บทที่ 4: าแของอสรพิษ
ณ เรือนใหญ่ของฮูหยินรองหลิวซื่อ...
เพล้ง!
เสียงถ้วยชาชั้นดีถูกปาลงบนพื้นกระเบื้องจนแตกกระจาย เศษกระเบื้องเคลือบลายครามกระเด็นไปคนละทิศละทาง เช่นเดียวกับสติอารมณ์ของฮูหยินรองหลิวซื่อในยามนี้
"นังเด็กเหลือขอ! นังเด็กสารเลว!"
ใบหน้างดงามที่แต่งแต้มอย่างประณีตบิดเบี้ยวด้วยโทสะ ดวงตาคู่งามที่เคยใช้โปรยเสน่ห์ใส่ท่านอัครเสนาบดีจ้าว บัดนี้แดงก่ำและแข็งกร้าวราวกับตาของอสรพิษร้าย นางหอบหายใจอย่างรุนแรง ขณะที่หลี่มัวมัวคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด
"มันยังไม่ตาย..." หลิวซื่อเค้นเสียงลอดไรฟัน "ยาพิษบุปผาโลหิตสลายที่ข้าอุตส่าห์หามาด้วยราคาสูงลิบลิ่ว...กลับทำอะไรมันไม่ได้! แถมมันยัง...มันยังรู้เื่ของหยางซูได้อย่างไร!?"
"บ่าว...บ่าวก็ไม่ทราบเ้าค่ะ" หลี่มัวมัวตอบเสียงสั่น "ท่าทีของคุณหนูสามเปลี่ยนไปราวกับเป็คนละคน นาง...นางไม่กลัวบ่าวเลยแม้แต่น้อย สายตาของนาง...มันน่ากลัวเหลือเกินเ้าค่ะฮูหยิน"
"น่ากลัวรึ?" หลิวซื่อยิ้มเยาะ แต่เป็รอยยิ้มที่เย็นเยียบจับขั้วหัวใจ "ในจวนนี้ จะมีอะไรน่ากลัวไปกว่าความตายอีกหรือ?"
นางโบกมือไล่บ่าวไพร่คนอื่นออกไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงนางกับหลี่มัวมัวตามลำพัง ความเกรี้ยวกราดเมื่อครู่จางหายไป ถูกแทนที่ด้วยความเหนื่อยล้าและเ็ปที่ฉายชัดขึ้นมาในแววตา นางเดินลึกเข้าไปยังห้องชั้นในที่ถูกปิดไว้มิดชิดที่สุดของเรือน...ห้องที่อบอวลไปด้วยกลิ่นยาต้มอันขมขื่นตลอดทั้งปี
บนเตียงไม้จันทน์หอมหลังใหญ่ ปักดิ้นลายหงส์ัอย่างวิจิตร คือร่างของเด็กหนุ่มอายุราวสิบหกปี เขามีใบหน้าหล่อเหลาหมดจดราวกับหยกสลัก แม้ในยามหลับใหลก็ยังคงเค้าความสง่างาม แต่ผิวของเขากลับซีดขาวราวกับกระดาษ ริมฝีปากแห้งแตกเป็ขุย และลมหายใจก็แ่เบาราวกับจะขาดหายไปได้ทุกเมื่อ
เขาคือ จ้าวจื่อโม่...คุณชายใหญ่แห่งจวนอู่หรง บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของหลิวซื่อและอัครเสนาบดีจ้าว
นางทรุดกายนั่งลงข้างเตียง ใช้ผ้าไหมเนื้อดีค่อยๆ ซับเหงื่อที่ผุดพรายบนหน้าผากของบุตรชายอย่างแ่เบาที่สุด ััของนางเต็มไปด้วยความรัก ความทะนุถนอม และความเ็ปที่กัดกินหัวใจมานานนับสิบปี
"โม่เอ๋อร์...ลูกแม่..." นางกระซิบเสียงสั่นเครือ น้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นจากหางตาลงบนหลังมือของนาง
จ้าวจื่อโม่เกิดมาพร้อมกับโรคประหลาดที่หาสาเหตุไม่ได้ ร่างกายของเขาจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ เส้นชีพจรตีบตัน และจะเ็ปทุกข์ทรมานราวกับมีเข็มนับหมื่นทิ่มแทงทุกครั้งที่อากาศแปรปรวน นางทุ่มเงินทองมากมาย เชิญหมอเทวดาจากทั่วทุกสารทิศมารักษา แต่ทุกคนต่างส่ายหน้าจนปัญญา
ยกเว้นเพียงคนเดียว...
ภาพในอดีตย้อนกลับเข้ามาในความทรงจำ...ภาพของสตรีงดงามในชุดสีขาวราวกับเทพธิดา นางคือ เซิ่นเวย...ฮูหยินเอกผู้เป็มารดาของจ้าวิ่หลาน นางไม่เพียงแต่งดงาม แต่ยังมีพร์ด้านการแพทย์สูงส่งจนเป็ที่เลื่องลือไปทั่วทั้งแผ่นดิน
แต่นางกลับคิดว่า ฮูหยินใหญ่ไม่ได้พยามยามเต็มที่ในการรักษาโม่เอ๋อร์ การกลับไปตระกูลของนางที่เมืองผิงอันคราวนั้น มีเพียงข่าวว่าขบวนของนางถูกสังหารระหว่างทาง แต่ก็มีบางคนบอกว่าพ่อของนางมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในราชสำนักนางจึงถูกสังหารไปพร้อมกับตระกูล
แต่ข่าวที่ส่งกลับมาคือฮูหยินเอกเซิ่นเวยพลัดตกเหวสิ้นใจระหว่างการเดินทางตามหาสมุนไพร
ความหวังสุดท้ายของหลิวซื่อพังทลายลงในวันนั้น แต่ความเศร้าโศกกลับค่อยๆ บ่มเพาะจนกลายเป็ความเกลียดชังอันไร้เหตุผล นางเริ่มโทษว่าเป็ความผิดของเซิ่นเวย...โทษที่นางอวดดีเกินไป...โทษที่นางทิ้งลูกของตนไปตายอย่างไร้ค่า!
และความเกลียดชังทั้งหมดนั้น...ก็ถูกส่งต่อไปยังเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่เป็เืเนื้อเชื้อไขของเซิ่นเวย...จ้าวิ่หลาน
"นังแพศยานั่น...ทิ้งลูกข้าให้รอความตาย แล้วยังทิ้งมารหัวขนนั่นไว้ให้ดูต่างหน้าอีก!" หลิวซื่อกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ "ทุกครั้งที่ข้าเห็นหน้ามัน ข้าก็เห็นหน้าแม่ของมัน...เห็นภาพวันที่ความหวังของข้าดับสิ้น!"
ราวกับตอกย้ำความเชื่ออันบิดเบี้ยวของนาง นักพรตเฒ่าที่นางเชิญมาทำพิธีลับๆ เคยบอกไว้ว่า "ชะตาของคุณชายใหญ่ถูกกดทับด้วยชะตาอาเพศของคุณหนูสาม...มีเพียงคนเดียวที่จะอยู่รอด...หากอีกาไม่ตาย หงส์ก็มิอาจโบยบิน"
นางไม่รู้หรอกว่านั่นเป็เพียงคำพูดของนักต้มตุ๋น แต่สำหรับแม่ที่กำลังสิ้นหวัง มันคือสัจธรรมที่นางยึดถือไว้สุดหัวใจ
การกำจัดจ้าวิ่หลาน...ไม่ใช่แค่การล้างแค้น...แต่คือการทำพิธี "บูชายัญ" เพื่อต่อชีวิตให้บุตรชายของนาง!
"แผนการที่จะส่งมันไปให้เ้าเมืองสวี...ไม่ใช่แค่การกำจัดมันให้พ้นหูพ้นตา" นางหันไปพูดกับหลี่มัวมัวที่ยืนรออย่างเงียบเชียบ "แต่เ้าเมืองสวีได้สัญญาว่าจะมอบ 'ไข่มุกอายุวัฒนะ' ให้ข้าเพื่อแลกกับตัวมัน...ไข่มุกนั่นอาจเป็ความหวังสุดท้ายของโม่เอ๋อร์!"
บัดนี้หลี่มัวมัวเข้าใจทุกอย่างแล้ว ฮูหยินรองไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำทุกอย่างเพื่อคุณชายใหญ่
หลิวซื่อหันกลับมามองใบหน้าซีดขาวของบุตรชายอีกครั้ง ดวงตาของนางเปลี่ยนจากความเ็ปเป็ความมุ่งมั่นอันเด็ดเดี่ยวที่น่ากลัว
"ข้าปล่อยให้ตัวแปรอย่างนังเด็กนั่นมาทำลายแผนการไม่ได้อีกแล้ว" นางตัดสินใจอย่างเด็ดขาด "เลื่อนแผนขึ้นมาเป็คืนพรุ่งนี้! ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม...ต้องส่งตัวมันไปให้เ้าเมืองสวีให้ได้! ข้าต้องได้ไข่มุกนั่นมา!"
นางโน้มตัวลงกระซิบข้างหูของบุตรชายที่ไม่ได้สติ น้ำเสียงของนางสั่นเครือแต่เต็มไปด้วยคำสัญญาที่น่าขนลุก
"อดทนไว้นะโม่เอ๋อร์...แค่กำจัดมารหัวขนตนนั้นไปให้พ้น...แล้วเ้าจะหายดี...แม่สัญญา"