ขณะลงจากเขา เย่เฟิงหยิบโทรศัพท์จากในแหวนมิติออกมา เปิดดูข้อความหลายอันที่ซูเมิ่งหานส่งมา
“ไม่มีทาง ข่าวกระจายเร็วขนาดนี้เลยหรือ?”
เย่เฟิงมองข้อความด้วยความงงงวย เขาเพิ่งสังหารฉีหลินจื่อไปได้ไม่นาน เื่นี้ก็กระจายออกไปด้านนอกแล้วงั้นหรือ?
โดยปกติการกระจายข่าวในยุทธจักร พวกคนธรรมดาทั่วไปจะไม่มีทางรู้เื่พวกนี้ เมื่อคิดดูว่าตอนนี้เทคโนโลยีต่างแพร่หลาย ศิษย์สำนักอิ่นเซียนจะไม่มีโทรศัพท์สักคนเลยเหรอ กระทั่งบนูเาคั่วชาง หลายพื้นที่ก็มีที่สำหรับชาร์จโทรศัพท์ ในกรณีนี้ หากข่าวแพร่ออกไปก็เป็เื่ปกติ
ตลอดทาง จื่อเจี้ยนหลาน้ารู้เื่เกี่ยวกับเย่เฟิง อย่างเช่น เขามายังสำนักอิ่นเซียนเพื่อนำยาถอนพิษกลับไปให้ใคร? คุณหนูตระกูลหลงเหรอ? เหตุใดชายหนุ่มถึงมีความสามารถลึกลับมากมายนัก? แต่เมื่อเดินอยู่ข้างเย่เฟิง เธอก็ค้นพบว่าตนไม่สามารถถามออกไป ได้แต่เดินตามเงียบๆ ตลอดเวลาภายใต้แสงจันทร์ พวกเขาเดินทางด้วยกันจนมาถึงสะพานโซ่หน้าทางขึ้นเขา
เย่เฟิงผ่านไปอย่างรวดเร็วเช่นปกติ หลังจากผ่านพ้นไปแล้ว ก็เกิดความคิดหนึ่งจึงถามจื่อเจี้ยนหลาน “ถ้าตัดโซ่นี้ไป พวกศิษย์สำนักอิ่นเซียนก็จะไม่มีเส้นทางอื่นขึ้นไปบนเขาแล้วใช่ไหม?”
“นี่เป็เส้นทางเดียวที่มี”
จื่อเจี้ยนหลานกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยชา ภายในดวงตางดงามมีแววสับสน ในที่สุดก็มองทางเข้าสำนักอิ่นเซียนหลายครั้ง
เมื่อได้ยินเย่เฟิงกล่าว หลังจากเธอทิ้งป้ายเ้าสำนักอิ่นเซียนไว้ที่ลานหิน เชื่อว่าอีกสักพักตอนเก็บกวาดก็คงมีคนพบมัน ถ้าป้ายยังอยู่กับตัว ในอนาคตเธอย่อมต้องเผชิญหน้ากับการลอบสังหารหลากหลายรูปแบบ เย่เฟิงไม่อยากให้หญิงสาวกระโปรงม่วงคนนี้ต้องพบอันตรายใดๆ
ลำแสงสีเขียวเข้มวาบผ่าน เย่เฟิงตัดเส้นทางสู่สำนักอิ่นเซียนด้วยกระบี่ ระหว่างยอดเขาทั้งสองห่างกันหลายเมตร มันจึงตัดขาดจากโลกภายนอกทันที มีเพียงบินได้หรือโยนโซ่อีกครั้ง ไม่อย่างนั้นจากนี้ไปบุคคลภายในออกมาไม่ได้และบุคคลภายนอกก็เข้าไปไม่ได้
ถ้า้าโยนโซ่เชือกอีกครั้ง ด้วยความแข็งแกร่งเช่นคนธรรมดาในตอนนี้ของสำนักอิ่นเซียนคงเป็ไปไม่ได้แน่ มีเพียงคนที่ปลดปล่อยพลังชี่ออกมาภายนอกได้เท่านั้นจึงจะทำได้หรือมีบุคคลอื่นข้างนอกช่วยเหลือ แต่เื่นี้ก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไร
หลังจากตัดสะพานโซ่ทิ้งไปแล้ว เย่เฟิงก็พาจื่อเจี้ยนหลานลงูเาไปอย่างรวดเร็ว
ในเมื่อหญิงสาวไม่้าดูแลสำนักอิ่นเซียน เคล็ดอสูรร่ำไห้ก็ไม่จำเป็ต้องสอนเธอ ตั๋วเครื่องบินไปเมืองเยี่ยนจิงที่ซูเมิ่งหานซื้อออนไลน์ไว้ให้ ตราบเท่าที่เย่เฟิงไปยังสนามบิน เขาก็คงกลับไปถึงวันพรุ่งนี้ตอนเที่ยง ไม่จำเป็ต้องกังวลเื่เวลา ยาถอนพิษไปถึงทันเวลาแน่นอน
“คุณอยากซื้อชุดใหม่ไหม?”
มองไปยังเสื้อเชิ้ตสีดำขาดรุ่งริ่งของเย่เฟิง ในที่สุดจื่อเจี้ยนหลานก็หาหัวข้อสนทนาได้แล้ว
“ไว้ทีหลัง”
เย่เฟิงพยักหน้า แต่ความจริงเขายังไม่มีแผนซื้อเสื้อผ้าเลย ก่อนลงมือชายหนุ่มนำเสื้อผ้าใส่ไว้ในแหวนมิติแล้ว ไม่จำเป็ต้องซื้อเพิ่มอีก เพียงต้องหาสถานที่เปลี่ยนก็พอ
“อืม”
จื่อเจี้ยนหลานพยักหน้าเบาๆ เงยหน้ามองเมืองที่เต็มไปด้วยความคึกคักเบื้องหน้านี้
ในที่สุดก็ออกมาได้แล้ว ในใจเธอรู้สึกถึงอารมณ์บางอย่าง เธออยู่ในสำนักอิ่นเซียนมาหลายปี ไม่เคยมีอิสระเหมือนตอนนี้ ความรู้สึกไร้ข้อผูกมัดทำให้เธอเหมือนได้รับชีวิตใหม่
“พวกเราแยกกันตรงแล้วกัน ไว้มีโอกาสค่อยพบกันใหม่”
เย่เฟิงเห็นว่ามาถึงเขตเมืองหลินไห่แล้วจึงพูดกับจื่อเจี้ยนหลาน จิตหยั่งรู้ของเขาพบว่าเบื้องหน้าไม่ไกลมีห้างสรรพสินค้าอยู่ เขาสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นั่น จะได้ไม่ต้องเดินไปทั่วด้วยเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งเช่นนี้
“เร็วขนาดนี้เลยหรอ?”
จื่อเจี้ยนหลานได้ยินก็ใ ดวงตาอันสดใสถูกแทนที่ด้วยสายตาไม่อยากจากไป แต่เธอก็เปลี่ยนความคิดอย่างรวดเร็ว แยกกันวันหลังหรือแยกกันตอนนี้ จะก่อนหรือหลังมีความแตกต่างด้วยหรือ?
“อืม ลาก่อน”
เธอกล่าวอย่างนุ่มนวล ติดตามเย่เฟิงไปถึงทางเข้าห้างสรรพสินค้า
ร่างบอบบางสง่างามในชุดกระโปรงสีม่วงยืนเด่นหน้าทางเข้าห้าง มองเย่เฟิงที่กำลังเข้าไป ในดวงตาคู่งามสะท้อนภาพแผ่นหลังของเย่เฟิงจนกระทั่งค่อยๆ หายไป
ทันใดนั้น ในใจเธอก็เต็มไปด้วยความงุนงง ในที่สุดก็เป็อิสระแล้ว แต่เธอควรจะไปที่ไหนกันเล่า? นอกจากนี้เธอจำเื่สำคัญได้ว่าตัวเองไม่มีเงินเลย!
ร่างสวยน่ารักในชุดกระโปรงสีม่วงทำให้เธอตกเป็เป้าสายตาของหลายคนขณะเข้ามาในห้าง ตอนนี้ร่างกายของเธอไม่มีพิษใจสลายเหลือแล้ว ทั่วร่างรู้สึกสดชื่นเปล่งประกาย การเคลื่อนไหวสดใส ทำให้ผู้คนอดจ้องตาเป็มันไม่ได้
ขณะลังเล ก็มีเสียงดังขึ้นมาเื้ัของเธอ “ใช่เจี้ยนหลานหรือเปล่า?”
เขาเป็ผู้ชายที่มีเสียงน่าประทับใจ ท่าทางยินดีอย่างยิ่ง ราวกับเฝ้ารอการปรากฏตัวของเธอมานานแล้ว
เมื่อจื่อเจี้ยนหลานได้ยินก็หันหน้าไป เห็นชายหนุ่มชุดโบราณสีขาว อายุประมาณยี่สิบห้าปี อยู่ห่างไปไม่ไกลกำลังเดินเข้ามาหาเธอ
“เฉินฮุย เป็ยังไงบ้าง?”
จื่อเจี้ยนหลานมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยความประหลาดใจ
ไม่ใช่เฉินฮุยบอกว่ากลัวฉีหลินจือหรอกหรือ ทำไมเขากล้ามาหาเธอได้ เหตุใดถึงปรากฏตัวกะทันหันตอนนี้? หรือเธอจะเข้าใจฝ่ายตรงข้ามผิดไป?
เขาอยู่ด้านหน้ากลุ่มคนของศิษย์ตำหนักไท่จี๋ ชายหนุ่มมีคิ้วคมเข้มดั่งกระบี่ ท่าทางน่าประทับใจ มีความมั่นใจสูง เป็หัวหน้าศิษย์ของตำหนักไท่จี๋ เขาคืออัจฉริยะเฉินฮุย! เฉินฮุยเป็จอมยุทธ์รุ่นเยาว์รุ่นแรกที่เข้าสู่ยุทธจักรและมีชื่อเสียงโด่งดังมากในวงการนี้
ภายใต้ทรัพยากรของสำนัก เฉินฮุยอายุเพียงยี่สิบห้าปีก็มีระดับวรยุทธ์ถึงสามสิบแปดปีแล้ว และยังสามารถปล่อยพลังชี่ออกมาภายนอกได้อีกด้วย ถ้าไม่มีเหตุไม่คาดฝัน ตำแหน่งผู้นำตำหนักไท่จี๋ช้าเร็วก็คงตกเป็ของเขา
“สบายดี” เฉินฮุยก้าวยาวๆ เข้ามา ใบหน้าแต้มรอยยิ้มหล่อเหลา “เจี้ยนหลานผมไม่ได้มาช้าไปใช่ไหม?”
“อา…”
จื่อเจี้ยนหลานไม่แสดงว่าเห็นด้วย พลางมองไปยังตำแหน่งที่แผ่นหลังของเย่เฟิงหายไป มือคู่เล็กจับกระโปรงบิดไปมาเล็กน้อย
แน่นอนว่าเฉินฮุยมาช้าไป
ั้แ่เย่เฟิงพบเธอรวมกับคืนที่ผ่านมาตอนนี้ก็ห้าสิบหกชั่วโมง ถ้าไม่มีเย่เฟิง เธอคงกลายเป็ดอกไม้ริมทางให้ผู้คนเชยชมแล้ว ใครจะรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นตอนนี้ อย่างไรก็ตามในเมื่อเขามาแล้ว จื่อเจี้ยนหลานก็ไม่อยากโทษอีกฝ่าย
“เจี้ยนหลาน คุณมองไปที่ไหนกัน?”
เฉินฮุยเห็นสายตาเธอดูแปลกไป อดตื่นตัวในใจไม่ได้ หญิงสาวผู้นี้เป็เป้าหมายสำคัญของเขา มันจะต้องไม่มีสิ่งผิดพลาดใดๆ
“ฉีหลินจืออยู่ที่ไหน?” เฉินฮุยพูดเสียงจริงจังทันที “รู้ดีว่าเธอเป็เพื่อนของผม ตาแก่หน้าด้านที่คอยบังคับเธอ! บอกผมมาเถอะว่ามันอยู่ไหน ผมจะช่วยคุณจัดการเขาเอง!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้