ชิงอีอยู่ในจวนอ๋องราวกับคนไร้ค่ามาหนึ่งวัน เดิมทีนางยังอยากจะอยู่เฉยๆ ไปอีกครึ่งวัน
แต่ที่ตื่นเช้าเช่นนี้ เพราะไม่มีเขาอยู่ด้วย เซียวเจวี๋ยต้องเข้าราชสำนักแต่เช้า
เขาไม่อยู่ที่นี่ พลังชั่วร้ายในจวนแห่งนี้ก็ลดไปมากเช่นกัน ถึงจะกินไปก็ไร้รสชาติอยู่ดี
ชิงอีที่ไม่ได้นอนอยู่บนเตียง ลุกขึ้นมาเตะเ้าแมวอ้วนให้ตื่น
“ลุกขึ้นมาทำงาน!”
หลังจากเรียกลุงจงให้มาปลอมตัว ชิงอีก็สวมหมวกซาเม่า[1] และสั่งให้ชิวอวี่ออกจากจวนไปยังชานเมืองฝั่งตะวันตก
เดินทางมาได้ครึ่งทาง นางก็ตระหนักขึ้นได้
เซียวเจวี๋ยไม่อยู่ที่นี่ แล้วทำไมนางต้องสวมหมวกด้วยล่ะ?
พอจะยกมือขึ้นมาเตรียมจะถอดหมวกออก เพื่ออวดความงดงามของตนให้เฉิดฉาย แต่นางกลับทิ้งมือลง
เ้าแมวอ้วนที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย โอ้โห แค่ครู่เดียวก็ถูกหนุ่มน้อยอบรมให้เชื่อฟังซะแล้วหรือ?
นี่ยังเป็ราชินีชิงอีจอมดื้อรั้นอยู่ใช่ไหม?
“มองอะไรหนักหนา!” ชิงอีเตะมันอีกครั้ง และแก้ตัวเป็จริงเป็จังว่า “ข้าผู้นี้หน้าตาสวยสดงดงามขนาดนี้ จันทร์หลบโฉมสุดามวลผกาละอายนาง มัจฉาจมวารี[2] หากเปิดเผยโฉมหน้าคงไม่วายทำให้พวกอัปลักษณ์บนโลกนี้ละอายใจ หากพวกมันพากันฆ่าตัวตาย เ้าคงต้องทำงานเพิ่มน่ะสิ?”
“ใช่ๆๆ ในโลกนี้ไม่มีใครเทียบเคียงท่าน ผู้ที่เย้ยหกโลกาได้ มีเพียงท่านผู้เดียวเท่านั้น!”
ชิวอวี่ที่บังคับรถม้าอยู่ออกข้างนอก เกือบจะหัวเราะจนตัวงอ
จนเขาต้องเตือนตัวเองว่าต้องยืดหลังตรง
ในรถม้าจึงมีเสียงดังขึ้นมาด้วยความหลงตัวเองเป็ที่สุด “มันแน่อยู่แล้ว การมีอยู่ของสาวงามเช่นข้า เป็พรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทั้งหกโลกาสี่มหาสมุทรนี้”
ฟู่
จบแล้ว
ชิวอวี่คิดว่าหากกลั้นหัวเราะไม่อยู่จะทำอย่างไรดี?
ฮ่าๆๆๆๆ
ตึง!
หัวหน้าองครักษ์ชิวถูกเตะลงจากรถม้า เขาลุกขึ้นจากพื้นและรีบตามไป “องค์หญิง รอกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ~”
นอกเขตชานเมืองฝั่งตะวันตก ชิงอีลงจากรถอย่างเกียจคร้าน เมื่อนางดีดนิ้ว ชิวอวี่ก็รีบกางร่มกระดาษน้ำมันทันทีและยืนอยู่ข้างหลังนาง แม้แสงอาทิตย์จะไม่ได้อันตรายอะไร ทว่า ตามคำกล่าวของชิงอีแล้ว ไม่มีผีตนใดชอบแสงสว่างเช่นนี้
สำหรับเื่นี้แล้ว ชิวอวี่สงสัยไม่น้อย
ก่อนหน้านี้ เขาเห็นนางนอนใต้แสงอาทิตย์อยู่บ่อยครั้ง
เช่นนั้นคำอธิบายของเ้าแมวอ้วนคงสมเหตุสมผลกว่า
นางคงถูกเซ่อเจิ้งอ๋องกระตุ้นเข้าให้ เพราะหากเทียบสีผิวแล้ว นางแพ้...
เมื่อมองไปรอบๆ ทุ่งหญ้า รอยยิ้มบนใบหน้าของชิงอีก็จางหาย นางเตะเ้าแมวอ้วน “ทำงานสิ”
มือของชิวอวี่เบาขึ้น เนื่องจากร่มกระดาษน้ำมันลอยออกจากมือไปเฉยๆ เมื่อก้มศีรษะลง เขาก็เห็นเ้าเด็กอ้วนขนาดเท่าฝ่ามือกำด้ามร่มและมองเขาอย่างน่าสงสาร
เ้าเด็กอ้วนนี่เป็ผีตัวน้อยที่เพิ่งได้มาใหม่งั้นหรือ? เขาเพิ่งเจอเป็ครั้งแรก ทว่า เด็กน้อยพุงพลุ้ยในชุดเอี๊ยมสีแดงนั้นดูน่ารักแปลกๆ นะ
“เ้าก็ไปทำงานด้วย”
ชิวอวี่พยักหน้า และเดินตามเ้าแมวอ้วนไป
สำหรับหน้าที่อันยิ่งใหญ่อย่างการถือร่มให้องค์หญิง จึงกลายเป็หน้าที่จองเ้าเด็กอ้วนิญญาอาวุธพิเศษไปโดยปริยาย
เ้าแมวอ้วนเดินไปรอบๆ ทุ่งหญ้าราวกับสุนัขดมกลิ่น ชิวอวี่ที่เดินตามหลังมา บางครั้งก็นั่งยองๆ หยิบอะไรบางอย่างขึ้นมา สีหน้าของเขาดูหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหาอะไรไม่ได้สักอย่าง
ในชั่วพริบตา เวลาก็ล่วงเลยมานาน
ชิวอวี่และเ้าแมวอ้วนยืนอยู่หน้าพื้นที่ลุ่มแห่งหนึ่ง ชิงอีเห็นเช่นนั้นจึงเดินไปหา
ที่นั่นมีซากแมวเน่านอนจมโคลนอยู่ นอกจากแมลงวันก็ไม่มีผู้ใดเหลียวแล ร่างกายส่วนใหญ่ถูกงู แมลง หนู และมดกัดกิน ทว่า ก็ยังเห็นรอยคมมีดที่ผ่าท้องว่าคมเพียงใด รอยมีดไร้ซึ่งความลังเลและความปรานีเลยแม้แต่น้อย
ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้างค้างไว้ แววตานั้นทิ้งไว้เพียงความอัปยศอดสู
ชิวอวี่ที่แม้จะเป็คนใจแข็ง ทว่า เมื่อมองดูศพของแมวแล้วยังโศกเศร้า อดกอดสิ่งที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาแน่นไม่ได้
“องค์หญิง โปรดปล่อยแม่แมวตัวนี้ไปได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ มันก็แค่ล้างแค้นให้มันกับลูกเท่านั้น” ชิวอวี่กัดฟันขอ
ชิงอีแหงนหน้ามองไปบนท้องฟ้าครู่หนึ่ง ดวงตานั้นล้ำลึกเกินกว่าจะมองเห็นอารมณ์ที่แท้จริงได้
“หลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้อธิบายด้วยมีเหตุผลได้ ทว่า ในขุมนรกมีเพียงผลกรรมเท่านั้น นางหลี่และคนอื่นๆ ผ่าท้องเอาลูกของมันมา ถลกหนังมาทำซุป นี่แหละ สาเหตุที่แมวแก้แค้นและทำร้ายคน ทว่า กฎของปรโลกนั้น หากผีทำร้ายคน พวกมันก็คือผีร้าย และทำได้เพียงทำให้มันสลายไปเท่านั้น”
ชิงอีพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ชิวอวี่มองดูนางด้วยความไม่เชื่อ “แล้วท่านจะทรงปล่อยนางหลี่กับพวกไปจริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ!”
“พวกเขาเอาชีวิตสิบห้าปีมาแลก เพื่อเป็การลงโทษไปแล้ว”
ในใจของชิวอวี่เต็มไปด้วยความโกรธ สิบห้าปี? สิบห้าปีมันพอแล้วหรือ?!
จู่ๆ ชิวอวี่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างชนข้างเท้า เมื่อเขาก้มศีรษะไปดูก็พบแม่แมวตัวผอมบางนั่งอยู่บนพื้น มันเงยหน้าขึ้นมองเขา
ชิวอวี่ถึงกับใ นี่คือ...
เหมียว~
แม่แมวส่งเสียงร้อง และมองศพตนด้วยแววตาโศกเศร้าตอนที่มันเดินผ่าน ก่อนจะมาโค้งคำนับให้ชิงอี
ชิวอวี่สงสัยว่าหากนี่คือิญญาของแมวที่ตายไป เช่นนั้นเื่วุ่นวายที่เกิดในจวนรองเสนาบดีคืออะไรล่ะ?
เหมียว
แม่แมวร้องขึ้นมาอีกครั้ง พลางส่งสายตาอ้อนวอนไปที่ชิงอี
“จริงอยู่ที่ถูกคนเ่าั้ผ่าท้อง และต้องดูลูกกลายเป็อาหารเลิศรสของมนุษย์ มันเ็ปใจนัก แต่โชคดีที่หลังกลายเป็ผี เ้าควบคุมตัวเองได้ แล้วไม่ทำสิ่งโง่เขลาลงไป” ชิงอีพูดเสียงเรียบ “เ้าขอร้องข้าไปก็ไร้ประโยชน์ ลูกของเ้าโกรธเคืองมาก หากอยากจะแก้จริงๆ เหตุใดเ้าที่เป็แม่ จึงหยุดพวกเขาไม่ได้ล่ะ”
“เอ่อ...พวกลูกแมวทำร้ายคนในจวนรองเสนาบดีงั้นหรือ?” ชิวอวี่ถามดัวยความประหลาดใจ ทว่า เมื่อมองชิงอีและเ้าแมวอ้วน พวกเขากลับมีหน้านิ่ง เห็นได้ชัดว่ารู้เื่นี้มาก่อนแล้ว
แต่มันจะเป็ลูกแมวไปได้อย่างไร?
พูดตามเหตุผลแล้วควรเป็แม่แมวตัวนี้มากกว่าไม่ใช่หรือไรที่เกลียดนางหลี่และพวกเขา?
“ในโลกมนุษย์มีคำกล่าวว่า ธรรมชาติของมนุษย์นั้นมีจิตใจเมตตากรุณา” เ้าแมวอ้วนพูดด้วยเสียงราบเรียบว่า “ที่จริงแล้ว ตอนแรกก็ไม่ได้มีการแบ่งแยกดีชั่ว ข้ามแม่น้ำลืมเลือน[3]เพื่อชะล้างอดีต แล้วกลับมาเกิดใหม่ในโลก เป็ดวงจิตบริสุทธิ์ในท้องแม่
ลูกแมวเ่าั้มีชีวิตจิตใจและอีกไม่กี่วันก็จะได้ลืมตาดูโลก ทว่า กลับถูกผ่าออกมาก่อนกำหนดและกลายเป็อาหารของมนุษย์ แต่เดิมดวงจิตของพวกมันเปรียบเหมือนกระดาษขาว พวกมันถูกตัดโอกาสที่จะได้ลืมตาดูโลก”
“สิ่งแรกที่โลกนี้แต่งแต้มให้พวกมันคือความเคียดแค้นชิงชังที่ยากจะลบออก”
หลังจากฟังจนจบ ชิวอวี่ใช้เวลานานกว่าจะสงบอารมณ์อันปั่นป่วนลงได้
ไม่อาจบอกได้เลยว่ารู้สึกอย่างไร
เขามองแม่แมวที่ยังคงอ้อนวอนอยู่กับพื้น ภายในใจยิ่งเหมือนมีบางอย่างจะะเิออก มันคือความทุกข์ทรมานที่ทำให้เขาแทบเป็บ้า
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ามันช่างเหลวไหลสุดๆ
ไร้สาระสิ้นดี
โลกนี้ มีคนตั้งมากมายเท่าไรที่ยืนและเดินด้วยสองขา แต่กลับทำสิ่งที่เลวร้ายกว่าสัตว์
โลกนี้ มีสัตว์ตั้งมากมายที่คลานสี่ขา แต่พวกมันกลับเหมือนมนุษย์เสียยิ่งกว่ามนุษย์เสียอีก
สรุปแล้ว ใครเป็มนุษย์กันแน่? แล้วใครกันที่เป็สัตว์?
“ไปเถอะ ได้เวลาแล้ว” ชิงอีเหลือบมองบนท้องฟ้า และหันมามองแม่แมวที่อยู่ข้างเท้า “เ้าเองก็ควรตามมา ไปส่งลูกน้อยของเ้าครั้งสุดท้าย”
พูดจบ ชิงอีก็หันหลังเดินออกมา
ชิวอวี่มองแผ่นหลังของนาง เขาถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกมาห่อซากแมวในแอ่งน้ำ ไม่ได้สนกลิ่นเหม็น แล้วนำมันไปห่อรวมกับกระดูกของลูกแมวที่เขาพบอย่างระมัดระวัง เขาโอบกอดห่อผ้าในอ้อมแขนแน่น จากนั้นจึงจะเดินตามชิงอีไป
แม่แมวหันกลับมามองเขาด้วยแววตาซาบซึ้ง
เ้าแมวอ้วนนอนมองการกระทำของชิวอี่อยู่บนร่มกระดาษน้ำมัน มันเห็นความไม่เข้าใจและความขุ่นเคืองที่มีต่อชิงอีภายในดวงตาของชิวอวี่ เ้าแมวอ้วนได้แต่ถอนหายใจ
เด็กโง่นี่...ช่างน่ารักจริงๆ
**********************
[1] หมวกซาเม่า(纱帽)ที่แสดงถึงตำแหน่ง อำนาจ ในหน้าที่การงาน เพราะมีแต่ขุนนางในระดับสูงเท่านั้นถึงจะได้สวม
[2] จันทร์หลบโฉมสุดามวลผกาละอายนาง มัจฉาจมวารี (闭月羞花,沉鱼落雁) หมายความว่า สวยจนปลาตะลึงในความงามจนลืมว่ายน้ำ นกตะลึงจนลืมบินแล้วตกลงมาจากท้องฟ้า สวยจนดวงจันทร์หลบไม่กล้าเทียบรัศมี สวยจนหมู่มวลดอกไม้พากันหุบไม่กล้าบานแข่งรัศมี ซึ่งมาจากโคลงจีนที่ใช้เรียก 四大美人 สี่ยอดพธูที่งดงามที่สุดในประวัติศาสตร์จีนโบราณ
[3] แม่น้ำลืมเลือน คือแม่น้ำที่เต็มไปด้วยดวงิญญาสัตว์ร้ายและไอพิษ คนตายที่้าข้ามสะพานจะต้องดื่มน้ำแกงยายเมิ่ง เพื่อลบความจำในชาติก่อน
