“มีเื่อะไร?” หลินเซวียนสะกดความโกรธไว้แล้วตอบ
“ประธานหลินครับ ตึกด้านล่างมีคนชื่อหลี่เจียอยากพบคุณบอกว่ามีเื่เื่หนึ่งที่จะทำให้คุณรู้สึกสนใจมาบอกคุณครับ” พนักงานต้อนรับกล่าว
“เื่อะไร? ”
เมื่อได้ยินหลินเซวียนพูดแบบนั้น พนักงานต้อนรับก็พูดกับหลี่เจียว่า “ประธานหลินถามว่าเื่อะไร? ”
หลี่เจียยื่นมือไปรับโทรศัพท์แล้วพูดว่า “เกี่ยวกับรูปที่สนิทแแ่ของเจาเยี่ยที่ผมเพิ่งถ่ายได้ครับ”
“ขึ้นมา”
ในระหว่างที่นั่งรอหลี่เจีย อารมณ์ของหลินเซวียนก็เย็นลงมากแล้วเมื่อเขามาถึงก็ยิ่งเย็นลงจนถึงขีดสุด เมื่อเขามาถึงตรงหน้าก็ถามว่า “นายบอกว่ารูปสนิทแแ่ของเจาเยี่ย ตกลงเื่มันเป็มายังไง? ”
“หลิวเยวี่ย เอาภาพถ่ายให้เขา” หลี่เจียพูดกับคนที่อยู่ด้านหลังหลิวเยวี่ยปฏิบัติตามคำสั่งโดยล้วงรูปถ่ายที่ล้างจากระหว่างทางออกมาแล้วยื่นให้หลินเซวียน
“นี่ถ่ายั้แ่เมื่อไหร่? ” เส้นเืบนมือของหลินเซวียนปูดขึ้น แต่ใบหน้ากลับสงบเยือกเย็น
“สดๆ ใหม่ๆ จากเตาเมื่อเช้าเลย ถ่ายตอนที่กู้หลานอันเป็ตัวแสดงแทนของสวีย่าเดิมทีฉากที่เขาต้องแสดงแทนคือฉากที่ต้องป้อนยาให้เจาเยี่ยแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเจาเยี่ยจะเป็คนจูบเขาเองเขายังถือโอกาสดึงเสื้อของเจาเยี่ยไว้แน่นๆ อีกด้วยพวกเขาจูบกันอยู่นานมากท่ามกลางสายตาของคนมากมาย” หลี่เจียมองแวบหนึ่งไปยังรูปถ่ายที่ดูท่าทางคลุมเครือสุดขีดของกู้หลานอันและเจาเยี่ยที่หลี่หมาเป็คนถ่ายมาแล้วพูดแต่งเติมเื่ราวให้เกินความจริง
“เป็ไปได้ยังไง? ” หลินเซวียนพูดออกมาประโยคเดียวก็นิ่งงันไปพลางพูดด้วยใบหน้าหม่นหมองว่า “เป็ไปไม่ได้ที่เจาเยี่ยจะเป็คนจูบกู้หลานอันน่าจะเป็กู้หลานอันที่เป็คนดึงเขาแล้วพวกนายไม่เห็นมากกว่า”
“ใช่ ประธานหลินพูดได้ถูกต้อง ลักษณะนิสัยแบบซุปเปอร์สตาร์เจาแถมยังเป็คนที่กลัวการััทางร่างกายกับคนอื่นจะเป็คนจูบกู้หลานอันได้ยังไง ต้องเป็กู้หลานอันคิดไม่ดีกับเขาแน่ๆ ” หลี่เจียพูดคล้อยตามเขา หลินเซวียนกลับไม่ได้มองหลี่เจียดีขึ้นเท่าไรรูปถ่ายในมือถูกโยนลงไปในพื้น แล้วพูดตรงเข้าประเด็นว่า “พูดมา จะลบข่าวนี้ต้องจ่ายเท่าไร? ”
“หนึ่งแสน” เมื่อเห็นว่าหลินเซวียนไม่ได้อยากพูดไร้สาระกับเขาหลี่เจียกัดฟันพูดไปตามตรง
“ได้” หลินเซวียนตอบรับทันที แล้วพูดกับเลขาฯว่า “อวี๋เซินพาเขาไปรับเงิน”
“ได้ค่ะ” อวี๋เซินปฏิบัติตามคำสั่งและพูดกับเขาโดยไม่มองหลี่เจียเลยแม้แต่หางตาว่า “ตามฉันมา” จากนั้นก็เดินนำออกไป
“ไอ้เลว เป็แค่ตัวอะไรถึงกล้ามาข่มขู่ฉัน” เมื่อเห็นหลี่เจียและหลิวเยวี่ยออกไปแล้วหลินเซวียนโกรธจนปัดข้าวของบนโต๊ะทิ้งจนหมดเท้าก็เหยียบรูปถ่ายไปด้วยแล้วพูดเสียงทุ้มต่ำว่า “เจาเยี่ยปีกกล้าขาแข็งแล้วจริงๆ กล้ามาหักหน้าฉัน คอยดูถ้าฉันไม่หักปีกของนายทิ้งนะ! ” พูดจบเขากำหมัดแน่นกัดฟันกรอด แล้วมองรูปที่อยู่บนพื้นรอจนอวี๋เซินกลับมาเขาถึงคลายฟันลงแล้วพูดกับเธอว่า “ช่วยหาเบอร์ของฟู่ซีมาหน่อยหลังจากนั้นถ่ายรูปบนพื้นส่งให้เขาใบหนึ่ง”
“ค่ะ”
หลังจากได้เงิน ในระหว่างที่ออกมารอรถ สายตากระวนกระวายของหลิวเยวี่ยก็จับจ้องอยู่ที่หลี่เจียตลอด
“มีอะไรก็พูดมา” หลี่เจียกล่าว
“เจีย คุณจะล้างแค้นกู้หลานอันไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงขายรูปถ่ายพวกนั้นล่ะ? ไม่เอารูปพวกนี้ไปเผยแพร่สู่สาธารณะแล้วมันจะเป็การแก้แค้นให้เขาเดือดร้อนได้ยังไงล่ะ?” หลิวเยวี่ยถามอย่างสงสัย
“เธอไม่เข้าใจ นี่ก็คือการแก้แค้นที่ดีที่สุด” หลี่เจียยิ้มอย่างชั่วร้าย “ถ้าแค่เอารูปถ่ายโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต ช้าเร็วข่าวก็ต้องถูกลบไปไม่เพียงแต่จะไม่สามารถทำร้ายกู้หลานอันได้มากเท่าที่ควรแถมยังจะเป็การเปิดเผยการมีอยู่ของฉันด้วย แต่ถ้าเราเอารูปไปให้หลินเซวียนไม่เพียงแต่จะได้เงินมาใช้ยังสามารถทำให้กู้หลานอันมีสภาพพิการครึ่งตัวเหมือนกันกับฉันโดยการยืมมือของเขาอีกด้วย” หลี่เจียกล่าวพลางกำขากางเกงแน่น กู้หลานอันไม่ว่าช้าหรือเร็วฉันก็จะต้องทำให้นายได้ลิ้มรสชีวิตแบบฉันอย่างแน่นอน
“คุณแน่ใจได้ยังไงว่าหลินเซวียนจะทำร้ายกู้หลานอันแล้วถ้าหากเขาไม่ทำอะไรเลยล่ะ? ” หลิวเยวี่ยไม่เข้าใจ
“เขาไม่มีทางไม่ทำอะไรแน่นอน ตอนเขาอายุสิบสองปี ปีนั้นเขาเจตนาวางเพลิงฆ่าตัวตายแต่ถูกเจาเยี่ยช่วยไว้หลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็ใครก็ตาม ขอเพียงเข้าใกล้เจาเยี่ย ก็มีจุดจบไม่ดีทั้งนั้นปีก่อนแม่เลี้ยงของเขาจู่ๆ ก็กลายเป็ใบ้โดยไม่ทราบสาเหตุเพียงเพราะปฏิบัติต่อเจาเยี่ยดีเป็พิเศษ” หลี่เจียพูดด้วยความรู้สึกหวาดกลัวในภายหลัง
“ทำร้ายแม้กระทั่งแม่ของตัวเอง ทำไมโเี้ขนาดนั้นคนแบบนี้คุณยังกล้าแส่หาเื่อีกเหรอ เจียคุณอยากตายรึไง? ” หลิวเยวี่ยมองเขาอย่างเป็กังวล
“ฉันสูญเสียทั้งขาและงานยังต้องกลัวตายอีกเหรอ? ” หลี่เจียมองขาตัวเองแล้วยิ้มอย่างสิ้นหวัง
หลิวเยวี่ยไร้ซึ่งคำพูดจะตอบกลับ เธอมองเขาอยู่นานนั่งลงไปแล้วกอดขาของเขาไว้ พูดด้วยเสียงเศร้ารันทดว่า “เจีย คุณอย่าคิดแบบนี้นะ ไม่มีงานแล้วก็สามารถต่อสู้ดิ้นรนต่อได้ขาพิการไปแล้วก็ยังสามารถทำอะไรๆ ได้อีกเยอะ อย่าทำตัวหมดอาลัยตายอยากขนาดนี้ และก็อย่าทำอะไรเสี่ยงๆอีกเลย ฉันยังรอที่จะแต่งงานกับคุณอยู่นะ คุณรับปากฉันแล้วว่าจะมาสู่ขอฉันอย่าผิดคำสัญญาสิ”
“กลับบ้านเถอะ” หลี่เจียกล่าวขึ้นมาหลังจากเงียบไปสักครู่
หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ หน้ายังไม่ทันได้เงย กู้หลานอันก็จะรีบไปหาเจาเยี่ยแล้วหวังเว่ยขวางเขาไว้แล้วพูดว่า “หลานอันซู่หยางบอกให้คุณโทรกลับหาเขาหน่อย”
“เขาโทรมาเหรอ? ” กู้หลานอันยื่นมือออกไปรับโทรศัพท์มาพลางเลื่อนหน้าจอแล้วตอบเขาว่า “เขาพูดอะไรกับคุณบ้างไหม? ”
“ไม่ได้พูด แต่เป็ไปได้ว่าน่าจะเกี่ยวกับเื่ของคุณกับสวีย่าที่กำลังแพร่กระจายในอินเทอร์เน็ตตอนนี้” หวังเว่ยพูดพลางหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดข่าวที่เกี่ยวกับกู้หลานอันและสวีย่าบนอินเทอร์เน็ตแล้วยื่นให้เขาดู
กู้หลานอันมองดูแวบหนึ่ง แล้วเอามือถือคืนให้หวังเว่ย แล้วกดเบอร์โทรหาซู่หยางเมื่อโทรติดแล้ว ไม่รอให้เขาพูดก็รีบพูดเข้าประเด็นว่า “ผมกับสวีย่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่สนิทแนบชิดกันขนาดนั้นรูปถ่ายพวกนั้นเป็เื่โกหก รูปแรกที่เธอยื่นเสื้อให้ผมเป็รูปเดียวที่มันจริงรูปสองและสามที่ผมจูบเขาเป็รูปที่ถ่ายจากการหามุมกล้องในระหว่างที่พวกเรากำลังพูดคุยกันอยู่ คุณต้องรีบจัดการข่าวโดยเร็วเลยนะ”
“กำลังจัดการกันอยู่เลย ฉันจะรีบซื้อรายการค้นหายอดนิยมให้ลบข่าวออกทันทีแต่ว่าไม่มีรายการค้นหายอดนิยมก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถปิดกั้นการพูดคุยของผู้คนได้ความเห็นของฉันก็คือ ตอนนี้โพสต์คำแถลงการณ์ในบัญชีทางการก่อนแล้วรอ่เย็นที่กระแสความร้อนแรงลดลงบ้างแล้วเธอค่อยชี้แจงตัวเองในเวยป๋อ [1] อีกทีแบบนี้ทั้งสามารถเคลียร์ข่าวความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสวีย่าทั้งยังสามารถดันเธอขึ้นไปในรายการค้นหายอดนิยมได้ครั้งที่สองอีกด้วย”
“ผมไม่้ารายการค้นหายอดนิยม ข่าวอย่างนี้ไม่จำเป็ผมจะรีบชี้แจงเื่ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับสวีย่าและคุณก็อย่าเอาผมไปพิจารณาถึงประโยชน์ทางการค้าแบบนั้นรีบจัดการเื่ของผมโดยเร็ว ผมหวังว่าครึ่งชั่วโมงหลังจากนี้จะเรียบร้อย คืนนี้จะได้ไม่มีข่าวขยะพวกนี้ปรากฏออกมาให้เห็นอีก” กู้หลานอันพูดจบก็แตะๆ มือถือของหวังเว่ย หวังเว่ยรู้ในทันทีว่าให้เขาล็อกอินเข้าบัญชีเวยป๋อของเขาและเริ่มโพสต์
“รู้แล้ว โทษที โรคบ้าธุรกิจของฉันกำเริบ ฉันจะรีบจัดการให้” ซู่หยางพูด
“อืม ขอบคุณ รบกวนด้วยครับ” กู้หลานอันกล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้งแล้วก็ถามอีกว่า “สืบรู้รึยังว่าใครเป็คนปล่อยข่าว? ”
“รูปแรกสืบได้แล้ว เป็ผู้จัดการของสวีย่าที่เป็คนปล่อยข่าวส่วนเื่จุดประสงค์นั้น ฉันโทรศัพท์ไปหาเธอแล้ว เธอบอกว่าเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันเธอแค่อยากอาศัยโอกาสเพื่อช่วยศิลปินของตัวเองสร้างกระแสข่าวคาวโลกีย์เพื่อจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้พวกเราได้ผลประโยชน์ร่วมกันแต่รูปสองและสามไม่รู้ว่าใครเป็คนปล่อย ตามสืบไม่ได้เลย ถ้าหากฉันเดาไม่ผิดน่าจะเป็พวกนักข่าวถึงอย่างไรสิ่งที่นายใหญ่ของพวกนักข่าวปาปารัซซี่้าปกป้องก็มีแค่พวกนี้นี่แหละ”
“รู้แล้วครับ ส่วนทางด้านผู้จัดการของสวีย่าผมจะไปจัดการเองคุณช่วยผมจัดการข่าวให้เรียบร้อยก็พอแล้ว ผมวางก่อน” กู้หลานอันพูดจบก็วางสายแล้วถามหวังเว่ยว่า “โพสต์เสร็จรึยัง? ”
“โพสต์เรียบร้อยแล้วครับ” หวังเว่ยยื่นให้เขาดูก็เห็นว่าอารมณ์ทางสีหน้าไม่ได้เปลี่ยน แล้วรับโทรศัพท์คืนมาพูดกับเขาว่า “ได้เวลากินข้าวแล้ว ถ้าคุณยังไม่รีบไปกินข้าวคำพูดที่จะพูดกับผู้จัดการของสวีย่ามอบหมายให้ผมก็ได้ เดี๋ยวผมจะไปพูดต่อให้เอง”
เชิงอรรถ
[1] เวยป๋อ เป็เว็บไซต์ทำนองลูกผสมระหว่างทวิตเตอร์กับเฟซบุ๊กมีอิทธิพลทางการตลาดคล้ายคลึงกับทวิตเตอร์เป็หนึ่งในเว็บไซต์ยอดนิยมที่สุดของสาธารณรัฐประชาชนจีน
