บุรุษผู้เป็หมอมองหลินกู๋หยู่ด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง เขาถูกยึดมือไว้ เด็กสาวคนหนึ่งจะมีพละกำลังมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร ?
หลินกู๋หยู่ยึดมือของหมอและบิดไปในทิศทางตรงกันข้าม
“เจ็บ เจ็บ เจ็บ!” หมออดไม่ได้ที่จะร้องะโออกมา ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวน่าเกลียด เขาพลอยบิดร่างกายไปด้วยเพื่อบรรเทาความเ็ป
เ้าคนกากเอ๊ย!
หลินกู๋หยู่หยิบถุงเงินจากมือหมอแล้วปล่อยมือด้วยความรังเกียจ นางพูดด้วยความโกรธว่า "ยังไม่ไสหัวออกไปอีก?"
หมอคนนั้นไม่กล้าพูดอะไรสักคำ เขาหนีเตลิดไปด้วยความพรั่นพรึง
“นี่” หลินกู๋หยู่ยื่นถุงเงินให้สตรีวัยกลางคน “วันข้างหน้าอย่าถูกหลอกอีกละ!”
สตรีนางนั้นมองถุงเงินในมือด้วยน้ำตาคลอเบ้า "ข้าจะทำอย่างไรได้ ถ้าข้าไม่หาหมอ ลูกชายของข้าจะต้องตายเป็แน่ แต่ตอนนี้แม้แต่หมอในหมู่บ้านก็ไม่สามารถรักษาได้"
เดิมทีหลินกู๋หยู่หันหลังกลับเพื่อจากไป แต่เมื่อนางได้ยินคำพูดของสตรีคนนั้น นางก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและหันกลับมามองสตรีคนนั้นอีกครั้ง
“ทำไมชีวิตของข้าถึงได้ขมขื่นนัก สามีของข้าเสียชีวิตไปนานแล้ว เหลือแต่ลูกชายในสายเืคนนี้เพียงคนเดียว ถ้าลูกข้าไม่อยู่แล้ว ข้าก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว” สตรีวัยกลางคนร่ำไห้เดินโซเซไปทางบ้าน
ไข้ทรพิษ?
คนที่ป่วยเป็ไข้ทรพิษ แทบจะไม่มีใครรอดชีวิตเลย
หลินกู๋หยู่ยืนอยู่ที่ประตู นางไม่รู้จริงๆ ว่านางควรจะไปดูหรือไม่
นางอยากเป็หมอที่ดี
“พี่หญิง” หลินกู๋หยู่ก้าวไปข้างหน้าและยืนอยู่ที่ประตู ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ข้ารักษาโรคได้เหมือนกัน ให้ข้าดูอาการของลูกชายของท่านได้หรือไม่?”
เมื่อสตรีคนนั้นได้ยินเสียงของหลินกู๋หยู่ ดวงตาของนางก็เปล่งประกายด้วยแสงประหลาด นางหันกลับมาทันที เดินไปหาหลินกู๋หยู่อย่างรวดเร็ว จับมือของหลินกู๋หยู่ด้วยมือทั้งสองข้าง
“เ้ารักษาได้จริงๆ หรือ?” สตรีคนนั้นมองไปที่หลินกู๋หยู่อย่างตื่นเต้น
"อืม" หลินกู๋หยู่เม้มริมฝีปากเล็กน้อยและพูดอย่างลังเล "ข้าไม่รู้ว่าข้าจะทำได้หรือไม่ แต่ข้าอยากจะลองดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน"
"ถ้าเ้าสามารถรักษาอาการป่วยของลูกชายของข้าได้ ข้าจะให้เงินหนึ่งตำลึงทั้งหมดนี้แก่เ้า" สตรีคนนั้นถือถุงเงินในมือทั้งสองข้างอย่างจริงจังแล้วยื่นให้หลินกู๋หยู่
“ไม่ต้องแล้ว” หลินกู๋หยู่ดันมันออกไป
เด็กสาวเดินตามสตรีคนนั้นเดินไปที่บ้าน สภาพภายในบ้านเรียบง่ายมาก หลังคาทรุดโทรมแล้ว แสงแดดส่องลงมาบนพื้นเป็ระยะๆ ผ่านช่องรู
โต๊ะไม่สมบูรณ์ ขาโต๊ะไม่เท่ากัน หากไม่มีหินที่อยู่ข้างใต้รองไว้ก็คงจะล้มไปนานแล้ว
หลินกู๋หยู่ตามไปที่ข้างเตียง แม้จะบอกว่าข้างเตียง แต่ในความเป็จริงมันเป็เพียงชั้นของกองฟางหนึ่งชั้นวางบนพื้น มีเด็กดูเหมือนจะอายุเพียงสามขวบนอนอยู่ ร่างกายของเขาบิดตัวตลอดเวลา ใบหน้าแดงเถือก หลังจากพินิจมองก็เห็นว่ามันเป็ตุ่มแดงทั้งหมด น่าใเป็อย่างมาก
"เป็ไข้มากี่วันแล้ว?" ใบหน้าของหลินกู๋หยู่โพกด้วยผ้า มือของนางก็คลุมด้วยผ้าเช่นกัน นางค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าของเด็กออก เมื่อมองดูผื่นที่ลำตัวและแขนขา หัวใจของนางก็ค่อยๆ เย็นะเืลง
"เป็มาสองวันแล้ว" ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยเสียงสะอื้น นั่งยองๆ ข้างเตียง ขณะเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของหลินกู๋หยู่จากนั้นก็มองไปที่ลูก ยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากดวงตาของนาง
หลินกู๋หยู่วางนิ้วมือบนข้อมือของเด็ก หัวใจของนางค่อยๆ จมดิ่งลง วางแขนเสื้อของเด็กลง ดวงตาของนางหม่นหมอง "มันคือไข้ทรพิษ"
"แล้วข้าควรจะทำอย่างไรดี?" ด้วยดวงตาที่คลอเบ้า ผู้เป็มารดามองหลินกู๋หยู่อย่างอ้อนวอน ราวกับฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่นาง
“พี่หญิงทราบไหมว่าบ้านใครมีวัวบ้าง?” หลินกู๋หยู่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นางถามออกไปอย่างเหม่อลอย
ดวงตาของสตรีวัยกลางคนเป็ประกายในทันใด นางพยักหน้าอย่างแรง "ข้ามี ครอบครัวของเรามีวัวตัวหนึ่ง เป็วัวที่ซื้อมาตอนที่สามีของข้ายังอยู่"
“พาข้าไปที่นั่น” หลินกู๋หยู่ถอนหายใจอย่างจนปัญญา ครอบครัวนี้ช่างยากจนเกินไปจริงๆ
“ตอนที่ข้าอยู่กับสามีของข้า เขาซื้อสิ่งนี้ให้เป็ของขวัญ โดยบอกว่าจะได้ช่วยประหยัดแรงเวลาไปทำงานในไร่นา” พูดไปพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าพร้อมยิ้มอย่างโดดเดี่ยว “ข้าเสียดายหากต้องขายมัน โชคดีที่ครอบครัวของยังข้ามีวัวตัวนี้ เพราะมีคนเช่ามัน พวกเราแม่ลูกจึงมีเงินเล็กน้อยจากวัวตัวนี้”
เมื่อเดินไปถึงสวนหลังบ้าน หลินกู๋หยู่เห็นวัวกำลังเคี้ยวหญ้า หันศีรษะและถามว่า "วัวตัวนั้นเป็วัวเพศเมียหรือ?"
"อื้ม" สตรีคนนั้นเดินไปหาวัวและเติมหญ้าลงในราง "อายุสี่ปีแล้ว มันดูแก่มากแล้ว"
หลินกู๋หยู่ย่อตัวลงและเอนตัวอยู่ใต้วัว
เพียงแต่เมื่อวัวเห็นหลินกู๋หยู่ใกล้เข้ามา มันก็บิดตัวและเปลี่ยนมุมของมันทันที
“เกิดอะไรขึ้นหรือ?” สตรีคนนั้นเดินไปหาหลินกู๋หยู่ และถามอย่างฉงน
"ข้า้าดู" หลินกู๋หยู่มองไปที่ผู้หญิงคนนั้นอย่างลังเลและพูดอย่างลังเลว่า "ข้า้าดูว่ามันมีฝีดาษหรือไม่?"
แม้ว่าจะไม่เข้าใจสิ่งที่เด็กสาวพูด แต่นางเดินไปหาวัวเพศเมียตัวนั้น ปลอบโยนมันแล้วจับวัวตัวนั้นไว้
หลินกู๋หยู่โน้มศีรษะเข้าไปใต้ท้องวัว เห็นว่ามีตุ่มฝีดาษจำนวนมากที่เต้านม
หลินกู๋หยู่ลุกขึ้นอย่างช้าๆ เอ่ยอย่างลังเลว่า "ข้ามีวิธีหนึ่งในการรักษา ถ้าทำสำเร็จ ลูกชายของพี่หญิงก็จะหายดี แต่ถ้าไม่สำเร็จ ลูกชายของพี่หญิงก็จะยังคงต้องตายเช่นเดิม ท่านยินดีจะลองรักษาหรือไม่?"
สีผิวบนใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นน่าเกลียดในทันที นางยืนอยู่กับที่ สายตาจับจ้องไปที่เด็กสาว ก่อนจะกัดฟันพูด "ตกลง!"
หลินกู๋หยู่สั่งให้ผู้หญิงคนนั้นรีดนม จากนั้นหยิบชามมาแล้วทุบก้อนฝีดาษให้แตกเล็กน้อย
สตรีวัยกลางคนคนนั้นมองไปที่หลินกู๋หยู่ด้วยความงงงวย นางไม่เข้าใจสาเหตุว่าทำไมหลินกู๋หยู่ถึงทำเช่นนั้น
นางเทของเหลวที่ได้จากการทำให้ก้อนฝีดาษแตกลงตรงจุดที่เด็กเกา แล้วค่อยๆ หลับตาลง
สตรีคนนั้นมองดูการกระทำของหลินกู๋หยู่ แม้ว่านางจะมีคำถามมากมาย แต่อย่างไรก็ตามนางก็ไม่ได้เอื้อนเอ่ยวาจาใด
“พรุ่งนี้ข้าจะมาใหม่” หลินกู๋หยู่เอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของเด็ก ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เมื่อพี่หญิงมีเวลาว่าง ให้เอาผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นมาวางบนศีรษะของเขาเพื่อลดไข้ ถ้าเป็ไปได้ ไปหาสุราแล้วมาเช็ดตัวให้เขาสักสองสามครั้ง สภาพของเขาตอนนี้จะต้องลดไข้”
สตรีคนนั้นพยักหน้าอย่างแรง ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงและใบหน้าสกปรก มีเพียงดวงตาของนางเท่านั้นที่ดูมีชีวิตชีวาเป็พิเศษ
“ตามข้าไปที่บ้าน ข้าจะเอายาให้เขา” หลินกู๋หยู่ลุกขึ้นอย่างช้าๆ
“ได้” ผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้นอย่างตื่นเต้น “ข้าจะให้เงินเ้า”
“รอให้เขาอาการดีขึ้นก่อนแล้วค่อยมาคุยเื่นี้” หลินกู๋หยู่มองไปที่เด็กบนกองฟาง รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เด็กคนนี้ยังเด็กมาก แต่เขากำลังจะเสียชีวิต
ผู้เป็มารดาของเด็กชายเดินตามหลินกู๋หยู่ไปที่บ้านตระกูลฉือ ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปทางประตูใหญ่ หลินกู๋หยู่ก็เห็นโต้ซานั่งอยู่บนธรณีประตูบ้าน
"ท่านแม่!" เมื่อโต้ซาเห็นหลินกู๋หยู่กำลังเดินมา เด็กน้อยลุกขึ้นอย่างตื่นเต้นและวิ่งไปหาหลินกู๋หยู่
“อย่ามาทางนี้” หลินกู๋หยู่รู้อยู่ในใจว่าภูมิคุ้มกันของเด็กไม่ดีพอ “แม่ตัวสกปรก เ้าไปเล่นกับพ่อก่อนเถอะ”
โต้ซายังคง้าที่จะก้าวเท้าเพื่อเข้าหานาง แต่ก็เห็นหลินกู๋หยู่ก้าวถอยห่างออกไปไม่หยุด เด็กน้อยมองไปที่หลินกู๋หยู่ด้วยสายตาที่น้อยใจ ริมฝีปากของเขามุ่ยบึ้งตึงจนสามารถห้อยขวดน้ำถั่วเหลืองหมักได้แล้ว
ฉือหางออกมาจากด้านในบ้าน เมื่อเขาเห็นสตรีที่ยืนอยู่ข้างหลังหลินกู๋หยู่ เขาก็เรียกโต้ซากลับมา
หลินกู๋หยู่หยิบสมุนไพรบางอย่างที่จัดแยกไว้ก่อนหน้านี้ หยิบจับยาแก้ไข้ รวมทั้งยาคุ้มกันบางอย่าง
"ยานี้สำหรับลูกของพี่หญิง ให้เขากินวันละหนึ่งคู่" หลินกู๋หยู่กล่าวขณะยื่นยาในมือข้างซ้าย ก่อนที่จะยื่นยาในมือข้างขวา "ยานี้สำหรับพี่หญิง อาจจะไม่มีประโยชน์อะไร แต่กินเข้าไปก็ไม่เสียหาย"
สตรีวัยกลางคนมองยาในมือด้วยน้ำตาคลอเบ้า ทำท่าคล้ายกำลังจะคุกเข่าลง
“พี่หญิง อย่าสุภาพเช่นนี้” หลินกู๋หยู่รีบจับมือผู้หญิงคนนั้นและพูดอย่างใจเย็น “เ้ากลับไปเถอะ ยาเหล่านี้เ้าสามารถทานได้ห้าหกวัน”
ผู้หญิงคนนั้นไหว้ขอบคุณและจากไป
เมื่อมองดูสตรีคนนั้นออกไป หลินกู๋หยู่หันไปมองฉือหางและโต้ซาซึ่งกำลังยืนอยู่กับที่เช่นเดียวกัน นางพูดด้วยแววตามืดมน "ข้าเพิ่งไปพบเด็กที่เป็ไข้ทรพิษ ข้าคิดว่าพวกเ้าควรจะอยู่ห่างจากข้าจะเป็การดีกว่า"
โต้ซาไม่เข้าใจว่าสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูดคืออะไร ถ้าไม่ใช่เพราะฉือหางจับมือเขาอยู่ เขาก็คงวิ่งไปหากอดต้นขาของหลินกู๋หยู่นานแล้ว
หลินกู๋หยู่ก้มศีรษะคล้ายเด็กที่ทำผิดมาอย่างไรอย่างนั้น "ข้าอาจจะดูแลพวกเ้าไม่ได้ ในอีกสองวันมาดูกันว่าข้าเป็ไข้ทรพิษหรือไม่?"
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด ใบหน้าของฉือหางก็ปรากฏอาการผิดหวัง "ไม่เป็ไร ข้าเข้าใจ"
ในเวลากลางคืนตอนเข้านอน ฉือหางนอนกับโต้ซา ส่วนหลินกู๋หยู่นอนบนกล่องไม้คนเดียว
“พี่ฉือหาง” หลินกู๋หยู่นอนอยู่บนกล่องไม้ นางเงยหน้าขึ้นมองคนบนเตียง แล้วถามเบาๆ ว่า “หลับหรือยัง?”
"ยังไม่หลับ" ในความเงียบ เสียงของฉือหางแหบแห้งและเ็าเป็พิเศษ "มีอะไรหรือ?"
“พรุ่งนี้ข้าอยากไปเยี่ยมน้องชายสี่” หลินกู๋หยู่ถอนหายใจเบาๆ “ข้าไม่รู้ว่ามันจะได้ผลหรือไม่ เวลาก็ล่วงเลยมานานมากแล้ว ข้าไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะเป็อย่างไรบ้างแล้ว”
เป็เวลานานที่ไม่ได้ยินเสียงของฉือหาง ในขณะที่หลินกู๋หยู่กำลังคิดว่าฉือหางจะไม่คุยกับนางแล้ว จู่ๆ นางก็ได้ยินคำตอบที่ทั้งเบาและนุ่มนวลของฉือหาง
เช้าวันรุ่งขึ้น หลินกู๋หยู่รู้สึกว่าศีรษะของนางหนักอึ้ง แขนขาของนางอ่อนแรง
นางมีไข้?
เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ หลินกู๋หยู่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของนางเหยเก นางรีบเอาผ้าปิดปากและจมูกด้วยความตื่นตระหนก
เมื่อวานนี้นางใช้มาตรการเตรียมตัวอย่างดีแล้ว แต่นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่านางจะป่วย
ฉือหางถูกปลุกด้วยการเคลื่อนไหวของหลินกู๋หยู่ เขาค่อยๆ ลุกขึ้นและลุกจากเตียง แล้วเดินไปด้านหน้าหลินกู๋หยู่ "เ้าเป็อะไรหรือ ไม่สบายตรงไหนหรือไม่?"
“ข้าเป็ไข้แล้ว” หลินกู๋หยู่ก้าวเท้าไปด้านหลัง หันศีรษะมองไปทางอื่น ใบหน้าของนางน่าเกลียดมาก นางเจ็บคอและต้องทนความปวดเมื่อยของร่างกาย “เ้าอย่าเข้ามาใกล้ข้า มันจะแพร่เชื้อให้เ้า”
หลินกู๋หยู่ลุกขึ้นและกอบสิ่งของบนเตียงแล้วพาออกไปข้างนอก
“เ้ากำลังจะไปไหน?” ฉือหางเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของหลินกู๋หยู่ ขมวดคิ้วแน่นขึ้นและเอ่ยถามอย่างเป็ห่วง
“ข้าอยู่กับพวกเ้าไม่ได้ อย่าแตะต้องสิ่งของของข้า มันอาจจะทำให้พวกเ้าติดเชื้อได้” หลินกู๋หยู่เม้มริมฝีปาก มืออดไม่ได้ที่จะจับกันไว้แน่น ร่างกายของนางสั่นเทาเล็กน้อย “เมื่อข้าไม่อยู่ เ้าดูแล... ดูแลตัวเองด้วย”
"ช้าก่อน" ฉือหางก้าวเท้าไปข้างหน้าและคว้ามือของหลินกู๋หยู่โดยไม่ลังเล
เชื้อฝีดาษส่วนใหญ่บุกรุกเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผ่านทางเยื่อเมือกของทางเดินหายใจ และติดต่อผ่านการหายใจหรือจากการัักับเชื้อโดยตรง
หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วแน่น พยายามอย่างมากที่จะดึงมือออก ร่างกายของนางไม่มั่นคง นางไม่สามารถทรงตัวได้จึงล้มหงายหลัง
ทว่าความเ็ปไม่ได้เกิดขึ้นตามที่คาดคิดไว้ ฉือหางโอบนางไว้ หลินกู๋หยู่แทบจะสามารถยืนตัวตรงได้แล้ว "อย่าแตะต้องตัวข้า!"
ฉือหางจับใบหน้าของหลินกู๋หยู่ด้วยมือทั้งสองข้าง ดวงตาของเขามองไปรอบๆ ใบหน้าของนาง และก่อนที่หลินกู๋หยู่จะทันได้พูด เขาก็ก้มศีรษะลงจุมพิตริมฝีปากของนาง
ดวงตาของหลินกู๋หยู่เบิกกว้างด้วยความตื่นตะลึง
ยิ่งฉือหางจูบมากเท่าไร แขนของเขาก็ยิ่งโอบนางแน่นยิ่งขึ้น
นาง... นางอาจจะป่วยเป็ไข้ทรพิษ
ฉือหาง นี่เ้ากำลังจะทำอะไรของเ้า...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้