การเดินทางในครั้งนี้มีเหมยกงกงติดสอยห้อยตาม เส้นทางการเดินทางจึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเทียนอู่ฮ่องเต้
เทียนอู่ฮ่องเต้ทำเช่นนี้เพราะ ประการที่หนึ่งคือเทียนอู่ฮ่องเต้กลัวว่ากูเฟยเยี่ยนจะไปแล้วไม่กลับ เขาก็จะไม่มียาต่ออายุขัย ประการที่สองคือเขากังวลว่าจิ้งหวางกับหอการค้าเสวียนคงจะสนิทสนมมากจนเกินไป ประการที่สามคือเขา้าให้จิ้งหวางควบคุมกูเฟยเยี่ยน ทว่าเขาก็กังวลว่าจิ้งหวางจะตกหลุมรักกูเฟยเยี่ยนโดยไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน เขากลัวว่าจิ้งหวางจะหวั่นไหวไปกับความรู้สึกของบุรุษกับสตรี โดยรวมคือเขาวิตกกังวล!
เทียนอู่ฮ่องเต้ติดต่อสื่อสารกับเหมยกงกงมาตลอดการเดินทาง และเหมยกงกงก็ทูลรายงานเื่ที่เซี่ยเสี่ยวหม่านโน้มน้าวให้เขาฟังแล้ว จดหมายของวันนี้คือผลลัพธ์ที่เขาครุ่นคิดมานานหลายวัน ในที่สุดจึงตัดสินใจยุติการคัดเลือกหญิงงามชั่วคราว และแต่งตั้งพระชายาเอกแทนจิ้งหวางก่อน
ทันทีที่เหมยกงกงอ่านจดหมายจบ เขาก็ไปเคาะประตูห้องของจิ้งหวาง
“เตี้ยนเซี่ยพ่ะย่ะค่ะ เหล่านู๋มีเื่ต้องทูลรายงาน”
ในขณะนี้ตรงหน้าของจวิ่นจิ่วเฉินเต็มไปด้วยกองจดหมายลับ โดยมีทั้งเื่ของปิงไห่ เื่ส่วนตัวของหานอวี๋เอ๋อร์ เื่สถานการณ์ชายแดนตะวันออก สภาพของชายแดนตะวันตก และเอกสารราชการมากมาย
การเดินทางในครั้งนี้ เขาต้องช่วยกูเฟยเยี่ยนรับมือหอการค้าเสวียนคง และต้องให้ความสนใจแนวโน้มชายแดนตะวันออกของตระกูลฉีอีกด้วย รวมไปถึงให้ความสนใจสถานการณ์ของว่านจิ้น เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาฟู่หวงมีรับสั่งให้ฉีอวี้ยุติา ถ้าลางสังหรณ์ของเขาไม่ผิด เกรงว่าในคราวนี้ตระกูลฉีจะออกนอกลู่นอกทางแล้ว
นอกจากเื่ราวเหล่านี้ เขายัง้าฉวยโอกาสนี้ไปััมหาอำนาจทางใต้ เนื่องด้วยทางใต้อยู่ใกล้ปิงไห่มากที่สุด พื้นที่แห่งนี้มีผู้คนมากมายที่้าแสวงหาความลับของปิงไห่
ถ้ามีโอกาสที่เหมาะสม เขายัง้าไปที่ปิงไห่อีกครั้งหนึ่ง เขากับต้าหวงซูเคยมาเยือนหนึ่งครั้ง ทว่าทำได้เพียงยืนมองอยู่บนูเาสูงที่อยู่ห่างไปไกล เขา้าไปที่ชายฝั่งทะเลน้ำแข็งของปิงไห่เพื่อมองดูพิษที่กระจายไปทั่วผิวน้ำแข็ง
จวินจิ่วเฉินเก็บจดหมายลับด้วยตนเอง หมางจ้งจึงไปเปิดประตู
เหมยกงกงเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มก่อนจะโค้งคำนับด้วยความเคารพนอบน้อม “นู๋ไฉขอแสดงความยินดีกับเตี้ยนเซี่ยพ่ะย่ะค่ะ! ”
จวินจิ่วเฉินถามด้วยความเ็า “ทำไม? ”
เหมยกงกงรีบทูลรายงาน “นู๋ไฉได้รับข่าวมาเมื่อสักครู่นี้ว่าฝ่าาทอดพระเนตรหญิงงามเ่าั้แล้ว พระองค์ไม่พอใจจึงรับสั่งให้พวกนางกลับไปทั้งหมด ฝ่าาตัดสินใจจัดงานอภิเษกสมรสก่อนสิ้นปี บัดนี้ได้ให้เสนาบดีประจำหน่วยงานพิธีการเริ่มลงมือจัดเตรียมสินสอดทองหมั้นเพื่อรอจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเสด็จกลับจากการเดินทางในครั้งนี้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าาจะให้เตี้ยนเซี่ยคัดเลือกฑูตด้วยพระองค์เอง จากนั้นจึงไปสู่ขอคุณหนูสามที่ป้อมปราการตระกูลหานพ่ะย่ะค่ะ”
เหมยกงกงยังกล่าวอีกว่า “เตี้ยนเซี่ยสามารถเกี่ยวดองกับตระกูลหานและสามารถอภิเษกสมรสกับคนในดวงใจ เหล่านู๋จึงต้องแสดงความยินดีกับเตี้ยนเซี่ยพ่ะย่ะค่ะ! ”
ประกายแสงสว่างปรากฏขึ้นบนดวงตาของจวินจิ่วเฉิน เพียงแต่สลายหายไปอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่แปลกใจ เขาไม่มีท่าทีตื่นตระหนก มีเพียงคำพูดที่ว่า “ให้ฟู่หวงตัดสินใจเลย”
เหมยกงกงปีติยินดี “เช่นนั้นเหล่านู๋จะกลับไปทูลรายงานฝ่าา? ”
จวินจิ่วเฉินพยักหน้าโดยไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ
ครั้นเหมยกงกงเดินออกไป หมางจ้งก็รีบก้าวขึ้นมาพูดด้วยรอยยิ้ม “เตี้ยนเซี่ย ดูเหมือนว่าวิธีของเสี่ยวหม่านจะได้ผล! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านยกย่องหานอวี๋เอ๋อร์มาโดยตลอด ยามปกติก็มักจะโน้มน้าวเตี้ยนเซี่ย ทว่าทุกครั้งที่โน้มน้าวก็จะได้รับสายตาเ็ากลับมา เื่ของการคัดเลือกหญิงงามในครั้งนี้ ฝ่าากดดันมากเหลือเกิน จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจึงจำเป็ต้องยอมรับข้อเสนอของเซี่ยเสี่ยวหม่านในการหยิบยกหานอวี๋เอ๋อร์มาเป็โล่กำบัง
ถ้าไม่ใช่เพราะเตี้ยนเซี่ยอนุญาตโดยปริยาย ต่อให้เซี่ยเสี่ยวหม่านกินดีหมีหัวใจเสือ [1] ก็ไม่กล้าที่จะพูดคุยถึงเื่ความรู้สึกของหนุ่มสาวและเื่ราวเกี่ยวกับต่างฝ่ายต่างมีใจให้กันกับเหมยกงกงที่เป็คนนอกแน่นอน!
ซึ่งแน่นอนว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอนุญาตวิธีการของเซี่ยเสี่ยวหม่านโดยปริยาย แต่พระองค์ไม่ได้้าอภิเษกสมรสกับหานอวี๋เอ๋อร์ พระองค์เพียงแค่้าใช้ข้ออ้างของการแต่งตั้งพระชายาเอก ฝ่าาจะได้ไม่ยัดเยียดหญิงงามมาที่จิ้งหวางฝู่
ครั้นเห็นว่าสีหน้าของเ้านายไม่แย่นัก หมางจ้งจึงรีบพูดต่อ “เตี้ยนเซี่ย กระหม่อมอยากจะขอรางวัลให้เซี่ยเสี่ยวหม่าน เ้าหนูน้อยไม่ได้รับรางวัลมากว่าครึ่งปีแล้ว ในใจของเ้าหนูน้อยมีความน้อยใจมาโดยตลอด! ”
จวินจิ่วเฉินครุ่นคิดก่อนจะตอบกลับไป “บอกให้เซี่ยเสี่ยวหม่านแนะนำตัวเลือกหลายๆ คนให้ฟู่หวง ถ้างานอภิเษกยืดเยื้อไปได้หนึ่งเดือน เปิ่นหวางจะให้เงินเพิ่มอีกหนึ่งเดือน ถ้าทำผิดพลาด เตรียมรับผลที่ตามมาเอง! ”
หมางจ้งตกตะลึงครู่หนึ่งก่อนจะอดหัวเราะไม่ได้ “พ่ะย่ะค่ะ พ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมจะไปเขียนจดหมายเดี๋ยวนี้! ”
ไม่กี่วันต่อมา เซี่ยเสี่ยวหม่านที่อยู่ในจิ้งหวางฝู่ก็ได้รับจดหมายลับจากหมางจ้ง จิตใจของเขาฟุ้งซ่านทันทีที่อ่านเนื้อความในจดหมายจบ จิตใจของเขาในยามนี่มีความซับซ้อนเหลือเกิน!
เซี่ยเสี่ยวหม่านในยามนี้ดีใจกับเงินรางวัลมหาศาลและวิตกกังวลกับภารกิจที่ได้รับจากเตี้ยนเซี่ย
เซี่ยเสี่ยวหม่านอายุสิบสามปี เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดการที่จะให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอภิเษกสมรสกับหญิงสาวคนหนึ่งถึงได้ยากลำบากถึงเพียงนี้ เหล่าองค์ชายในพระราชวังมีพระองค์ไหนบ้างที่ไม่ได้อภิเษกสมรสกับพระชายาเอกเล่นๆ ? มีพระองค์ไหนที่ไม่ได้แต่งตั้งพระชายาเอกไว้เป็แจกันดอกไม้และโล่กำบัง? มีพระองค์ไหนรักใคร่พระชายาเอกจริงๆ อย่างไร้ความหวาดระแวงและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข?
ในมือของหานอวี๋เอ๋อร์มีสิ่งที่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย้าตามหา แถมนางยังมีความรู้ มีมารยาท มีการกระทำที่พอดี ไม่เคลิบเคลิ้มหลงใหล ไม่งี่เง่า และไม่ทำให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยรำคาญ นี่ไม่ใช่ตัวเลือกพระชายาเอกที่ดีที่สุดหรือ? อีกอย่างคือถ้าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอภิเษกสมรสกับหานอวี๋เอ๋อร์ พระองค์ก็จะมีกองหนุนอย่างป้อมปราการตระกูลหาน ในวันข้างหน้าถ้าเทียนอู่ฮ่องเต้ยัดเยียดพระชายารองให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เทียนอู่ฮ่องเต้ก็ต้องพิจารณาว่าหานอวี๋เอ๋อร์จะยอมหรือไม่!
เซี่ยเสี่ยวหม่านคิดไปคิดมา ไม่ช้าก็บ่นพึมพำราวกับยายแก่ “อภิเษกสมรสกับผู้ที่ไม่เื่มากจะสบายไปตลอด พระองค์จะทำให้เื่ยุ่งยากทำไม! ถ้าต้องอภิเษกสมรสกับคนที่พระองค์รักจริงๆ ก็ต้องคอยระวังเทียนอู่ฮ่องเต้ทุกวันไม่ใช่หรือ? มีความสบายใจ? ไม่เหนื่อยหรือ? ไม่ใช่การสร้างปัญหาแก่ตนเองหรือ? เฮ้อ! ”
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านจะตัดพ้อและโมโห ทว่าเขาก็ไม่กล้าล่าช้าแม้แต่วินาทีเดียว เขาเผาจดหมายลับทิ้งแล้วเดินกลับไปนั่งกอดอกในเรือนเพื่อเริ่มคิดหาวิธี
ต้องทราบเอาไว้ว่าเมื่อสองวันก่อนเทียนอู่ฮ่องเต้เรียกเขาไปเข้าเฝ้าเพื่อสอบถามเกี่ยวกับหานอวี๋เอ๋อร์ และเขาก็ได้พูดยกย่องหานอวี๋เอ๋อร์แบบน้ำไหลไฟดับ บัดนี้เตี้ยนเซี่ยจะให้เขาไปยืดเวลางานอภิเษกสมรส ยืดเวลาการไปสู่ขอ เขาจึงต้องคิดหาวิธี ถ้าไม่ทำลายความประทับใจที่เทียนอู่ฮ่องเต้มีต่อหานอวี๋เอ๋อร์ ก็ต้องแนะนำตัวเลือกที่ดียิ่งกว่าแก่เทียนอู่ฮ่องเต้
กลัดกลุ้มเหลือเกิน!
ด้วยเหตุนี้ ถังจิ้งกำลังคิดวางแผน เซี่ยเสี่ยวหม่านก็กำลังคิดหาวิธี ทั้งหมดนี้จึงพุ่งตรงไปยังหานอวี๋เอ๋อร์ ทางด้านของหานอวี๋เอ๋อร์ในตอนนี้กำลังซ่อนตัวอยู่ในป้อมปราการตระกูลหาน นางกำลังคิดหาวิธีหนีจากหนี้ที่ติดกูเฟยเยี่ยน
จวินจิ่วเฉินกับกูเฟยเยี่ยนเดินทางไปด้วยกันแต่ต่างก็ยุ่งอยู่กับงานของตนเอง เหมยกงกงสังเกตการณ์อย่างละเอียดมาตลอดทาง แต่ก็ไม่เห็นเบาะแสความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง
ไม่กี่วันต่อมา พวกเขาก็เดินทางมาถึงคูเมืองและกำแพงเมืองกู่เยวี่ยที่ใหญ่ที่สุดในเทียนเหยียนทางใต้
คูเมืองและกำแพงเมืองแห่งนี้ถือได้ว่าเป็ประตูใหญ่ทางใต้ของอาณาจักรเทียนเหยียน ดินแดนเสวียนคงทางตอนใต้มีป้อมปราการตระกูลหาน ป้อมปราการตระกูลซ่างกวนและหอการค้าเสวียนคงที่เป็สามมหาอำนาจ นอกเหนือจากนี้ไม่มีอำนาจมากนัก อีกอย่างคือสิบปีมานี้ป้อมปราการตระกูลหาน ป้อมปราการตระกูลซ่างกวน และหอการค้าเสวียนคงต่างก็อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ไร้ซึ่งความคิดดินแดนทางใต้ ดังนั้นเทียนอู่ฮ่องเต้จึงไม่ค่อยระวังในเื่ของกองกำลังทหารมากนัก ด่านชายแดนจึงเปิดตลอด
สิ่งที่เทียนอู่ฮ่องเต้คอยระมัดระวังคือจุดประสงค์ที่พวกเขามีต่อปิงไห่ โดยที่ฉากภายนอกทำเป็ผูกมิตร
กูเฟยเยี่ยนรับรู้สถานการณ์เพียงอย่างเดียว นางไม่รับรู้เื่ราวเกี่ยวกับปิงไห่เลย
ในยามนี้นางกำลังนั่งดื่มน้ำชาพลางพูดคุยเกี่ยวกับเื่ของหอการค้าเสวียนคงที่โรงน้ำชากับจวินจิ่วเฉินและเหมยกงกง
เมื่อไม่กี่วันก่อนพวกเขาได้รับข่าวมาว่าเวินจื่อเจี๋ยเจรจาซื้อขายกับห้องยาสำนักหมอหลวงสำเร็จแล้ว ภายในระยะเวลาหนึ่งปีเวินอวี่โหรวต้องได้รับการเลื่อนขั้นไปเป็ผู้ดูแลยา ในขณะที่เวินเจื่อเจี๋ยขายซานชีให้ในราคาต่ำ และสัญญาว่าจะส่งไปที่ชายแดนตะวันออกตรงตามเวลา
พวกเขากำลังรอข่าวที่ชัดเจนจากชายแดนตะวันออกเพื่อที่พวกเขาจะได้ชายแดนใต้ไปเยี่ยมเยียนหัวหน้าสมาคมหอการค้าเสวียนคง!
———————
เชิงอรรถ
[1] กินดีหมีหัวใจเสือ หมายถึง กล้าทำเื่ที่คนอื่นไม่กล้าทำ มีความกล้ามากกว่าปกติ