ป้อมศีตเหมันต์ยังคงเยือกเย็นและมืดครึ้มเหมือนดั่งเคย บนเสาทองสัมฤทธิ์แต่ละเสาเต็มไปด้วยลวดลายที่สลักเป็รูปปีศาจร้ายและบนยอดเสาก็มีศีรษะกำลังอาบเืทั้งศีรษะมนุษย์ ครึ่งคนครึ่งสัตว์ และปีศาจเสียบอยู่ ปีศาจจะเป็เผ่าพันธุ์ที่มีนิสัยชอบออดอ้อนประจบประแจงโดยธรรมชาติ ฉะนั้นเผ่าพันธุ์นี้จึงเป็เพศหญิงทั้งหมด และนี่ก็คือเหตุผลที่ปีศาจในเกมล้วนมีแต่ผู้เล่นเพศหญิง
ผมถือดาบก้าวเข้าสู่ป้อมศีตเหมันต์แล้วมุ่งไปพบหัวหน้าทหารเฝ้ายามฝ่าเค่อ หลังจากพูดคุยกับเขาเสร็จ นักรบโครงกระดูกที่มีร่างกายสูงใหญ่กำยำก็ยกแขนขึ้นแล้วหัวเราะออกมายกใหญ่ก่อนจะพูดขึ้นมา “เ้าโครงกระดูกน้อย การเติบโตของเ้าช่างน่าทึ่งเสียจริง ดูเหมือนว่าเ้าจะแข็งแกร่งมากแล้วสินะ ดีล่ะ เช่นนั้นต่อไปข้าจะมอบภารกิจที่ยากมากๆ ให้แก่เ้า!”
ผมพยักหน้าเล็กน้อย “เอาสิ!”
จากนั้นฝ่าเค่อก็พูดขึ้นมา “่ 2-3 วันมานี้มีผู้นำิญญามาปรากฏตัวที่สุสานป้อมศีตเหมันต์ เขาเคยเป็นักรบเผ่ามนุษย์คนหนึ่งมาก่อน แต่ตอนนี้เขาได้บุกรุกเข้ามาในพื้นที่ของเรา เพราะฉะนั้นข้าหวังว่าเ้าจะสามารถฆ่ามันได้นะเ้าโครงกระดูกน้อย และแน่นอนว่าผู้นำิญญาตนนั้นแข็งแกร่งมาก ดังนั้นปรมาจารย์นักดาบซูหลุนที่แข็งแกร่งที่สุดในค่ายของพวกเราจะร่วมเดินทางไปกับเ้าด้วย ไปเถอะ แต่เ้าต้องรวบรวมนิ้วมือโครงกระดูกหนามจำนวน 40 ชิ้นมามอบแก่ให้ซูหลุนก่อนเขาถึงจะร่วมเดินทางไปฆ่าผู้นำิญญา— ชิงหยู่กับเ้า!”
“ติ้ง~!”
ระบบแจ้งเตือน: คุณได้รับภารกิจ [ผู้นำิญญา— ชิงหยู่] (ระดับภารกิจ : ระดับ E ขั้นกลาง)
รายละเอียดภารกิจ : มุ่งลึกเข้าไปในสุสานของป้อมศีตเหมันต์เพื่อฆ่าโครงกระดูกหนาม 200 ตัว และรวบรวมนิ้วมือโครงกระดูกหนาม 40 ชิ้นเพื่อนำส่งให้ปรมาจารย์ดาบิญญาซูหลุน จากนั้นเขาจะร่วมเดินทางไปฆ่าผู้นำิญญาชิงหยู่กับคุณ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจแล้วคุณจะได้รับรางวัลตอบแทนมหาศาล!
ผมตื่นเต้นสุดๆ หึ ภารกิจระดับ E ขั้นกลาง มันถือเป็ภารกิจที่มีระดับสูงมากแล้วหรืออาจจะเป็ภารกิจที่ระดับสูงที่สุดที่มีใน่เวลานี้เลยก็ว่าได้ ดูเหมือนว่าบุญจะหล่นทับผมแล้วล่ะ!
เมื่อเข้าสู่ป้อมศีตเหมันต์ผมก็ไปซื้อน้ำยากับ NPC และจัดการซ่อมแซมอาวุธใหม่ทันที หลังจากตระเตรียมติดตั้งทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วผมก็พร้อมออกเดินทางซะที!
ผมเดินมุ่งหน้าไปตามเส้นทางเล็กๆ ในป่า และขณะนั้นผมก็มองเห็นกุ่ยกู่จือกำลังฆ่ามอนสเตอร์อยู่ที่ไกลลิบด้านหน้า ประสิทธิภาพในการฆ่ามอนสเตอร์ของเขาสูงมาก เขาถือหอกยาวห้ำหั่นกับมอนสเตอร์อย่างดุเดือดและโจมตีไปเพียงแค่ไม่กี่ครั้งก็ฆ่าโครงกระดูกตรงหน้าได้แล้ว หลังจากนั้นเขาใช้ทักษะฉกฉวยจากความตายค้นหาสิ่งที่ซากศพทิ้งไว้
ผมไม่ได้เข้าไปขัดจังหวะเขาแต่อย่างใดและตั้งใจมุ่งหน้าลึกเข้าไปในสุสาน ผมใช้เวลาเดินเกือบ 10 นาทีแล้วในที่สุดบริเวณโดยรอบก็ยิ่งมืดและส่งกลิ่นเหม็นออกมา จากนั้นลานสุสานก็ปรากฏขึ้น
ผมกวาดสายตามองดูรอบๆ ในผืนป่าที่วังเวง ในนั้นมีทหารโครงกระดูกที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่นายหนึ่ง โครงกระดูกทั้งตัวของเขาได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นโดยมีหนามมากมายที่ปลายแหลมคมปรากฏบนกระดูกเขา และบนปลายหนามที่แหลมคมก็มีแสงแวววาวสีเขียวเปล่งประกายออกมาจนทำให้รู้สึกเย็นเยียบขึ้นในใจเมื่อมองเห็นพวกมัน เ้าโครงกระดูกเลเวล 21 ตัวนี้จะมีอะไรที่ไม่เหมือนมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ กันนะ?
ไม่คิดแล้ว ลุยเลยแล้วกัน!
ผมยกดาบขจีไพรขึ้นแล้วดิ่งตรงเข้าไปหามันก่อนจะใช้ดาบสังหารฟาดเข้าไปที่บ่าของโครงกระดูกหนามอย่างหนักหน่วง จนเกิดเสียง “ฉึก” ยามดาบแหลมแทงเข้าไปยังร่างของโครงกระดูกหนาม
“170!”
พลังการโจมตียังคงยอดเยี่ยมเหมือนเคย แล้วภายในพริบตาผมก็สามารถกวาดเืของมอสเตอร์ให้ลดลงไปได้เป็จำนวนมาก แต่ตัวผมเองก็รู้สึกเจ็บไปทั้งตัวเหมือนกันและผมยังคิดไม่ถึงเลยว่าเืของผมจะลดลงไปด้วยตั้ง 8 หน่วย
“ติ๊ด!”
แจ้งเตือนการต่อสู้ : ทักษะดาบสังหารของคุณทำให้เกิดค่าความเสียหายต่อทหารโครงกระดูกหนาม 170 หน่วย กระดูกหนามของมันจะส่งผลสะท้อนกลับและทำให้คุณได้รับความเสียหาย ตอนนี้คุณได้รับความเสียหาย 8 หน่วย!
......
บ้าจริง! นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีความเสียหายสะท้อนกลับด้วย?
ยังดีที่สะท้อนกลับแค่ 5% ของค่าความเสียหาย แบบนี้ยังพอรับได้แต่ถ้าสูงอีกนิดถึงประมาณ 20% ละก็ อย่างนั้นก็ไม่ต้องเล่นแล้ว ออฟไลน์ไปนอนเลยดีกว่า
เมื่อเลเวลมอนสเตอร์สูงขึ้น การโจมตีของดาบขจีไพรก็ไม่แกร่งพออีกต่อไป โครงกระดูกหนามเลเวล 21 ใช้เวลาไปเกือบครึ่งนาทีถึงจะจัดการมันลงไปได้ ประสิทธิภาพการเก็บเลเวลแบบนี้ถือว่าค่อนข้างต่ำไปหน่อยสำหรับผม
ทว่าค่าประสบการณ์ที่ได้จากมอนสเตอร์เลเวล 21 ก็ค่อนข้างสูงมาก โครงกระดูกหนามหนึ่งตัวทำให้เส้นค่าประสบการณ์ของผมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถ้าหากยังคงประสิทธิภาพแบบนี้ไปเรื่อยๆละก็ ตอนทำภารกิจสำเร็จก็น่าจะขึ้นเลเวล 20 ได้พอดี แล้วมันก็ยิ่งทำให้ผมเข้าใกล้เป้าหมายเลเวล 30 ไปอีกก้าว!
สังหารโครงกระดูกหนาม 3 ตัวติดต่อกันจนในที่สุดมันก็ดรอปนิ้วมือโครงกระดูกหนามอันแรกออกมา จริงๆ มันก็แค่ท่อนกระดูกที่เป็ไอเทมของภารกิจนี้เท่านั้น
ผมลาดตระเวนค้นหาโครงกระดูกที่อยู่เพียงลำพังในป่า พลังการโจมตีของมอนสเตอร์ประเภทนี้สูงมาก ถึงแม้จะอาศัยพลังการป้องกัน 37 หน่วยของผมก็ยังยากที่จะต้านทานได้ โดยปกติแล้วการฆ่าโครงกระดูก 3 ตัวจะต้องกินน้ำยาเพิ่มพลังชีวิต 1 ขวด สิ้นเปลืองได้ขนาดนี้ช่างน่าใจริงๆ แต่ยังดีที่ผมมีเหรียญเงินมากพอและอัตราการดรอปไอเทมของโครงกระดูกหนามก็ไม่เลวด้วย!
“ติ๊ง!”
โครงกระดูกที่กล้าหาญและเข้มแข็งตนหนึ่งดรอปก้อนหินเวทออกมาหนึ่งก้อน แววตาของผมลุกวาวขึ้นมาทันทีเพราะนั่นคือหินเวทก้อนใหญ่! ใช่แล้ว มันคือหินเวทก้อนใหญ่ คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่ามอนสเตอร์ธรรมดาที่มีเลเวลสูงจะดรอปหินเวทก้อนใหญ่ออกมาด้วย ก่อนหน้านี้ที่ผมเก็บหินเวทก้อนใหญ่ได้ผมสามารถขายมันไปได้ตั้ง 15 เหรียญเงินเลยทีเดียว คุณภาพของหินเวทก้อนใหญ่ก้อนนั้นคือ 77 แต่ก้อนที่อยู่ตรงหน้านี้มีเพียงแค่ 51 เท่านั้น แต่ถ้าคิดตามสัดส่วนแล้วอย่างน้อยก็ยังสามารถขายได้ตั้ง 10 เหรียญเงิน รวยแล้วเรา ฮ่าๆ!
ผมเก็บหินเวทก้อนใหญ่ใส่ลงกระเป๋า และหลังจากที่ไล่ฆ่ามอนสเตอร์ต่อไปได้สักประมาณ 10 นาที ผมก็ดวงดีเจอหินเวทก้อนใหญ่ดรอปออกมาอีก ครั้งนี้มันมีคุณภาพตั้ง 67 หน่วยซึ่งทำให้หินก้อนนี้ยิ่งมีมูลค่ามากขึ้นไปอีก!
แต่หลังจากนั้นผ่านไป 2 ชั่วโมงก็ไม่มีหินเวทก้อนใหญ่ดรอปมาอีก จะมีก็แค่หินเวทก้อนเล็กที่ดรอปมา 4 ก้อน ทว่าหินเวทก้อนเล็กไม่มีมูลค่าอะไร แต่แน่นอนว่าผมก็ยังเก็บมันไว้ทั้งหมดเพราะแม้ขาของยุงจะเล็กแต่ก็ยังมีเนื้อนะ ใน่เริ่มต้นของเกมเงินทองยังฝืดเคือง แถมเกมก็ไม่เปิดระบบให้ใช้เงินจริงแลกด้วย ถ้าอยากได้เหรียญเงินก็ทำได้เพียงซื้อขายกันหลังออฟไลน์ อีกทั้งตอนนี้ทุกคนล้วนเป็พวกมือใหม่เหมือนกันหมด ดังนั้นจะมีสักกี่คนที่มีทรัพย์สินมูลค่าเกือบจะเท่าเหรียญทองซ่อนไว้บนตัวเหมือนผม?
ตอนนี้ก็ดึกแล้วแต่ผมก็ยังคงฆ่ามอนสเตอร์ไปและเปิดดูชาร์ตจัดอันดับไปด้วย เมืองฝูปิงเป็ 1 ใน 9 เมืองหลักระดับ 2 ของเขตประเทศจีนซึ่งเป็จุดรวบรวมบุคคลเก่งกาจในเขตเจียงซูเจ้อเจียงและเซี่ยงไฮ้ไว้ด้วยกัน และหากวันหลังผมอยากจะมีที่ยืนมีและหน้ามีตาในเมืองฝูปิงแล้วละก็ ผมจะต้องศึกษาพวกที่ติดอันดับเ่าั้ให้ทะลุปรุโปร่งสักหน่อย
“ฟุ่บ!”
ผมเปิดเว็บเพจขึ้นมา จากนั้นชื่อ ID เรียงรายลงมาก็สะท้อนเข้าตาผม มันคือรายชื่อผู้เล่นสิบอันดับแรกของเมืองฝูปิง
1. วาตะเพ้อฝัน เลเวล 25 อาชีพ : นักรบพเนจรฝ่ายสว่าง
2. ตู๋ป้าเทพนักเวท เลเวล 23 อาชีพ : นักเวท
3. ตู๋ป้าเทพนักรบเวท เลเวล 23 อาชีพ : นักรบเวท
4. ตู๋ป้าเทพนักธนู เลเวล 23 อาชีพ : นักธนู
5. ตู๋ป้าเทพนักรบ เลเวล 23 อาชีพ : นักรบ
6. อาทิตย์สันดาป เลเวล 22 อาชีพ : นักรบ
7. กุ่ยกู่จือ เลเวล 22 อาชีพ : นักรบิญญา
8. หลงสิงเทียนเซี่ย เลเวล 21 อาชีพ : นักรบเวท
9. ชิงชิงสุ่ยเซียง เลเวล 21 อาชีพ : นักธนู
10. อวิ๋นเทียนเหอ เลเวล 21 อาชีพ : นักเวท
......
เห็นแล้วก็ชวนให้รู้สึกใ ในเมืองฝูปิงนี่มีคลื่นใต้น้ำที่รุนแรงจริงๆ คิดไม่ถึงว่าในรายชื่อ 10 อันดับแรกจะมีคนของตู๋ป้าตั้ง 4 คน กลุ่มคนพวกนี้มีที่มาที่ไปยังไงกันนะ? และดูเหมือนว่ากลุ่มตู๋ป้ากำลังจะยึดอำนาจเมืองฝูปิงยังไงอย่างงั้น
แต่แน่นอนว่าผู้มีฝีมือที่แท้จริงนั้นจะไม่ปรากฏตัวออกมาให้ใครเห็น
ส่วนไอ้เ้าบ้าคลั่งเก็บเลเวลกุ่ยกู่จือดูเหมือนว่าจะลดเวลานอนให้เหลือแค่วันละ 3 ชั่วโมงแล้วเพราะดูจากอันดับของหมอนั่นที่ถึงจะโดนผมฆ่าไปนับครั้งไม่ถ้วน ยังติดอันดับชาร์ตอยู่ได้ สมแล้วที่มีสมญานามว่าพวกคลั่งเก็บเลเวล
แต่ที่เข้าตาผมมากที่สุดจะเป็ใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่วาตะเพ้อฝัน เพราะอาชีพของเขาคนนี้ไม่ใช่แค่นักรบพเนจรธรรมดา แต่เป็นักรบพเนจรฝ่ายสว่างอีกทั้งเลเวลก็สูงที่สุดในชาร์ตจัดอันดับด้วย เขาต้องเป็สุดยอดฝีมือที่ไร้เทียมทาน ในเว็บบอร์ดทางการก็ได้ประกาศออกมาแล้วว่าเลเวลของวาตะเพ้อฝันจัดอยู่ในอันดับหนึ่งของเมืองฝูปิง และยังจัดอยู่ใน 3 อันดับแรกของเก้าเมืองหลักระดับสองของเขตประเทศจีนอีกด้วย!
คนคนนี้สมควรที่จะเฝ้าจับตาดูเป็อย่างมากเพราะอาจมีโอกาสจะกลายเป็อุปสรรคขัดขวางการยึดอำนาจเมืองฝูปิงของนิมิติญญาดาบศักดิ์สิทธิ์ได้!
บนชาร์ตจัดอันดับนั้น ซวี่หยางเป็ 1 ใน 4 พี่ใหญ่ของสมาคมนิมิติญญาดาบศักดิ์สิทธิ์นั้นและเป็ที่หนึ่งของรื่อเยว่ซิงเฉินก็ติดอันดับที่ 7 ของชาร์ต เ้านี่คงจะเร่งเก็บเลเวลอย่างเอาเป็เอาตายเลยล่ะสิ!
ผมมีความทรงจำที่แย่ๆ กับพวกซวี่หยางและมู่หรงิเย่วเพราะ่ครึ่งปีก่อนตอนวันเกิดเหออี้ พวกมันสามคนวางแผนกับผมว่าจะส่งคำว่า “สุขสันต์วันเกิด” ให้กับเหออี้ โดยให้ส่งกันคนละหนึ่งคำ และผมก็ได้คำว่า “ยื่อ*” พอผมส่งไป สุดท้ายกลายเป็ว่าพวกมันไม่ได้ส่งกันสักคน
นึกภาพออกเลยล่ะว่าวันถัดมาสายตาของเหออี้ที่มองผมนั้นจะแปลกขนาดไหน
......
จำนวนมอนสเตอร์ที่ต้องฆ่าในภารกิจนี้ไม่เยอะมาก แต่สิ่งของที่ภารกิจ้ากลับดรอปออกมาน้อยจนผิดปกติ ผมใช้เวลาในการไล่ฆ่าไปประมาณ 7-8 ชั่วโมงและตอนนี้ก็เป็่สายของวันที่ 2 แล้วแต่ผมยังขาดนิ้วมือโครงกระดูกอีก 3 ชิ้นถึงจะสามารถส่งมอบภารกิจได้
โครงกระดูกหนามบริเวณสุสานถูกผมฆ่าเกือบจะหมดแล้ว และท่ามกลางกองซากโครงกระดูกแห้งกรังนั้นก็มีผู้นำิญญาที่มีพลังเหลือล้นกำลังยืนถือดาบอยู่ มันคือผู้นำิญญาชิงหยู่ เงื่อนไขในภารกิจที่ผมต้องไปฆ่า!
ผมยังไม่กล้าเข้าไปจัดการกับมัน และตอนนี้เลเวลผมก็เลื่อนขึ้นไปถึงเลเวล 20 เป็ที่เรียบร้อยแล้ว แถมยังขึ้นสู่ 100 อันดับแรกของชาร์ตเมืองฝูปิงอีกครั้งเช่นกัน ผมใช้เวลาไปอีกครึ่งชั่วโมงก็ได้นิ้วมือโครงกระดูกเพิ่มมาอีก 2 ชิ้น ตอนนี้เหลือแค่ชิ้นสุดท้ายก็จะสามารถไปขอความช่วยเหลือจากปรมาจารย์นักดาบิญญาซูหลุนให้มาช่วยกันฆ่าบอสได้แล้ว!
แต่พอมองดูเวลาผมก็พบว่านี่ก็ 10 โมงเช้าแล้ว แต่ผมยังรู้สึกไม่เหนื่อยเลยสักนิด เพราะงั้นก็ไล่ฆ่าต่อแล้วกัน!
......
ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ เขตเศรษฐกิจเฟื่องฟู ภายในห้องประชุมที่อยู่ชั้นบนสุดของตึกสูงที่มีรูปร่างโดดเด่นแห่งหนึ่ง
ทั้งสองฝั่งโต๊ะล้อมรอบไปด้วยเหล่าบุคลากรชั้นนำ 7-8 คนกำลังพูดคุยถึงเื่ธุรกิจกันอยู่โดยมีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ เธอใส่ชุดยูนิฟอร์มสีกาแฟและมีติดบัตรบนอกที่เขียนว่า “เหออี้”
“อีฟ? ถึงตาคุณแล้ว ลองพูดความคิดเห็นของเธอหน่อยสิ?” ชายวัยกลางคนมองไปยังสาวสวยและใช้น้ำเสียงเร่งเร้ากับเธอ
แต่ทว่าเหออี้นั้นกลับกำลังเหม่อมองไปยังท้องฟ้านอกหน้าต่าง และในดวงตาแสนสวยของเธอก็กำลังแฝงไว้ด้วยความเศร้าโศก
“อีฟ คุณคิดยังไงกับผลการทำงานที่ลดลงของเดือนนี้?”
“อีฟ!”
......
ภายใต้สายตาของเหล่าประธานและคณะกรรมการบริหาร ขนตายาวสลวยของเหออี้ค่อยๆเคลื่อนลงมาปิดตา ก่อนที่น้ำตาจะไหลรินลงมาเปื้อนใบหน้าขาวเนียนละเอียดของเธอเป็สาย มุมปากสีแดงระเรื่อขยับเล็กน้อย จากนั้นเธอก็หลับตาลงปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาพร้อมพูดขึ้นมาเบาๆ “แต่ว่าลู่เฉิน...ลู่เฉินเขา...”
*ยื่อ คำในภาษาจีนเป็คำไม่สุภาพมีความหมายแฝงว่า ร่วมรัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้