สำหรับาแของถานอี้ ยาที่ท่านหมอหยิบมานี้ทำได้แค่รักษาที่ปลายเหตุ มิใช่ต้นเหตุ
ม้ามเขาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง อีกทั้งตับยังมีเืออก แค่ยาไม่กี่ชนิดนี้ช่วยอะไรไม่ได้มาก
เยว่เฟิงเกอเดินไปที่ตู้ยาด้วยตัวเองโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง นางพลิกหาอยู่นาน ในที่สุดก็ได้สมุนไพรมาสองชนิด
ยาสมุนไพรสองชนิดที่นางนำมาคือ ดอกเจ็ดดาว และหญ้าทะยาน
ท่านหมอประจำจวนใช้สายตาสงสัยมองเยว่เฟิงเกอ สิ่งที่เขาตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือ บรรดาตัวยาที่เขานำมาเ่าั้ไม่สามารถเคี่ยวร่วมกับสมุนไพรสองชนิดนี้ได้ มิเช่นนั้นจะส่งผลร้ายต่อสุขภาพร่างกายแทน
เยว่เฟิงเกอมองความคิดของหมอชราออก นางเพียงกล่าวเรียบๆ ว่า “ยาชนิดอื่นไม่ใช้ ใช้แค่สมุนไพรสองตัวนี้ก็เพียงพอแล้ว”
คำกล่าวของเยว่เฟิงเกอทำท่านหมอถึงกับเบิกตาโต
“พระชายาคงไม่ได้ทรงล้อกระหม่อมเล่นอยู่กระมัง อาการาเ็ขององครักษ์ถานรุนแรงมาก สมุนไพรสองชนิดนี้ไม่อาจรักษาได้ อีกอย่าง ตอนนี้ดึกดื่นเพียงนี้แล้ว พระชายาอย่าได้ทรงรั้งอยู่ที่นี่อีกเลย จะได้ไม่เป็การเสียเวลารักษาอาการาเ็ขององครักษ์ถานด้วย” เดิมหมอประจำจวนคิดว่าเยว่เฟิงเกอเป็วิชาแพทย์ แต่พอเห็นสมุนไพรสองชนิดที่นางนำออกมา เขาก็เกิดความเคลือบแคลงในตัวนาง
เยว่เฟิงเกอไม่สนใจสายตาเคลือบแคลงของหมอประจำจวน เมื่อนางห่อสมุนไพรทั้งสองเรียบร้อยแล้ว ก็บอกให้เฉียวเฟยนำไปต้ม
เฉียวเฟยรับสมุนไพรไปและกำลังจะเดินไปจัดการที่เรือนหลัง ทว่ายังไปไม่ทันถึงก็เห็นประตูหลังถูกเปิดออกพร้อมกับชายผอมสูงคนหนึ่งที่กำลังเดินออกมาจากด้านใน
เฉียวเฟยจำได้ทันที นั่นคือลูกศิษย์ของหมอประจำจวนผู้นี้ผู้มีนามว่า กู้เฟิง
กู้เฟิงได้ยินเสียงสนทนาด้านนอกมาั้แ่เมื่อครู่แล้ว จึงคิดว่าดึกเพียงนี้แล้วไม่อยากให้ท่านอาจารย์ต้องเหน็ดเหนื่อยอีก คนอายุมากแล้วจำต้องพักผ่อนให้ดี
ด้วยเหตุนี้กู้เฟิงจึงได้เปิดประตูออกมา
เมื่อกู้เฟิงเห็นหนึ่งในผู้มาเยือนคือเยว่เฟิงเกอ เขาก็ไม่รอช้ารีบถวายพระพรทันที “ถวายพระพรพระชายา”
“ลุกขึ้นเถอะ” เยว่เฟิงเกอพยักหน้าให้กู้เฟิง แสดงท่าทีบอกให้เฉียวเฟยรีบไปต้มยา
เมื่อกู้เฟิงได้ยินเยว่เฟิงเกอบอกว่าจะให้ต้มยา ก็รีบยื่นมือออกมาแล้วกล่าวว่า “เอามาให้ข้าเถอะ ข้าจะนำไปต้มเอง”
เฉียวเฟยหันไปมองเยว่เฟิงเกอ เมื่อเห็นว่านางพยักหน้าถึงได้ยอมส่งสมุนไพรให้กู้เฟิง
กู้เฟิงมองสมุนไพรในมือ สายตาปรากฏแววเคลือบแคลงขึ้นมาวูบหนึ่ง กระนั้นเขากลับไม่พูดอะไร และเพียงนำสมุนไพรไปต้มที่เรือนหลังอย่างรู้งาน
เพียงไม่นานกลิ่นหอมของยาก็ลอยมา และหลังจากนั้นอีกครู่เดียวกู้เฟิงก็เดินนำยาที่ต้มเสร็จแล้วออกมาจากเรือนหลัง
เยว่เฟิงเกอรับยามา ก่อนจะส่งต่อให้ถานอี้
“ดื่มลงไป ตับและม้ามของเ้าจะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว”
ถานอี้รับยามา ไม่แม้แต่จะคิดก็ดื่มลงไปจนหมดเกลี้ยง
แม้ถานอี้เองจะอธิบายไม่ถูก แต่เขาก็เชื่อใจเยว่เฟิงเกอ
ขณะที่หมอประจำจวนพอเห็นว่าถานอี้ดื่มยาจนหมดถ้วย เขาก็ไม่กล่าวอะไร และทำเพียงส่ายศีรษะ แสดงออกชัดว่าตนไม่เห็นด้วย
เมื่อถานอี้ดื่มยาถ้วยนั้นลงไปจนหมดแล้ว เขาก็รู้สึกเพียงว่าในร่างกายเหมือนมีกำลังบางอย่างอย่างที่อธิบายไม่ถูก
เดิมร่างกายฝั่งซ้ายของเขายังเจ็บแปลบ เพียงแค่หายใจเบาๆ ก็รู้สึกราวกับกระทบไปถึงซี่โครงสองซี่นั่น ทำให้รู้สึกเจ็บ กระทั่งหายใจก็ยังไม่กล้าออกแรง แต่เมื่อดื่มยานี้ลงท้องไป ความเ็ปหนักหน่วงเ่าั้กลับค่อยๆ หายไป และสามารถหายใจได้สะดวกขึ้น
ฉับพลันนั้นสายตาที่ถานอี้ใช้มองเยว่เฟิงเกอพลันเปล่งประกาย เขารีบบอกทุกคนว่า ตอนนี้ร่างกายเขาค่อยๆ รู้สึกดีขึ้นแล้ว
เมื่อหมอประจำจวนได้ยินคำพูดของเขา ก็อดหันศีรษะไปมองเยว่เฟิงเกอไม่ได้
ชายชรารู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย หรือว่าสมุนไพรสองชนิดนั้นจะให้ผลดีถึงเพียงนั้นจริงๆ ?
เขาเป็หมอมาหลายปี กลับไม่เคยได้ยินว่า แค่สมุนไพรสองชนิดก็สามารถรักษาคนให้หายได้
อีกอย่างถานอี้าเ็รุนแรง ม้ามของเขาถูกกระทบกระเทือนอย่างหนัก ทั้งยังมีซี่โครงหักอีกสองซี่ด้วย แต่อาศัยแค่สมุนไพรสองชนิดนี้ก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเพียงนี้ ช่างทำให้คนจินตนาการไม่ออกจริงๆ
เยว่เฟิงเกอเห็นว่าถานอี้ดีขึ้นแล้ว นางก็ทำเพียงพยักหน้าให้เบาๆ
วิชาแพทย์ที่นางเชี่ยวชาญไม่ใช่สิ่งที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้
ยามนี้ร่างกายของถานอี้กำลังค่อยๆ ฟื้นตัว เช่นนั้นอันดับต่อไปก็คือการช่วยรักษาขาให้เขา
กระดูกหน้าแข้งที่หักไปแล้วนั้น จำต้องใช้เวลาในการรักษา
เยว่เฟิงเกอไปหาสมุนไพรที่ตู้อีกครั้ง จากนั้นส่งต่อให้กู้เฟิง
“ลำบากท่านหมอช่วยเคี่ยวยาทาให้หน่อยแล้ว” เยว่เฟิงเกอนับว่ารู้สึกดีกับชายตัวผอมนามว่ากู้เฟิงคนนี้ไม่น้อย
เพียงดูจากที่เมื่อครู่เขาไม่กล่าววาจามากความก็รีบนำยาไปต้มโดยเร็ว ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าเขาเป็คนไม่พูดมากและตั้งอกตั้งใจทำงาน
ทว่า สิ่งที่เยว่เฟิงเกอคิดกลับผิดถนัด แท้จริงแล้วกู้เฟิงเป็คนช่างพูดผู้หนึ่ง เพียงแต่เื่ในคืนนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ตอนนี้เขาเพียงยังไม่ทันดึงสติกลับมาก็เท่านั้น
กู้เฟิงคิดไม่ถึงแม้แต่น้อยว่าพระชายาจะมีวิชาแพทย์สูงส่งเช่นนี้ เขามองนางอย่างอึ้งๆ กระทั่งนางยื่นสมุนไพรอีกสองสามตัวมาให้ เขาถึงดึงสติกลับมาได้
เมื่อรับสมุนไพรมา กู้เฟิงก็รีบเดินไปเคี่ยวยาที่เรือนหลังให้เยว่เฟิงเกอทันที
เยว่เฟิงเกอหันมากล่าวกับหมอประจำจวนต่อ “รบกวนท่านหมอช่วยต้มยาสมุนไพรสองชนิดเมื่อครู่ให้องครักษ์ถานดื่มอีกสักสองสามคราเถิด ให้เขาดื่มทุกวัน วันละสามครั้งติดต่อกันสามวัน คาดว่าเพียงเท่านี้ ร่างกายขององครักษ์ถานก็จะกลับมาฟื้นฟูเป็ปกติ”
ถึงแม้หมอประจำจวนจะเคลือบแคลง แต่เขาก็พยักหน้าตกลง
เมื่อถานอี้ได้ยินว่าเขากินยาแค่สามวันก็สามารถกลับมาแข็งแรงดังเดิมได้ สายตาที่เขามองเยว่เฟิงเกอก็มีแต่จะนับถือมากยิ่งขึ้น
สำหรับการเคี่ยวยาทาจำต้องใช้เวลาสักหน่อย รอจนกู้เฟิงถือยาออกมาก็ผ่านไปแล้วครึ่งชั่วยาม
เยว่เฟิงเกอนั่งอยู่หน้าตู้ยา นางง่วงจนหนังตาบนล่างกำลังสู้รบกันอยู่
ถานอี้และเฉียวเฟยเห็นเช่นนั้นต่างก็พยายามช่วยกันโน้มน้าวให้เยว่เฟิงเกอกลับไปพักผ่อน แต่นางกลับยืนยันว่าจะอยู่ต่อ
ด้วย้าจะอยู่รอทายาให้ถานอี้ด้วยตนเองเมื่อยาถูกเคี่ยวเสร็จแล้ว
เพราะความมีน้ำใจเป็ห่วงเป็ใยที่เยว่เฟิงเกอมีให้ ทำให้ถานอี้ยิ่งเคารพนางมากขึ้นอีกหลายส่วน
ส่วนเฉียวเฟยเองก็นับว่าเปลี่ยนความคิดที่มีต่อเยว่เฟิงเกอไปโดยสิ้นเชิง เขาเริ่มรู้สึกว่านางช่างเหมาะสมกับตำแหน่งพระชายาแล้วจริงๆ
มีแค่นางที่คู่ควรครองคู่กับท่านอ๋อง
เมื่อเยว่เฟิงเกอรับยามา นางก็ม้วนขากางเกงของถานอี้ขึ้นโดยมีเฉียวเฟยช่วยถือแผ่นไม้กับผ้าพันอยู่ด้านข้าง
นางใช้มือปาดยามาทาลงไปเบาๆ บนขาของถานอี้
หลังจากที่ตัวยาซึมเข้าสู่าแ ถานอี้ก็ให้รู้สึกถึงความเย็นที่ค่อยๆ แผ่กำจายเข้าสู่เนื้อหนัง
ขาที่เดิมทียังเ็ปอยู่ ชั่วขณะนั้นก็ถูกความเย็นนี้ห่อหุ้มไว้
หลังจากเยว่เฟิงเกอทายาทั้งหมดลงบนแผลแล้ว ก็บอกให้เฉียวเฟยใช้แผ่นไม้และผ้ายึดกับขาของถานอี้ไว้อีกครั้ง
เมื่อทำทั้งหมดนี้เสร็จสิ้นแล้ว เยว่เฟิงเกอถึงได้เช็ดเหงื่อบริเวณหน้าผากตน นางยืนขึ้นกล่าวกับถานอี้ว่า “ขาของเ้าต้องงดใช้งาน ห้ามเดินไปไหนมาไหนโดยพลการ รอจนยานี้ซึมเข้าผิวเ้าไปจนหมดแล้ว เ้าต้องมาหาข้าอีกครั้ง เข้าใจหรือไม่? ”
เยว่เฟิงเกอพูดจบก็เดินหาวออกจากโรงหมอประจำจวนไป
ถานอี้อยากจะกล่าวขอบพระทัยพระชายา แต่คำพูดที่แล่นขึ้นมาจ่อริมฝีปากแล้วกลับค้างเติ่งอยู่เช่นนั้น เขาพูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว จึงทำเพียงมองเงาหลังของนางที่ค่อยๆ จากไป พยักหน้าอย่างหนักแน่น...
ทางด้านเยว่เฟิงเกอ หลังจากที่นางกลับไปถึงเรือนก็เรียกได้ว่าหลับสนิท
รอจนถึงเช้าวันถัดมา เื่ที่นางช่วยรักษาให้ถานอี้กลางดึกก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งจวน
เพราะความสามารถชั้นสูงทางด้านวิชาแพทย์ของนาง ทำให้ทุกคนต่างเป็ต้องมองพระชายาผู้นี้ใหม่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้