“หลิงอวิ๋น เ้านี่คือ...” เมื่อเห็นตำราทั้งสามเล่มที่เปลี่ยนไปราวกับคนละเล่ม และเมื่อได้พลิกดูเนื้อหาที่เพิ่มเข้ามาในท้ายเล่มแล้ว ชายชราถึงกับใสุดขีด!
“พรุ่งนี้ข้าจะปรุงยาให้ท่านสักชุด ท่านจะต้องทานติดต่อกันเป็เวลาสามวัน แล้วจึงค่อยฝึกวิชาขั้นที่สี่ตามในตำราได้ อย่างเร็วก็สิบวัน อย่างช้าก็สักครึ่งเดือน ท่านก็จะสามารถบรรลุไปสู่ชั้นปรมาจารย์ิญญาได้!”
“หลิงอวิ๋นเอ๋ย เ้าคือผู้มีพระคุณของตระกูลเซียวเราจริงๆ!” ดวงตาของชายชราแดงก่ำ! ไม่มีใครที่เข้าใจเื่นี้ดีไปกว่าเขาอีกแล้วว่าวิชาบำเพ็ญเพียร และวิชาิญญาที่ดีมีความสำคัญต่อตระกูลมากเพียงใด ว่าแล้วชายชราก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที และกำลังจะหมอบลงคำนับเพื่อขอบคุณ!
เซียวหลิงอวิ๋นรีบคว้าข้อมือของชายชราไว้ แม้จะออกแรงไม่มากนัก แต่ก็แข็งแกร่งราวกับแท่งเหล็กที่งอไม่ได้ จนทำให้ชายชราลงไปหมอบไม่ได้ดังที่ตั้งใจ “ตัวข้าเองก็เป็คนของตระกูลเซียว!” แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความรู้สึกผูกพันอะไรกับตระกูลเซียวมากนัก แต่ในนามแล้วชายชราผู้นี้ก็คือท่านปู่ของเขา แม้ว่าจะไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ แต่เซียวหลิงอวิ๋นก็ไม่้าให้ชายชราแสดงความขอบคุณเขาในลักษณะเช่นนี้!
เมื่อถูกเซียวหลิงอวิ๋นจับเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว แต่ชายชราไม่สามารถก้มลงไปคำนับลงได้!
ในเวลานี้ชายชราถึงได้รู้ว่าหลานชายของตนมีพละกำลังมหาศาลมากเพียงใด! แม้ไม่ได้ใช้พลังิญญา แต่ตัวเขาที่เป็ถึงผู้ใช้พลังิญญาระดับสูง เมื่อวัดพละกำลังทางกายแล้วกลับยังสู้เซียวหลิงอวิ๋นไม่ได้!
“ดี ดี ดี หลิงอวิ๋น ข้าได้ยินมาว่าเ้าได้รับความโปรดปรานจากผู้าุโสูงสุดทั้งสองของสำนักิญญาเมฆา หลังจากนี้เส้นทางการเติบโตของเ้าจะยิ่งไปไกลมากขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อเ้ากลับเข้าสำนักไปแล้ว หากเ้า้าอะไร ขอเพียงตระกูลเซียวของเราสามารถช่วยเหลือได้ ไม่ว่าจะเป็ตัวข้าหรือคนทั้งตระกูลเซียว ก็จะคอยสนับสนุนเ้าอย่างเต็มที่!”
คำพูดของชายชราทำให้เซียวหลิงอวิ๋นรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาก!
เขาพยักหน้า “เข้าใจแล้ว หากข้า้าอะไร ข้าจะบอกเอง!”
แล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เซียวหลิงอวิ๋นก็อยู่ในจวนเซียวโหวแห่งนี้มาได้สิบวันแล้ว ในตอนเช้าชายชราเริ่มเก็บตัวไปฝึกวิชาแล้ว!
จวนที่ถูกทำลายไปครึ่งหนึ่งได้ทำการเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อนก็เริ่มดำเนินการสร้างใหม่! ทุกคนในตระกูลเซียวต่างก็มีสีหน้าตื่นเต้นและภูมิใจ!
นักยุทธ์ของตระกูลหลิ่วโหวผู้เกรียงไกรรอดกลับมาได้แค่เพียงสามคนเท่านั้น ในขณะที่ตระกูลเจิ้งอ๋อง ตระกูลชิวอ๋อง และตระกูลโหวอื่นๆ อีกสี่ตระกูลก็ได้จับมือกับตระกูลเซียว ร้านยาขนาดใหญ่อีกสองแห่งได้แก่ เชียนตันฟาง กับสมาคมโอสถซินโยวก็ได้ลงนามในข้อตกลงกับตระกูลเซียว ตระกูลอ๋องที่ยิ่งใหญ่เป็อันดับสองในแคว้นอย่างตระกูลจ้าวอ๋องก็ต้องก้มหัวขอยอมแพ้ ได้ยินมาว่าผู้นำตระกูลจ้าวอ๋องได้นำพาคณะขนเหรียญทองสามล้านเหรียญมายังเมืองอวิ๋นเซียวเพื่อชดใช้และไถ่คนคืน!
เหตุการณ์เหล่านี้ได้ทำให้คนในตระกูลเซียวรู้สึกภูมิใจและได้รับใบหน้าอันยิ่งใหญ่คืนกลับมาตามๆ กัน ทุกคนต่างก็ยืดอกผึ่งผาย สีหน้าเต็มตื้นไปด้วยความภาคภูมิและยินดี!
ความภาคภูมิใจ ความรู้สึกอันทรงเกียรติ และความตื่นเต้นดีใจที่เกิดขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ จะกลายเป็ความทรงจำอันล้ำค่าที่พวกเขาจะได้หวนคิดถึงไปตลอดชีวิต! และจะกลายเป็ความทรงจำอันมีค่าที่สุดในชีวิตของพวกเขา!
ใน่สองวันมานี้ หลี่เฉวียนยุ่งจนหัวหมุน เพราะได้กำหนดเอาไว้ว่าจะรับคนคุ้มกันเพิ่มแค่เพียงหนึ่งร้อยคน แต่กลับมีคนมาสมัครถึงห้าพันคน!
ยิ่งเมื่อได้ยินว่านายน้อย จ้าวเหวินจัว และชิวเทียนฉี่กำลังจะออกเดินทางกลับ หลี่เฉวียนก็รีบวางงานที่กำลังทำอยู่และวิ่งมาหาทันที “นะ...นายน้อย ทะ...ท่านจะไปแล้วหรือ!”
“ปัญหาต่างๆ ในตระกูลก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ข้าควรจะกลับไปที่สำนักเพื่อฝึกวิชาอย่างจริงจัง!” เซียวหลิงอวิ๋นยิ้มจางๆ และโบกมือลาคนในครอบครัว ก่อนจะขึ้นหลังม้าและหันหัวม้าไป ม้าเกล็ดดำก็ร้องคำรามอย่างองอาจ พร้อมกับก้าวเท้าทั้งสี่ควบทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว ที่ด้านหลังมีจ้าวเหวินจัวกับชิวเทียนฉี่ที่รีบควบม้าเกล็ดดำของตัวเองไล่ตามไปติดๆ จนทั้งสามคนสามม้าหายลับไปภายในพริบตา!
ยามค่ำคืน!
ใต้แสงจันทร์ที่เย็นะเื ร่างกายเซียวหลิงอวิ๋นก็ราวกับถูกห่อหุ้มด้วยน้ำแข็ง!
จนเมื่อชั้นน้ำแข็งค่อยๆ จางหายไป ร่างกายก็ขยับเคลื่อนไหว เสื้อผ้าพองตัวขึ้น กระดูกทั่วร่างส่งเสียงดังกร๊อบแกร๊บเบาๆ!
ไม่ไกลนักจ้าวเหวินจัว และชิวเทียนฉี่ต่างก็เบิกตากว้างขึ้นมา เ้าหนุ่มคนนี้กำลังจะบรรลุอีกแล้ว ระหว่างเดินทางมาที่นี่ เ้าหนุ่มก็เพิ่งจะบรรลุขึ้นไปเป็นักยุทธ์ระดับหก แต่ในเวลานี้กลับกำลังบรรลุอีกครั้ง และก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ดแล้ว!
หากเป็คนทั่วไป จากนักยุทธ์ระดับหกขึ้นไปเป็นักยุทธ์ระดับเจ็ดนั้น ตใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งปีก็ถือว่าเร็วแล้ว ซึ่งที่ใช้เวลาหนึ่งถึงสองปี หรือแม้แต่สามถึงห้าปีก็มีเยอะแยะถมเถไป แต่หลิงอวิ๋นกลับใช้เวลาเพียงครึ่งเดือนเศษๆ เท่านั้น ความเร็วในการฝึกวิชานี้ช่างน่ากลัวจริงๆ!
พวกเขาไม่รู้เลยว่าเซียวหลิงอวิ๋นกำลังฝึกเคล็ดวิชาเทพสูงสุดอยู่!
การฝึกสร้างรากฐานร้อยวันในขั้นแรกนั้น ฝึกมาเป็เวลาเกือบห้าสิบวันแล้ว อีกทั้งการได้ต่อกรกับคู่ต่อสู้ที่มีระดับพลังยุทธ์เหนือกว่าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการได้ดูดซับพลังธาตุไฟจากหินผลึกไฟอย่างต่อเนื่องใน่หลายวันที่ผ่านมานี้ ทำให้สามารถบรรลุขึ้นเป็นักยุทธ์ระดับเจ็ดได้อย่างไม่ยากเย็น
หากทั้งสองรู้ว่าในอีกห้าสิบกว่าวัน เซียวหลิงอวิ๋นจะบรรลุขึ้นเป็นักยุทธ์ระดับแปดกับเก้าอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเปิดเส้นลมปราณได้สำเร็จ และก้าวขึ้นสู่ผู้ใช้พลังิญญาแล้ว คาดว่าคงจะใอ้าปากค้างกรามแทบหลุดเป็แน่แท้!
จ้าวเหวินจัวมองดวงจันทร์บนท้องฟ้า พูดพึมพำกับตัวเอง “วันนี้เป็วันที่หนึ่งเดือนหนึ่ง ตามธรรมเนียมแล้วในเช้าวันนี้เวลาเก้าโมง เ้าสำนักชื่อจะต้องนำคณะพานักยุทธ์ระดับเก้าขั้นสูงทั้งหมดไปที่สำนักหลัก แล้วในอีกครึ่งเดือนก็จะทำพิธีเปิดเส้นลมปราณิญญา! ไม่รู้ว่าท่านอาจารย์ลุงของข้าจะยังอยู่ที่สำนักหรือไม่?”
“ผู้าุโจ้าว พวกเราจะกลับไปที่สำนักของเราก่อน หรือจะพาหลิงอวิ๋นกลับไปสำนักหลักเลยดีขอรับ?” ชิวเทียนฉี่ถามกลับไป
“หากไร้ซึ่ง ‘เรือเหาะรับส่ง’ แล้ว พวกเราทั้งสามคนจะข้ามูเาอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้น แล้วกลับไปที่สำนักหลักอย่างปลอดภัยได้อย่างไร” จ้าวเหวินจัวหันหน้ากลับมา “กลับสำนักของเราก่อน! อย่างน้อยท่านผู้าุโสูงสุดทั้งสองท่านน่าจะยังอยู่ที่สำนัก!”
“ฮ่าๆๆ!” ชิวเทียนฉี่ได้ยินดังนั้นจึงหัวเราะเสียงดัง!
ดวงอาทิตย์ในฤดูหนาวส่องสว่าง! อากาศแจ่มใส!
ตอนเช้าตรู่ ลูกศิษย์ที่มีระดับพลังยุทธ์ถึงระดับนักยุทธ์ระดับเก้าขั้นสูงจะพากันมารวมตัวกันลานฝึกซ้อมสิงโตกันเรื่อยๆ ทีละสองสามคน วันนี้จะเป็วันที่พวกเขาไปที่สำนักกระบี่ิญญาเมฆา แล้วในอีกครึ่งเดือนพวกเขาจะต้องเข้าร่วมพิธีเปิดเส้นลมปราณิญญาร่วมกับเหล่าลูกศิษย์ระดับเก้าขั้นสูงจากสำนักสาขาอื่นๆ อีกหลายแห่ง จะได้เป็ัหรืองูก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนในเวลานั้น!
หากเปิดเส้นลมปราณิญญาได้สำเร็จ ก็เหมือนกับการได้ก้าวขึ้นสู่์ กลายเป็ผู้ใช้พลังิญญา!
หากเปิดเส้นลมปราณิญญาไม่สำเร็จ ก็จะต้องรอจนถึงปีหน้าซึ่งสำนักกระบี่ิญญาเมฆาจะให้โอกาสลูกศิษย์แต่ละคนสามครั้ง แน่นอนว่าในรอบแรกสำนักรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ ครั้งที่สองจะต้องจ่ายคนละหนึ่งร้อยเหรียญทอง และครั้งที่สามจะต้องจ่ายถึงหนึ่งพันเหรียญทอง! หากทั้งสามครั้งยังไม่สามารถเปิดเส้นลมปราณิญญาได้ แม้ว่าจะจ่ายเงินมากเพียงใด สำนักิญญาเมฆาก็จะไม่รับแล้ว!
สำหรับผู้บำเพ็ญเพียรจะให้ความสำคัญกับพร์เป็อย่างมาก หากพร์ไม่ดี แม้ใช้เงินเป็กองพะเนินก็เป็ได้เพียงคนไร้ค่า! การที่สำนักใหญ่ๆ อย่างสำนักิญญาเมฆาให้ลูกศิษย์ในสำนักสาขามีโอกาสได้เปิดเส้นลมปราณิญญาถึงสามครั้งก็ถือว่าหาได้ยากมากแล้ว!
จางอวิ๋นเฟย ชายชราผู้มีเคราแพะเดินมาหาชายชราทั้งสองที่ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนมาเป็เวลาสิบกว่าวันอย่างเงียบๆ แล้วรายงานด้วยความเคารพ “ท่านอาจารย์ลุง ท่านอาจารย์อา วันนี้เป็วันแรกของปีใหม่แล้ว ลูกศิษย์ระดับเก้าขั้นสูงสามร้อยยี่สิบเจ็ดคนได้มารวมตัวกันแล้ว จะให้ทำ...”
“โอ้ ปีใหม่แล้วอย่างนั้นหรือ!” ผู้าุโตี๋เงยหน้าขึ้นมา “อวิ๋นเฟย เื่นี้ข้าให้เ้ากับเ้าหนุ่มแซ่ชื่อเป็คนจัดการ พวกเราสองผู้เฒ่าจะไม่จากที่นี่ไปไหนจนกว่าจะรู้ถึงสาเหตุของเื่นี้ให้ได้!”
“ขอรับท่านอาจารย์อา!” จางอวิ๋นเฟยขานรับคำแล้วถอยออกไป หลังจากนั้นไม่นาน เรือเหาะขนาดใหญ่ยาวประมาณห้าสิบหมี่ก็บรรทุกผู้คนสามร้อยกว่าชีวิต ค่อยๆ บินขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างเงียบๆ แล้วมุ่งหน้าไปยังที่ตั้งของสำนักหลักิญญาเมฆา!
สองวันต่อมาเซียวหลิงอวิ๋นและคณะก็กลับมาถึงสำนัก!
ชายชราทั้งสองที่ไม่ได้ออกไปจากลานกว้างหน้าเรือนของฉินหรูเยียนเป็เวลานาน ลุกขึ้นมาอย่างยากลำบากเพื่อ ‘ต้อนรับ’ ทั้งสามคน!
เซียวหลิงอวิ๋นมองไปที่ลานกว้าง แล้วดวงตาของเขาก็ฉายแววประหลาดใจ!
ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ส่องแสงพร้อมกัน หงส์เพลิงร้องก้องฟ้า ห่างกันเก้าวันก็มีปรากฏการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นอีกสองครั้ง เด็กคนนี้ไม่เพียงแต่จะปลุกเืบรรพชนหงส์เพลิงของนางให้ตื่นเท่านั้น แต่ยังฝึกวิชากายาหงส์ะเคลือบทองได้อีกด้วย ด้วยวิชากายขั้นแรกนี้ คือการที่หงส์เพลิงร้องสามครั้ง อัญมณีถึงจะก่อเกิด!
ปรากฏการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้จะยังมีอีกครั้งหนึ่ง และห่างกันเก้าวันอีกเช่นกัน!
การที่อาณาจักรซินโยวอันเล็กๆ แห่งนี้มีอัจฉริยะที่น่าทึ่งเช่นนี้ปรากฏ! เพิ่งเปิดเส้นลมปราณ และบรรลุสู่การเป็ผู้ใช้พลังิญญาได้มันทันไร ก็เกิดปรากฏการณ์หงส์เพลิงร้องสามครั้งปรากฏตามมา อีกทั้งเ้าตัวยังฝึกวิชากายาหงส์ะเคลือบทองได้สำเร็จอีกด้วย พร์เช่นนี้เหนือกว่าเฒ่าหงส์เพลิงคลั่งในโลกเบื้องบนเสียอีก!
หากไม่มีสิ่งใดผิดพลาดเกิดขึ้นกับเด็กสาวคนนี้ ความสำเร็จในอนาคตของนางก็น่าจะเหนือกว่าบรรพบุรุษเฒ่าหงส์เพลิงคลั่งของนางเสียอีก!
มีเพียงเซียวหลิงอวิ๋นเท่านั้นที่รู้ว่าชื่อเสียงสุดยอดอัจฉริยะที่เลื่องลือของเขานั้น แท้จริงแล้วไม่ได้บริสุทธิ์เท่ากับเด็กสาวฉินหรูเยียนคนนี้! เด็กสาวคนนี้ต่างหากที่เป็อัจฉริยะอย่างแท้จริง เป็สุดยอดอัจฉริยะที่อาจจะปรากฏขึ้นสักคนในหมู่สิ่งมีชีวิตนับพันล้านในรอบหลายหมื่นปี!
