จวินจิ่วเฉินปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันมาก!
ถึงขนาดที่ว่าเฉิงอี้เฟยกับจวินฮั่นหยิ่นมองเห็นไม่ชัดเจน เมื่อทั้งสองคนได้สติกลับมาก็มองไม่เห็นร่างของจวินจิ่วเฉินกับกูเฟยเยี่ยนแล้ว
“นักฆ่าที่สวมหน้ากากคนนั้น! ”
เฉิงอี้เฟยไล่ตามไปทันที จวินฮั่นหยิ่นะโเรียกทหารคุ้มกันแล้วรีบไล่ตามไปด้วยเช่นกัน
หมางจ้งที่หลบอยู่ด้านข้างอยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก! เขายังกังวลกลัวว่าองค์ชายแปดกับเฉิงอี้เฟยจะสังเกตเห็นเตี้ยนเซี่ย แต่ไม่นึกเลยว่าเตี้ยนเซี่ยนั้นจะเป็คนเริ่มปรากฏตัวออกมาเอง!
องค์ชายแปดเข้าใกล้เพียงนิดเดียวเท่านั้น เตี้ยนเซี่ยถึงกับ ถึงกับ…ถึงกับต้องหุนหันพลันแล่นขนาดนี้เชียวหรือ? เฉิงอี้เฟยยังอยู่ด้านข้างนะ องค์ชายแปดจะทำเื่อะไรได้อีก?
เมื่อมีนักฆ่าที่นี่ เฉิงอี้เฟยกับองค์ชายแปดจะต้องสร้างปัญหาให้กับหมู่บ้านคีรีบุปผาจันทร์ใช่หรือไม่? ไหนจะต้องเรียกคนของศาลต้าหลี่เข้ามาพัวพันอีก เ้าของที่แท้จริงที่อยู่เื้ัหมู่บ้านคีรีบุปผาจันทร์ก็คือเตี้ยนเซี่ยนะ เื่นี้แม้แต่ฝ่าาก็ไม่รับรู้ เมื่อเฉิงอี้เฟยกับคนอื่นๆ มาตรวจสอบ เขาจะต้องใช้แรงมากเพียงใดกันถึงจะสามารถปกปิดเอาไว้ได้?
ผ่านไปไม่นานทหารคุ้มกันของจวินฮั่นหยิ่นกับเฉิงอี้เฟยที่ติดตามมาด้วยก็มาถึง หมางจ้งไม่กล้ารอช้า เขาดึงหน้ากากสีดำลงมาแล้วรีบเดินออกไป เขาต้องรีบไปนัดแนะกับเ้าของหมู่บ้านบุปผาก่อน ภายในหมู่บ้านคีรีบุปผาจันทร์แห่งนี้มีสถานที่ไม่น้อยเลยที่ไม่สามารถตรวจสอบได้
ในขณะนี้จวินจิ่วเฉินยังคงจับกูเฟยเยี่ยนไว้โดยพานางวิ่งขวักไขว่เข้าไปในป่าผลไม้
เขามักจะยันแรงจากกิ่งไม้อยู่บ่อยๆ ทว่าก็ไม่ได้ตั้งใจจะหยุดพัก เขามองตรงไปด้านหน้าด้วยแววตาเ็า หาได้มองกูเฟยเยี่ยนแม้แต่แวบเดียว ทั่วทั้งร่างของเขาในยามนี้ราวกับน้ำแข็งที่เย็นะเืและมีความหนาวเหน็บที่น่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายออกมา
กูเฟยเยี่ยนตกตะลึงตาค้างไปหมดแล้ว
นางแหงนศีรษะขึ้นมามองหน้ากากสีเงินของจวินจิ่วเฉินด้วยความตะลึงงัน การกระทำนี้ปรากฏขึ้นั้แ่่เวลาที่ถูกจับตัวมาจนกระทั่งบัดนี้
จวินจิ่วเฉินทะลุผ่านป่าผีผา จากนั้นทะลุผ่านป่าท้อ และในที่สุดก็หยุดลงบนต้นไทรใหญ่ เขายังคงไม่มองนาง มีเพียงน้ำเสียงโกรธที่ดังขึ้นมา “เ้ามองพอหรือยัง? ”
กูเฟยเยี่ยนจึงได้สติกลับคืนมา ทว่ายังคงเกิดความเหลือเชื่อมาก หญิงสาวอ้าปากค้างโดยไม่พูดอะไรออกมาสักพักใหญ่ๆ
นางคาดไม่ถึงเลยจริงๆ !
ไม่นึกเลยว่าหมอนี่…หมอนี่จะไม่ใช่…
ไม่ใช่! ไม่ใช่!
ควรจะพูดว่าคาดไม่ถึงว่าจวินฮั่นหยิ่นจะไม่ใช่เขา
ก็ไม่ใช่อีก!
กูเฟยเยี่ยนสับสนงงงวยไปหมดแล้ว ผ่านไปสักพักถึงจะเข้าใจเื่ที่เกิดขึ้น ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความใ “เ้าไม่ใช่องค์ชายแปด! ”
ในตอนนี้เองที่จวินจิ่วเฉินจึงตระหนักได้ทันที เขาเข้าใจแล้วว่าการที่หญิงสาวคนนี้อยู่กับจวินฮั่นหยิ่นเป็เพราะสงสัยว่าจวินฮั่นหยิ่นคือเขา นาง้าหยั่งเชิงจวินฮั่นหยิ่น! ก่อนหน้านี้ที่อยู่ภายในถ้ำนางได้หยั่งเชิงไปแล้วหนึ่งรอบ แต่เขาคิดแค่ว่านางจะหยั่งเชิงเขาคนเดียว เขาจะไปทราบได้อย่างไรว่านางจะไปหยั่งเชิงจวินฮั่นหยิ่น! จวินฮั่นหยิ่นไม่ใช่คนดีนัก นางไม่กลัวว่าหยั่งเชิงไม่สำเร็จแล้วถูกรังแกกลับหรือ?
ในที่สุดจวินจิ่วเฉินก็ก้มหน้าลงมาจ้องมองกูเฟยเยี่ยนด้วยความดุร้ายแวบหนึ่ง โดยไม่ปริปากพูดและไม่ปล่อยนางออก
กูเฟยเยี่ยนตกอยู่ในความคาดไม่ถึงจึงไม่ได้สังเกตเห็นความโกรธในดวงตาของเขา และไม่ได้ตระหนักว่าบัดนี้นางกำลังถูกโอบล้อมอย่างเนืองแน่น
“แต่ว่า…ไม่ใช่สิ…”
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกประหลาดใจอย่างแท้จริง หากจวินฮั่นหยิ่นไม่ใช่นายก้อนน้ำแข็งเหม็น แล้วสิ่งที่จวินฮั่นหยิ่นพูดออกมาในคืนวันนั้นที่หอฝูหม่านหมายความว่าอย่างไรกัน? ไม่มีเหตุมีผลเหตุใดที่จวินฮั่นหยิ่นถึงมีเจตนาเป็ศัตรูต่อนาง? จวินฮั่นหยิ่นมีแผนการอะไรกันแน่?
การหยั่งเชิงของนางนับว่าจับพลัดจับผลูถูกทางหรือไม่? ต่อให้จวินฮั่นหยิ่นไม่ใช่นายก้อนน้ำเเข็งเหม็นแต่ก็ไม่ได้มีเจตนาดี!
กูเฟยเยี่ยนครุ่นคิดจนคิ้วขมวดเป็ปม
เดิมทีจวินจิ่วเฉินไม่อยากจะพูดอะไรกับนาง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของนางแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต่อว่าออกมา “กูเฟยเยี่ยน เ้าเป็คนโง่หรือ? ”
จวินจิ่วเฉินไม่เพียงแค่ต่อว่า แต่ยังโอบเอวกูเฟยเยี่ยนแน่นขึ้นอย่างกะทันหัน
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้สติเพราะการต่อว่า แต่ได้สติเพราะรู้สึกเจ็บ
นางรีบคว้ามือของเขาพลางพยายามแงะออก “ปล่อยข้านะ! แกล้งข้าราวกับว่าเป็คนโง่ แกล้งคนอื่นสนุกหรือไม่? เ้าเป็ใครกันแน่? เ้า้าทำอะไรกัน? ”
ในขณะเดียวกันป่าไม้ด้านหลังก็มีเสียงเสียดสีดังขึ้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็จวินฮั่นหยิ่นกับเฉิงอี้เฟยที่ไล่ตามมา
จวินจิ่วเฉินไม่พูดไม่จา คว้าเอวหญิงสาวไว้แน่น ก่อนจะหลบหนีเข้าไปในทุ่งดอกโหยวไช่ที่อยู่ไม่ไกลนัก
กูเฟยเยี่ยนได้สติกลับมาจากความใอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว นางหรี่ตาลงเผยให้เห็นถึงความดุร้าย
นางคิดว่าหมอนี่ไม่ใช่องค์ชายแปดและไม่ใช่คนดีอะไร!
หากว่าการปล้นสะดมยาก่อนหน้านั้นเป็การเข้าใจผิด ในตอนนี้ก็ชี้แจงแล้ว เหตุใดเขาจึงไม่เปิดเผยตัวตนออกมา? ต่อให้ก่อนหน้านี้เขามีใจอยากช่วยเหลือจริงๆ แล้วครั้งนี้เล่า? เป็ไปได้หรือไม่ว่าการที่เขาจับตัวนางมาโดยไม่มีเหตุไม่มีผลเป็เพราะ้าชี้แจงว่าตนเองไม่ใช่องค์ชายแปด?
ในวันนี้มียอดฝีมืออย่างเฉิงอี้เฟยกับจวินฮั่นหยิ่นอยู่ด้วยพอดี นางจะต้องทำให้หมอนี่ถอดหน้ากากออกมาให้ได้!
นางเงยหน้ามองเขา เผลอแวบเดียวก็ยื่นมือออกไปจับหน้ากากของชายหนุ่ม แต่แทบจะในเวลาเดียวกันจวินจิ่วเฉินก็บีบเข้าที่ข้อมือของนางพลันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเ็า “เ้าทำตัวให้มันสงบเสงี่ยมหน่อย! ”
กูเฟยเยี่ยนสบถแล้วะโออกมาเสียงดัง “เฉิงอี้เฟย ข้าอยู่ที่นี่! ข้าอยู่ที่นี่! นักฆ่าคนนี้คือคนที่ข้าเคยพูดถึง! เป็เขา…”
เขาใช้มือข้างซ้ายโอบรอบตัวนางจึงเหลือเพียงมือข้างขวาข้างเดียวที่สามารถใช้ได้ นางจะดูซิว่าเขาจะเลือกปิดปากนางหรือจะเลือกหยุดมือนางแทน?
เฉิงอี้เฟยกับจวินฮั่นหยิ่นที่อยู่ด้านหลังไล่ตามมาทันทีที่ได้ยินเสียงะโ ความชำนาญในการต่อสู้ของจวินฮั่นหยิ่นเหนือกว่าเฉิงอี้เฟย ความเร็วก็เร็วกว่าเฉิงอี้เฟยมากเช่นกัน
“อาจหาญนักฆ่า เปิ่นหวงจื่อสั่งให้เ้ารีบปล่อยตัวประกันออกมา! ”
“เ้าได้ยินหรือไม่! หากยังไม่ปล่อย เปิ่นหวงจื่อจะไม่เกรงใจ! ”
“ทั่วทั้งหมู่บ้านูเาแห่งนี้ล้วนถูกล้อมรอบไว้หมดแล้ว หากเ้าปล่อยนาง เปิ่นหวงจื่อสามารถพิจารณาไว้ชีวิตเ้าไว้ได้! ”
……
จวินฮั่นหยิ่นไล่ตามไปด้วยะโไปด้วย ทางด้านของเฉิงอี้เฟยนั้นไม่พูดไม่จาอะไรออกมา แม้ว่าเขาจะตามหลังแต่ก็ได้นำคันธนูที่พกติดตัวไว้ออกมาถือระยะเวลาหนึ่งแล้ว เขายืมร่างกายของจวินฮั่นหยิ่นมาเป็ตัวเปรียบเทียบพลางเล็งไปที่ต้นคอด้านหลังของจวินจิ่วเฉิน
“ฉึบ…”
ลูกศรแหลมคมทะยานออกไปโดยเฉียดหัวไหล่ของจวินฮั่นหยิ่น ลูกศรนี้พุ่งตรงไปที่จวินจิ่วเฉินด้วยความเร็วปานลมกรด
แต่ทันทีที่จวินจิ่วเฉินได้ยินเสียงลมก็หันข้างพากูเฟยเยี่ยนบุกเข้าไปในทุ่งดอกโหยวไช่ทันที ทุ่งดอกโหยวไช่แห่งนี้ทั้งสูงทั้งเป็พุ่มเขียวชอุ่ม ร่างกายของพวกเขาจึงหายไปอย่างรวดเร็ว
เฉิงอี้เฟยกับจวินจิ่วเฉินต่างก็หยุดอยู่ที่ด้านนอกโดยไม่กล้าผลีผลามเข้าไป เพราะกลัวว่าจะมีการซุ่มโจมตี
แต่ผ่านไปไม่นานพวกเขาก็ได้ยินเสียงะโร้องของกูเฟยเยี่ยนอีกครั้ง ทันทีที่พวกเขาระบุตำแหน่งได้ก็บุกเข้าไปทันที
กูเฟยเยี่ยนะโร้องเรียกติดต่อกันสามครั้ง ก่อนจะจงใจเลิกคิ้วมองจวินจิ่วเฉินด้วยแววตายั่วยุ นางไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะปล่อยให้นางะโต่อไป นางจะรอ รอวินาทีที่เขาปล่อยมือนางออก
“สนุกมากไหม? ”
จวินจิ่วเฉินถามน้ำเสียงเ็า เมื่อเขาพูดจบก็ผลักกูเฟยเยี่ยนออก แทบจะในเวลาเดียวกันลูกศรแหลมคมก็พุ่งผ่านพวกเขาไป
กูเฟยเยี่ยนหันหลังหนี แต่น่าเสียดายที่จวินจิ่วเฉินไล่ตามมาทันแล้วคว้าข้อมือของนางพากันหลบหนี
กูเฟยเยี่ยนคุกเข่าไม่ยอมไป จวินจิ่วเฉินจึงกระชากนางเข้าไปในอ้อมแขนอีกครั้ง ก่อนจะโอบกอดพานางออกไป
ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนเข้าใกล้ นางก็ยื่นมือไปคว้าหน้ากากของเขาอีกครั้ง แต่จวินจิ่วเฉินห้ามเอาไว้ทำให้กูเฟยเยี่ยนะโเรียกร้องต่อไป “เฉิงอี้เฟย พวกเราอยู่ที่นี่…”
ทุ่งดอกโหยวไช่เป็สถานที่หลบซ่อนตัวอันยอดเยี่ยม แต่ถ้ากูเฟยเยี่ยนยังะโเช่นนี้ พวกเขาไม่เพียงจะหลบซ่อนไม่ได้แล้ว แต่ยังจะหนีไม่พ้นเฉิงอี้เฟยอีกด้วย จวินจิ่วเฉินหงุดหงิดจนขยับตัวไปอยู่ด้านหลังของกูเฟยเยี่ยนแล้วใช้มือข้างหนึ่งปิดปากนางเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็โอบกอดนาง กูเฟยเยี่ยนกำลังจะดิ้นรนทว่าจวินจิ่วเฉินได้ใช้วิชาเคลื่อนไหวดั่งเงาด้วยความเร็วที่เร็วที่สุดในการออกจากตำแหน่งเดิมแล้วเข้าไปในส่วนลึกของทุ่งบุปผาแทน…