“ทำกระไรของเ้าน่ะหลินกุ้ยฮวา?” ขณะที่อาหารกำลังถูกยกออกมา หลิวซื่อ ท่านป้าจากบ้านหวางตวาดเสียงดังเพราะเห็นหลินกุ้ยฮวากวาดอาหารบนโต๊ะลงในกะละมัง กวาดเกลี้ยงทีเดียวสองโต๊ะ มีกับข้าวโต๊ะละห้าอย่าง
หลิวซื่อเข้าไปดึงหลินกุ้ยฮวา แต่หลินกุ้ยฮวากลับแสยะยิ้ม “เอาสิ มาจับข้าเลย ไม่กลัวข้าเป็โรคก็เข้ามาเลย”
เื่ของนางกับหลินฉินแพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้าน ทุกคนต่างบอกว่านางกับหลินฉินอาจติดโรคสกปรก
เมื่อนางพูดเช่นนี้ คนที่อยู่ใกล้ย่อมพากันถอยห่างเสียหมด
หลิวซื่อผงะเช่นกัน หลินกุ้ยฮวาเห็นดังนั้นก็หันไปเทกับข้าวต่อ ไม่ลืมที่จะหันมาถ่มน้ำลายใส่หลิวซื่อ
หลินกุ้ยฮวาพูดเสียงดังว่า “หลินฉิน เ้ามัวทำกระไรอยู่ ยังไม่รีบมาขนกับข้าวอีก นี่เป็กับข้าวบ้านน้าเล็กของเ้า นางเป็คนทำให้พวกเราถูกย่ำยีในห้องขัง นางติดค้างพวกเรา!”
หลินฉินได้ยินดังนั้นก็รีบถือกะละมังเข้ามาเทกับข้าว พวกนางสองคนก่อความวุ่นวาย ชาวบ้านที่งานจึงไม่กล้ายกกับข้าวมาที่โต๊ะอีก
สวี่ซื่อมองหลินหวั่นชิวอย่างได้ใจ นังตัวดี คิดจะตัดขาดจากครอบครัวใช่หรือไม่ เหอะ ทีนี้เ้าได้ขายหน้าแน่
เหล่าหลินยืนเงียบอยู่หน้าประตูและไม่เข้ามานั่งเช่นกัน ทำเหมือนไม่เห็นพฤติกรรมของหลินกุ้ยฮวากับหลินฉิน
จังหวะที่เจียงหงหย่วนถลกแขนเสื้อ หลินหวั่นชิวรีบเข้ามาห้าม นางไม่อยากให้มือสามีตัวเองต้องสกปรก
จากนั้น หลินหวั่นชิวยกเก้าอี้หนึ่งตัว เหวี่ยงไปทางเอวหลินกุ้ยฮวา
“โอ๊ย…” หลินกุ้ยฮวาส่งเสียงร้องและเซถอยไปสองก้าว กะละมังไม้ในมือถูกเจียงหงหย่วงแย่งไปทันที
“โอ๊ย…” เก้าอี้อีกตัวชนใส่หลินฉิน ขณะเดียวกันเจียงหงหย่วนก็ใช้มืออีกข้างแย่งกะละมังจากมือนาง
“จบงานแล้วทุกท่านนำอาหารสองกะละมังนี้กลับไปให้สุนัขทานเถิด อาหารถูกคนสกปรกทำให้ปนเปื้อนไปแล้ว ไม่สะอาด กินแล้วกลัวพวกท่านจะไม่สบาย”
หลินหวั่นชิวเหมือนมองไม่เห็นหลินกุ้ยฮวากับหลินฉินที่เจ็บจนดีดดิ้นอยู่บนพื้นอย่างไรอย่างนั้น ชี้กะละมังสองใบที่อยู่ในมือเจียงหงหย่วนพร้อมกับพูดกับชาวบ้าน
เหล่าชาวบ้านมองสองสามีภรรยาคู่นี้ตาค้างปากค้าง…แม่เ้า เจียงหงหย่วนคนนี้ไม่ได้โหดแค่คนเดียว…แต่ยังสอนให้ภรรยาตัวเองโหดตามไปด้วย
บอกว่าจะจัดการก็จัดการเลย ไม่เสียเวลาแม้แต่นิดเดียว
ไหนจะพละกำลังนั่นอีก ทั้งที่ดูเป็ฟู่เหรินบอบบางแต่กลับแรงเยอะมาก ถึงกับผลักคนกระเด็น
ทว่าเมื่อก่อนนางต้องทำงานในบ้านหลินด้วยตัวคนเดียว จะแรงเยอะก็ดูสมเหตุสมผลอยู่ แต่นายพรานเจียง…ยกกะละมังที่มีอาหารอยู่เต็มไปด้วยมือข้างเดียว…ทุกคนได้ประจักษ์ในพละกำลังและความว่องไวด้วยตาของตัวเอง…ไม่แปลกเลยที่ล่าเสือได้!
สองสามีภรรยาคู่นี้…
อย่ามีเื่ด้วยจะดีกว่า
“นังลูกเวรนี่กล้าทำร้ายพี่สาวกับหลานสาวตัวเองหรือ?” สวี่ซื่อกางเล็บตะปบมาทางหลินหวั่นชิวทันที นางเป็แม่ของหลินหวั่นชิว ถึงจะตีลูกสาวย่อมไม่มีผู้ใดว่ากระไรได้ แต่หากหลินหวั่นชิวกล้าตีนาง เช่นนั้นนางมีข้ออ้างให้ไปฟ้องหยาเหมินได้พอดี
ผลลัพธ์
เจียงหงหย่วนยกเท้าถีบนางกระเด็นออกจากบ้าน
กระเด็นไปล้มลงที่ปลายเท้าของเหล่าหลินพอดี
สวี่ซื่อร้องราวกับหมูที่ถูกเชือด เหล่าหลินโมโหจนตัวสั่น หลินซย่าจื้อกลัวเจียงหงหย่วน ความทรงจำที่ถูกบี้หน้ากับมูลวัวเป็เหมือนฝันร้ายในชีวิตนาง
นางหลบไปอยู่ไกลๆ ั้แ่เห็นเจียงหงหย่วน ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปช่วยประคองสวี่ซื่อ
“พวกเ้า…นี่มันอกตัญญู ต้องโดนฟ้าผ่า!” หลินฟาไฉไม่กล้าด่าเจียงหงหย่วน กล้าด่าแค่หลินหวั่นชิว
หลินหวั่นชิวพูดอย่างน่าสงสาร “ท่านพ่อ ท่านเข้าใจข้ากับหย่วนเกอผิดแล้วเ้าค่ะ ลูกจะกล้าอกตัญญูได้เยี่ยงไร แต่เอ้อร์เจี่ยพูดเองว่านางกับนังหนูฉินป่วยเป็โรคสกปรก ผู้ใดเข้าใกล้จะป่วยตาม ดังนั้นแล้วพวกข้าจะกล้าให้พวกท่านเข้ามาได้อย่างไร? วันนี้ลุงป้าน้าอาทั้งหมู่บ้านมากันหมด จะปล่อยให้ทุกคนติดโรคกันหมดไม่ได้ หย่วนเกอกับข้าจึงจำเป็ต้องทำเช่นนั้น ให้พวกท่านเข้าใกล้ไม่ได้จริงๆ เอ้อร์เจี่ยกับนังหนูฉินป่วยเป็โรคสกปรก พวกท่านอยู่ด้วยกันทุกวัน ผู้ใดจะรู้ว่าท่านกับท่านแม่ติดไปด้วยหรือไม่… ทุกท่านว่าข้าพูดถูกหรือไม่? หากรู้สึกว่าข้าพูดผิด ข้าก็ยินดีขอโทษและเชิญพวกท่านเข้าไปนั่ง”
เดิมทีมีชาวบ้านหลายคนรู้สึกว่าหลินหวั่นชิวกับเจียงหงหย่วนไม่ควรทำร้ายคนบ้านหลิน ถึงอย่างไรก็เป็ครอบครัวฝ่ายแม่ พ่อแม่พี่สาวมาขนกับข้าวมันผิดหรืออย่างไร? มิหนำซ้ำยังลงมือตอบโต้
แต่เมื่อได้ยินหลินหวั่นชิวพูดเช่นนี้ พวกเขากลับรู้สึกว่าที่นางพูดมีเหตุผล
เวลาเื่ไม่เกี่ยวกับตัวเองจึงไม่ใส่ใจ แต่ตอนนี้การอยู่หรือไปของคนบ้านหลินเกี่ยวข้องมาถึงผลประโยชน์ของตัวเองแล้ว เช่นนั้นเื่นี้ก็เกี่ยวข้องกับพวกเขา
หลินกุ้ยฮวาพูดเองว่าตัวเองเป็โรคสกปรก หากพวกนางอยู่ต่อ ผู้ใดรจะกล้าร่วมงานเลี้ยงอีกเล่า
อาหารเลิศรสขนาดนี้…
ไม่มีผู้ใดยอมทั้งนั้น!
“ใช่ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองเป็โรคแต่ก็ยังมา พวกเ้าทำเช่นนี้ก็ไม่ถูก”
“เหล่าหลิน พวกเ้ากลับไปเสียเถิด ประเดี๋ยวค่อยให้ลูกสาวคนเล็กส่งอาหารไปให้”
“นี่ก็มีอยู่สองกะละมังไม่ใช่หรือ นายพรานเจียง พวกข้าไม่เอากลับไปให้สุนัขดีกว่า เ้าให้คนบ้านหลินเอากลับไปกินเถิด”
“กู่เหล่าเอ้อร์ เ้าคนบัดซบ กล้าด่าข้าว่าเป็สุนัขหรือ!” สวี่ซื่อลุกขึ้นชี้หน้าด่าชาวบ้านคนหนึ่งหลังจากที่หายเจ็บ
เรียกเสียงหัวเราะครืนใหญ่จากทุกคน
ใบหน้าเหล่าหลินเปลี่ยนสีสลับกันระหว่างสีเขียวกับสีซีด
เขาทำตาขวางใส่หลินหวั่นชิว พร้อมกับตวาดสวี่ซื่อว่า “โวยวายกระไร ยังไม่รีบไสหัวกลับไปอีก!”
“เ้าก็ด้วย แค่เผยอปากก็พ่นมูลออกมา ถ้าเ้าเป็โรคก็ไสหัวออกจากบ้านหลินไป!”
“ข้าไม่ได้เป็โรค ข้าแค่ขู่ให้พวกเขากลัว ข้าไม่กลับ ข้าจะร่วมงานเลี้ยง ข้าไม่ได้เป็โรค!” หลินกุ้ยฮวาโวยวาย หลินฉินลุกขึ้นร้องไห้ นางไม่อยากกลับเช่นกัน
“ไม่ได้เป็โรค แค่พวกเ้าบอกว่าไม่เป็ก็ไม่เป็แล้วหรือ!”
“นั่นน่ะสิ โดนเล่นจนพังแล้วโยนออกมาเช่นนี้ บอกว่าไม่ติดโรค…ผู้ใดจะไปเชื่อ”
“รีบกลับไปเถิด…ป่วยไม่ป่วยก็อย่ามัวขายหน้าอยู่ที่นี่อีกเลย”
ชาวบ้านพากันขับไล่ แต่หลินกุ้ยฮวากับหลินฉินไม่ขยับเขยื้อน
จังหวะนี้เองที่สวีฝูออกโรงแล้ว เขาขมวดคิ้วพูดว่า “ยังไม่รีบไปอีก จะรอให้ชาวบ้านจับพวกเ้าถ่วงน้ำหรือ?”
บอกตามตรง หากไม่ใช่เพราะสวีฝูอยากเก็บหลินกุ้ยฮวากับหลินฉินไว้เป็ตัวถ่วงบ้านหลิน พวกนางก็มีคุณสมบัติให้จับถ่วงน้ำ
บ้านหลินมีแต่คนโง่ จะปล่อยให้พวกเขาทำให้ตัวเองเสียเื่ไม่ได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้