บทที่ 23
...
ทางด้านราชันย์ที่กำลังเพลินกับการจิ้มผิวนุ่ม ๆ ของลูกชายลูกสาวอย่างเอาเป็เอาตาย กับรอยยิ้มที่ฉีกกว้างจนแทบมองไม่เห็นตานั้น อยู่ในสายตาของเธอทุกอย่าง แต่สายตาที่เธอมองเขาก็ช่างราบเรียบเช่นเคย ไม่ยินดียินร้ายหรืออะไรทั้งนั้น
“กอหญ้า”
“ค่ะ”
“ขอโทษนะที่มาช้า ขอโทษที่ไม่ได้ดูแล”
ราชันย์พูดไปพร้อม ๆ กับลูบผิวนิ่ม ๆ ของลูกสาวและลูกชายไป เธอเองก็ไม่ได้ตอบอะไรเขาไป ยังคงนั่งนิ่ง ๆ กับตะกร้าผ้าที่ถูกพับจนเรียบร้อยทั้งหมดแล้วเท่านั้น
“ขอโทษที่เป็พ่อที่แย่”
“...”
“ผมขอโอกาส ที่จะดูแลเธอและลูกได้ไหม”
“คุณราชันย์คะ ฉันอยู่มาได้โดยที่ไม่มีคุณ”
“...”
“และฉันมั่นใจว่าฉันสามารถเลี้ยงเด็ก ๆ ได้ด้วยสองมือของฉัน”
“...”
“คุณกลับไปอยู่ที่ของคุณเถอะค่ะ”
เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไร เพราะตอนนี้เขารับรู้ได้เลยว่า ต่อให้พูดอะไรไปกอหญ้าเองก็คงไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น แต่จะโทษเธอก็คงไม่ใช่ ความผิดพลาดในครั้งนี้เกิดจากตัวเขาเอง เขาที่ไม่แม้แต่จะฟังเธอ เขาที่เป็คนทำร้ายเธอและลูก เป็เขาเองที่ไม่มีความพยายามพอที่จะดูแลคนที่ได้ชื่อว่าแม่ของลูกเขา
แอ๊!แอ๊!
เสียงร้องของเด็กน้อยที่กำลังลืมตามาอ้าปากไล่งับผ้าที่ห่อหุ้มตัวอยู่ ราชันย์นั้นถึงกับเลิ่กลั่กกล้า ๆ กลัว ๆ ทำตัวไม่ถูก เขาค่อย ๆ ประคองมือไปที่ส่วนคอของเด็กน้อย แล้วก็วางลงที่เดิม ก่อนจะเปลี่ยนท่ามาประคองที่ก้นและส่วนหัวพร้อมกัน แต่ก็ต้องวางที่เดิม กอหญ้าที่ยืนมองภาพของมาเฟียร่างสูงที่ตอนนี้มีสภาพราวกับเด็กน้อยที่เจอของถูกใจแต่ไม่สามารถจับได้
แต่น่าแปลกใจที่เมื่อราชันย์พยายามอุ้มอลิซอยู่นั้น เธอกลับไม่ร้องไห้ออกมาเลยสักแอะ กอหญ้าเดินเข้าไปใกล้เตียงน้อย ก็เห็นว่า อลิซเองที่กำลังลืมตามองตามราชันย์ที่ซ้ายที ขวาที ไม่รู้ว่าเธอตาฝาดไหมแต่มีแวบหนึ่งที่เธอเห็นว่าอลิซที่นอนอยู่นั้นยิ้มให้ราชันย์ ที่ยังหาวิธีอุ้มอลิซขึ้นมาไม่ได้
“คุณต้องใช้แขนประคองใต้ต้นคอ และใช้แขนอีกข้างอุ้มส่วนก้น แล้วดึงเข้าหาตัวมาแนบอก แบบนี้”
“กอหญ้าเดี๋ยว ๆ ลูกจะหล่นมั้ย”
“คุณกล้าทำลูกหล่นหรอคะ”
“ก็ฉันไม่เคยอุ้มเด็กที่เล็กขนาดนี้ ฉันกลัวทำลูกหล่น”
“ขยับมือลงมานิดนึงค่ะ แบบนั้นแหละค่ะ แค่นี้ยัยหนูก็ไม่หล่นแล้ว”
ราชันย์ที่สามารถอุ้มอลิซมาไว้ในอ้อมกอดได้นั้นก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ กอหญ้าเองก็ยังคอมช่วยดู ว่าราชันย์เสี่ยงที่จะทำลูกหล่นไหม เมื่อกอหญ้าเห็นว่าราชันย์เองเริ่มชิน ก็เดินมาดูอาร์เดนที่ไม่รู้ว่าตื่นมาั้แ่เมื่อไหร่
กอหญ้าเห็นว่าตาหนูตื่นแล้วก็ปรี่เข้าไปหา ก่อนจะอุ้มตาหนูขึ้นมาอย่างชำนาญ อาร์เดนจ้องหน้ากอหญ้าไม่ขยับ ยิ่งทำให้เธอยิ้มปากกว้างเข้าไปใหญ่ เธอรู้สึกโชคดีที่ลูกชายและลูกสาวนั้นไม่ได้เป็เด็กที่งอแง
ราชันย์เดินออกมาข้างหน้าต่างที่ตอนนี้เป็เวลาบ่ายแก่ ๆ แต่ที่นี่กลับเย็น ร่มรื่น สงบ อย่างไม่น่าเชื่อ ราชันย์อุ้มลูกสาวมองออกไปนอกหน้าต่างที่มองออกไปจากตรงนี้เห็นทะเลสาบที่ไกลสุดลูกหูลูกตา
“กอหญ้า คุณว่าบ้านหลังที่อยู่กลางทะเลสาบนั่นสวยไหม”
“คะ? .
“คุณมาดูตรงนี้สิ นั่นไง หลังนั้นน่ะ”
ถึงเธอจะรู้สึกแปลก ๆ แต่ก็ยอมเดินมาหาเขาตามที่เขาบอก มองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นบ้านสไตล์โมเดิร์นสีขาวที่ถูกปลูกสร้างตรงกลางทะเลสาบ เธอมองบ้านหลังนั้นสลับกับมองหน้าราชันย์อย่างไม่เข้าใจว่าเขา้าสื่อถึงอะไร หรือแค่เป็ประโยคคำถามจริง ๆ
“สวยค่ะ”
“ถ้าผมจะไปขอซื้อ คุณว่าเขาจะขายไหม”
“คุณราชันย์จะไปขอซื้อทำไมคะ ยังไงคุณก็ต้องกลับไทยอยู่ดี”
“ผมอยากชวนคุณกับลูกกลับไปอยู่ที่ไทยด้วยกัน”
“...”
“แต่ผมรู้ว่าตอนนี้ คุณไม่มีทางกลับไปกับผมแน่ ๆ”
“...”
“ผมเลยอยากซื้อบ้านที่ดูแล้วปลอดภัย สะดวกสบายให้คุณกับลูกอยู่”
“...”
“ถ้าคุณชอบที่นี่ บ้านหลังนั้นเท่าที่ให้ธันวาสำรวจ ตรงนี้คือดีที่สุดแล้ว”
“ฉันชอบหลังนี้ค่ะ”
“แต่ที่นี่แคบเกินไป ถ้าลูกโตขึ้น พื้นที่หน้าบ้านจะไม่พอนะ”
“ลูกเป็แค่เด็กตัวเล็ก ๆ สองคนเองนะคะ จะใช้พื้นที่เยอะขนาดนั้นไปทำไม”
“ก็ผมดูในเน็ต เขาบอกควรมีพื้นที่กว้าง ๆ และปลอดภัย”
“ที่นี่ก็ถือว่ามากเกินพอแล้วค่ะ”
“แต่ตรงนั้นมองเห็นทะเลได้ล้อมรอบเลยนะ อากาศต้องดีมากแน่ ๆ”
“ตรงนี้ถึงจะเห็นทะเลแค่ตรงหน้าต่างนี้ แต่ก็มองเห็นนี่คะ สดชื่นเหมือนกัน”
“แต่ผมอย่าซื้อเป็ของขวัญให้ลูก ไม่ได้หรอ”
“งั้นก็แล้วแต่คุณราชันย์แล้วกันค่ะ แต่หญ้าจะอยู่ที่นี่”
“แต่บ้านหลังนี้เธอทำสัญญาเช่าระยะยาว ไม่ใช่สัญญาซื้อนะ”
“ถ้าคุณราชันย์อยากซื้อบ้านขนาดนั้น งั้นก็ซื้อหลังนี้มั้ยละคะ”
“ผมถามเ้าของแล้ว เขาไม่ขาย”
“แต่ถ้าเธอชอบหลังนี้มาก ฉันจะไปหาทางทำให้ป้าเ้าของเขาขายก็ได้”
“คุณราชันย์...วิธีการชอบบังคับข่มขู่ของคุณ เก็บไว้ใช้ที่ของคุณดีกว่าค่ะ”
“ผมก็แค่อยากทำอะไรให้เธอกับลูกบ้าง”
“สัญญาหมดสิ้นเดือนหน้า คุณอยากทำอะไรก็เชิญตามสบาย”
“จริงนะ”
กอหญ้าเองไม่ได้ตอบอะไรไปแต่ก็มองไปที่บ้านหลังใหญ่ที่อยู่กลางทะเลสาบนั้น ช่างดูสวยงามและน่าดึงดูดั้แ่ที่เธอมาที่นี่ เธอเคยไปถามเ้าของที่ส่วนมากมักอยู่ที่ฝรั่งเศสเื่ขอเช่าระยะยาว
แต่เ้าของยืนยันที่จะขายอย่างเดียวเท่านั้น เลยทำให้เธอต้องตัดใจจากบ้านหลังนี้ ต่อให้เธอไม่ถามราคาก็พอจะเดาออกว่าราคาต่ำ ๆ น่าจะ 8-9 หลัก
“พี่หญ้าคะ คุณราชันย์ด้วย ตั้งโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้วค่ะ ทานข้าวกันเถอะค่ะ ส่วนตาหนูกับยัยหนูเดี๋ยวเว่ยเอินดูให้ค่ะ”
“ไม่เป็ไรหรอกจ้ะ เราไปทานพร้อมกันหมดนี่แหละ”
“เดี๋ยวตาหนูยัยหนูก็ร้องนะคะ”
“ก็มีคนดูอยู่แล้วนี่ไง ต้องกังวลอะไรละ”
“ก็...ก็นี่แหละค่ะ ที่ต้องกังวล”
“เว่ยเอินพูดจาไม่เข้าหูเลยนะ”
ราชันย์พูดติดตลกเล็กน้อย ทำให้เว่ยเอินที่มองอยู่ก็อดขำไม่ได้ ทั้งสามคนพากันเดินไปที่โต๊ะอาหาร โดยที่กอหญ้ายังคงอุ้มอาร์เดน และราชันย์ยังคงอุ้มอลิซ เว่ยเอินที่เห็นความน่ารักของทั้งสี่คนก็ล้วงมือลงไปในกระเป๋า หยิบมือถือขึ้นมาเปิดกล้องก่อนจะกดชัตเตอร์
แชะ!
แต่ภาพที่ได้กลับกลายเป็ใบหน้าหล่อ ๆ ของธันวาที่มายืนจ้องมองเธอแทน เว่ยเอินทำเป็ไม่สนใจ ส่องกล้องมือถือหลบไปเพื่อหวังจะถ่ายรูปครอบครัวของกอหญ้า ซ้ายทีขวาที แต่ก็มีแต่หน้าธันวาที่ลอยตามกล้องของเธอเท่านั้น เมื่อไม่ได้ภาพที่้า เธอถอนหายใจแรง ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนจะหันมาจ้องหน้ามองธันวาด้วยสายตาที่แทบจะกินเืกินเนื้อ
“หลบไปหน่อย เหม็นขี้หน้า!”
