขนของเขาโอบเอวของเธอเอาไว้ “คุณลืมไปแล้วเหรอ ว่าคุณคือคุณนายมู่? อย่างนั้นก็ควรจะมาเต้นรำกับผมนะ”
ไม่ว่าหยิ่นยวี๋โม่จะยอมหรือไม่แต่เขาก็ลากเธอเข้าฟลอร์เต้นรำเป็ที่เรียบร้อยแล้ว
“อย่าบอกผมนะ ว่าคุณเต้นรำไม่เป็” มู่อี้หานไม่เข้าใจหยิ่นยวี๋โม่เลยจริงๆ ในสายตาของเขา เธอเป็แค่คุณหนูที่ถูกสบประมาทง่ายที่สุดในตระกูลหยิ่นเท่านั้น
เธอทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้เธอชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เขาไม่เคยรู้เลย และไม่เคยคิดอยากจะรู้!
“ถ้าฉันบอกคุณว่าฉันเต้นไม่เป็ คุณจะปล่อยฉันไหม?” หยิ่นยวี๋โม่ยืนนิ่งในฟลอร์เต้นรำ ไม่ขยับเท้า และเงยหน้าถามเขา
“ไม่ปล่อย!” มู่อี้หานพูดออกมาเพียงสองคำ
แต่เพื่อการแสดงละครให้แเีหยิ่นยวี๋โม่จึงวางมือไว้บนบ่าของเขา “ในเมื่อคุณชายมู่เชิญขนาดนี้ ฉันก็ไม่ควรทำให้คุณชายผิดไหวใช่ไหมคะ?” มู่อี้หานเห็นแววตาของเธอที่ยิ้มออกมาอย่างเ้าเล่ห์
เมื่อดนตรีเริ่มบรรเลงทั้งคู่เต้นรำเคล้าคลอไปกับเสียงเพลง เดินหน้า ถอยหลัง และหมุนตัวดูแล้วสวยงามเป็อย่างมาก ใบหน้าที่สดใสไร้มลทินทำให้ผู้คนต่างหลงใหลในความพราวเสน่ห์ คนอื่นๆ เริ่มหยุดเต้น จนเหลือพวกเขาทั้งคู่อยู่ในฟลอร์เต้นรำเพียงสองคนจนกระทั่งเพลงจบลง พวกเขาได้รับเสียงปรบมือและได้รับเสียงชื่นชมเป็อย่างมาก
“คุณชายมู่ ขอโทษนะที่ฉันทำให้คุณต้องผิดหวังไม่มีอะไรดีๆให้คุณดูเลย” หยิ่นยวี๋โม่ปล่อยมือจากเขาแล้วหันหลังหนีมู่อี้หาน มู่อี้หานได้แต่มองด้านหลังของเธอยังมีเื่ราวอีกมากที่เขาไม่รู้เกี่ยวกับตัวเธอ หรือจะพูดอีกอย่างเขาควรจะรู้จักเธอให้มากกว่านี้ ภรรยาตัวน้อยของเขา
หลังจากงานเลี้ยงเลิกมู่อี้หานพาหยิ่นยวี๋โม่ออกจากงาน โจวลี่ฉียืนส่งอยู่ตรงทางออกและเฝ้าดูรถที่ขับออกไป
นับแต่การเต้นรำของมู่อี้หานและหยิ่นยวี๋โม่จบลงหล่อนยิ่งรู้สึกว่าหยิ่นยวี๋โม่เป็คนแผนสูง หล่อนพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้มู่อี้หานอยู่ข้างกายหล่อนโจวลี่ฉีเคยเข้าใจว่าหยิ่นยวี๋โม่จะไม่มีทางมางานเลี้ยงไม่มีทางแต่งหน้าทาปากเพื่อทำให้ผู้คนหลงเสน่ห์ หรือจะพูดให้ชัดเจนก็คือ หยิ่นยวี๋โม่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้โจวลี่ฉีออกห่างจากมู่อี้หาน แต่ว่าหล่อนคงคิดผิดไป เพราะโจวลี่ฉีไม่ใช่ผู้หญิงที่ใครจะกำจัดออกไปได้ง่ายๆ
ในรถยนต์สีดำคันหนึ่งชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลังหยิบกล่องผ้าขึ้นมา เมื่อเปิดออกภายในเป็กำไลหยกขาวที่เพิ่งประมูลมาได้
“นายน้อย คุณเสียเงินไปมากขนาดนี้ มันจะคุ้มเหรอครับ?” ลุงเจียงที่นั่งอยู่ด้านหน้าหันมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลังเขาทำอะไรไม่ถูก คนที่สามารถทำให้นายน้อยบ้าได้ขนาดนี้จ่ายเงินมากขนาดนี้แค่เพื่อที่จะได้กำไล นอกจากเธอคนนั้น คงมีเพียงแต่หยิ่นยวี๋โม่คุณหนูแห่งตระกูลหยิ่นเท่านั้น
“คุณชาย เหมือนว่าโจวลี่ฉีเลขาของประธานมู่ดูเธอจะไม่ค่อยพอใจคุณหนูหยิ่นอยู่นะครับ!” ลุงเจียงมองโจวลี่ฉีที่ยืนอยู่ตรงประตูทางออกซึ่งกำลังเฝ้ามองรถที่ค่อยๆ แล่นหายไป
“ลุงดูออกหมดเลยสินะ ทำไมผมจะไม่รู้ล่ะ?” ชายหนุ่มตอบเรียบๆ “ออกรถ”
มีบางเื่ที่เขาไม่อยากเอามารวมกันตอนนี้เขาอยากรู้เพียงแค่ว่า หยิ่นยวี๋โม่จะใช่เธอคนนั้นไหม? แต่เขาก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าหยิ่นยวี๋โม่ไม่ใช่เธอนั้นแต่มาถึงตอนนี้ เขาไม่อาจถอนตัวออกมาได้อีกแล้ว
คืนนี้หยิ่นยวี๋โม่ทำให้เขาประหลาดใจและนี่เป็ครั้งแรกที่หัวใจของเขาเต้นระรัวถึงเพียงนี้