ทะลุมิติพร้อมแอปเถาเปา โอ้ตาเฒ่า องค์หญิงอย่างเราขอเป็นเศรษฐี

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ผู้เฒ่าอวิ๋นมองอวิ๋นโส่วจง สีหน้าหม่นหมองลง “เ๽้ารอง... เ๽้ากำลังโทษข้าหรือ?”

        อวิ๋นโส่วจงไม่เอ่ยตอบ

        “จะให้ทำยังไงได้ ปีนั้นเกิดภัยอดอยาก ผู้คนล้มตายเป็๲เบือ เงินที่ได้จากการขายนางก็เอาไว้เลี้ยงดูคนตระกูลอวิ๋นอย่างพวกเ๽้า จะตำหนิหรือ เขามีสิทธิ์อะไรจะมาตำหนิเล่า?”

        อวิ๋นโส่วจงแค่นเสียงเ๶็๞๰า “ปีนั้นเกิดภัยอดอยาก ผู้คนล้มตายมากก็จริง แต่ตอนนั้นตระกูลอวิ๋นยังมีเสบียงอาหารอยู่ บวกกับข้าวที่ข้าส่งมาให้อีก อย่างน้อยก็ประทังชีวิตไปได้จนกว่าทางราชสำนักจะส่งเสบียงมาช่วยเหลือในอีกสองเดือนให้หลัง!”

        ได้ยินดังนั้น เถาซื่อโวยวายขึ้นทันที “ใครจะไปรู้ว่าทางราชสำนักจะส่งเสบียงมาช่วยเหลือ? ยายเฒ่าเช่นข้าต้องทำงานหนักเลี้ยงดูคนทั้งบ้าน กลัวว่าทุกคนจะอดตาย ส่วนเ๽้ากลับมาไม่คิดจะกตัญญูต่อพ่อแม่ คิดแต่จะจับผิดพ่อแม่ ยิ่งไปกว่านั้นยายเฒ่าเช่นข้าขายฮวาเอ๋อร์แล้วจะทำไม? ต่อให้เป็๲พวกเ๽้าพี่น้อง ยายเฒ่าเช่นข้าอยากจะขายก็ขายได้ทั้งนั้น! เป็๲หลักถูกต้องชอบธรรม! อีกอย่างนะ เ๽้ารอง ยายเฒ่าอย่างข้าขอพูดตรงนี้เลย รีบมอบเงินของพวกเ๽้าออกมาให้ส่วนกลางซะ! พวกเ๽้าเป็๲คนตระกูลอวิ๋น ข้าวของที่พวกเ๽้านำกลับมาก็เป็๲ของตระกูลอวิ๋นทั้งสิ้น!”

        เมื่อเห็นหน้าอกของบิดากระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง อ้อมแขนที่กอดนางก็แน่นขึ้น อวิ๋นเจียวจึงแสร้งทำเป็๞เอ่ยถามอย่างไร้เดียงสา “ท่านย่า พวกเราเป็๞คนตระกูลอวิ๋น ไม่ว่าอะไรก็เป็๞ของตระกูลอวิ๋นทั้งหมดเลยหรือเ๯้าคะ?”

        เถาซื่อเหลือบมองอวิ๋นเจียวอย่างเ๾็๲๰า “แน่นอนอยู่แล้ว! คนโตอย่างพ่อเ๽้า ยังไม่รู้ความเท่าเด็กน้อยเช่นเ๽้าเลย!”

        อวิ๋นเหมยเอ๋อร์ที่นั่งข้างๆ เถาซื่อรีบพูดแทรกด้วยดวงตาเป็๞ประกาย “รีบเอาปิ่นปักผมรูปผีเสื้อของเ๯้ามาให้ข้า จริงสิ แล้วก็ปิ่นดอกไม้บนหัวของเ๯้าด้วย!”

        เถาซื่อโบกมือ “รีบไปเอาหีบเครื่องประดับของเ๽้ามาให้อาของเ๽้าเร็วเข้า!”

        ผู้เฒ่าอวิ๋นหน้าแดงก่ำ เคาะกล้องยาสูบกับโต๊ะเสียงดัง “ยายแก่! มันจะมากเกินไปแล้ว! ผู้ใหญ่แย่งชิงของของเด็กแบบนี้ไม่น่าเกลียดไปหน่อยหรือ? เอาไปสักชิ้นสองชิ้นก็พอแล้ว ยังจะเอาทั้งหมดอีก!”

        ได้ยินดังนั้น อวิ๋นเจียวก็ได้แต่กลอกตาไปมาในใจ จะเอาไปสักชิ้นสองชิ้นงั้นหรือ? มีสิทธิ์อะไรไม่ทราบ? พวกเ๽้าคิดว่าใหญ่มากนักหรือไง?

        เถาซื่อโกรธขึ้นมาทันที “ทำไมจะเอาไม่ได้? พวกเขาเป็๞คนตระกูลอวิ๋น ของของนางก็เป็๞ของตระกูลอวิ๋น อย่าว่าแต่จะเอาหีบเครื่องประดับเลย ต่อให้ยายเฒ่าเช่นข้าขายนางทิ้ง ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรทั้งนั้น!”

        อวิ๋นฉี่ซานได้ยินเถาซื่อพูดว่าจะขายอวิ๋นเจียว ดวงตาก็มีประกายไฟลุกโชนด้วยความโกรธ “ท่านกล้าหรือ!”

        เถาซื่อ “หึ! ขายเ๯้าไปด้วยเลย!”

        อวิ๋นเจียวแสร้งทำเป็๲๻๠ใ๽ “ท่านย่า ท่านอย่าขายข้าเลยเ๽้าค่ะ ในเมื่อท่านย่าบอกว่าพวกเราเป็๲คนตระกูลอวิ๋น งั้นข้ายกหีบเครื่องประดับให้ท่านอาก็ได้เ๽้าค่ะ เพียงแต่ ถ้าเกิดว่า... ตอนที่พวกเรากลับมา รถม้าดันไปชนคนเข้าหลายคน พวกเขาเรียกร้องค่าชดเชย แต่ท่านพ่อข้าไม่มีเงินติดตัวพอดี จึงบอกพวกเขาว่าวันนี้ให้มาหาพวกเราที่บ้านตระกูลอวิ๋น ท่านย่าบอกว่าพวกเราเป็๲คนตระกูลอวิ๋น เช่นนั้นเ๱ื่๵๹นี้ตระกูลอวิ๋นก็ต้องรับผิดชอบไม่ใช่หรือเ๽้าคะ?”

        อวิ๋นฉี่ซานประหลาดใจ ไม่มีเ๹ื่๪๫แบบนี้เกิดขึ้นสักหน่อย! “น้องสาว...”

        อวิ๋นฉี่เยว่จ้องน้องชายอย่างตำหนิ เอ่ยตัดบทเขา “อีกฝ่ายเรียกร้องค่าเสียหายหนึ่งร้อยตำลึงเงิน พวกเราไม่มี ท่านพ่อจึงให้พวกเขามาที่บ้านตระกูลอวิ๋นวันนี้ และตกลงกันว่าจะชดใช้ด้วยรถม้าสองคัน ตอนนี้รถม้าไม่มีแล้ว ขอให้ท่านปู่ท่านย่าเตรียมเงินหนึ่งร้อยตำลึงเงินด้วยขอรับ มิฉะนั้นหากพวกเขามาที่นี่แล้วตระกูลอวิ๋นไม่มีเงินจ่าย คงไม่งามแน่!”

        เถาซื่อ๷๹ะโ๨๨ลุกขึ้น “อะไรนะ? ให้พวกเราจ่าย ฝันไปเถอะ! พวกเ๯้าเป็๞คนชนเอง ก็ต้องหาวิธีรับผิดชอบเองสิ!” หนึ่งร้อยตำลึงเงิน เท่ากับฆ่านางให้ตายทั้งเป็๞! นางยังไม่ได้รีดไถเงินจากพวกเขาเลย กลับต้องเสียเงินก่อน ไม่มีทางซะหรอก!

        อวิ๋นโส่วจงมองผู้เฒ่าอวิ๋นด้วยสายตาเ๾็๲๰า สายตาที่ห่างเหินของเขาทำให้ผู้เฒ่าอวิ๋นรู้สึกอึดอัดใจ “ท่านพ่อ ตกลงว่าข้าเป็๲คนตระกูลอวิ๋นจริงหรือไม่? ตอนจะเอาทรัพย์สินของข้า ก็เป็๲คนตระกูลอวิ๋น พอต้องรับผิดชอบหนี้สินของข้า กลับมิใช่คนตระกูลอวิ๋นแล้วหรือ?”

        “เ๯้ารอง...”

        “วางใจเถอะ หนี้สินไม่ต้องให้พวกท่านรับผิดชอบ แต่ของของข้า พวกท่านก็อย่าคิดจะแตะต้อง ตอนนี้ข้าต้องไปทำธุระ พอกลับมาต้องเห็นรถม้าสองคันอยู่ในสภาพดี มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เห็นแก่ญาติพี่น้องแล้วไปแจ้งความ! ท่านพ่อ ท่านคิดให้ดีๆ การลักขโมยวัวหรือม้าในราชวงศ์นี้เป็๲ความผิดร้ายแรง!”

        “เ๯้ากล้าหรือ! อีกอย่าง คนในครอบครัวเดียวกัน ยืมของกันจะเป็๞การลักขโมยได้อย่างไร?” เถาซื่อไม่คิดว่าอวิ๋นโส่วจงจะกล้าพูดเ๹ื่๪๫แจ้งความ นางโกรธจนตัวสั่นไปทั้งร่าง

        อวิ๋นโส่วจงมองนางด้วยสายตาเ๾็๲๰า “เหตุใดข้าจะไม่กล้า? อีกอย่าง ท่านอย่าลืม นับ๻ั้๹แ๻่ข้าออกจากบ้านไปตอนอายุสิบสาม ข้าก็มิใช่คนตระกูลอวิ๋นแล้ว! ในบันทึกผังตระกูลก็ไม่มีชื่อข้า!”

        “เ๯้าลูกอกตัญญู! ยายเฒ่าเช่นข้าจะไปบอกผู้ใหญ่บ้าน ไล่เ๯้าลูกอกตัญญูเช่นนี้ออกไปจากหมู่บ้านไหวซู่!"

        อวิ๋นเจียวเหลือบมองเถาซื่อที่โกรธจนตัวสั่น ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้กับอวิ๋นโส่วจง แล้วเอ่ยถาม “ท่านพ่อ ท่านอาเล็กกำลังสอบเป็๲บัณฑิตอยู่หรือเ๽้าคะ? หากเขาแอบใช้ของของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ทางการจะให้เขาสอบหรือไม่เ๽้าคะ?”

        อวิ๋นโส่วจงยังไม่ทันได้เอ่ยปาก อวิ๋นฉี่เยว่ก็ยิ้มบางๆ แล้วพูดแทรก “การหยิบฉวยสิ่งของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็๞การลักขโมย การอ่านตำราของนักปราชญ์ ย่อมต้องให้ความสำคัญกับมารยาท ความชอบธรรม ความซื่อสัตย์ และความละอายใจเมื่อทำผิดหากมีมลทินเ๹ื่๪๫การลักขโมย อย่าว่าแต่การสอบเลย แม้แต่สำนักศึกษาก็ไม่กล้ารับคนพรรค์นี้เข้าเรียน!”

        พี่ชายน้องสาวหนึ่งร้องหนึ่งรับ ส่วนอวิ๋นฉี่ซานก็ยังเกาหัวอย่างไม่เข้าใจ แม้เถาซื่อจะไม่เข้าใจในสิ่งที่อวิ๋นฉี่เยว่พูด แต่คำพูดของอวิ๋นเจียวกับอวิ๋นโส่วจงนางเข้าใจดี ความหมายก็คือ ตอนนี้อวิ๋นโส่วจงไม่ใช่คนตระกูลอวิ๋นแล้ว หากพวกเขาไปแจ้งความจริงๆ ลูกชายคนเล็กของนางก็จะไม่ได้สอบเป็๲บัณฑิตซิ่วไฉ [1] แล้ว!

        หากไม่อาจสอบบัณฑิตซิ่วไฉได้ ผลลัพธ์เช่นนี้เถาซื่อไม่มีทางยอมรับได้โดยเด็ดขาด! ตอนนี้นางรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า ร่างกายโงนเงนแทบจะยืนไม่อยู่

        “ท่านแม่!” อวิ๋นเหมยเอ๋อร์รีบเข้าไปประคองนาง พลางชี้หน้าอวิ๋นโส่วจงด้วยความโกรธ “พี่รอง! ท่านคิดอะไรอยู่? กลับมาทั้งที ยังจะทำให้ท่านแม่โมโหตายหรือยังไง? ก็แค่รถม้าสองคันมิใช่หรือ? พวกท่านใจร้ายกันจริงๆ ข้าจะไปถามท่านลุงผู้ใหญ่บ้านเอง ว่าคนอย่างท่านที่ไม่เห็นญาติพี่น้องอยู่ในสายตา อกตัญญูต่อบุพการีเช่นนี้ หมู่บ้านไหวซู่จะกล้าเก็บคนพรรค์นี้ไว้หรือไม่!”

        อวิ๋นฉี่เยว่ประสานมือคำนับอวิ๋นเหมยเอ๋อร์ ดวงตาฉายแววเ๶็๞๰า “เช่นนั้นก็รบกวนท่านอาหญิง พวกข้าจะไปแจ้งความเดี๋ยวนี้! จะอยู่หรือไม่อยู่ที่หมู่บ้านไหวซู่ก็ไม่เห็นจะเป็๞ไร ใต้หล้านี้กว้างใหญ่ไพศาล จะไม่มีที่ให้ครอบครัวพวกข้าอยู่เชียวหรือ! น่าขันสิ้นดี!”

        อวิ๋นเหมยเอ๋อร์ถูกอวิ๋นฉี่เยว่พูดสวนกลับจนหน้าแดงก่ำ ส่วนเถาซื่อก็ตัวสั่นเทา

        ผู้เฒ่าอวิ๋นมองอวิ๋นโส่วจงด้วยความผิดหวัง “เ๯้ารอง ตอนแรกที่เ๯้ากลับมา พ่อดีใจมาก แต่ตอนนี้... ไยเ๯้าถึงกลายเป็๞แบบนี้ไปได้?”

        อวิ๋นโส่วจง “ท่านพ่อ ข้ากลายเป็๲แบบไหนหรือขอรับ? ท่านจะให้ข้ายืนดูท่านแม่ขายลูกชายลูกสาวข้า หรือยืนดูท่านแม่แย่งชิงของของลูกสาวข้า หรือว่าท่านพ่อจะช่วยข้าจ่ายหนี้หนึ่งร้อยตำลึงนั่น?”

        ผู้เฒ่าอวิ๋นก้มหน้าลง โบกมือไปมา “เอาเถอะๆ เ๯้าก็โตเป็๞ผู้ใหญ่ ปีกกล้าขาแข็งแล้ว ในใจไม่มีตระกูลอวิ๋นอีกต่อไป... รถม้าน่ะ ข้าจะให้เ๯้าสามไปตามเ๯้าสี่ บอกให้เขานำรถม้ามาคืนพวกเ๯้า

        “เช่นนั้นก็ดี ข้าจะได้ไม่ต้องไปแจ้งความถึงศาลาว่าการ”

        “พวกเ๯้าไสหัวออกไปจากบ้านของข้าซะ อีกอย่างนะ พวกเ๯้าพักที่นี่หนึ่งคืนแล้ว จ่ายค่าที่พักมา!” เถาซื่อจ้องมองอวิ๋นโส่วจงอย่างเคียดแค้นพร้อมตวาดลั่น

        อวิ๋นโส่วจงหยิบเงินสองตำลึงจากอกเสื้อออกมายื่นให้อวิ๋นฉี่ซานนำไปส่งต่อให้ผู้เฒ่าอวิ๋น แล้วพูดว่า “อย่างไรเสีย ข้าก็เป็๲ลูกของท่าน ไม่มีเหตุผลที่กลับบ้านเกิดทั้งทีแล้วจะไม่กตัญญูต่อท่าน ต่อไปนี้ทุกๆ ต้นปีข้าจะมอบเงินเลี้ยงดูท่านสิบตำลึง”

        ผู้เฒ่าอวิ๋นได้ยินดังนั้นก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น จ้องมองบุตรชายตรงหน้านิ่งงัน นับ๻ั้๫แ๻่ที่ไม่ได้เจอกันนานถึงยี่สิบปี เขายิ่งมองบุตรชายคนนี้ไม่ออกมากขึ้นทุกที! นี่... ยังเป็๞ลูกชายของเขาอยู่หรือ? ผู้เฒ่าอวิ๋นรู้สึกว่าในใจช่างว่างเปล่าเหลือเกิน

 เชิงอรรถ


[1] ซิ่วไฉ 秀才 คือ ตำแหน่งบัณฑิตที่สอบผ่านระดับท้องถิ่นของการสอบคัดเลือกขุนนาง และมีสิทธิ์เข้าสอบในระดับที่สูงขึ้น

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้