ท่ามกลางความมืดมิดใต้ทะเลลึก ไม่มีใครกล้าเปิดไฟฉายเลยสักคน นั่นเพราะเกรงว่าตนจะตกเป็เป้าหมายของคนอื่น แต่สำหรับเย่เฟิงแล้ว สภาพแวดล้อมเช่นนี้นับว่าดีต่อการเคลื่อนไหวของเขาอย่างยิ่ง บางทีเขาอาจใช้โอกาสนี้ลอบสังหารหลงโม่หรานได้!
เย่เฟิงใช้จิตหยั่งรู้กวาดมอง ก่อนพบว่าาาปะการังตกอยู่ในมือผู้าุโคนหนึ่งของสำนักหมัดเทวาซึ่งกำลังเร่งรีบแหวกว่ายเข้าชายฝั่งโดยไม่หยุดพัก แม้จะมีก้อนน้ำแข็งแหลมคมหลายก้อนลอยตามกระแสน้ำเชี่ยวกรากเข้ามาปะทะ ทว่าคนคนนั้นก็รับรู้และสามารถหลบหลีกได้
‘ดูเหมือนว่าเมื่ออันตรายเข้ามาใกล้ตัว เหล่ายอดฝีมือจะสามารถรับรู้ได้เองสินะ’ เย่เฟิงครุ่นคิด
จากการใช้จิตหยั่งรู้กวาดมองโดยรอบ ทำให้เขาทราบว่ามีหลายคนเคลื่อนไหวตามกระแสน้ำเพื่อไล่ตามผู้าุโจากสำนักหมัดเทวา และหลงโม่หรานก็เคลื่อนที่ได้รวดเร็วที่สุด โดยนำหน้าคนอื่นไปก่อนแล้ว!
เย่เฟิงยังไม่ได้ตามไป ชายหนุ่มซ่อนตัวและแอบเข้าใกล้ต้นปะการังอย่างเงียบเชียบ เพื่อเก็บปะการังต้นเล็กที่ยังหลงเหลืออยู่อีกสิบสองต้นเข้ากระเป๋า เมื่อเก็บเรียบร้อยแล้วก็ไล่ตามคนกลุ่มใหญ่นั้นไปเงียบๆ
‘กระทั่งหลงโม่หรานก็ยังถูกขวางเอาไว้สินะ’
เย่เฟิงเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างรวดเร็ว หลงโม่หรานที่กำลังไล่ตามผู้าุโจากสำนักหมัดเทวาคนนั้น ถูกผู้าุโอีกคนจากสำนักเดียวกันเข้ามาขวางเอาไว้ พร้อมใช้หมัดจู่โจม!
หลงโม่หรานไม่กล้าประมาทหมัดนั้น จึงหยุดไล่ตามและหันมาระวังอีกฝ่ายแทน สภาพแวดล้อมที่มืดสนิททำให้พวกเขาได้แต่เคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ ซึ่งสามารถรับรู้ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเทียบกับเย่เฟิงไม่ได้เลยสักนิด
เย่เฟิงใช้จิตหยั่งรู้กวาดมองหลงโม่หราน ก่อนใช้เคล็ดวิชาเต่าัอุดลมปราณเคลื่อนตัวไปด้านหลังชายวัยกลางคนอย่างเงียบงัน เคล็ดวิชานี้ทำให้เขาเคลื่อนไหวในน้ำได้ราวกับปลา และความเร็วก็เพิ่มเป็สองเท่า
ใกล้แล้ว!
เย่เฟิงรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากหลงโม่หรานสิบเมตร เขาตัดสินใจเช่นนี้เพราะหลงโม่หรานสามารถรับรู้การเคลื่อนไหวของคนอื่นได้ในระยะห้าเมตร ชายหนุ่มจึงทิ้งระยะห่างเพิ่มอีกห้าเมตร อีกฝ่ายจะไม่มีทางรับรู้ถึงการมีตัวตนของเขาเลย
หากเป็สภาพแวดล้อมตามปกติ อีกฝ่ายคงรับรู้ถึงลมหายใจของเขา แต่เมื่ออยู่ใต้ทะเลลึกเช่นนี้ ผลลัพธ์ย่อมต่างออกไป
“กระบี่สยบั!”
เย่เฟิงอาศัยจังหวะที่หลงโม่หรานรับมือกับผู้าุโจากสำนักหมัดเทวา โคจรพลังชี่ไปยังแหวนกระบี่ัโบราณ ก่อนจะปรากฏลำแสงสีทองของกระบี่ขึ้นกลางน้ำทะเลอันมืดมิด!
กระบี่เจินชี่สีน้ำเงินบุกทะลวงกระแสน้ำเชี่ยวกราก พุ่งไปที่หัวของหลงโม่หราน
กระบี่นี้ของเย่เฟิงช่างเ้าเล่ห์ยิ่งนัก!
หลงโม่หรานรู้ว่าตนจำเป็ต้องหลบกระบี่ให้ได้ แต่หากเขาหลบกระบี่เล่มนี้ ย่อมต้องรับหมัดของผู้าุโสำนักหมัดเทวาแทน หมัดนั้นไม่อาจสังหารเขาได้ แต่ก็ทำให้เขาาเ็สาหัสได้แน่นอน เว้นเสียแต่อีกฝ่ายจะยอมให้เขา
เมื่อกระบี่พุ่งเข้ามาในระยะประชิด สีหน้าหลงโม่หรานก็เปลี่ยนไปทันที เขานึกไม่ถึงว่าชายสวมหน้ากากจะลอบโจมตีอยู่ด้านหลัง! ที่แถบทะเลตะวันออกตอนนี้ นอกจากตัวเขากับชายสวมหน้ากากที่ชื่อ ‘โม่จิ่วเกอ’ ก็ไม่มีผู้ใดสามารถใช้ลำแสงกระบี่เช่นนี้ได้ หลงโม่หรานจึงรู้ในทันทีว่าฝ่ายตรงข้ามเป็ใคร
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสองทางเลือก ระหว่างความตายและาเ็สาหัส เป็ธรรมดาที่เขาต้องเลือกาเ็สาหัส หลงโม่หรานเอียงหัวหลบลำแสงกระบี่สีน้ำเงินที่แผ่ไอเย็นะเื ประกายกระบี่ลอยเฉียดหัว ทิ้งรอยแผลลึกบนใบหน้าของเขา ด้านผู้าุโสำนักหมัดเทวาก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสทองที่จะได้ลงมือกับหลงโม่หราน
หมัดปืนใหญ่สามจักรพรรดิ!
ปัง! เสียงดังสนั่น หมัดทะลวงฝ่ากระแสน้ำ พุ่งโจมตีหน้าอกหลงโม่หรานอย่างรุนแรง
พรวด!
หลงโม่หรานกระอักเื เปลี่ยนน้ำทะเลบริเวณนั้นเป็สีแดง ร่างในชุดคลุมสีขาวซึ่งสวมใส่ชุดดำน้ำถูกแรงมหาศาลกระแทกจนปลิวไปไกล
หากอยู่บนพื้นดิน อานุภาพหมัดของผู้าุโสำนักหมัดเทวาเพียงพอที่จะทะลวงหัวใจของหลงโม่หรานได้! น่าเสียดายเมื่ออยู่ใต้ทะเลลึก หมัดนี้กลับถูกกระแสน้ำลดทอนความทรงพลังของมัน ทำให้หลงโม่หรานรอดชีวิตมาได้
ในยุทธจักรนั้น หนึ่งบวกหนึ่งอาจไม่ได้หยุดอยู่ที่สอง
หากเป็การต่อสู้ตัวต่อตัวระหว่างหลงโม่หรานกับผู้าุโสำนักหมัดเทวาหรือกับเย่เฟิง หลงโม่หรานย่อมเหนือกว่าอีกฝ่าย ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนี้ หากต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของทั้งคู่พร้อมกัน เขาย่อมไม่อาจรับมือ ดังนั้นจึงต้องหนี
เย่เฟิงคิดไล่ตามหลงโม่หรานซึ่งาเ็หนักเพื่อกำจัดเขา แต่เวลานั้นเอง ผู้าุโจากสำนักหมัดเทวาก็หันมาทางชายหนุ่ม พร้อมกับปล่อยหมัดเช่นเดียวกับเมื่อครู่เพื่อโจมตีเขา
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายจำตัวตนของเย่เฟิงได้
สำหรับชายสวมหน้ากาก ทางสำนักหมัดเทวาก็เกลียดชังเขามากเช่นกัน!
เย่เฟิงสามารถเคลื่อนไหวใต้น้ำได้อิสระจึงสามารถหลบหลีกหมัดของอีกฝ่ายได้ ทั้งยังสามารถหลบหลีกก้อนน้ำแข็งั์ที่พุ่งเข้ามาได้อีกด้วย
ก้อนน้ำแข็งั์ลอยผ่านตัวเย่เฟิงไปอย่างรวดเร็ว ก่อนพุ่งไปทางผู้าุโของสำนักหมัดเทวา!
เย่เฟิงใช้จิตหยั่งรู้กวาดมองอีกฝ่าย จึงรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็ชายชราวัยห้าสิบปี ท่าทางธรรมดาสามัญ สิ่งเดียวที่ทำให้ผู้คนจดจำเขาได้คือระดับวรยุทธ์อันสูงส่ง น่าเสียดาย ถึงมีระดับวรยุทธ์สูงส่ง แต่กว่าเขาจะรู้ตัวว่ามีก้อนน้ำแข็งั์พุ่งตรงมา ก็ไม่ทันกาลเสียแล้ว
ชายชราพยายามว่ายทวนน้ำเพื่อหลบหลีก แต่ก็ช้าเกินไป สุดท้ายจึงถูกน้ำแข็งั์กระแทกกลางลำตัว! ผลกระทบของมันร้ายแรงมาก ร่างของเขาถูกตัดขาดเป็สองท่อน!
กลิ่นเืคละคลุ้งทั่วน่านน้ำ
‘น้ำทะเลที่เย็นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ก้อนน้ำแข็งเริ่มเยอะไปด้วยแฮะ…’
เย่เฟิงหวาดหวั่น เขาใช้จิตหยั่งรู้กวาดมอง จึงพบว่าข้างกายหลงโม่หรานมียอดฝีมือสองคนของตระกูลหลงคอยคุ้มกันแล้ว ดูเหมือนตอนนี้ตนพลาดโอกาสที่จะกำจัดอีกฝ่ายไปแล้ว…
ชายหนุ่มเข้าใจสถานการณ์ดี หากเขาปรากฏตัวอีกครั้ง ยอดฝีมือทั้งสองของตระกูลหลงคงสังหารเขาทันที เพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง เย่เฟิงจึงต้องปล่อยหลงโม่หรานไปก่อน
ชายหนุ่มเคลื่อนตัวไปอีกด้านที่ทุกคนกำลังมุ่งมั่นเข้าไปแย่งชิงาาปะการังจากผู้ที่ได้มันไป การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วราวกับปลา
เวลานี้าาปะการังยังอยู่ในมือผู้าุโจากสำนักหมัดเทวาคนเดิม เขาเร่งว่ายน้ำเข้าชายฝั่งไม่หยุดยั้ง โดยมีกลุ่มคนด้านหลังว่ายตามกันพัลวัน ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการแย่งชิงาาปะการัง
ขณะนี้เย่เฟิงใช้ทักษะล่องหนและทักษะลอบสังหารพร้อมกัน เขาพยายามเคลื่อนไหวให้เงียบที่สุด ก่อนคว้าน้ำแข็งก้อนใหญ่บดบังการเคลื่อนไหวของตัวเอง จากนั้นแหวกว่ายไปหาผู้าุโคนนั้น เพื่อเตรียมสังหารและแย่งาาปะการังจากอีกฝ่าย
ผู้าุโสำนักหมัดเทวาจับััก้อนน้ำแข็งที่พุ่งเข้ามาใกล้ เขาหลบเลี่ยงมันอย่างระมัดระวัง แต่ในเวลานั้นเย่เฟิงก็พุ่งมาจากหลังก้อนน้ำแข็ง ก่อนต่อยกลางอกเขาอย่างรุนแรง!
อีกฝ่ายตะลึงค้างไปครู่หนึ่ง!
ชายชรานึกไม่ถึงว่าหลังก้อนน้ำแข็งจะมีใครบางคนซ่อนตัวอยู่แล้วโผล่ออกมาราวกับภูตผีแบบนี้!
ไม่ใช่เื่ที่อยู่เหนือความคาดหมาย ขณะที่เย่เฟิงต่อยกลางอกอีกฝ่าย ก็โคจรพลังชี่ไปที่แหวนกระบี่ัโบราณ
ลำแสงสีทองของกระบี่ปรากฏขึ้น!
ฉึก!
หลังจากกระบี่เจินชี่ปรากฏขึ้น เย่เฟิงก็แทงมันตัดขั้วหัวใจฝ่ายตรงข้าม ความคมของกระบี่ทำให้มันสามารถทะลวงลึกราวกับแทงก้อนเต้าหู้!
ปัง!
ในขณะเดียวกัน ผู้าุโคนนั้นเหวี่ยงหมัดใส่เย่เฟิงก่อนตาย หมัดที่แฝงพลังภายในอันเข้มข้นกระแทกไหล่ของชายหนุ่มอย่างแรง!
เย่เฟิงขบกรามแน่น เขาใช้มือข้างหนึ่งแย่งาาปะการังจากมือของอีกฝ่าย
“ไอ้เด็กเวรนั่น!”
เหล่าผู้ยอดยุทธ์ที่กำลังตามมาสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง จึงพร้อมใจกันเปิดไฟฉายส่องสว่างทั่วใต้น้ำ ทำให้สามารถมองเห็นร่างโปร่งแสงของเย่เฟิงได้!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้