“พวกเ้าทุกคนต่างหากที่ล้วนแต่อวดดีและไร้ยางอาย อยากเด่นอยากดัง ลวงโลก พวกเ้าก็แค่กบในกะลา” เสียงที่ใสและไพเราะดังขึ้น และในชั่วขณะต่อมา ก็ร่างหนึ่งลงมายืนที่เวทีประลองอย่างแรง จนเวทีประลองที่แข็งแรงยังสั่นะเืไปทั้งเวที!
ฉินหรูเยียนพูดกับหม่าหัวอวิ๋น “ข้าจะโจมตีใส่ม่านพลังแสงสองครั้ง ช่วยจดบันทึกคะแนนที่ได้ของทั้งสองครั้งด้วยนะ!”
พอกล่าวจบ โดยไม่รอให้หม่าหัวอวิ๋นได้ตอบกลับ ปลายเท้าแตะพื้น เรือนร่างอันยาวระหงก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วหมัดที่ดูสง่างามก็กระแทกลงอย่างรุนแรงบนม่านพลังแสงสีเงินนั้น ก่อนที่ตัวเลขจะปรากฏออกมา: ห้าพันหกร้อยเจ็ดสิบสอง
เปลือกตาของเซียวหลิงอวิ๋นกะพริบปริบๆ: พลังกายของเด็กสาวผู้นี้ช่างแข็งแกร่งจริงๆ!
เห็นได้ชัดจากการโจมตีครั้งนี้ว่าฉินหรูเยียนใช้แค่พลังกายล้วนๆ โดยไม่ได้ใช้วิชาิญญาหรือแม้แต่กระบวนท่าใดๆ เลย
ถึงกระนั้นก็ยังเทียบเท่ากับผู้ใช้พลังิญญาขั้นกลางหลายๆ คนที่เปิดขดพลังิญญาได้สี่ขดโดยใช้วิชาิญญาด้วย
“ทุกท่าน พอจะมองเห็นความแตกต่างระหว่างหมัดของข้ากับหมัดของเซียวหลิงอวิ๋นเมื่อสักครู่ออกหรือไม่ ข้าเชื่อว่าหลายๆ คนที่อยู่ ณ ที่นี้คงจะมองออกแล้ว ใช่แล้ว นี่คือการโจมตีธรรมดาของเรา ต่อไปข้าจะใช้การโจมตีที่รุนแรงที่สุดของข้า ให้ทุกท่านได้เห็นถึงความแตกต่าง!” กล่าวจบพลังิญญาของนางก็ไหลเวียนอย่างเต็มที่
แสงสีแดงสดใสพุ่งขึ้นจากเหนือศีรษะของฉินหรูเยียน ในชั่วขณะต่อมา “อ๊องๆ” เสียงร้องอันแสนไพเราะของหงส์เพลิงก็ดังก้องจากบนท้องฟ้า
จนกระทั่งเสียงร้องอันไพเราะของหงส์เพลิงดังขึ้น หลายคนถึงได้รู้สึกตัวและมองดูอย่างใ เห็นว่าบนท้องฟ้าที่สูงลิ่วมีนกตัวเล็กที่งดงามตัวหนึ่งซึ่งโอบล้อมด้วยเปลวเพลิงปรากฏตัวั้แ่เมื่อไรก็ไม่รู้
เด็กสาวผู้นี้ใช้พลังพิเศษทันทีเลยอย่างนั้นหรือ!
ทั้งเซียวหลิงอวิ๋น ผู้าุโสูงสุดทั้งสี่ หม่าหัวอวิ๋น รวมถึงบรรดาผู้าุโของสำนักที่เฝ้าดูการดำเนินไปของสถานการณ์ รวมถึงผู้ดูแลยอดเขาต่างๆ ของสำนักชั้นใน ต่างก็พากันใถ้วนหน้า
เพราะแม้แต่พวกเขาก็ยังััได้อย่างชัดเจนถึงลมปราณอันศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่ที่แผ่ออกมาจากลูกนกหงส์ไฟที่ห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงบนท้องฟ้าสูงลิ่ว ซึ่งเป็ลมปราณที่เป็เอกลักษณ์ของนกศักดิ์สิทธิ์นี้
“ทำลาย!” พร้อมกับเสียงะโเบาๆ ของฉินหรูเยียน ทั้งสองมือของนางก็ประสานกันเป็รูปร่างแปลกๆ ตรงหน้าอกของนางอย่างรวดเร็ว แล้วลูกหงส์เพลิงบนท้องฟ้าก็อ้าปากออก “พรู่ด!” พ่นลูกไฟสีแดงเล็กๆ ออกมา
ลูกไฟสีแดงพุ่งลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว กระทบกับม่านพลังแสงสีเงินนั้น
“ซู่” เสียงเบาๆ ดังขึ้น
ม่านพลังแสงสีเงินก็หายลับตาไปอย่างลึกลับทันที บนเวทีประลองก็ปรากฏหลุมดำที่มองไม่เห็นก้นบึ้งปรากฏขึ้นมาอย่างไร้สุ้มเสียง
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงกันอยู่นั้น “ตูม!” เสียงะเิที่รุนแรงก็ดังขึ้นจากใต้ดิน พื้นดินก็เกิดการสั่นะเืราวกับคลื่นน้ำทันที!
“แกร๊กๆๆ...” เสียงะเิดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง! แผ่นหินขัดใต้เท้าก็กลายเป็เศษหินในทันที แล้วผู้คนต่างๆ ก็พากันเหาะขึ้นไปบนฟ้าอย่างโกลาหล เสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วทั้งลานกว้างทันที!
“ครืน!” เสียงดังสนั่นอีกครั้ง เวทีประลองก็พังทลายลง เกิดฝุ่นควันฟุ้งกระจายไปทั่ว เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงนี้ได้ส่งผลกระทบต่อเวทีประลองอีกสองเวทีที่อยู่ใกล้ๆ ผู้เข้าร่วมรับการทดสอบสองคนที่กำลังเข้าร่วมการทดสอบต่างก็เปลี่ยนสีหน้า แล้วรีบลงาจากเวทีทันที!
ฉินหรูเยียนะโลงมาอยู่ข้างๆ เซียวหลิงอวิ๋น แต่ขาของนางเกิดอ่อนแรง ซึ่งในชั่วขณะที่นางกำลังจะล้มลง ก็มีมือหนึ่งโผล่มาโอบรอบเอวเอาไว้ได้ในทันที แล้วใบหน้าของเซียวหลิงอวิ๋นก็ปรากฏรอยยิ้มขมๆ พูดออกมาเบาๆ “เล่นใหญ่เกินไปแล้วนะ!”
เห็นได้ชัดว่าฉินหรูเยียนเองก็คาดไม่ถึงว่าพลังพิเศษของตนเองจะมีพลังทำลายล้างสูงถึงเพียงนี้ ด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวก็ดูดพลังิญญาในกายของนางไปจนหมดสิ้น แม้แต่พลังกายก็เหมือนจะหายไปเกือบเก้าส่วน ร่างกายอันบอบบางพิงอยู่บนตัวของเซียวหลิงอวิ๋นอย่างหมดแรง แต่บนใบหน้ากลับปรากฏรอยยิ้มที่สดใสและตื่นเต้น “ก็แค่อยากทำให้เ้าเด็กเวรพวกนั้นรู้จักเข็ดหลาบเสียบ้าง!”
เมื่อเห็นใบหน้าอันงดงามอยู่ตรงหน้า โดยเฉพาะรอยยิ้มอันเปล่งประกายที่ออกมาจากใจจริง แม้แต่เซียวหลิงอวิ๋นเองก็ยังรู้สึกว่าดวงตาของตัวเองสว่างวาบขึ้นมาอย่างฉับพลัน หัวใจก็เต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว จึงรีบสะกดความรู้สึกอยากเอื้อมมือไปัันี้เอาไว้ รีบหันหน้าหนีพร้อมกลืนน้ำลายลงคออย่างเงียบๆ ประคองร่างของอีกฝ่ายให้ตั้งตรง แล้วก็พูดด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ อีกครั้ง: “เ้านี่นะ!”
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้!
ไม่มีใครคาดคิดว่าพลังพิเศษของฉินหรูเยียนจะทรงพลังมากถึง ไม่เพียงแต่จะทำลายม่านพลังแสงที่สร้างขึ้นจากแร่เงินบริสุทธิ์จนไม่เหลือแม้แต่เศษซากเท่านั้น ยังทำลายอาคมป้องกันที่ผู้าุโของสำนักวางเอาไว้รอบๆ เวทีประลองจนหมดสิ้น ทำลายเวทีประลองนี้ลงได้อีกด้วย
น่ะ...นี่มันทรงพลังมากขนาดไหนกัน!
แม้ว่าอาคมป้องกันที่วางเอาไว้รอบๆ เวทีประลองนี้จะเป็อาคมป้องกันที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาทั้งสามเวทีประลอง แต่ต่อให้ปรมาจารย์ิญญาใช้พลังเต็มที่ก็ไม่สามารถทำลายมันได้ง่ายๆ
แม้แต่ตัวผู้าุโสูงสุดทั้งสี่เองก็คาดไม่ถึงว่าจะมีพลังมหาศาลมากขนาดนี้!
นอกจากเซียวหลิงอวิ๋นแล้ว ผู้าุโสูงสุดทั้งสี่ก็เป็กลุ่มแรกที่ตั้งสติได้ พวกเขาต่างก็ใแล้วก็หันมาสบตากัน ต่างก็เห็นมองความตื่นเต้นและยินดีที่ปรากฏอยู่ในดวงตาของกันและกัน
ฉินหรูเยียนที่เพิ่งบรรลุขึ้นสู่ระดับผู้ใช้พลังิญญาระดับกลางได้ไม่ทันไร แต่พลังวิเศษที่นางมีนั้นทรงพลังมาก หากนางเติบโตขึ้น อย่าว่าแต่ระดับาาิญญาเลย ต่อให้นางไต่ขึ้นไปถึงระดับบรรพชนิญญาขั้นต้น หากนางสามารถควบคุมพลังของพลังพิเศษนี้ได้อย่างแท้จริงเมื่อไร ต่อให้พวกเขาที่อยู่ในระดับาาิญญาก็อาจไม่สามารถต้านทานได้
นี่จัดเป็ท่าไม้ตายที่รุนแรงและทรงพลังที่สุดที่พวกเขาเคยพบเห็นมาในชีวิตนี้ ซึ่งสามารถฆ่าศัตรูที่อยู่เหนือกว่าหนึ่งระดับได้อย่างสบายๆ!
ผู้ดูแลยอดเขาต่างๆ และผู้าุโของสำนักชั้นในจำนวนมากที่ได้เห็นเหตุการณ์นี้ต่างก็รู้สึกใไม่น้อย ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นพลังพิเศษมาก่อน เพราะพวกเขาทุกคนเองต่างมีพลังวิเศษอย่างน้อยคนละหนึ่งกระบวนท่า!
แต่เพราะเหตุนี้เอง พวกเขาจึงต่างก็รู้ดีกว่าพลังวิเศษของฉินหรูเยียนนั้นน่าทึ่งมากเพียงใด! เหนือกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้มาก!
“โอ้์ นั่นไม่ใช่เื่จริงใช่หรือไม่! ทำลายม่านพลังแสงที่สร้างขึ้นจากแร่เงินวิเศษบริสุทธิ์จนไม่เหลือแม้แต่เศษซากเลยหรือ! นั่นคือม่านพลังแสงที่สามารถรับแรงกระแทกได้ถึงหนึ่งหมื่นชั่งโดยไม่เสียหายเลยนะ ต่อให้มีเพิ่มพลังขึ้นอีกเท่าตัวก็ไม่สามารถทำลายมันจนไม่เหลือแม้แต่เศษซากในทันทีเช่นนี้!”
“ทรงพลังเกินไปแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ จักต้องเป็สุดยอดอัจฉริยะที่สามารถสังหารระดับต่ำกว่าปรมาจารย์ิญญาลงไปได้อย่างสบายๆ แน่!”
“อย่าว่าแต่ต่ำกว่าระดับปรมาจารย์ิญญาเลย ข้าว่าต่อให้เป็ปรมาจารย์ิญญาขั้นต้น ไม่สิ ต่อให้เป็ขั้นกลางก็คงไม่สามารถต้านทานการโจมตีนี้ได้!”
“เ้าก็พูดเกินไป จริงอยู่ที่พลังของกระบวนท่านี้รุนแรงมาก ต่อให้ปรมาจารย์ิญญาขั้นกลางส่วนใหญ่จะต้านทานไม่ได้ก็ตาม แต่เ้าสังเกตเห็นหรือไม่ว่าการเตรียมท่าสังหารนี้จำต้องใช้เวลาตั้งท่าอย่างน้อยสามชั่วอึดใจ หากเป็การต่อสู้จริง คู่ต่อสู้ที่เป็ปรมาจารย์ิญญาขั้นกลางจะยืนรอให้เ้าตั้งท่าเตรียมใช้ท่าสังหารอย่างนั้นหรือ! ดังนั้นข้าจึงคิดว่าตอนนี้พลังของศิษย์พี่ฉินยังสามารถเอาชนะผู้ใช้พลังิญญาขึ้นสูงได้อย่างสบายๆ แต่หากต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ิญญาแล้วก็ยังไม่สามารถบอกได้!”
“ฮ่าๆๆ เมื่อครู่บนท้องฟ้า มีลูกนกศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงอยู่ด้วย น่าจะเป็ลูกหงส์เพลิงจาก์เป็แน่ สมกับที่เป็สุดยอดอัจฉริยะของสำนักิญญาเมฆาเราที่สามารถบรรลุระดับขั้นได้เองและก่อให้เกิดปรากฏการณ์น่าทึ่งอีกด้วย ศิษย์พี่ฉินเป็อัจฉริยะไร้เทียมทานราวกับเทพธิดาอย่างแท้จริง!”
“ไม่ว่าจะเป็รูปลักษณ์หรือพลัง ล้วนสมกับเป็เทพธิดา แต่อารมณ์ที่ฉุนเฉียวและวิธีการที่รุนแรงเช่นนี้ ต่อให้เป็เทพธิดา ก็ยังเป็เทพธิดาที่บ้าคลั่งอยู่ดี!”
“เทพธิดาบ้าคลั่งอะไรกัน นั่นน่ะคือหงส์เพลิงเลยนะ ควรเรียกว่าเทพธิดาหงส์เพลิงสิ!”
“เทพธิดาหงส์เพลิงที่บ้าคลั่ง เช่นนั้นเรียกว่าเทพธิดาหงส์เพลิงคลั่งก็แล้วกัน!” คำพูดนี้ได้ผสมผสานความคิดเห็นสองอันแรกเข้าด้วยกัน!
ผู้คนรอบๆ จำนวนมากต่างก็เห็นด้วยทันที!
“เทพธิดาหงส์เพลิงคลั่ง เทพธิดาหงส์เพลิงคลั่ง!” ทันใดนั้นเสียงะโก็ค่อยๆ พร้อมกันจนกลายเป็เหมือนแม่น้ำและทะเล ในที่สุดก็พัฒนากลายเป็คลื่นั์!
เทพธิดาหงส์เพลิงคลั่ง ฉายานี้จะติดตามตัวฉินหรูเยียนไปทั่วทั้งอาณาจักรซินโยว และทั่วทั้งโลกเสวียนหลิง จนกระทั่งนางได้ขึ้นสู่โลกเบื้องบน!
