“หมอกสีขาวนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรทำไมถึงได้หนาแน่นถึงเพียงนี้? พวกเราเดินเข้ามาใกล้ขนาดนี้แล้วยังไม่สามารถมองเห็นลักษณะหน้าตาของูเาที่อยู่ภายในเลยด้วยซ้ำ แปลกประหลาดมหัศจรรย์จริงๆ เลย!”
คำพูดของเยว่ชิงเฉิงดึงอารมณ์ความคิดของทุกคนกลับมายังทัศนียภาพที่แปลกประหลาดที่อยู่รอบๆ ตัวูเาที่อยู่เบื้องหน้า ูเาสุสานทวยเทพไม่เสียทีที่เป็หนึ่งในสามสถานที่อันตรายของทวีป เดิมทีพวกเขามองเข้ามาจากไกลๆ ูเาทั้งลูกดูราวกับเสาหินั์ที่ตั้งเด่นอยู่กลางทุ่งหญ้าโดยมีควันสีขาวพวยพุ่งออกมา แต่เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ๆ ก็ยังคงมองเห็นหมอกสีขาวอยู่เช่นเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมอกสีขาวเหล่านี้โอบล้อมปกคลุมตัวูเาเอาไว้อย่างมิดชิดจนมองเข้าไปไม่เห็นลักษณะของตัวูเาที่อยู่ภายในเลยแม้แต่น้อย
“ไม่รู้ว่าทัศนียภาพภายในหมอกสีขาวเป็อย่างไร? หรือว่าจะเป็ทุ่งเวิ้งว้างขาวโพลน? ถ้าหากเป็เช่นนั้นละก็พวกที่มาเสาะหาสมบัติของล้ำค่าจะรู้ทิศทางได้อย่างไร? แล้วจะมองเห็นชัดได้อย่างไรว่าที่ไหนมีของล้ำค่า? ที่ไหนมีอันตราย?” ฮวาเฉ่ายืนกอดอกทำสีหน้าอาการเข้าใจยากออกมา
“เหอะๆ ความจริงหมอกสีขาวที่เราเห็นนี้ไม่ใช่หมอกสีขาว แต่เป็ม่านพลังงานที่คล้ายคลึงกับพลังงานห่อหุ้มเพื่อป้องกันหรือบดบังอะไรจำพวกนั้น!”
เื่ราวเหล่านี้สำหรับหลงไซ้หนานแล้วรู้อย่างทะลุปรุโปร่ง จึงเป็หน้าที่ของนางอย่างบอกปัดไม่ได้ที่จะต้องพูดอธิบายให้ทุกคนฟัง “พวกเ้าอย่าดูถูกหมอกสีขาวพวกนั้นเชียว เพราะหมอกสีขาวพวกนี้แหละที่ขัดขวางไม่ให้ใครก็ตามบุกเข้าไปภายในูเาสุสานทวยเทพ เมื่อใดก็ตามที่มีคนไปกระทบเข้ากับหมอกสีขาวพวกนั้น ทั้งคนและของที่ไปกระทบเข้าจะถูกสะท้อนดีดกลับออกมาโดยอัตโนมัติ เว้นแต่ว่าทุกๆ สิบปีหมอกสีขาวพวกนี้จะปรากฏประตูออกมาสามบานรวมไปถึงขั้นบันไดแถวหนึ่งซึ่งก็คือเส้นทาง์ ในตอนนั้นทุกคนในทวีปัเพลิงสามารถใช้เส้นทาง์ผ่านเข้าไปยังูเาสุสานทวยเทพได้ แน่นอนว่าผู้ที่มีระดับขอบเขตพลังที่สูงกว่าระดับขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์จะถูกสะท้อนกลับออกมาโดยอัตโนมัติ...”
“มหัศจรรย์จริงๆ ดูก็รู้ว่าไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามารถสร้างขึ้นมาได้ จะต้องเป็มหาเทพาคนนั้นใช้พลังเทพสร้างขึ้นมาอย่างแน่นอน สถานที่เช่นนี้ไม่เสียทีที่ได้ชื่อว่าเป็หนึ่งในสามสถานที่อันตรายของทวีป!” เฟิงจื่อฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม สิ่งที่ราวกับปาฏิหาริย์และน่าอัศจรรย์เช่นนี้ แน่นอนว่าเป็สิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ มีเพียงมหาเทพาที่สามารถเบิกฟ้าผ่าปฐีที่เล่าขานกันในตำนานเท่านั้นถึงจะสามารถสร้างูเาสุสานทวยเทพที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ขึ้นมาได้
“เหอะๆ แน่นอนว่าจะต้องเป็มหาเทพที่เก่งกาจคนหนึ่งสร้างขึ้นมา ของแปลกๆ น่าอัศจรรย์ข้างในยังมีอีกมากมาย ดังนั้นเฟิงจื่อหากเ้าอยากเข้าไปเสาะหาสมบัติที่อยู่ข้างในอีกห้าปีหลังจากนี้ละก็ คงต้องรีบเร่งขยันฝึกฝนแล้วละ หาไม่แล้วคงต้องรอไปอีกสิบห้าปี! หากระดับพลังฝีมือต่ำกว่าขอบเขตาาจักรพรรดิเข้าไปภายในอันตรายจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าสิบเท่า โดยมากก็ล้วนตายอย่างแน่นอน...” หลงไซ้หนานอมยิ้มพูดออกมา กระตุ้นให้กำลังใจเฟิงจื่ออีกครั้ง
หลงไซ้หนานพูดจบ เยว่ชิงเฉิงถามขึ้นต่อในสิ่งที่สงสัยภายในใจ “พี่สาวไซ้หนาน หมอกสีขาวที่ห่อหุ้มเป็ม่านพลังป้องกันพวกนี้แม้แต่ผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ทำลายไม่ได้รึ? เอาแค่ทำลายพอให้คนมีโอกาสมุดเข้าไปได้ ข้ามองดูหมอกพวกนี้พลังป้องกันก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรเท่าไรเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาลูกใหญ่เช่นนี้จะต้องมีจุดที่พลังป้องกันเบาบางอยู่ที่ไหนสักที่แน่ๆ”
“อืม...” หลงไซ้หนานนิ่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะส่ายหัวแล้วพูดขึ้น “แม้แต่เ้ายังคิดได้คนรุ่นก่อนๆ ก็คงคิดได้เช่นเดียวกัน แน่นอนว่าผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์สามารถทำลายให้หมอกสีขาวเกิดเป็รูช่องขนาดใหญ่ขึ้นมาได้ ในประวัติศาสตร์ก็เคยมีคนทำเช่นนี้มาแล้ว ตอนนั้นยังไม่ครบกำหนดเวลาสิบปีเส้นทาง์ยังไม่เปิด ในครั้งนั้นพวกผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิที่ถูกส่งเข้าไปสุดท้ายก็ไม่มีใครรอดชีวิตกลับออกมาได้ ผู้คนที่ถูกส่งเข้าไปมีผู้มีพลังฝีมือระดับขั้นสูงสุดขอบเขตาาจักรพรรดิรวมอยู่ด้วยถึงสามคน ที่บอกว่าไม่มีใครรอดกลับออกมาสักคนก็เพราะหลังที่เส้นทาง์เปิดขึ้นพวกเขาที่เข้าไปก่อนหน้านั้นไม่มีใครเดินออกมากันสักคน และั้แ่นั้นเป็ต้นมาก็ไม่มีใครกล้าที่จะลองทำเช่นนั้นอีกเลย”
“แปลกประหลาดพิลึกกึกกือมาก! ที่นี่ลี้ลับมหัศจรรย์จนเกินไป! เื่ราวเบื้องลึกเื้ัของทวีปัเพลิงลึกล้ำจนเกินคาดเดา!”
เย่ชิงหานพูดรับคำขึ้นโดยพูดชมออกมา เื่ราวต่างๆ เบื้องลึกที่เป็ความลับของทวีปัเพลิงยังมีอีกมากไม่ว่าจะเป็นครแห่งเทพที่ตั้งเด่นอยู่สูงเหนือสิ่งอื่นใด ูเาสุสานทวยเทพที่มีหมอกหนาปกคลุม เกาะเร้นลับทะเลตะวันตก ป่าดำมืดที่กว้างใหญ่ไพศาลหาขอบเขตมิได้ทางทิศเหนือ รวมไปถึงาาผู้ปกครองป่านายท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่ และยังมีทะเลสาบม่านหมอกที่มีอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งอยู่ และสถานที่ต่างๆ ที่ยังไม่รู้อีกมากมาย
เยชิงหานรู้ว่าทวีปัเพลิงยังมีสิ่งน่าอัศจรรย์ต่างๆ อีกมากมายที่ยังไม่ทราบ ยังมีความลับต่างๆ อีกมากมายที่ยังไม่รู้ เพียงแต่พลังฝีมือและฐานะของพวกเขาในตอนนี้ยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้ััหรือรับรู้ ถ้าหากอยากรู้ให้มากกว่านี้ก็จำเป็จะต้องมีพลังฝีมือที่แข็งแกร่งมากยิ่งกว่าตอนนี้
“เดินไปดูกันเถอะ พวกเราเข้าไปใกล้หมอกสีขาวพวกนั้นดู จากนั้นกลับไปรีบเร่งเดินทางต่อ!” เย่ชิงอู่ยิ้มออกมาพูดหยุดการครุ่นคิดของเย่ชิงหานลง ทุกคนเริ่มก้าวเท้าที่หนักเดินออกไปหาหมอกสีขาวที่อยู่เบื้องหน้า
เดินมาได้สิบกว่านาทีในที่สุดทุกคนก็เข้ามาใกล้หมอกสีขาว ูเาสุสานทวยเทพน่าประหลาดอย่างแท้จริง ลักษณะดูเหมือนรูปกรวยที่คว่ำอยู่บนทุ่งหญ้าที่ราบกว้างใหญ่ พวกเขาทั้งหมดมองเห็นได้ชัดถึงหมอกสีขาวที่โอบล้อมปกคลุมั้แ่ตีนเขาเรื่อยขึ้นไป หมอกสีขาวดูคล้ายกับขนของแกะที่อ่อนนุ่มขาวละมุนละไมเคลื่อนไหวกระดุกกระดิกไปมาไม่หยุด แต่กลับไม่มีการพวยพุ่งเอ่อล้นออกมาภายนอกแต่อย่างใด ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่อยู่ภายในได้
“เอ่อ” เฟิงจื่ออดทนไม่ไหวต่อความอยากรู้อยากเห็นจึงยื่นมือออกไปััหมอกสีขาวเบื้องหน้า ไม่คาดคิดว่ายังไม่ทันที่มือจะััถูกหมอกสีขาวเ่าั้กลับถูกแรงที่มองไม่เห็นสะท้อนกลับมาเสียก่อน เกือบทำให้เขาล้มลงไปบนพื้น ส่วนมือนั้นรู้สึกชาและไม่มีกำลัง
“คิกๆ! สนุกๆ จริงๆ น่าประหลาดมาก!” มองเห็นเฟิงจื่อััไปครั้งหนึ่งไม่ได้รับาเ็ใดๆ เย่ชิงอู่ก็เอามือไปลูบดูด้วยเช่นกัน แต่ว่านางััอ่อนโยนกว่ามากจึงถูกสะท้อนกลับมาอย่างแ่เบา เห็นดังนั้นนางจึงเริ่มเล่นอย่างสนุกสนานขึ้นราวกับเด็กเล็กที่มองเห็นของเล่นฉันนั้น
“เหอะ...” เย่ชิงหานมองดูท่าทางมีความสุขของเย่ชิงอู่ เขายิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยน ผ่านไปชั่วครู่จึงพูดขึ้น “เอาละ เล่นพอแล้วถึงเวลากลับแล้ว ปู่เ้าและเหล่าผู้าุโทั้งหลายคงรออยู่เบื้องหน้าจนกระวนกระวายใจแย่แล้ว...”
หลงไซ้หนานเองก็ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดขึ้น “ถูกต้อง ไปกันเถอะ รีบขยันฝึกฝนเพื่ออีกห้าปีหลังจากนี้พวกเราทั้งเจ็ดคนจะได้เข้าไปตะลุยภายในูเาสุสานทวยเทพด้วยกัน!”
“อืม อีกห้าปีจากนี้ข้าจะต้องทำให้ได้ พยายามกลับมายังที่นี่อีกครั้งให้ได้เพื่อเข้าไปเสาะหาสมบัติในูเา!” เฟิงจื่อกัดกำหมัดกัดฟันแน่น กดดันตนเองเพิ่มมากขึ้นและตั้งเป้าหายไว้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ทุกคนพูดคุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนานในเวลาเดียวกันก็เดินไปยังรถม้าด้วย หลังจากผ่านการทัศนศึกษาูเาสุสานทวยเทพพวกเขาเข้าใจแล้วว่าทวีปแห่งนี้ยังมีสถานที่และสิ่งต่างๆ ที่แปลกมหัศจรรย์อยู่อีกมาก มีเพียงพลังฝีมือที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งเพียงเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติสามารถรับรู้และเข้าไปสำรวจผจญภัยได้...
“นั่นมันอะไร?”
หลงไซ้หนานที่กำลังเดินอยู่ฝีเท้าหยุดชะงักลงในทันที รอยยิ้มบนใบหน้าเปลี่ยนเป็แข็งทื่อขึ้นมาแทน ส่วนเย่ชิงหานที่มีระดับพลังิญญาที่สูงไม่แพ้กันก็ััได้ถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น สีหน้าพลันเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
เงาสีดำ มีเงาสีดำสามสายจากอีกฟากของูเากำลังพุ่งตรงเข้ามาหาพวกเขาที่อยู่ทางนี้ ระดับความเร็วรวดเร็วเกินไปอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ภายใต้แรงโน้มถ่วงที่รุนแรงของูเาสุสานทวยเทพเงาสีดำทั้งสามสายกลับพุ่งตรงเข้ามาด้วยระดับความเร็วได้ถึงเพียงนี้ เห็นได้ชัดเลยว่าระดับพลังฝีมือของพวกมันนั้นสูงล้ำกว่าพวกเขาทุกคนไม่รู้กี่ระดับขั้นขอบเขต
“ต่างเผ่า พวกเผ่าปีศาจ!” เฟิงจื่อได้ยินคำของหลงไซ้หนานรีบหันไปมองทันที เมื่อมองเห็นรูปลักษณ์ของเงาดำทั้งสามสายได้อย่างชัดเจนจึงร้องขึ้นด้วยความตื่นตระหนกหวาดกลัว
หนี!
เย่ชิงหานมองตากับหลงไซ้หนานครั้งหนึ่งจากนั้นจึงร้องออกมาพร้อมกับรีบโคจรพลังปราณรบอย่างเต็มกำลังรีบสาวเท้าอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับลากเยว่ชิงเฉิงและเย่ชิงอู่วิ่งตะบึงออกไปยังรถม้าอย่างสุดชีวิต...
หนี!
เฟิงจื่อ ฮวาเฉ่า และหลงสุ่ยหลิวทั้งหมดต่างรีบก้าวเดินออกไปยังทิศทางที่รถม้าอยู่อย่างสุดชีวิตเช่นเดียวกัน ไม่สนใจแม้แต่จะเช็ดเหงื่อเย็นที่ไหลอาบอยู่บนใบหน้า
พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมที่แห่งนี้ถึงมีคนของเผ่าปีศาจได้? ไม่เข้าใจว่าทำไมคนของเผ่าปีศาจถึงปรากฏตัวออกมาอย่างฉับพลันเช่นนี้? และพวกเย่ชิงหนิวไม่ได้เอะใจเลยแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้พวกเขารู้แค่ว่าเผ่าปีศาจทั้งสามคนนี้สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าพวกเขามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกมันรู้ว่าที่นี่มีเย่ชิงหนิวและเหล่าผู้าุโทั้งหลายอยู่ด้วยแต่ก็ยังกล้าที่จะมาสังหารพวกเขา ถ้าอย่างนั้นทั้งสามคนนี้พลังฝีมืออย่างต่ำสุดก็น่าจะอยู่ที่ระดับขั้นสูงสุดขอบเขตจักรพรรดิปีศาจ หรืออาจจะอยู่ในระดับขอบเขตปีศาจศักดิ์สิทธิ์หมดทั้งสามคนเลยก็เป็ได้!
ฟิ้ว!
ทันใดนั้นพลันมีแสงสีเขียวสว่างขึ้น จากนั้นมันปกคลุมครอบพวกเขาทั้งหมดเอาไว้ เย่ชิงหนิวรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วและรีบปล่อยอาณาเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ออกมาในทันที ในเวลาเดียวกันเขาก็ร้องคำรามออกมาด้วยความเดือดดาลไม่พอใจราวกับเสียงฟ้าผ่า
“เยาเส เ้ากล้าลงมืออำมหิตเหี้ยมโหดถึงเพียงนี้เชียวรึ? เ้าคิดจริงๆ รึว่าข้าไม่กล้าสังหารเ้า?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้