เฉียวเยว่ตัวเล็กจ้อยหิ้วตะกร้าใบเบ้อเร่อเดินลงบันไดมาอย่างหน้าชื่นตาบาน "ดูสิ นี่คือของที่พี่จ้านมอบให้ข้า พี่จ้านของข้ารักข้าที่สุด"
พูดตามตรง ทุกคนต่างรู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยถูกต้องนัก แต่ก็บอกไม่ถูกว่าเพราะเหตุใด
เฉียวเยว่ยิ้มร่า "ข้ามีความสุขมาก วันนี้ข้าได้ของขวัญเยอะเลย"
ฉีจือโจวอุ้มเฉียวเยว่ขึ้นมานั่งบนตัก แล้วเอ่ยเสียงเบา "เ้ามีความสุขก็ดีแล้ว"
หลังจากนั้นก็ถามอีกว่า "ยังจะออกไปเล่นต่อหรือไม่?"
เฉียวเยว่พยักหน้า "แน่นอนสิเ้าคะ" นางหันไปมองหรงจ้าน "ท่านพี่จ้านจะไปกับพวกเราหรือไม่ ข้าจะออกไปทายปริศนาโคมไฟ ของขวัญเยอะแยะเต็มไปหมดเลย"
หรงจ้านยิ้มมุมปากพลางส่ายหน้า "ไม่ล่ะ เ้าไปเล่นเถอะ ข้าจะกลับวังแล้ว"
หลังจากนั้นก็กวาดตามองโรงน้ำชาเจ็ดสมบัติ แล้วเปรยเสียงเบา "ได้ยินคำเล่าลือมาว่าแยบยลมหัศจรรย์ แต่เท่าที่ััก็แค่นั้นเอง" น้ำเสียงแฝงแววเหยียดหยันอ่อนจาง
"เพราะพี่จ้านปราดเปรื่องกว่าผู้อื่น จึงรู้สึกว่ามันง่าย แต่โคลงคู่เ่าั้ยากมากๆ สำหรับข้า" เฉียวเยว่ทัดทานด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนที่จะยื่นปากน้อยๆ ออกมา "คนเดียวต้องตอบถูกต้องทั้งหมดั้แ่ข้อแรกถึงข้อสุดท้าย แท้จริงแล้วสร้างความกดดันอย่างมาก ข้ารู้สึกว่าต่อให้ตนเองโตกว่านี้อีกสักยี่สิบปี ก็อาจจะตอบไม่ได้ครบทั้งหมด มิใช่ว่าทุกคนจะฉลาดปราดเปรื่องเช่นท่าน"
พูดมาถึงตรงนี้ นางก็รีบหันกลับไป "พี่สาว ท่านลองดูสิ ข้าคิดว่าคนฉลาดอย่างท่านน่าจะรับมือได้ไม่มีปัญหา"
อิ้งเยว่ยิ้มน้อยๆ "เช่นนั้นปีหน้าข้าจะมาลองดู"
เฉียวเยว่เดาะลิ้น "โจทย์คำนวณเ่าั้เห็นแล้วขนลุกเลยล่ะ"
อวี้อ๋องยังคงเช็ดมืออยู่ "เอาล่ะ รีบไปทายปริศนาโคมไฟเถอะ แต่ข้าจะแนะนำเ้าสักเื่"
เฉียวเยว่เอียงคอ "อะไรหรือ?"
ในที่สุดอวี้อ๋องก็โยนผ้าเช็ดมือทิ้งไป "ข้าแนะนำให้อย่าเลือกกล่องของขวัญที่เบา และไม่มีเสียงคล้ายเป็กล่องเปล่า หรือกล่องที่หนักเกินไปเหมือนใส่ก้อนหินเอาไว้"
เฉียวเยว่เกาศีรษะ "ทำไมล่ะ? ท่านทราบได้อย่างไร?"
อวี้อ๋องหันไปมองฉีจือโจว ทั้งสองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย "ทายดูสิ"
เฉียวเยว่หัวเราะพรืด "ปล่อยไปตามความรู้สึกใช่หรือไม่?"
อวี้อ๋องทิ้งถ้อยคำไว้หนึ่งประโยคก่อนจะก้าวออกไป "เ้าลองดูได้"
เฉียวเยว่มองตามเงาหลังของเขาไป เห็นคนผู้นี้เดินขึ้นเกี้ยว สามารถนั่งเกี้ยวเวลาเช่นนี้ได้ มีเพียงคนเดียวจริงๆ ผู้คนสัญจรไปมาไม่สะดวกอย่างยิ่ง นั่งในเกี้ยวจะมองเห็นดอกไม้ไฟด้านนอกได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้นการมาปรากฏตัวและการจากไปก็ยังดูเสแสร้งมาก
อยู่ๆ นางก็นึกคำเรียกอย่างหนึ่งขึ้นได้ พลันหัวเราะคิกๆ ออกมา
"มีอันใดหรือ?"
เฉียวเยว่ส่ายหน้า นางพูดได้ด้วยหรือ?
อวี้อ๋องหรงจ้านคู่ควรกับฉายานี้ ท่านอ๋องจอมเสแสร้งแห่งต้าฉี!
เขาเสแสร้งเก่งมากจริงๆ
เฉียวเยว่เกาศีรษะ "พวกเราไปกันเถอะ กวาดให้เรียบถนนไปเลย"
ซูซานหลางมองกล่องขนมที่โรงน้ำชาเจ็ดสมบัติมอบให้ ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย
คณะของพวกเขาเดินกันต่อไป จนท้ายที่สุด เฉียวเยว่เหนื่อยจนแทบสลบ ถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนเอ่ยออกมาอย่างตรงไปตรงมา "ข้าคิดว่าอันอื่นๆ ข้าคงไม่ไหวแล้ว"
ฉีอันพยักหน้า "ข้าก็เหมือนกัน"
ยามนี้ไม่เช้าแล้วจริงๆ
หากเดินไปจนถึงทางแยก อาจจะมีปริศนาโคมไฟอีกบางส่วน แต่เฉียวเยว่รู้สึกว่าพวกเขาก็ตอบได้ไม่น้อยแล้ว ควรแบ่งปันความสุขสำราญให้ผู้อื่นบ้าง
ในที่สุดพวกเขาก็กลับจวน
เฉียวเยว่ให้บ่าวไพร่ถือโคมไฟแล้วนับจำนวน "ข้าตอบถูกยี่สิบเอ็ดข้อ ฉีอันตอบถูกสิบหกข้อ พี่สาว..."
นับไปนับมาก็หันไปมองอิ้งเยว่อย่างเหลือเชื่อ
"หนึ่งร้อยสิบเจ็ดข้อ?"
เฉียวเยว่กับฉีอันกอดกันะโโลดเต้น "เยี่ยมไปเลย เยี่ยมไปเลย พี่สาวเก่งกาจที่สุด"
แม้ว่าจะต้องเลือกของใครของมัน แต่การเปิดของขวัญก็เป็สิ่งที่น่าสนุกที่สุดมิใช่หรือ
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังสามารถแลกเปลี่ยนกันเองได้ด้วย
เห็นเด็กๆ เล่นกันอย่างสนุกสนาน ทุกคนก็มีความสุขตามไปด้วย ได้ยินว่าเรือนสามได้โคมไฟมาเต็มเรือน มีเป็ร้อยกว่าดวง แม้แต่ท่านโหวกับฮูหยินผู้เฒ่าต่างก็ยังมาดู ทั้งสองถึงขั้นถอนหายใจ "จะอลังการเกินไปแล้ว ล้วนเป็ของที่พวกเ้าสามคนตอบถูกทั้งหมดเลยหรือ?"
เฉียวเยว่พยักหน้า "ใช่แล้ว ใช่แล้ว พวกเราไม่มีผู้ช่วยเลยด้วย ส่วนใหญ่พี่สาวจะตอบถูก แต่ข้ากับฉีอันก็พยายามเต็มที่เหมือนกัน"
ท่านโหวผู้เฒ่าถอนหายใจ "เด็กๆ เรือนของพวกเ้าเฉลียวฉลาดที่สุด เหมือนซานหลางตอนเป็เด็กจริงๆ ข้าจำได้ตอนนั้นเขาเฉลียวมีไหวพริบมาก ใครเห็นใครก็ชอบ"
อาจารย์ฉีพยักหน้า "ข้าต้องตาความเฉียบแหลมของเขานี่แหละถึงได้รับเป็ศิษย์ หลายปีผ่านไป ข้าไม่เคยมองคนพลาด ศิษย์ของข้าแต่ละคนล้วนไม่ทำให้ข้าผิดหวัง"
เฉียวเยว่ชูมือขึ้น "ท่านตา ท่านตา นับข้าด้วยหรือไม่?"
"เ้ายังไม่นับ เ้าเป็หลานสาวสายนอกของข้า" อาจารย์ฉีหัวเราะ
เฉียวเยว่ทำปากยื่น "ข้าอยากให้นับนี่นา ข้าจะได้เอาเปรียบท่านพ่อท่านแม่ง่ายขึ้น ข้าจะบอกว่าตนเองเป็ศิษย์น้อง พวกเขาจะได้ไม่สามารถตีก้นน้อยๆ ของข้าตามอำเภอใจอีก"
ที่แท้ก็แอบมีแผนการในใจเช่นนี้อยู่นี่เอง อาจารย์ฉีอมยิ้ม "เช่นนั้นข้าคงไม่อาจรับเ้าเป็ศิษย์ได้แล้วล่ะ จะได้ไม่ไปรังแกบิดามารดาตนเอง บิดาเ้าแม้ว่าจะฉลาดปราดเปรื่อง แต่เขาเป็คนไม่ค่อยยืดหยุ่นมากนัก เถรตรงเกินไป ส่วนมารดาเ้าก็อ่อนโยนนุ่มนิ่ม ถึงข้าจะรักเ้า แต่ไม่อาจให้เ้าเอาเปรียบพวกเขาเหมือนกัน"
เฉียวเยว่ปิดหน้า "ท่านตารังแกข้า..."
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะก็ดังไปทั้งเรือน
แต่ไม่นานเฉียวเยว่ก็รีบเอ่ยถาม "ท่านตาเ้าคะ พวกเราจะไปเลือกของขวัญกันเมื่อไร ข้าอยากไปเลือกของขวัญมากเลย"
"พรุ่งนี้แล้วกัน พรุ่งนี้เช้าข้าจะให้ลุงของเ้ามารับไปเลือกของขวัญ วันนี้ดึกแล้ว พักผ่อนเร็วหน่อยดีหรือไม่?"
เฉียวเยว่บีบมือน้อยๆ ของตนเองพลางพยักหน้า "ดีเ้าค่ะ"
ฉีอัน "ข้าอยากให้ตอนนี้เป็พรุ่งนี้เช้าเลย"
"เช่นนั้นเ้าก็ควรรีบกลับห้อง เตรียมตัวพักผ่อน พอตื่นขึ้นมาก็พรุ่งนี้เช้าพอดี เร็วมากๆ" ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม
"ข้าจะไปนอนเดี๋ยวนี้เลย" ฉีอันตอบทันที
อาจารย์ฉีพยักหน้า "เอาล่ะ พวกเราก็กลับกันก่อน พวกเ้านอนเร็วหน่อย พรุ่งนี้ค่อยมารับพวกเ้าไป"
หลังจากนั้นก็อำลาท่านโหวกับฮูหยินผู้เฒ่า
ท่านโหวกับฮูหยินผู้เฒ่าเห็นว่าดึกแล้ว ไม่อยากให้เด็กๆ เสียเวลาพักผ่อนจึงรีบกลับไป
ซูซานหลางจูงฉีอันกลับห้อง ส่วนไท่ไท่สามก็ดูแลเฉียวเยว่ ขณะอาบน้ำให้ก็ถามขึ้นว่า "เฉียวเยว่เล่นพวกกลเก้าห่วงเ่าั้เป็ได้อย่างไร?"
จุดนี้ทำให้คนนึกไม่ถึงจริงๆ เฉียวเยว่หัวเราะคิกคัก "แค่จับๆ ดูหน่อยก็เข้าใจแล้ว ไม่เห็นยากเลย"
ไท่ไท่สามถอนหายใจ "เฉียวเยว่ฉลาดจริงๆ"
เฉียวเยว่อ้าปากหาวหวอด "ท่านแม่ ข้าง่วงแล้ว"
"ได้ ได้ ได้ อาบน้ำเสร็จก็รีบเข้านอน ดูพวกเ้าแต่ละคนรีบร้อนจะไปเปิดของขวัญกันแทบไม่ไหว"
เฉียวเยว่ปรบมือ "ต้องรีบสิเ้าคะ แต่ไหนแต่ไรมาข้าไม่เคยได้ของขวัญเยอะเท่านี้มาก่อนเลย"
ไท่ไท่สามเช็ดผมของนางจนแห้งแล้วอุ้มไปที่เตียง หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็เอ่ยว่า "นอนเถอะ"
ดวงตะวันยามเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นสว่างสดใส เฉียวเยว่ตื่นแต่เช้าเปลี่ยนอาภรณ์เรียบร้อย ฉีอันก็เตรียมตัวแต่เช้าเช่นเดียวกัน พวกเขาตื่นั้แ่ฟ้าสางโดยไม่ต้องปลุก
ฉีจือโจวยังมาไม่ถึง สองพี่น้องกินข้าวเสร็จก็มานั่งแกว่งเท้าไปมารออยู่บนเก้าอี้อย่างใจร้อน
เห็นฉีอันลุกลี้ลุกลน เฉียวเยว่ก็กวักมือเรียกให้เขามาข้างๆ ตนเอง แล้วกดเสียงกระซิบถาม "ฉีอัน เ้าอยากเรียนกลเก้าห่วงกับสลักไม้ขงเบ้งหรือไม่?
ฉีอันเพิ่งรู้เมื่อวานว่าเฉียวเยว่เล่นของเ่าั้เป็ เขาเบิกตากว้างถามว่า "ข้าเรียนได้ด้วยหรือ?"
เฉียวเยว่พยักหน้า "ย่อมได้สิ เ้าก็ฉลาดมาก พวกเราเป็ฝาแฝดกัน ไอคิวจะต่างกันมากได้อย่างไร"
ฉีอันไม่ค่อยเข้าใจที่นางพูดเท่าไร แต่ดูจากสีหน้าของเฉียวเยว่ คงไม่ยากที่จะเรียนรู้กระมัง
เขารีบพยักหน้า "ข้าอยากเรียน ข้าอยากเรียน"
เฉียวเยว่ยิ้มอย่างพึงพอใจ "เ้าอยากเรียนก็ดี เอาไว้พวกเราแกะของขวัญเสร็จ ข้าจะสอนเ้า"
ฉีอันเบิกบานใจยิ่ง "เช่นนั้นข้าก็ออกไปโอ้อวดได้แล้วสิ?"
เฉียวเยว่ "โอ้อวด?"
ฉีอัน "ก็เหมือนอย่างอวี้อ๋องอย่างไรเล่า โดดเด่นสะดุดตามากเลย"
เฉียวเยว่ "สะดุดตา?"
ฉีอัน "เ้าไม่รู้สึกว่าเขาสง่างามมากเลยหรือ?"
เฉียวเยว่กุมหน้าผาก "พวกเราไม่เลียนแบบเขาดีหรือไม่? แบบนั้นมัน... สุดจะบรรยายให้หมดในคำเดียว"
ฉีอันทำสีหน้างุนงง
เฉียวเยว่ถอนหายใจเงียบๆ ฟันส่วนที่หลอเริ่มเห็นหัวผุดขึ้นมาเล็กน้อย ฟันใหม่กำลังจะงอกออกมาอย่างแข็งแรง แต่มักทำให้รู้สึกอยากกินอะไรอยู่เรื่อย
"เหตุใดท่านลุงยังไม่มาอีกนะ ข้าชักอยากกินขึ้นมาแล้วสิ"
"เฉียวเยว่อยากกินอะไร?"
ฉีจือโจวเดินเข้าประตูมา พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนจางบนมุมปาก
ไท่ไท่สามเดินตามอยู่ด้านหลังของเขา "ท่านลุงมารับแล้ว พวกเ้าไปเถอะ"
เด็กน้อยสองคนตื่นเช้าอย่างไม่น่าเชื่อ
ฉีจือโจวจูงมือเฉียวเยว่กับฉีอันซ้ายคนขวาคนพาไปขึ้นรถม้า
เมื่อมาถึงจวนสกุลฉี เฉียวเยว่ปรบมือด้วยความดีใจ "ช่างดียิ่ง นี่เป็ครั้งแรกเลยที่ได้ของขวัญเยอะขนาดนี้"
อาจารย์ฉียิ้มน้อยๆ "พวกเ้าเลือกก่อนคนละชิ้น หลังจากนั้นค่อยเริ่มอีกรอบ เข้าใจหรือไม่?"
ทุกคนพยักหน้า "เข้าใจขอรับ/ เ้าค่ะ"
"เอาล่ะ เล่นทายนิ้ว [1] กันเถอะ ใครชนะได้เริ่มก่อน"
ฉีอันหัวเราะ "เช่นนั้นเฉียวเยว่ต้องได้เป็คนสุดท้ายแน่ๆ นางไม่ค่อยมีโชคในการเล่นทายนิ้ว เล่นทีไรแพ้ทุกที"
เฉียวเยว่ทำหน้าขื่นขม ต้องมาเปิดโปงนางในเวลาแบบนี้ด้วยหรือ
แล้วก็เป็ดังคาด ฉีอันชนะคนแรก
"ข้ากับเฉียวเยว่ไม่ค่อยมีโชคเื่ทายนิ้ว ให้นางที่สอง ข้าที่สามแล้วกัน อย่างไรเสียข้าก็ได้เลือกเยอะกว่าอยู่แล้ว" อิ้งเยว่กล่าวเสียงเรียบ
เฉียวเยว่รู้สึกเหมือนถูกกระบี่เสียบเข้าอีกที
อาจารย์ฉีพยักหน้าตอบ "ได้"
ฉีอันมองกล่องในห้องพลางถูมือ ไม่รู้จะเลือกชิ้นไหนดี เขาหันกลับมายิ้ม "ไม่ว่าจะมองกล่องไหนก็รู้สึกเหมือนว่าข้างในจะมีของล้ำค่าที่ยอดเยี่ยมมาก"
เฉียวเยว่ "เลือกชิ้นที่เ้าคิดว่าดูดีที่สุด"
ฉีอันเอามือไพล่หลังเดินวนไปวนมาอยู่ครู่ใหญ่ ในที่สุดก็เลือกมาหนึ่งชิ้นอย่างยากเย็น "ข้าเลือกมัน"
เฉียวเยว่เป็คนที่สอง นางก้าวเข้าไปอย่างสับสน ก่อนจะชี้ไปโดยตรง "เอาอันนี้ดีกว่า ข้าอยากได้อันใหญ่ที่สุด ย่อมต้องเลือกชิ้นใหญ่สุด"
นางยกกล่องใบใหญ่ที่สุดขึ้นมา ปรากฏว่าไม่หนักมากอย่างที่คาดไว้
แต่ก็หาได้นำพา กล่องใบใหญ่สูงกว่าตัวนางเสียอีก เฉียวเยว่ทำสีหน้าว่าข้ารู้ "ในนี้จะต้องเป็ของที่ดีที่สุดแน่นอนเลย"
ฉีอันหัวเราะเยาะ "ไม่เชื่อหรอก ของของเ้าดูกลวงๆ เปล่าๆ ไม่มีอะไรเลย ของข้าสิถึงจะดีกว่า"
เฉียวเยว่ทำไม่แยแส "ทำไมเ้าพูดมากจัง"
ฉีอัน "ฮ่าๆ"
"ต่อๆๆ"
...
[1] เกมทายนิ้ว หรือ“ไชฉวน” (猜拳 เสียงจีนกลาง) โดยผู้เล่นกำหมัดแล้วปล่อยหมัด ชูนิ้วมือเป็สัญลักษณ์แทนตัวเลข เช่น ชูนิ้วหัวแม่มือแทนจำนวน 5 หรือชูนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้แทนจำนวน 8 เป็ต้น ขณะที่ผู้เล่นทั้งสองปล่อยหมัดชูนิ้ว จะต้องทายจำนวนเลขพร้อมกันไปด้วย เมื่อบวกสัญลักษณ์นิ้วของทั้งคู่แล้ว ใครทายถูกก็ชนะ ผู้แพ้ต้องถูกปรับ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้