หลังจากกลับไป เซียวเฉินมีสีหน้าขาวซีด
นี่คือการได้รับาเ็ครั้งแรกของเขาในการประลองห้าสถานศึกษา ถูกผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนเต๋าระดับสูงสุดทำร้าย
แต่เขามีคัมภีร์หงสาานิรวาณอยู่กับตัว พลังการฟื้นฟูแข็งแกร่งมาก ดังนั้น ขอเพียงไม่ใช่อาการาเ็ถึงชีวิต วันเดียวก็แทบฟื้นฟูได้โดยสมบูรณ์
บวกกับตำแหน่งผู้ผ่านเข้ารอบสิบคนของเขามั่นคงแล้ว
ไม่มีอะไรต้องเป็ห่วง
เห็นเซียวเฉินกลับมา มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ก็อยากจะก้าวไปหา แต่คิดถึงอะไรบางอย่างจึงฝืนใจยั้งฝีเท้าไว้
แต่ยังมีสีหน้าเป็ห่วง ถึงขั้นตื่นตระหนก
ขณะที่นางลังเลอยู่นั้น ในสมองก็ปรากฏภาพตอนเสิ่นเล่ยถูกหยางชางหลันทำร้ายแล้วเซียวเฉินเหินกายขึ้นไปรับไว้ อีกทั้งเมื่อครู่เซียวเฉินระบุว่าจะสู้กับหยางชางหลันและทำให้เขาพิการ และเป็ศัตรูกับผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนเต๋าโดยไม่เสียดาย...
คิดถึงตรงนี้ มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ก็อึดอัดไม่สบายใจ
รู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก
นางถึงขั้นไม่รู้ว่าทำไมจึงถูกเด็กหนุ่มตรงเบื้องหน้าดึงดูด
“เป็อย่างไรบ้าง?” ซูเฉินเทียนและเซียวหวงเดินมาถึงข้างกายเซียวเฉินแล้วส่งเสียงถาม
เซียวเฉินส่ายศีรษะ
“พี่ใหญ่เซียว ศิษย์พี่ซู ข้าไม่เป็ไร แค่าเ็เล็กน้อยเท่านั้น”
เซียวหวงมีสีหน้าไม่น่าดู
แววตาฉายความเคร่งขรึม “เซียวเฉิน เมื่อวานเ้ารับปากข้าไว้ว่าอย่างไร? เ้าลืมแล้วหรือ?” ว่าแล้วก็สบตาเซียวเฉินตรงๆ อย่างโกรธเกรี้ยว หากมิใช่ฮ่องเต้ห้ามไว้ เกรงว่าเซียวเฉินคงไม่มีชีวิตมายืนสนทนากับพวกเขาอยู่ตรงนี้
คิดถึงตรงนี้ แววตาของเซียวหวงยิ่งลึกล้ำ
เขามีสหายในสถานศึกษาชางหวงไม่กี่คน พวกเซียวเฉินถือเป็สหายที่เขาคบหา เขาจะมองดูสหายเกิดเื่โดยไม่สนใจได้อย่างไร แต่หากพวกเขาออกไป ไม่ต้องเอ่ยว่าสู้กู่อวี้ไม่ได้ หากพากันไปตายทั้งสถานศึกษาชางหวงจะว่าอย่างไร? แล้วการประลองห้าสถานศึกษาในครั้งนี้จะทำอย่างไร?
เขาเป็ศิษย์พี่ ย่อมถือสถานการณ์ใหญ่เป็สำคัญ!
เซียวเฉินรู้สึกได้ถึงความจริงจังของเซียวหวงก็มีสีหน้ารู้สึกผิด “ศิษย์พี่เซียว ศิษย์พี่ซู ทำให้พวกท่านเป็ห่วงแล้ว”
ซูเฉินเทียนมองเซียวเฉินแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างมีนัย “คนเป็ห่วงไม่ได้มีเพียงพวกเรา”
เซียวเฉินอึ้ง มองมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์หลบสายตาเซียวเฉิน “ข้าจะไปดูเสิ่นเล่ย” เอ่ยจบก็หันกายจากไป
“ทำไมเชี่ยนเอ๋อร์ดูแปลกๆ...” เซียวเฉินพึมพำ
เซียวหวงและซูเฉินเทียนสบตากันแล้วยิ้มโดยไม่เอ่ยวาจา
...
ในการประลองแบบแพ้คัดทิ้งเอาผู้เข้ารอบสิบห้าคน เซียวเฉินใช้ศึกเดียวสร้างชื่อ เป็คนแรกที่หลุดจากสิบห้าคนเข้ารอบสิบคน
จากนั้น เนี่ยอวิ๋นเหอจากสถานศึกษาเซิ่งเต้าก็ท้าสู้จ้าวอวิ๋นฮุยจากสถานศึกษาตี้ซิง ไม่ถึงสิบนาที จ้าวอวิ๋นฮุยก็แพ้ราบคาบ เนี่ยอวิ๋นเหอใช้ความสามารถแข็งแกร่งและพร์ล้ำเลิศเข้าสู่รอบสิบคนต่อจากเซียวเฉิน
ในรอบสิบคน เซียวเฉินสบตากับเนี่ยอวิ๋นเหอ มีประกายไฟกระเด็นรอบด้าน
“พี่ใหญ่ ไม่ได้เจอกันเสียนาน เ้าเปลี่ยนไปมากทีเดียว” เนี่ยอวิ๋นเหอเอ่ยปากก่อน
“หากข้าไม่เปลี่ยนก็คงตายอยู่หน้าหลุมศพท่านแม่ของข้าไปนานแล้ว” เซียวเฉินยิ้มเย็น เื่ที่เ้าทำก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ไยต้องมาเสแสร้งตรงนี้ด้วย ทำให้คนสะอิดสะเอียน
“แล้วบัญชีที่พี่ใหญ่ฆ่าล้างตระกูลเนี่ยจะคิดกันอย่างไร?”
เนี่ยอวิ๋นเหอไม่ได้มองเซียวเฉิน เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับกำลังพูดถึงเื่ทั่วไป แต่ในอากาศกลับมีความกดดันแผ่ออกมาจางๆ เซียวเฉินไม่เกรงกลัวและยังคงเฉยชาดังเดิม
“ตระกูลเนี่ยปฏิบัติกับพวกเราแม่ลูกเช่นนี้มาสิบหกปี ข้าสังหารล้างตระกูลเนี่ยแล้วอย่างไร? พวกเขาสมควรได้รับโทษแล้ว ลืมบอกเ้าไป ตอนนั้นแม่เ้าทำร้ายแม่ข้าจนตาย ข้าเลยสังหารนาง” เซียวเฉินเอ่ยจบ เนี่ยอวิ๋นเหอพลันกำหมัดแน่น ดวงตาเปี่ยมโทสะ
ริ้วสีเืค่อยๆ แผ่ขยายเต็มดวงตา
เซียวเฉินยิ้มกล่าวว่า “เนี่ยอวิ๋นเหอ สมน้ำหน้า!”
“ตอนพวกเ้าแม่ลูกทำร้ายท่านแม่ของข้าจนตาย เคยคิดว่าจะมีวันนี้หรือไม่? ข้าแก้แค้นแทนท่านแม่แล้ว แต่ข้ายังจำตอนที่เ้าทำเถ้ากระดูกของท่านแม่ร่วงได้ดี เ้ายังจำคำพูดที่ข้ากล่าวได้หรือไม่? วันหน้าข้าเซียวเฉินต้องสังหารเ้า!”
เนี่ยอวิ๋นเหอยิ้ม
เขามองเซียวเฉินแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงดูแคลน “ข้าจะรอเ้า แล้วข้าก็จะแก้แค้นแทนท่านแม่ของข้า สังหารเ้าด้วยมือของข้าเอง!”
คนทั้งสองต่างเป็ศัตรูสังหารมารดา ดวงชะตากำหนดมาแล้วว่าต้องต่อสู้กัน!
มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะรอดชีวิตได้!
ในใจของเนี่ยอวิ๋นเหอมีเจตนาสังหารเซียวเฉินไร้ขีดจำกัด ั้แ่เล็กก็แค้นเข้ากระดูก ตอนนี้ยังเป็เช่นเดิม บุญคุณความแค้นของพวกเขาจะจบลงในการประลองห้าสถานศึกษาครั้งนี้
ต่อสู้ตัดสินเป็ตาย!
ยามนี้ บนเวทีประลองมีการต่อสู้ผ่านไปหลายครั้งแล้ว
เซียวหวงและซูเฉินเทียนจากสถานศึกษาชางหวงเข้ารอบสิบคน เดิมทีเสิ่นเล่ยมีโอกาสเข้ารอบสิบคน แต่กลับถูกหยางชางหลันทำร้ายจนได้รับาเ็สาหัส ดังนั้น เข้ารอบสิบคนแล้วก็ต้องประกาศถอนตัว ถัดมาเป็ฉินเหยาและไป๋รั่วเผิงจากสถานศึกษาตี้ซิงที่เข้ารอบสิบคน เฟิงซั่งเยี่ย จีเคอ และโม่อู๋จี๋จากสถานศึกษาเซิ่งเต้าก็เข้ารอบสิบคนเช่นกัน
ตอนนี้ ผู้เข้ารอบสิบคนมีเพียงเก้าคน
ทุกคนมีเวลาพักผ่อนหนึ่งคืน พรุ่งนี้ สิบคนดวลกันชิงสามอันดับแรก!
ณ ที่พักของสถานศึกษาชางหวง หลังเซียวเฉินกลับมาก็ปิดประตูอยู่แต่ในห้อง ส่วนเสิ่นเล่ยาเ็จึงพักผ่อนเร็วหน่อย เซียวหวงและซูเฉินเทียนกำลังฝึกวิชาเพื่อเตรียมตัวต่อสู้ในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ในที่พักของสถานศึกษาชางหวงเหลือเพียงมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์คนเดียว เวลาล่วงผ่านไปหนึ่งวันโดยไม่รู้ตัว
ล่วงเข้ายามราตรี นภาหมื่นหลี่ไร้เมฆา จันทร์กระจ่างลอยกลางฟ้า
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์เดินช้าๆ อยู่ในลานเรือน ชุดสีขาวทั่วร่างขับเน้นความงามของนางประหนึ่งภูติพรายใต้แสงจันทรา
ในขณะเดียวกัน เซียวเฉินที่ปิดประตูห้องอยู่หนึ่งวันก็เดินออกมา
เซียวเฉินในเวลานี้มีสายตาแน่วแน่
แต่ยังมีสีหน้าโศกศัลย์จางๆ
ไม่เหมือนตัวเขาที่สง่างามไร้การยึดติดก่อนหน้านี้เลย
จากนั้นก็ร่ายรำกระบี่ตามลำพังใต้แสงจันทร์ เจตจำนงกระบี่ทั้งหมดสะอื้นไห้เหมือนย้อมด้วยความเศร้า
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ชะงักฝีเท้าหยุดยืนมองและรู้สึกได้ถึงความเสียใจจางๆ
“เซียวเฉิน...” มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ส่งเสียง
กระบี่ในมือของเซียวเฉินชะงัก เขาไม่ได้หันหน้ากลับไป เพราะดวงตาของเขาในยามนี้มีน้ำตาคลอ เขาไม่คิดจะให้คนอื่นเห็นสภาพตอนเขาหลั่งน้ำตา
“ดึกดื่นป่านนี้แล้ว เ้ายังไม่ไปพักผ่อนอีกหรือ...” น้ำเสียงของเซียวเฉินแหบเครือและสั่นนิดๆ
“แล้วเ้าเล่า? เหตุใดจึงร่ายรำกระบี่ตามลำพัง มีความในใจหรือ?” น้ำเสียงของมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์อ่อนโยน ทำให้เซียวเฉินเหม่อลอยนิดๆ ราวกับว่าตรงเบื้องหน้ามีรอยยิ้มของท่านแม่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาอยากจมดิ่งอยู่ในนั้นโดยไม่คิดจะถอนตัว เพราะเขาในเวลานี้เหน็ดเหนื่อยเกินไป
เขาไม่รู้ว่าเมื่อใดจึงสามารถหลุดพ้น
และไม่รู้ว่าจะหลุดพ้นอย่างไร…
ความคิดของเซียวเฉินกลับสู่ความเป็จริงอีกครั้ง เขารู้สึกว่าด้านหลังมีร่างอ่อนนุ่มแนบลงมา ทำให้เขาใสุดขีด จากนั้นก็มีมือเรียวงามสองข้างกอดเอวของเขาไว้
“เชี่ยนเอ๋อร์ เ้า...”
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์แนบใบหน้าบนแผ่นหลังของเซียวเฉิน เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่หนักแน่น “เซียวเฉิน ข้าอยู่ข้างกายเ้านะ...”
ประโยคเดียวกระแทกเข้าที่กลางใจของเซียวเฉิน ทำให้เขาอบอุ่นหัวใจ
แต่เมื่อเซียวเฉินรู้สึกได้ มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ก็คลายอ้อมกอดแล้ว นางมองเซียวเฉินพลางยิ้มกล่าว “เด็กน้อย เมื่อครู่ข้าเห็นเ้าอารมณ์ไม่ดีจึงปลอบใจเ้า ให้รางวัลเป็อ้อมกอดแห่งมิตรภาพ เ้าห้ามพูดออกไปล่ะ ดึกแล้วข้าไปนอนก่อน พรุ่งนี้ตั้งใจประลองนะ!”
เอ่ยจบ มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ก็หายไปจากเบื้องหน้าของเซียวเฉิน
ใบหน้าของเซียวเฉินเผยรอยยิ้ม
“ขอบใจนะ เชี่ยนเอ๋อร์...”