“เสี่ยวฉ่วง เื่นี้ไม่ต้องให้ปู่แกเจรจาหน่อยเหรอ” หลิวชิงซงขมวดคิ้วพลางถามขึ้น
“ปู่บอกแล้วว่าเื่นี้ให้อำนาจผมรับผิดชอบทั้งหมด ลุงสี่วางใจเถอะเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวผมรับผิดชอบเอง” หลิวฉ่วงพูดยิ้มๆ
“ลุงนายนี่น่าจะอายุประมาณสี่สิบปี ทำไมถึงไม่มีลูกล่ะ” กัวไฮว่ส่งสายตามองไปยังหลิวชิงซงแล้วถามยิ้มๆ
“พี่ไฮว่ พี่มันเทพเกินไปแล้ว แค่นี้ก็มองออกเหรอ” หลิวฉ่วงชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงดัง “พี่ไฮว่ จะว่าไปผมก็พอเดาเื่ของพี่ได้นิดหน่อยพี่เป็ศิษย์ของสำนักสันโดษสักสำนักหนึ่งใช่ไหมล่ะ แล้วก็ไม่มีวิธีจะช่วยลุงสี่ผมด้วย”
“สำนักสันโดษ? ฮ่าๆ ไอ้น้องแกจินตนาการได้กว้างไกลมากเลย ลุงสี่ของแกป่วย จะส่งผลถึงแกด้วยฉันต้องไปช่วยเขาจัดการหน่อย พวกเราไปกันเถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“อะไรนะ เสี่ยวฉ่วงแกพูดจริงเหรอ” เมื่อหลิวชิงซงได้ยินที่หลิวฉ่วงพูดทั้งร่างกายก็พลันสั่นสะท้านขึ้นมาเขาแต่งงานกับภรรยามาสิบสามปีแล้วยังไม่มีลูกเลยสักคนเขาวิ่งแจ้นไปโรงพยาบาลทั่วประเทศมาแล้ว ทว่าภรรยาของเขาก็ยังไม่ตั้งครรภ์สักทีถึงขนาดที่ว่าไม่อาจทำเด็กหลอดแก้วได้ด้วยนี่เป็หินก้อนใหญ่ที่หลิวชิงซงแบกเอาไว้ ถึงแม้กิจการจะเจริญรุ่งเรืองความรักใครต่อภรรยาจะเพิ่มขึ้น ทว่าก็เหมือนขาดอะไรไปในชีวิต
“ไอ้น้องไฮว่ ฉัน หลิวชิงซงไม่กลัวจะขายหน้าเธอเลยฉันกับเมียคิดวิธีที่พอจะเป็ไปได้มาหมดแล้ว ขอแค่เธอทำให้ฉันมีลูกได้เธออยากได้อะไร เหล่าหลิวจะทำให้ ไม่เบี้ยวแน่นอน” หลิวชิงซงพูดด้วยเสียงดังคนที่กำลังกินข้าวอยู่ทั้งร้านอาหารฝรั่งต่างก็จับจ้องมายังที่ตรงนี้
“ลุงสี่หลิว ลุงทำเอาพี่สองของผมกับน้องฉ่วงงงหมดแล้ว” กัวไฮว่พูดพลางทาบมือไว้บนข้อมือของหลิวชิงซงอันที่จริงไม่เห็นจะต้องวุ่นวายขนาดนี้ มองแค่ปราดเดียวเขาก็มองอาการป่วยของหลิวชิงซงออกแล้วว่าเขาพร่องอสุจิมาแต่กำเนิดเขามีวิธีรักษาอยู่ในใจนานแล้ว
“ไอ้น้องกัว ไม่สิ น้องไฮว่ ไม่สิ กัวไฮว่ เป็ไงบ้าง มีวิธีบ้างไหม” หลิวชิงซงถามขึ้นอย่างกระวนกระวายใจ “ฉันต้องไปบ้านตระกูลเซวียนหยวนก่อนบุคคลชั้นสูงแห่งตระกูลเซวียนหยวนบอกฉันว่าฉันพร่องมาแต่กำเนิด ไม่อาจรักษาได้”
“ลุงไม่เป็อะไรครับ แค่พร่องอสุจิมาั้แ่กำเนิด โรคนี้...” กัวไฮว่ส่ายศีรษะเบาๆ
“พี่ไฮว่ พี่ก็ไม่มีวิธีรักษาใช่ไหม” หลิวฉ่วงถามขึ้นอย่างกระวนกระวายใจ
“ฉันลองดูก่อนได้ แต่ว่าไม่ชัวร์นะ” กัวไฮว่พูดเบาๆ
“มีความหวังก็ยังดี ไม่ทราบว่าหลานกัวไฮว่มั่นใจแค่ไหนเหรอ” หลิวชิงซงถามขึ้นเบาๆ คราวนี้เขาไม่ได้เรียกผิด
“น้อง เอากระดาษมาแผ่นนึง” กัวไฮว่พูดกับพนักงานเสิร์ฟที่ยืนอยู่ข้างๆ “พวกคุณหาวิธีหาของในกระดาษแผ่นนี้มาให้ครบ ถ้าหาไม่ครบผมก็มั่นใจแค่เก้าส่วน ถ้าหาครบ งั้นลุงสี่หลิวก็เตรียมอุ้มลูกได้เลย”
“เป็พระคุณยิ่งนัก พวกเธอคุยกันไปก่อนนะ ลุงจะไปหาของ” หลิวชิงซงรู้สึกราวกับได้รับเส้นฟางแห่งชีวิตเขาวิ่งออกไปจากร้านอาหารอย่างรวดเร็วราวกับบินไป
“พี่ไฮว่ แน่ใจนะว่าจะรักษาอาการป่วยลุงได้น่ะ” หลิวฉ่วงถามขึ้นด้วยความกังวล
“นายกลัวว่ายิ่งคาดหวังยิ่งผิดหวังกลัวว่าลุงสี่ของนายจะทนรับไม่ไหวอย่างนั้นเหรอ” กัวไฮว่ถามยิ้มๆ “วางใจเถอะ ขอแค่หาของครบ นายก็ให้ลุงสี่นายมาหาฉัน ไม่เพียงแค่จะให้ลุงสี่นายมีลูกนะแต่จะให้พวกเขามีลูกแฝดหญิงชายด้วยล่ะ”
“เ้าสี่ ถ้าแกมีฝีมือจริงๆ ถึงเวลาก็มารักษาให้ฉันบ้างสิฉันเองก็อยากมีสองคน” เจี่ยหยวนพูดขึ้นเบาๆ
“ฮ่าๆ พี่สอง ผมว่าคงจะไม่ได้เพราะพี่ถูกกำหนดให้มีลูกชายสามคน” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “แถมยังเป็สามคนในคราวเดียวกันด้วยพี่หยวนเชื่อผมไหม ฮ่าๆ”
“เ้าสี่ แกนี่รู้จักล้อกันเล่นนะ ถ้ามีลูกชายสามคนจริงนะแกขับรถฉันในโรงจอดรถฉันตามใจชอบเลย แม่มันเถอะ” เจี่ยหยวนพูดเสียงดังทว่าสามปีหลังจากนั้น ตอนที่เจี่ยหยวนให้รถในโรงจอดแก่กัวไฮว่นั้น เจี่ยหยวนก็ร้องไห้เ็ปใจพลางอุ้มเปลี่ยนแพมเพิสให้ลูก
“เหอะๆ พี่ไฮว่ เมื่อกี้พี่พูดถึงเขตแดนเซียนเทียนเหรอ มีวิธีจริงเหรอ” หลิวฉ่วงถามขึ้นพลางถูมือ
“รอให้พี่เย่ากลับมาก่อนแล้วพวกนายค่อยฝึกด้วยกันเขตแดนเซียนเทียนเป็เพียงจุดเริ่มต้นของการบำเพ็ญเพียร ตอนนี้นายยังเด็กอยู่แค่บำเพ็ญเพียรให้ดีก็พอแล้ว” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“กัวไฮว่ ครูรู้นะว่าเธอกลับโรงเรียนมาแล้ว ทำไมไม่มาเข้าเรียน” ในขณะที่พวกเขากำลังคุยอยู่นั่นเอง โทรศัพท์ของกัวไฮว่ก็ดังขึ้นมาหลิวซวงที่อยู่ปลายสายพูดขึ้นเสียงดัง ตอนเช้าเธอเห็นกัวไฮว่กับเจี่ยหยวนอยู่ในโรงเรียนหลินซวงรู้จักเจี่ยหยวน นานมาแล้วตาอ้วนนี้เคยคิดนอกลู่นอกทางกับเธอทว่าจีบไม่สำเร็จ ตอนนี้กว่ากัวไฮว่ซึ่งเป็นักเรียนของตนจะเข้าลู่เข้าทางได้ไม่คิดเลยว่าจะอยู่ด้วยกันกับเจี่ยหยวนในใจของเธอเลยคิดจะแยกกัวไฮว่กับเจี่ยหยวนออกจากกัน
“ยายหนูเวยเวยไม่ได้บอกครูว่าวันนี้ผมลาเรียนเหรอครับ” กัวไฮว่ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นเบาๆ “คุณครูหลินครูคิดถึงผมใช่ไหมล่ะ วางใจเถอะครับ เดี๋ยวตอนบ่ายผมกลับโรงเรียนแน่นอนถึงตอนนั้นผมจะรักษาอาการป่วยให้ครู” พูดเสร็จกัวไฮว่ก็วางสายไปโดยไม่รอให้หลินซวงปริปากพูดอะไร
“ตาบ้า ไอ้ตาบ้า กล้าวางสายฉันเหรอ โมโหชะมัด” หลินซวงพูดเสียงดังอยู่ในห้องทำงาน
“เ้าสี่ บอกตามตรงเลยนะว่าตอนนี้พี่อิจฉาแกมากพี่เคยจีบครูหลินของพวกแกด้วย สุดท้าย...ช่างมันเถอะ หวังว่านายจะดีลเธอมาได้นะผู้หญิงแบบนี้เป็ของดีชัดๆ” เจี่ยหยวนพูดพลางส่ายศีรษะ
“พี่สอง ต่อไปเธอจะเป็น้องสะใภ้ของพี่ถ้าพี่กล้าเล่นหูเล่นตากับเธออีกล่ะก็ พี่ได้เป็หมันแน่ ฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ส่วนเื่ทรัพย์สินตระกูลฉินพี่สองช่วยผมจัดการก่อนเถอะ ยังไงซะผมก็ไม่ขาดเงิน ถึงตอนนั้น้าอะไรอีกผมจะไปเอาจากพี่ ผมไปโรงเรียนก่อนล่ะ อยู่กับสี่ตัวอันตรายครูเขาไม่ค่อยจะวางใจไปล่ะ”
“ให้ตายตอนนั้นฉันถูกคนเรียกว่าสี่ตัวอันตรายก็เพราะตัวอสรพิษอย่างนายนั่นแหละ เ้าสี่แกรอดูเลย รอให้พี่เย่ากลับมาพวกเราจะคิดบัญชีแกอีกครั้ง” เจี่ยหยวนมองแผ่นหลังของกัวไฮว่ที่จากไปพร้อมทั้งพูดขึ้นด้วยเสียงดัง
“พี่หยวน ข้อมูลของตระกูลฉินอยู่นี่หมดแล้วมีอะไรก็มาหาลุงสี่ผมได้เลยนะครับ ผมไปเข้าเรียนก่อนล่ะ” หลิวฉ่วงพูดยิ้มๆ
“แม่มันเถอะ เด็กอย่างแกก็คิดว่าอยู่กับฉันแล้วเสียหน้าเหรอ” เจี่ยหยวนก่นด่าเสียงดัง “เคลียร์เงินค่าข้าวแล้วค่อยไปฉันไม่มีเงินติดตัวสักนิด”
ตอนเที่ยงกัวไฮ่วกินข้าวเป็เพื่อนสาวๆ อยู่ที่ร้านอาหารทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน กัวไฮว่ััได้อีกครั้งว่า ชีวิตบนแดนมนุษย์สบายเหลือเกิน์ สรวง์บ้าสิ จะให้กลับข้าก็ไม่กลับหรอกทว่าความคิดแบบนี้เพิ่งจะปรากฏอยู่ในสมองของกัวไฮว่จากนั้นเขาััได้ถึงไปความเย็นเยือกระลอกหนึ่งพุ่งมาจากทางด้านหลังศีรษะของตนเองในใจก็พลันตระหนกขึ้นมา
“หลานกัวไฮว่ ของที่เธอ้า ฉะ...ฉันหามาครบแล้วเธอดูสิว่าจะรักษาอาการเป็หมันของฉันยังไง” โทรศัพท์ของกัวไฮว่ก็ดังขึ้นมาเขาเพิ่งจะรับโทรศัพท์ ก็ได้ยินเสียงลุงสี่หลิวหลิวชิงซงตะโดนเสียงดังมาจากอีกฝั่ง
“ฮ่าๆ พี่ไฮว่ เมื่อไหร่พี่จะเริ่มรักษาอาการเป็หมันให้ล่ะ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้